เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 889 เลือดต้องล้างด้วยเลือด + ตอนที่ 890 มาแล้วอย่าคิดหนี
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 889 เลือดต้องล้างด้วยเลือด + ตอนที่ 890 มาแล้วอย่าคิดหนี
ตอนที่ 889 เลือดต้องล้างด้วยเลือด + ตอนที่ 890 มาแล้วอย่าคิดหนี
ตอนที่ 889 เลือดต้องล้างด้วยเลือด
ผู้ฝึกวิชามารชุดดำที่หลบไปคนนั้นจ้องมองกระบี่คมพยับในมือเฟิ่งจิ่วที่เปล่งประกายหนาวเย็นสีดำด้วยสีหน้าคร่ำเครียด ในดวงตามีความโลภและตื่นเต้นอย่างรุนแรง
“นี่คือแรงกดดันจากกระบี่คมพยับ? ไม่เลวเลยจริงๆ ดีมาก สมเป็นกระบี่เทวะในตำนานโดยแท้”
เขาจับจ้องกระบี่เฟิ่งจิ่ว พร้อมยิ้มอย่างชั่วร้าย เมื่อเสียงหัวเราะกระจายออกไป กระแสลมในอากาศก็ถูกปั่นป่วนด้วยแรงกดดันจากเขา เปลี่ยนเป็นหนักอึ้งและยากจะหายใจ เสียงหัวเราะนั้นยิ่งน่ากลัวเป็นพิเศษท่ามกลางค่ำคืน
เฟิ่งจิ่วไม่ได้มองคนอื่น สายตาจับจ้องเพียงผู้ฝึกวิชามารคนหัวหน้า ในเมื่อเขาเป็นคนฆ่าเซี่ยงหวา เช่นนั้นเธอจะให้เขาล้างด้วยเลือด!
ร่างสีแดงไหลพล่านไปด้วยกลิ่นอายพลังวิญญาณในยามค่ำคืน กระแสลมแพรวพราวราวเปลวไฟนั้นห้อมล้อมเธอไว้ และเสริมให้ร่างกายเธอเปล่งประกายยิ่ง แม้ท้องฟ้ามืดมิดยังเห็นได้ในแวบเดียว
เธอถือกระบี่คมพยับชี้ลงพื้น ดวงตาหรี่ลงครึ่งหนึ่งอย่างช้าๆ น้ำเสียงที่ทั้งเย็นเยียบและหนาวเหน็บมีความกระหายเลือดที่มืดครึ้มและแข็งแกร่งเปล่งออกไปในยามราตรี “ฆ่าคนของข้า เจ้าต้องชดใช้”
สิ้นเสียงเพียงเห็นร่างสีแดงนั้นพุ่งออกไปราวกับภูตผี ท่ากายแสนว่องไวหากไม่มีกระแสลมเปลวไฟที่พุ่งพล่านบนร่าง ก็ไม่มีทางจับการเคลื่อนไหวได้เลย
ทันใดนั้นทุกคนต่างรู้สึกว่าไอสังหารมืดฟ้ามัวดินปะทุมาจากบนร่างเด็กหนุ่มชุดแดง ไอสังหารที่ซัดโถมเข้ามาราวกับน้ำไหลหลาก กลืนกินพวกเขาด้วยท่าทางรุนแรงปานคลื่นสมุทร สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจที่สุด คือภายในไอสังหารยังแฝงด้วยแรงกดดันในตำนานที่ทำให้พวกเขาใจสั่นสะท้าน!
“ข้าจะให้พวกเจ้าลิ้มรสชาติของการถูกเฉือนให้ตายอย่างช้าๆ!”
