เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 669 ได้ยินหรือเปล่า + ตอนที่ 670 ครั้งหน้าข้าค่อยมา
ตอนที่ 669 ได้ยินหรือเปล่า?
“มากมายเพียงนี้เชียว? ข้อมูลบนป้ายหยกแสดงตัวตนบอกว่าเจ้าเพิ่งเข้าสำนักศึกษามาไม่ใช่หรือ?” เขาอดไม่ได้ที่จะถาม พร้อมถลึงมองหนุ่มน้อยคนนั้น “หรือว่าเจ้ามีใครคอยหนุนหลัง?”
“เอ่อ…”
เฟิ่งจิ่วอึ้งไป เกาหัวด้วยใบหน้าอักอ่วน ทำสีหน้าไร้เดียงสา “ข้าไม่มีใครคอยหนุนหลังหรอก! ข้าหามาด้วยตนเองจริงๆ เป็นคะแนนคุณงามความดีที่ข้าไปเก็บมณีเพลิงจากเทือกเขาหมื่นอสูรกลับมาแลก เพิ่งแลกไปเองขอรับ!”
เธอไม่น่าเชื่อถือเพียงนั้นเชียวหรือ? ชัดเจนว่าพูดความจริง ทำไมถึงไม่มีใครเชื่อเล่า?
เธอไม่บอกว่าไปเก็บมณีเพลิงที่เทือกเขาหมื่นอสูรยังดีกว่า เอ่ยไปเช่นนี้ชายชรายิ่งไม่เชื่อ
แม้ในใจยังสงสัยชายชรากลับไม่พูดอะไรมากอีก แต่ช่วยเฟิ่งจิ่วแลกขนนกเคลือบหลากสีชิ้นนั้นไป ถึงอย่างไรก็มีคะแนนคุณงามความดีมากพอ ไม่มีเหตุผลจะไม่ให้เขาแลก แต่คิดว่ากลับไปต้องให้คนตรวจสอบว่าหนุ่มน้อยคนนี้มีที่มาอย่างไรกันแน่? หรือว่าจะเป็นญาติเจ้าสำนัก? เจ้าสำนักจึงแอบให้คะแนนคุณงามความดีกับเขา?
แต่ความคิดนี้พอผุดขึ้นก็ถูกเขายับยั้งไว้ เป็นไปไม่ได้ เจ้าสำนักไม่ใช่คนเช่นนั้น
หลังจากแลกเปลี่ยน เฟิ่งจิ่วหยดเลือดลงบนขนนกนั้นเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ จากนั้นค่อยหยิบแถบผ้าสีแดงมาผูกมันไว้ตรงเอว มองขนนกเคลือบแวววาวสะดุดตานั้นตรงเอวแล้วเอ่ยชมทันทีว่า “สวยจริงๆ”
“ขอบคุณท่านอาจารย์มากที่ชี้แนะขอรับ ข้าต้องไปแล้ว ครั้งหน้าค่อยมาอีก” เธอโบกๆ มือ แล้วมุ่งไปยังสำนักพลังเร้นลับท่ามกลางสายตาชายชราที่ถลึงมอง
ยามเดินไปตลอดทาง เหล่านักเรียนที่พบเธอพากันส่งสายตาไปที่ขนนกตรงข้างเอวเธอ นัยน์ตาแต่ละคนต่างแปลกใจ
ขนนกเคลือบหลากสีเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสามสมบัติที่นักเรียนอยากแลกที่สุดในหอสวรรค์ของสำนักศึกษา ขนนกเคลือบหลากสีชิ้นนั้นสร้างขึ้นโดยช่างทำอาวุธผู้อาวุโสคนก่อนของสำนักศึกษา ขนนกแทบจะไร้น้ำหนัก แต่ลำแสงหลากสีดุจสายรุ้งกลับไหลเวียนผ่านบนขนนกเฉกเช่นคลื่นน้ำ แต่ละชั้นเป็นเหมือนลายน้ำงดงามอย่างยิ่ง
แต่สิ่งที่ทำให้คนอยากได้ที่สุดคือ นอกจากมันจะเป็นพาหนะเหาะเหินที่มีความเร็วแสนว่องไว ยังสามารถต้านทานการโจมตีจากผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังได้สามครั้ง ผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณหนึ่งครั้ง เป็นวัตถุเวทป้องกันตัว
พวกเขารู้ดีว่าสิบผู้มีพรสวรรค์ในสำนักศึกษาเพ่งเล็งสามสมบัติของหอสวรรค์ไว้ แต่คะแนนคุณงามความดีไม่ได้หามาง่ายดายเพียงนั้น โดยเฉพาะคะแนนคุณงามความดีสำหรับแลกสามสมบัติสูงยิ่งกว่าเช่นนั้น นักเรียนธรรมดาใช้เวลากว่าหลายสิบปียังแลกไม่ได้เลย
นึกไม่ถึงว่าวันนี้กลับเห็นอยู่ตรงเอวนักเรียนสำนักยาที่สวมชุดสีฟ้า ข่าวนี้แทบจะแพร่ออกไปในสำนักศึกษาอย่างรวดเร็วราวสายลม…
“รู้หรือยัง? หนึ่งในสามสมบัติหอสวรรค์ ขนนกเคลือบหลากสีชิ้นนั้นถูกนักเรียนชุดฟ้าแลกไปแล้ว”
“ได้ยินหรือเปล่า? ขนนกเคลือบหลากสีโดนนักเรียนสำนักยาแลกไป ว่ากันว่านักเรียนคนนั้นเป็นนักเรียนที่เพิ่งเข้ามาปีนี้ด้วย”
“ได้ยินแล้ว มีคนเดาว่านักเรียนชุดฟ้าคนนี้คงมีคนหนุนหลัง”
“จริงด้วย มิเช่นนั้นเพิ่งเข้ามาปีนี้จะแลกขนนกเคลือบหลากสีหนึ่งในสามสมบัตินั้นได้อย่างไร?”
