เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 679 ไม่ได้เด็ดขาด + ตอนที่ 680 พลังภายในก่อกำเนิด
ตอนที่ 679 ไม่ได้เด็ดขาด + ตอนที่ 680 พลังภายในก่อกำเนิด
ตอนที่ 679 ไม่ได้เด็ดขาด
“ทุกคนหยุด!”
เสียงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวปานสายฟ้าลอยมาจากเบื้องบน แรงกดดันดุจลายน้ำกวัดแกว่งไปรอบๆ ทำให้ทุกคนเบื้องล่างถอยไปหลายก้าวด้วยฝีเท้าซวนเซ แต่ละคนเลือดลมภายในร่างปั่นป่วนคล้ายจะพุ่งขึ้นลำคอ ขณะที่ตกใจพวกเขามองไปบนท้องฟ้า มองไปก็กระสับกระส่ายทันที
“ท่านรองเจ้าสำนัก!”
“ท่านรองเจ้าสำนักมาได้อย่างไร?”
“เรื่องนี้แม้แต่รองเจ้าสำนักยังแตกตื่น!”
เฟิ่งจิ่วเงยหน้ามองไป เห็นชายชราคนนั้นชุดคลุมพลิ้วไหวพาอาจารย์คนหนึ่งบินมาบนฟ้าและร่อนลงหน้าอาศรมในชั่วพริบตา เมื่อเธอเห็นชายชราคนนั้นมาทางนี้ ดวงตาเผยความประหลาดใจ มุมปากกระตุกทันที ก่อนจะก้าวถอยหลังไปเล็กน้อย
“ใครเป็นผู้นำมาก่อเรื่องถึงที่นี่?” รองเจ้าสำนักถลึงตากวาดมองเหล่านักเรียนแต่ละคนที่ก้มหน้าก้มตา ตะคอกบอกว่า “อยากโดนไล่ออกหรือไร? ยังไม่รีบไสหัวกลับไปอีก!”
ทุกคนได้ยินคำว่าไล่ออกก็ตกใจเสียจนเหงื่อออกฝ่ามือ ไม่กล้าอยู่ต่อและจากไปอย่างลนลานทันที ไม่ทันไรก็วิ่งไปจนไม่เหลือสักคน
อาจารย์คนนั้นที่มาด้วยกันกับรองเจ้าสำนักเห็นเช่นนี้ก็ส่ายหน้า ถอนหายใจเบาๆ ถึงจะมองไปยังหนุ่มน้อยชุดฟ้าที่ยืนอยู่ในอาศรม
“เหอะๆ เฟิ่งจิ่ว เจ้าไม่รีบเปิดเขตอาคมให้ข้าเข้าไปเล่า?” รองเจ้าสำนักหรี่ตายิ้มมองเฟิ่งจิ่ว เห็นเด็กหนุ่มคนนี้อีกครั้งเพียงรู้สึกระรื่นในใจ
เขาเห็นกำลังและพรสวรรค์ของเด็กหนุ่มมากับตาตนเอง จึงมั่นใจว่าหากเป็นเขา การแข่งขันครั้งใหญ่สามปีครั้งสำนักศึกษาหมอกดาราพวกเขาจำต้องแตกหน่อออกลายท่ามกลางสำนักศึกษาทั้งหลายได้!
เฟิ่งจิ่วเกาๆ หัวยิ้มหน้าเจื่อน ถึงจะเปิดเขตอาคมเชิญเขาเข้ามา “รองเจ้าสำนักกวน ไม่เจอกันตั้งนานเลยขอรับ”
“ข้ารอเจ้ามานานแล้ว นึกว่าเจ้าไม่มา! ไม่คิดว่าเจ้ากลับวิ่งมายังสำนักยาเซียนนี้” เขายิ้มเดินเข้าไป มองด้านในอาศรม จากนั้นค่อยมองไปทางเฟิ่งจิ่ว “เจ้ากลั่นยาเซียนเป็นด้วยหรือ?”
“เหอะๆ กำลังศึกษา กำลังศึกษาอยู่ขอรับ”
กวนเหล่านั่งลงตรงโต๊ะหิน มองเฟิ่งจิ่วพลางบอกว่า “เป็นเช่นนี้ ข้าได้ยินว่าเจ้าไปสำนักพลังเร้นลับ รู้ว่าเจ้าต้องไปหาพี่ชายแน่ๆ”
เฟิ่งจิ่วได้ยินคำพูดนี้ก็แปลกใจ “หรือว่าพี่ชายข้าถือป้ายประจำสำนักศึกษาหมอกดาราเข้าสำนักศึกษามาแล้ว?” เป็นไปไม่ค่อยได้เท่าไหร่กระมัง? เธอรู้นิสัยเขาดี ต่อให้ใช้เส้นสายได้แต่ด้วยนิสัยเขาคงหวังใช้พละกำลังตนเองเป็นแน่
“เหอะๆ ไม่ใช่อย่างนั้น เรื่องเป็นเช่นนี้…”
กวนเหล่ายิ้มๆ แล้วเล่าเรื่องที่รับกวนสีหลิ่นเข้าสำนักศึกษาให้เฟิ่งจิ่วฟังคร่าวๆ สุดท้ายยังบอกว่า “ข้าเห็นว่าในเมื่อเขาเป็นพี่บุญธรรมเจ้า ก็อยากดูแลเขาเสียหน่อย ให้เขารีบไปหอคอยพลังเร้นลับ ดังนั้นตอนนี้เขาจึงไม่อยู่ที่สำนัก”
ได้ยินคำพูดเช่นนี้เธอถึงจะรู้แจ้งทันที “โอ้ ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง ข้ายังคิดว่าตนเองไปก่อเรื่องเคลื่อนไหวเสียใหญ่โตเพียงนั้นถึงสำนักพลังเร้นลับทำไมเขาถึงไม่ออกมา!”
