เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 881 คุณชายโม่เฉินเห็นว่าอย่างไร + ตอนที่ 882 ข้าจะไปด้วยกันกับพวกเจ้า
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 881 คุณชายโม่เฉินเห็นว่าอย่างไร + ตอนที่ 882 ข้าจะไปด้วยกันกับพวกเจ้า
ตอนที่ 881 คุณชายโม่เฉินเห็นว่าอย่างไร? + ตอนที่ 882 ข้าจะไปด้วยกันกับพวกเจ้า
ตอนที่ 881 คุณชายโม่เฉินเห็นว่าอย่างไร?
“ห้องอักษรฟ้าเลขหนึ่งเสนอยาห้าธาตุเข้าแข่งขัน!”
เจ้าภาพชายวัยกลางคนหลังอ่านเอกสารในมือ เสียงยกสูงขึ้นบางส่วน แฝงด้วยความตื่นเต้นรางๆ เหมือนกลัวคนรอบๆ ฟังไม่ชัด ในน้ำเสียงยังมีกลิ่นอายพลังวิญญาณ ด้วยเหตุนี้เพียงเปล่งเสียงก็ลอยไปถึงหูพันกว่าคนโดยรอบอย่างชัดเจน
“ยาห้าธาตุ? เป็นยาอายุวัฒนะอะไรกัน? ไม่เคยได้ยินเลย!”
“ยาห้าธาตุอะไรกัน? ทำไมไม่แจ้งระดับยาอายุวัฒนะ?”
“ข้ากลั่นยาเซียนมานานเพียงนี้ ยังไม่เคยได้ยินชื่อยาห้าธาตุอะไรนี่เลย”
“ห้องอักษรฟ้าเลขหนึ่งบอกว่าเป็นภูตหมอไม่ใช่หรือ? พูดเช่นนี้ ภูตหมอมาจริงๆ หรือ?”
“หากเป็นยาอายุวัฒนะที่ภูตหมอนำมา เดาว่าคงไม่ธรรมดา”
“ถูกต้อง ตั้งแต่น้ำยาเขามาถึงยาบำรุงโฉมก็ไม่มีอะไรธรรมดา หนำซ้ำว่ากันว่าของเขาล้วนมีตราประทับ คนอื่นก็ปลอมแปลงไม่ได้”
“ไม่รู้ว่ายาห้าธาตุนี้มีผลลัพธ์เช่นไร? ยาอายุวัฒนะนี้ที่ผ่านมายังไม่เคยได้ยินเลย”
ทันใดนั้นเสียงพูดคุยก็ดังขึ้นไม่ขาดสาย พากันคาดเดาว่ายาห้าธาตุนั้นเป็นยาอายุวัฒนะอะไร? ภูตหมอเป็นคนเช่นไร? บางคนจ้องมองบนลานวิเคราะห์ยาเซียน บางคนจ้องมองห้องอักษรฟ้าเลขหนึ่ง แทบจะพูดได้ว่าหลังจากห้องอักษรฟ้าเลขหนึ่งนำเสนอยาอายุวัฒนะบรรยากาศก็เปลี่ยนไปยิ่งทำให้คนเฝ้ารอ
เทียบกับคนอื่นๆ ที่ไม่เข้าใจ พวกคนวิเคราะห์ยาเซียนกลับมีท่าทีสั่นไหวเล็กน้อย ในดวงตาฉายแววแปลกๆ
โดยเฉพาะผู้อาวุโสสามตระกูลซั่งกวนที่จ้องมองหญิงชุดดำนำเสนอยาอายุวัฒนะ ในใจยิ่งประหลาดใจ เป็นหนุ่มน้อยชุดแดง? หนุ่มน้อยนามว่าเฟิ่งจิ่วคนนั้น? เขาคือภูตหมอ?
เหลิ่งซวงวางยาอายุวัฒนะลงบนลานวิเคราะห์ยาเซียน กล่าวว่า “นี่คือยาห้าธาตุ เป็นยาอายุวัฒนะที่สามารถทำให้คนทั่วไปไม่มีฐานพลังวิญญาณกินแล้วเกิดมีฐานพลัง” เอ่ยคำพูดนี้จบก็ถอยไปข้างๆ
ทว่าประโยคว่าคนไม่มีฐานพลังวิญญาณกินจะเกิดมีฐานพลังได้ ประโยคนี้เอ่ยออกไปก็ทำให้ทั้งโถงวิเคราะห์ยาเซียนล้วนเดือดขึ้นมา
“ข้าฟังไม่ผิดกระมัง? คนไม่มีฐานพลังกินจะเกิดมีฐานพลังได้?”
“นะ นี่จริงหรือเท็จ? เหลือเชื่อเกินไปหรือเปล่า?”
