เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 837 นักเดินทางกลับบ้าน + ตอนที่ 838 กลับมาก็ดีแล้ว
ตอนที่ 837 นักเดินทางกลับบ้าน + ตอนที่ 838 กลับมาก็ดีแล้ว
ตอนที่ 837 นักเดินทางกลับบ้าน
ได้ยินคำพูดนี้ สายตาทุกคนต่างหยุดลงบนร่างยมราชน้อย
แปดจักรวรรดิใหญ่? สำนักคุมสัตว์?
นั่นคืออะไรกัน?
แต่ละความคิดนี้ปรากฏขึ้นในใจทุกคน สำหรับพวกเขาซึ่งไม่เคยไปแปดจักรวรรดิใหญ่มาก่อน ในใจมีความอยากรู้อย่างแรงกล้าอยู่ ทว่าก็รู้ว่าสถานที่เช่นนั้น หากไม่มีพลังแข็งแกร่งเกรงว่าคงไปไม่ได้
พวกเขาเข้าใจอย่างยิ่ง หากอนาคตนายท่านของพวกเขาไป เช่นนั้นพวกเขาอาจจะไปไม่ได้ เพราะหากไม่มีพลังแข็งแกร่งก็เอาชีวิตรอดในสถานที่เช่นนั้นไม่ได้แน่นอน
ระหว่างพักในคฤหาสน์สองสามวัน เฟิ่งจิ่ววางเขตหวงห้ามกลางอากาศให้ที่นี่ใหม่ ซ้ำยังเสริมพลังป้องกันค่ายกลรอบๆ คฤหาสน์ ด้วยเห็นว่าพวกหลัวอวี่ยังไม่กลับมาจึงทิ้งเหล่าไป๋ไว้ และพาแค่เหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวาสองคน รวมถึงยมราชน้อยกับอสูรกลืนเมฆาออกจากคฤหาสน์ไป
เที่ยวเล่นมาตลอดทาง จนกระทั่งวันขึ้นปีใหม่ถึงจะกลับถึงราชวงศ์เฟิ่งหวง
ภายในวังหลวง
“เฟิ่งเซียว แม่หนูเฟิ่งไม่ได้บอกหรือว่าจะกลับมาเมื่อไร” ผู้เฒ่าเฟิ่งเอามือไพล่หลังมาที่ด้านในตำหนัก
เฟิ่งเซียวที่กำลังตั้งใจจัดการราชกิจเงยหน้ามอง เห็นว่าเป็นผู้เฒ่าก็วางงานในมือลงและลุกขึ้นยิ้มเอ่ย “ท่านพ่อ ท่านอย่าร้อนใจไป เสี่ยวจิ่วน่าจะกลับมาฉลองปีใหม่ ยังมีเวลาอีกสองวันกว่าจะถึงวันขึ้นปีใหม่ เดาว่าคงเป็นสองวันนี้กระมัง!”
“ส่งสองสามคนไปรอตรงประตูเมือง นางกลับมาแล้วจะได้กลับมารายงาน ไม่ต้องให้ข้ารออยู่ตลอดเช่นนี้” ท่านผู้เฒ่าเดินไปมา พลางบอกอีกว่า “ไม่รู้ว่านางกลับมาครั้งนี้จะพักนานแค่ไหน แม่หนูคนนี้ไปตั้งหนึ่งปี ไม่รู้อยู่ข้างนอกจะผอมลงหรือไม่?”