“เจ้าอยู่สำนักยาเซียนต้องเก็บซ่อนพรสวรรค์ ข้าอยากย้ายเจ้าไปสำนักพลังวิญญาณ เจ้าคิดอย่างไร?”
“ไม่ได้! อย่างไรก็ไม่ได้!”
เฟิ่งจิ่วยังไม่ได้พูดอะไร ก็ได้ยินสองเสียงที่เอ่ยเป็นเสียงเดียวกันลอยมาจากด้านนอก ทั้งสองหันกลับไปมอง จึงเห็นนักเล่นแร่แปรธาตุสองคนที่ช่วยเฟิ่งจิ่วสอบประเมินวันนั้นเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ
“ท่านรองเจ้าสำนัก เราสองคนรับเฟิ่งจิ่วเข้ามา เขาเป็นนักเรียนเพียงคนเดียวของสำนักยาเซียน พวกเราหวังกับเขาไว้มาก ท่านจะย้ายเขาไปสำนักพลังวิญญาณได้อย่างไร? ไปสำนักพลังวิญญาณถึงจะเป็นการปิดกั้นพรสวรรค์ในการกลั่นยาของเขา เรื่องนี้ไม่ได้แน่นอน ไม่ได้เด็ดขาด
สองคนเดินลนลานเข้ามาดึงเฟิ่งจิ่วมาด้านหลังพวกเขา แล้วจ้องมองรองเจ้าสำนักราวกับป้องกันตัว ทำให้รองเจ้าสำนักกับเฟิ่งจิ่วตกตะลึงไม่สิ้นสุด
……………
ตอนที่ 680 พลังภายในก่อกำเนิด
หลังจากรองเจ้าสำนักนิ่งไป ก็บอกกับทั้งสองว่า “พวกเจ้าไม่รู้หรอก เขาไปสำนักพลังวิญญาณถึงจะไม่ปิดกั้นพรสวรรค์เขา หนำซ้ำตั้งแต่เขายังไม่เข้ามาสำนักศึกษาข้าก็พบเขาแล้ว ซ้ำยังมอบป้ายประจำสำนักศึกษาหมอกดาราให้เขามายังสำนักศึกษาหมอกดารา ใครรู้ว่าเขาจะวิ่งมาสำนักยาเซียน ดังนั้นข้าจึงอยากย้ายเขามาสำนักพลังวิญญาณ”
“ไม่ได้ๆ หากเขาไปสำนักพลังวิญญาณ เช่นนั้นสำนักยาเซียนเราจะทำอย่างไร? เขาเป็นนักเรียนที่พวกเราเพิ่งรับเข้ามาอย่างยากลำบาก สำนักยาเซียนมีนักเรียนคนเดียว หากย้ายเขาไปสำนักพลังวิญญาณ ชะ เช่นนั้นสำนักยาเซียนจะไม่…”
สองนักเล่นแร่แปรธาตุร้อนรน นักเรียนที่รับเข้ามาอย่างยากเย็น รองเจ้าสำนักบอกว่าจะย้ายไปสำนักพลังวิญญาณ? ได้อย่างไรกันเล่า?
หมีดำตัวใหญ่กับเหล่าไป๋ข้างนอกมองไปด้านในอาศรม จากนั้นค่อยเดินออกไป
รองเจ้าสำนักกับสองนักเล่นแร่แปรธาตุภายในอาศรมโต้เถียงกันมาตลอด เห็นเช่นนี้เมื่อเฟิ่งจิ่วเตรียมจะหนีออกไปเงียบๆ ฝีเท้าเพิ่งก้าวออกอาศรม ด้านหลังก็มีเสียงรองเจ้าสำนักตะโกนลั่น
“ได้! อย่าทะเลาะกันเลย อย่างไรซะก็เป็นนักเรียนสำนักศึกษา เช่นนี้แล้วกัน!”