“ข้าไม่เคยรู้มาก่อนว่าคนที่ไม่มีฐานพลังวิญญาณยังมีโอกาสฝึกบำเพ็ญได้? หากคำพูดนางเป็นจริง มูลค่ายาอายุวัฒนะเม็ดนี้ก็มากมายจริงๆ”
“ไม่เลวเลย นี่เป็นยาอายุวัฒนะที่เปลี่ยนชีวิตคนคนหนึ่งได้”
“น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว”
ทุกคนต่างคนต่างแย่งกันพูด สถานการณ์คึกครื้นราวกับตลาดสด การวางตัวและความสงบนิ่งอะไรเอย ล้วนถูกโยนไปไว้เบื้องหลัง
แม้แต่ทุกคนในห้วงอักษรสวรรค์นั้นก็เช่นกัน หลังได้ยินคำพูดนั้นก็ตะลึงไม่สิ้นสุด และพากันลุกขึ้นมา
โลกนี้มียาอายุวัฒนะวิเศษเช่นนั้นด้วยหรือ?
ระหว่างที่ทุกคนพูดคุย นักวิเคราะห์ยาเซียนบนลานวิเคราะห์ยาเซียนยังไม่ว่างเว้น หลังคนหนึ่งทดสอบก็ผลักไปให้อีกคน พวกเขาใช้คีมหนีบยาอายุวัฒนะดู จากสีไปถึงกลิ่นรวมถึงลายยาผ่านตาไปทีละคน
“คุณชายโม่เฉิน ท่านเห็นว่าอย่างไร?” ผู้อาวุโสสามตระกูลซั่งกวนมองไปยังโม่เฉินในชุดขาวข้างๆ พร้อมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
คนอื่นๆ ได้ยินคำพูดนี้ สายตาก็หยุดลงบนร่างทั้งสอง
“ข้าเคยได้ยินชื่อยาห้าธาตุ นั่นเป็นตำรายาโบราณ แต่สูญหายไปหลายปี นึกไม่ถึงว่าวันนี้ยังเห็นยาห้าธาตุได้อีก”
โม่เฉินกล่าวเสียงเนิบๆ มองยาอายุวัฒนะเม็ดนั้นที่วางในจานหยกพลางบอกว่า “ยาห้าธาตุนี้แม้เป็นเพียงยาอายุวัฒนะระดับสาม แต่ไม่ว่าสี ลายยา หรือกลิ่นหอมยาล้วนเป็นของชั้นหนึ่ง หนำซ้ำมูลค่ายังห่างไกลเทียบไม่ได้กับยาอายุวัฒนะอื่นๆ ในวันนี้”
………………………………………………….
ตอนที่ 882 ข้าจะไปด้วยกันกับพวกเจ้า
ความหมายเขาชัดเจนมาก หมายความว่ายาห้าธาตุเม็ดนี้เป็นสุดยอดยาเซียนที่ชนะในวันนี้
นักวิเคราะห์ยาคนอื่นๆ ได้ยินคำพูดเขาก็พยักหน้า แสดงว่าไม่มีความเห็น เพราะเป็นเช่นนี้จริงๆ คุณสมบัติพวกเขาสูงกว่าคนอื่นในที่นี้ ด้วยเหตุนี้จึงเคยได้ยินว่ามียาห้าธาตุเช่นนี้ด้วย
สิ่งที่แตกต่างคือที่ผ่านมาแค่ได้ยินชื่อ วันนี้กลับเห็นด้วยตาตนเอง ยาห้าธาตุเม็ดนี้ ไม่ว่าด้านไหนๆ ล้วนเป็นที่สุดของยาเซียนทั้งหมดในวันนี้ แน่นอนว่าชัยชนะเป็นไปตามที่ทุกคนคาดหวัง
ดังนั้นหลังนำเสนอยาห้าธาตุ งานสมัชชาวิเคราะห์ยาเซียนครั้งนี้ที่ต่อเนื่องกันมาหลายชั่วยามจึงเสร็จสิ้น และเฟิ่งจิ่วก็คว้าอันดับหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย
เมื่อเหลิ่งซวงนำยาอายุวัฒนะและรางวัลกลับมา ด้านหลังยังมีคนตามท้ายมา
นักวิเคราะห์ยาเซียนพวกนั้นพร้อมด้วยโม่เฉินล้วนตามหลังมายังประตูห้อง หลังเหลิ่งซวงเข้าไป พวกเขาก็คอยรออยู่นอกประตู
ภายในห้อง เฟิ่งจิ่วเก็บยาอายุวัฒนะไป แล้วมองของรางวัล นอกจากเซียนท้อวิญญาณหายากยิ่งสามผล ยังมีเมล็ดพันธุ์ยาทิพย์ล้ำค่าสองห่อ รวมถึงสมุนไพรราคาพันชั่งหลายต้น รวมถึงโสมภูเขาโบราณอายุห้าร้อยปีอีกหนึ่ง
“รางวัลมากมายนัก ของพวกนี้บางอย่างอยู่ข้างนอกมีเงินยังซื้อไม่ได้” เธอมองอย่างนี้ดูอย่างนั้น สุดท้ายถึงจะเก็บไป
“นายท่าน นักวิเคราะห์ยาเซียนสองสามท่านค่อยอยู่ด้านนอก อยากพบหน้านายท่านเจ้าค่ะ” เหลิ่งซวงกล่าว พร้อมมองไปยังนางที่สีหน้าระรื่น
เฟิ่งจิ่วจิบน้ำชาถึงจะบอกว่า “ให้พวกเขาเข้ามาเถอะ!”