“ท่านอาจารย์สำนักศึกษายังไม่มีอำนาจให้คะแนนคุณงามความดี เป็นไปได้มากว่านักเรียนชุดฟ้าคนนี้จะเป็นลูกหลานตระกูลท่านเจ้าสำนักหรือรองเจ้าสำนัก”
“เป็นไปไม่ได้ ได้ยินว่าตระกูลท่านเจ้าสำนักไม่ได้อยู่ที่นี่ ยิ่งไม่ต้องพูดว่ามีลูกหลานตระกูลอะไรนั่นเลย”
“เช่นนั้นก็เป็นรองเจ้าสำนัก มิเช่นนั้นขนนกชิ้นนั้นต้องแลกด้วยคะแนนคุณงามความดีหนึ่งล้านแปดแสน นักเรียนคนนั้นจะหามาได้เช่นไร?”
“เรื่องนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ข้าได้ยินว่าสิบผู้มีพรสวรรค์ของสำนักศึกษาเรารู้เรื่องนี้ ก็ออกไปตามหาหนุ่มน้อยชุดฟ้าคนนั้นแล้ว”
เวลาเดียวกัน เฟิ่งจิ่วที่ยังไม่รู้ว่าตนเองกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนในสำนักศึกษาก็มาถึงสำนักพลังเร้นลับแล้ว…
…………
ตอนที่ 670 ครั้งหน้าข้าค่อยมา
ปีนขึ้นยอดเขาสำนักพลังเร้นลับ เห็นนักเรียนพวกนั้นที่เกาะกลุ่มกันสามคนห้าคน บางคนฝึกศิลปะการต่อสู้อยู่ใต้ต้นไม้ พูดคุยเรื่องศิลปะการต่อสู้ บางคนนั่งคุยเล่นบนพื้นหญ้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม บางคนสองขาแขวนไว้บนต้นไม้ห้อยหัวลงมาหลับตาไม่พูดไม่คุย บางคน…
“เฮ้อ! ล้วนเป็นนักเรียนสำนักศึกษาหมอกดาราทั้งนั้น สำนักยาเซียนไม่มีทางเทียบกับสำนักพลังเร้นลับได้เลย!” เธอถอนหายใจเบาๆ คิดว่าคนบนยอดเขาสำนักพลังเร้นลับนี้เยอะดีจริงๆ เยอะเสียจนนับไม่ไหว บรรยากาศที่นี่ยังคึกคักกลมเกลียว เทียบกับสำนักยาเซียนอันเงียบเหงานั้นแล้วแตกต่างกันอย่างยิ่ง
เธอเดินหน้าเข้าไป บนใบหน้างดงามมีรอยยิ้มไร้พิษภัยที่เธอคิดเอาเองว่ามีเสน่ห์ ประสานมือสอบถามนักเรียนสำนักพลังเร้นลับอย่างมีมารยาทยิ่งว่า “ขอถาม…”
เพิ่งเอ่ยไปและยังไม่ทันเดินเข้าใกล้นักเรียนคนนั้น ก็เห็นเขาชี้เธอพลางอุทานเสียงหลง
“ดูสิ! เด็กหนุ่มชุดฟ้าคนนี้อยู่ที่นี่! เขาวิ่งมาสำนักพลังเร้นลับเราแล้ว!”
แทบทันทีที่คำพูดนี้ถูกเปล่งออกมา สายตาผู้คนโดยรอบล้วนหันขวับมองมาทางเธอ แม้แต่คนบนต้นไม้ที่หลับตาไม่พูดไม่จายังพลิกตัวกระโดดขึ้น และลืมตาจ้องตรงมาหาเธอ
“เอ่อ… นะ นี่ทำอะไรน่ะ?”