เฟิ่งเซียวเห็นดังนั้นก็ยิ้มกล่าว “ท่านพ่อ เสี่ยวจิ่วทางนี้ท่านไม่ต้องกังวลไป แต่ทางท่านแม่ต้องดูแลมากๆ หน่อย นางใกล้ถึงเวลาคลอดแล้ว ตอนนี้จำไว้ว่าอย่าห่างจากนางเชียว”
เมื่อนึกถึงว่าอีกไม่นานเขาจะมีน้องชายหรือน้องสาวเพิ่มมาอีกคน หนำซ้ำน้องชายหรือน้องสาวคนนี้ยังอ่อนกว่าลูกสาวของตนเกือบสิบกว่าปี ในใจเขาก็มีความรู้สึกนับร้อยพัน
ทั้งทอดถอนใจและยินดี นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าเขาอยู่มาครึ่งค่อนชีวิตแล้ว ยังจะมีน้องชายน้องสาวเกิดใหม่อีก ความรู้สึกเช่นนี้ช่างแปลกใหม่จริงๆ
“ไม่เป็นไร ซู่ซีคำนวณแล้ว คงฉลองปีใหม่เสร็จถึงจะคลอด” เขาโบกๆ มือพลางกล่าว “ยิ่งไปกว่านั้น หมอตำแยอะไรก็ล้วนเตรียมไว้เรียบร้อย ไม่มีทางพลาดหรอก”
“ไม่รู้พวกเขาบอกข่าวดีนี้กับเสี่ยวจิ่วหรือยัง ว่านางจะมีน้าหรืออาตัวน้อยเพิ่มมาอีกคน?” เฟิ่งเซียวเอ่ยถึงตรงนี้ก็หัวเราะขึ้นมา
ผู้เฒ่าเฟิ่งยิ้มเก้อเขิน ใบหน้าร้อนผ่าวเล็กน้อย แก่ถึงเพียงนี้ยังจะมีลูกอีก พูดขึ้นมาแล้วผิวหน้าก็ออกจะ…
“เช่นนั้นข้าจะกลับไปก่อน แม่หนูเฟิ่งกลับมาอย่าลืมบอกข้าด้วยละ” เขากล่าวจบก็รีบร้อนหมุนตัวเดินออกไป
เฟิ่งเซียวเห็นแล้วส่ายหน้ายิ้มๆ เดินเอามือไพล่หลังออกไป กำลังจะเรียกองครักษ์ตระกูลเฟิ่งออกไปรอนอกประตูวัง ก็เห็นองครักษ์คนหนึ่งเร่งร้อนเข้ามา
“นายท่าน พวกคุณหนูใหญ่กลับมาแล้วขอรับ” องครักษ์วัยกลางคนยิ้มเอ่ยอย่างยินดี “มาถึงประตูวังแล้ว ข้าน้อยเห็นไกลๆ จึงเข้ามารายงาน”
เฟิ่งเซียวได้ยินก็ดีใจมาก “ดีๆ กลับมาแล้วก็ดี” ระหว่างพูดก็ก้าวยาวเดินออกไป
ตรงประตูวัง พวกเฟิ่งจิ่วเดินเข้ามาพร้อมกัน เธอที่เดินอยู่ข้างหน้าเห็นบิดาสาวก้าวมาต้อนรับจากไกลๆ ครั้นเห็นเขาใบหน้าก็เผยรอยยิ้มอ่อนโยนอย่างอดไม่ได้ หัวใจยังอ่อนยวบตามไปด้วย
ปีก่อนจากบ้านปีนี้กลับมา เวลาตลอดหนึ่งปีไม่เจอหน้ากัน เมื่อไม่เจอก็ไม่รู้สึกอะไร พอพบหน้าถึงรู้ว่าในใจคิดถึงเช่นนี้
………………………………………………….
ตอนที่ 838 กลับมาก็ดีแล้ว
“ท่านพ่อ!” เธอวิ่งเข้าไป โผไปยังอ้อมกอดเขา “ท่านพ่อ คิดถึงข้าหรือไม่เจ้าคะ?”
เฟิ่งเซียวรับลูกสาวที่โผเข้ามาไว้ ยามนี้ชายฉกรรจ์ผู้เด็ดเดี่ยวหัวใจอ่อนยวบลงจนไม่เข้าท่า เขาลูบหัวลูกสาวในอ้อมแขนเบาๆ และยิ้มเอ่ยว่า “คิดถึงสิ ตั้งแต่เจ้าจากบ้านไปก็คิดว่าเมื่อไรเจ้าจะกลับมา และเฝ้ารอมาตลอด ในที่สุดเจ้าก็กลับมาบ้าน ไปๆ พ่อให้คนทำอาหารที่เจ้าชอบกินมาเลี้ยงต้อนรับเจ้าแล้ว”
ทางด้านหลัง ยมราชน้อยที่ก้าวเนิบช้าเดินมาทำหน้านิ่งมองสองพ่อลูกซึ่งโอบกอดกัน แม้เป็นพ่อลูก แต่เขามองแล้วยังรู้สึกขวางหูขวางตา ทว่าไม่ได้พูดอะไร แค่ในใจไม่สบอารมณ์ สีหน้าก็ดำทะมึน
“เอ๊ะ? เด็กคนนี้เป็นใคร ทำไมหน้าตาถึง…” เฟิ่งเซียวเอ่ย ขณะกำลังจะบอกว่าคล้ายเจ้าตำหนักยมราช ก็เห็นเด็กน้อยเดินเข้ามาดึงๆ ชายเสื้อของลูกสาวตน