“เจ้าค่ะ”
เหลิ่งซวงเดินมาเปิดประตู แต่เมื่อประตูห้องเปิดออก ชัดเจนว่าคนเพิ่มมาไม่น้อยเลย เห็นเช่นนี้เพียงบอกนักวิเคราะห์ยาเซียนพวกนั้นว่า “นายท่านข้าเชิญนักวิเคราะห์ยาทุกท่านเข้าไปด้านในเจ้าค่ะ”
นักวิเคราะห์ยาเซียนพวกนั้นยิ้มโดยฉับพลัน ส่วนคนอื่นๆ ด้านหลังท่าทีแปลกไป มีคนถามไถ่ว่า “แม่นางท่านนี้ โปรดไปแจ้งแทนที ว่าพวกเราอยากคารวะภูตหมอเช่นกัน”
“ขออภัยด้วยเจ้าค่ะ นายท่านข้ายุ่งมาก” กล่าวจบ หลังเชิญนักวิเคราะห์ยาเซียนพวกนั้นเข้าไปด้านใน ประตูห้องก็ปิดลงอีกครั้ง ไม่สนใจสีหน้าพวกเขาที่แข็งทื่อไปแม้แต่น้อย
นัดวิเคราะห์ยาเซียนทั้งสี่ สองท่านในนั้นเป็นคนที่เฟิ่งจิ่วรู้จัก เมื่อผู้อาวุโสสามตระกูลซั่งกวนเห็นว่าในห้องเป็นเฟิ่งจิ่วดังคาด รอยยิ้มบนใบหน้ายิ่งลึกขึ้นบางส่วน เข้าไปประสานมือคารวะ “คุณชายเฟิ่ง เจอกันอีกแล้ว”
“ท่านทั้งหลายเชิญนั่ง” เฟิ่งจิ่วพยักหน้า พร้อมเชิญพวกเขานั่งลง
โม่เฉินนั่งข้างๆ นาง เห็นแววตานางที่เหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้มหยุดลงบนร่างตนเอง ก็ละสายตาออกไปอย่างเย็นชา
นักวิเคราะห์ยาเซียนสองท่านอื่นๆ มาจากแคว้นระดับหนึ่ง หลังเจอเฟิ่งจิ่วก็แนะนำตนเองเสียก่อน จากนั้นค่อยแสดงเจตนาพวกเขา ถามเฟิ่งจิ่วว่าสนใจไปบุกเบิกยังแคว้นพวกเขาหรือไม่
เฟิ่งจิ่วคุยกับพวกเขาอย่างไม่มีอะไรก็ยังหามาพูด ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม บอกพวกเขาว่า “งานสมัชชาวิเคราะห์ยาเซียนเสร็จสิ้นแล้ว ข้าคงจะจากไปในสองวันนี้ หากวันหน้ามีวาสนาค่อยเชิญพวกท่านดื่มเหล้าแล้วกัน!”
ได้ยินคำพูดนี้พวกเขารู้ความหมาย ลุกขึ้นบอกลาทันที ออกไปข้างนอกเห็นคนอื่นๆ ยังล้อมไว้ไม่ไปไหน ก็ออกไปด้วยตนเองเสียก่อน
ภายในห้อง เฟิ่งจิ่วมองโม่เฉินที่นั่งนิ่งไม่ขยับ ถามว่า “ท่านไม่ไปหรือ?”
“เจ้ากับข้าไม่ใช่ว่าเจอกันครั้งแรก ใยต้องห่างเหินเพียงนี้?” โม่เฉินกล่าวเสียงอบอุ่น สายตาหยุดลงบนใบหน้านาง ถามว่า “กลับไปเมื่อไร? ข้าจะไปด้วยกันกับพวกเจ้า”
เฟิ่งจิ่วได้ยินคำพูดนี้ก็เลิกคิ้วเบาๆ ยิ้มถามว่า “ท่านจะไปสำนักศึกษาอีกหรือ?”
………………………………………………….