เธอเอ่ยถามอย่างงุนงงอยู่บ้าง มองนักเรียนแต่ละคนล้อมเข้ามาหาพลางก้าวถอยหลังไปทันควัน กลับเห็นว่าแม้แต่ทางด้านหลังยังมีคนเข้ามาล้อม แต่ละคนต่างจ้องมองเธอ จากนั้นสายตาก็หยุดลงบนขนนกเคลือบหลากสีชิ้นนั้นตรงเอวที่ใช้เป็นของประดับ
“ทำ ทำอะไรกัน? นี่ข้าแลกมา” เธอคว้าขนนกชิ้นนั้นตรงเอวไว้ตามสัญชาตญาณ แล้วจ้องมองทุกคนอย่างระวังตัว
“เจ้าหนู เจ้ามีที่มาอย่างไรกัน? เข้าสำนักศึกษามาใหม่ไม่ถึงหนึ่งเดือนก็แลกขนนกเคลือบหลากสีไปแล้ว?”
“ที่มาอะไร?”
เฟิ่งจิ่วตกใจ เอ่ยอย่างไร้เดียงสาว่า “ข้าไม่ได้มีที่มาอะไร นี่เป็นของที่ข้าหามาเอง” สวรรค์รู้ดีว่าเธอลำบากทำภารกิจเก็บคะแนนคุณงามความดีอย่างเชื่อฟัง ทำไมแต่ละคนถึงถามว่าเธอมีที่มาอย่างไร?
“ล้อเล่นกระมัง? เจ้าหามาเอง? ขนนกเคลือบหลากสีชิ้นนั้นสิบผู้มีพรสวรรค์แห่งสำนักศึกษาต่างก็เพ่งเล็ง! พวกเขายังหาคะแนนคุณงามความดีหนึ่งล้านแปดแสนไปแลกไม่ได้ มือใหม่ที่เพิ่งเข้าสำนักศึกษามาอย่างเจ้าไม่ถึงเดือนก็หามาได้แล้ว? พูดไปใครจะเชื่อ?”
มุมปากเฟิ่งจิ่วกระตุก มือใหม่? เธอถูกเรียกว่ามือใหม่อีกแล้ว แม้เป็นมือใหม่แต่ก็ไม่ได้ใหม่จริงๆ นี่?
“เจ้านี่เดิมทีข้าได้มาเอง ขนนกชิ้นนี้ข้าหยดเลือดแสดงความเป็นเจ้าของแล้ว เรื่องราวชัดเจนพวกเจ้าไม่เชื่อข้าก็หมดหนทาง แต่พวกเจ้าจะเชื่อหรือไม่มันเกี่ยวอะไรกับข้า?” คนพวกนี้ เธอแลกขนนกมาง่ายๆ หรือ? ขนนกชิ้นนี้เสียคะแนนคุณงามความดีไปหนึ่งล้านแปดแสน เธอก็น้อยใจนะ!
ทว่าทุกคนได้ยินคำพูดนี้ก็โกรธ แต่ละคนมองหนุ่มน้อยตรงหน้าที่ยังมีสีหน้าไร้เสียงสาและน้อยอกน้อยใจด้วยความขุ่นเคือง
“ทำไมจะไม่เกี่ยว? พวกเราแลกไม่ได้ นักเรียนเข้าใหม่จากสำนักยาเช่นเจ้ากลับแลกได้ หากไม่ใช่เส้นสายจะเป็นอะไรได้?”
“ใช่ ของล้ำค่าที่สิบผู้มีพรสวรรค์ในสำนักศึกษายังแลกไม่ได้ มือใหม่อย่างเจ้ากลับได้มา จะไม่เกี่ยวกับพวกเราได้หรือ?”
“รุ่นพี่โจวบอกว่าอยากแลกขนนกเคลือบหลากสีชิ้นนี้มาตั้งแต่เข้าสำนักศึกษา เพื่อขนนกชิ้นนี้ตอนที่ฝึกบำเพ็ญอย่างหนัก นางยังขยันหาคะแนนคุณงามความดีอีก เจ้าคิดว่าหากนางรู้ว่าขนนกชิ้นนี้ที่ถูกใจมีมือใหม่ได้ไป นางจะเจ็บใจสักแค่ไหน?”
ขณะมองนักเรียนพวกนั้นกล่าวคนละประโยคเสียจนหน้าดำหน้าแดง น้ำลายพุ่งกระจายโมโหปึงปัง เหมือนอยากจะกำหมัดซัดมาทางเธอ เฟิ่งจิ่วถอยหลังเพื่อกันน้ำลายพวกเขากระเด็นโดนพลางพูดว่า “พวกเจ้าอย่าเพิ่งตื่นเต้น ครั้งหน้าข้าค่อยมาหาคนแล้วกัน”
………………………………………………….