รองเจ้าสำนักกล่าวจบ มองไปยังเฟิ่งจิ่วกลับสังเกตเห็นเขาเดินไปถึงประตูอาศรมแล้วจึงส่ายหน้าทันที บอกว่า “เฟิ่งจิ่ว เจ้าอยู่สำนักยาเซียนต่อไปได้ แต่ถึงเวลาการแข่งขันสำนักศึกษาเจ้าต้องเข้าร่วม”
“ท่านรองเจ้าสำนัก นี่ไม่ดีเท่าไหน่กระมัง? ข้า…” คำพูดยังเอ่ยไม่ทันจบก็โดนตัดบท
“ไม่มีอะไรไม่ดีหรอก ตกลงตามนี้ พรุ่งนี้เจ้าไปรายงานตัวที่สำนักพลังวิญญาณก่อน อืม เรื่องนี้ก็ตัดสินเช่นนี้แหละ” เขาพูดจบก็ไม่ว่าอะไรมากอีก และเดินออกไปขี่กระบี่บินจากไปทันที
สองนักเล่นแร่แปรธาตุเห็นท่าทาง แล้วมองไปยังพลางเอ่ยถามด้วยความสงสัย “วรยุทธ์พลังวิญญาณเจ้าถึงระดับใด?” คนในสำนักศึกษามีมากมายเพียงนั้น รองเจ้าสำนักดันจับจ้องเขา หรือว่าพรสวรรค์เขาด้านวรยุทธ์พลังวิญญาณจะน่าเหลือเชื่อมาก?
“เรื่องนี้… แค่ป้องกันตัวได้ขอรับ!” เธอกล่าวหน้าเจื่อนๆ ตอนนี้พลังวิญญาณใช้การไม่ได้ ซ้ำยังโดนยัดเข้าสำนักพลังวิญญาณอีก เพียงรู้ว่าการหาทางแก้ปัญหาจะรอช้าต่อไปไม่ได้แล้ว
สองนักเล่นแร่แปรธาตุได้ยินเช่นนี้ยังถามอีกว่าช่วงนี้เขาเรียนพื้นฐานการกลั่นยาเป็นอย่างไรบ้าง? และสั่งว่าหากไม่เข้าใจก็ไปถามพวกเขา บอกว่าสำนักยาเซียนนี้ต้องพึ่งเขาแล้ว ให้เขาขยันตั้งใจ สุดท้ายถึงจะออกไปพร้อมกัน
“เฮ้อ! ทำอย่างไรดี?” เธอนอนลงถอนหายใจเบาๆ บนพื้นหญ้าใต้ต้นไม้นอกอาศรม คิดว่าเรื่องพวกนี้วุ่นวายเหลือเกิน
หงส์ไฟกำลังทำสมาธิ มิเช่นนั้นเธอคงถามมันได้ว่าเม็ดบัวเขียวนั้นคืออะไรกันแน่ ทว่าตอนนี้แม้แต่คนที่ปรึกษาได้ยังไม่มี
“จริงด้วย หอสมุดสำนักศึกษาอาจมีคำตอบที่ข้าต้องการ!” เธอพลิกตัวกระโดดขึ้นมุ่งไปยังหอสมุดทันที
เธออยู่หอสมุดถึงสามวันสามคืน และอยู่ข้างในไม่ออกมาเป็นเวลาเต็มๆ สามวันสามคืน แทบจะอ่านตำราที่เกี่ยวข้องไปแล้วทั้งหมด สุดท้ายถึงจะมีเบาะแสบ้าง
เธอที่ไม่ได้พักผ่อนมาสามวันสามคืนท่าทีเหนื่อยล้านิดหน่อย แต่ดวงตาคู่นั้นยามนี้ยังฉายประกายแวววาว
เป็นเม็ดบัวเขียวก่อกำเนิดไม่ผิดแน่! หากเป็นเม็ดบัวเขียวก่อกำเนิดก็บำเพ็ญพลังภายในก่อกำเนิดได้! สองสิ่งนี้เกิดมาควบคู่กัน พลังภายในก่อกำเนิดจึงสามารถหล่อเลี้ยงเม็ดบัวเขียวก่อกำเนิดได้!
นึกถึงข้อนี้เธอก็กลับไปอาศรมอย่างรวดเร็ว แวบร่างเข้าห้วงมิติ แล้วหาเจอตำราเก่าๆ เล่มหนึ่งในกองตำรากำลังภายในพวกนั้นที่อาจารย์เธอทิ้งไว้
“มันนั่นเอง!”
เธออ่านตำราเก่าในมือที่เขียนว่ากำลังภายในก่อกำเนิดด้วยอารมณ์ตื่นเต้น แม้อาจารย์จะไม่ได้สอนอะไรเธอ แต่ก็ทิ้งสมบัติไว้ให้เธอไม่น้อยเลยจริงๆ ตำรากำลังภายในทุกอย่างในนี้ล้วนเป็นสมบัติล้ำค่าข้างนอก ต่อให้ทุบหัวยังแย่งไปไม่ได้
………………………………………………….