“เป็นอะไรไป?” เฟิ่งจิ่วก้มหน้ามองพร้อมถาม
ยมราชน้อยยื่นสองแขนโดยไม่พูดไม่จา แต่ความหมายชัดเจนยิ่งว่าจะให้เธออุ้มเขาเดินไป
เฟิ่งจิ่วเห็นเช่นนี้กลับยิ้ม พลางกล่าวว่า “ท่านพ่อ เขาบอกว่าเป็นน้องชายของเจ้าตำหนักยมราช นามยมราชน้อย ช่วงนี้มาติดตามข้าเจ้าค่ะ”
สิ้นเสียงเธอก็มองเด็กน้อยที่ยื่นสองแขนจะให้ตนอุ้ม ก่อนยิ้มตาหยีบอกว่า “ให้ข้าอุ้มหรือ ได้ เจ้าตามข้าทันค่อยว่ากัน”
ได้ยินเพียงเธอหัวเราะเสียงสูง ร่างชุดแดงแวบผ่าน คนที่เดิมทียืนอยู่ตรงหน้าพุ่งไปด้านหน้า มุ่งไปทางราชวังเสียแล้ว
เฟิ่งเซียวมองลูกสาววิ่งตรงไปด้านในวังพลางส่ายหน้า ยิ้มบอกเด็กน้อยคนนั้นว่า “มาๆ ข้าจะอุ้มเจ้าเอง” แขนเพิ่งยื่นออกไปกลับเห็นอีกฝ่ายถลึงตา แล้วร่างเล็กก็ทะยานไปข้างหน้าราวกับสายลม ไล่ตามลูกสาวของเขาไป
“ความเร็วนี้…”
เขาพูดไม่ออกไปบ้าง เด็กคนนี้เพิ่งอายุสามสี่ขวบเองกระมัง ทำไมถึงมีความเร็วเช่นนี้?
“ผู้ครองแคว้น” เหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวาคารวะ
“โอ้ ทำไมมีแค่พวกเจ้าสองคนตามกลับมาล่ะ พวกองครักษ์ตระกูลเฟิ่งไม่ตามกลับมาหรือ?” เขาแปลกใจเล็กน้อย ไม่เพียงองครักษ์ไม่ได้ตามกลับมา เหล่าไป๋เองก็เช่นกัน
“พวกเขายังมีเรื่องต้องทำขอรับ นายท่านเลยให้พวกเขาอยู่ทางนั้น ส่วนเหล่าไป๋พูดภาษามนุษย์ได้แล้ว นายท่านกังวลว่ามันจะเอ่ยปากสร้างปัญหา ดังนั้นจึงทิ้งไว้ทางนั้นไม่พากลับมาด้วย”
“เหล่าไป๋พูดภาษามนุษย์ได้? มันกลายเป็นสัตว์เทวะแล้วหรือ?”
เหลิ่งหวายิ้มตอบ “เปล่าขอรับ แต่ได้ยินว่าหลังกินยาอายุวัฒนะที่นายท่านหลอมกลั่นก็พูดได้”
“ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง เอาเถอะ! พวกเจ้าก็เข้าไปด้วยสิ! กลับมาเหนื่อยๆ ต้องพักผ่อนเสียหน่อย” เขายิ้มกล่าว จากนั้นเข้าไปด้านในพร้อมกับพวกเขาสองคน
ภายในตำหนัก ผู้เฒ่าที่ได้ยินว่าเฟิ่งจิ่วกลับมาแล้วมายังด้านหน้า ยังไม่ทันถึงตำหนักหน้าก็พบเฟิ่งจิ่วระหว่างทาง เมื่อเห็นหลานสาวที่สวมชุดสีแดงสะดุดตา เขาเผยรอยยิ้มเอ็นดูออกมาทันที
“แม่หนูเฟิ่ง เจ้ากลับมาจนได้”
“ท่านปู่” เฟิ่งจิ่วขานเรียก มองท่านปู่ที่เป็นเหมือนชายวัยกลางคน เห็นใบหน้าเขาแดงเปล่งปลั่ง สีหน้าใช้ได้ ก็รู้ว่าสุขภาพร่างกายเขาไม่เลว
ใช่สิ เขาในยามนี้คงไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
ก่อนหน้านี้ท่านปู่ยังความจำเสื่อมเป็นระยะๆ เธอรักษาหายไปนานแล้ว พลังตอนนี้ก็อยู่ระดับจักรพรรดินักรบ ถือได้ว่าเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งในแคว้นระดับเก้านี้ ซ้ำยังมีหญิงงามเคียงข้าง ร่างกายและจิตใจย่อมเป็นสุขยิ่ง สีหน้าดียิ่งนัก
“ข้าเพิ่งพูดอยู่ว่าจะขึ้นปีใหม่แล้วทำไมเจ้ายังไม่กลับมา กำลังพูดก็ได้ยินว่าเจ้ามาถึงวังเรียบร้อย กลับมาก็ดีแล้วๆ” เขาพยักหน้า สายตาที่มองหลานสาวเต็มไปด้วยความรักใคร่และห่วงใย
………………………………………………….