น้ำเสียงเยียบเย็นน่ากลัวเปล่งออกจากปากเฟิ่งจิ่ว สิ่งที่ตามมาคือพลังกระบี่คมพยับที่เป็นเช่นพลังทำลายล้าง เพียงได้ยินเสียงลอยฟิ้ว กลางอากาศเหมือนถูกกระบี่เทวะในตำนานตัดออกเป็นสองครึ่งเสียดื้อๆ ประกายสีดำวาดออกลงไปเป็นแนวโค้ง แล้วฟันไปทางผู้ฝึกวิชามารระดับกำเนิดวิญญาณคนนั้นด้วยความเร็วปานสายฟ้า
ผู้ฝึกวิชามารระดับกำเนิดวิญญาณถูกแรงกดดันและไอสังหารที่เฟิ่งจิ่วพลันปล่อยออกมาทำให้ตกใจ นัยน์ตาฉายประกายอย่างรวดเร็ว เพราะหลบไม่ทันได้แต่กลิ้งไปกับพื้น แต่พลังกระบี่น่าสะพรึงยังแผ่ขยายมา บนร่างจึงถูกกรีดเป็นบาดแผลเล็กใหญ่ไม่เท่ากันนับไม่ถ้วน
เขาได้กลิ่นคาวเลือดจางๆ ในอากาศและรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แล่นมาบนร่างกาย ก่อนจะหัวเราะลั่นพลางจ้องมองเฟิ่งจิ่ว
“ฮ่าๆๆๆ…”
เสียงหัวเราะชั่วร้ายนั้นหัวเราะจนสุดท้ายกลายเป็นเสียงหัวเราะดังลั่น แรงกดดันระดับกำเนิดวิญญาณที่แข็งแกร่งลอยไปในเสียงหัวเราะ สะเทือนเสียจนแต่ละคนด้านหลังเขาต้องปิดหูร้องคร่ำครวญ พากันถอยไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว
“กลิ่นอายสัตว์เทวะในตำนาน… ฮ่าๆๆๆ! เป็นกลิ่นอายสัตว์เทวะในตำนาน!”
สองแขนเขาอ้ากว้างแหงนมองฟ้าหัวเราะร่า สิ้นเสียงหัวเราะก็มองไปยังเฟิ่งจิ่วในทันที ในดวงตามีประกายตื่นเต้นแปลกๆ “ไม่เพียงมีกระบี่คมพยับ ยังมีสัตว์เทวะในตำนาน! พูดเช่นนี้ ขอแค่ฆ่าและบดขยี้วิญญาณเจ้าซะ เช่นนั้นทุกอย่างก็เป็นของข้าแล้ว เป็นของข้าทั้งหมด ฮ่าๆๆๆ…”
“เช่นนั้นต้องดูว่าเจ้ามีความสามารถเช่นนั้นหรือไม่!”
เฟิ่งจิ่วยกแขนขึ้นตวัดกระบี่คมพยับในมือทันควัน เพียงเห็นประกายสีดำดุร้ายแต่ละสายพลันโจมตีออกไปพร้อมกระแสลม โถมไปยังผู้ฝึกวิชามารระดับกำเนิดวิญญาณคนนั้น ความเร็วว่องไว เพียงเห็นประกายสีดำวาดผ่านไปกลางค่ำคืน ส่วนร่างผู้ฝึกวิชามารระดับกำเนิดวิญญาณก็หลบหลีกประกายสีดำมุ่งมาทางเธอ
………………………………………………….
ตอนที่ 890 มาแล้วอย่าคิดหนี
“เจ้าหนู คิดจะฆ่าข้า? เจ้ามีคุณสมบัติไม่พอหรอก!”
เฟิ่งจิ่วเห็นในดวงตาผู้ฝึกวิชามารที่มุ่งมาทางเธอปรากฏประกายหนาวเย็น มุมปากเพียงยกขึ้น “เช่นนั้นข้าจะให้เจ้าดูเสียหน่อย ว่าข้ามีคุณสมบัติพอหรือไม่!”
กล่าวจบเธอก็ไม่ปกปิดวรยุทธ์และกลิ่นอายบนร่างอีกต่อไป ทันใดนั้นกลิ่นอายระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุดกระจายออกมาจากบนร่าง แรงกดดันในตำนานที่ทรงพลังหลั่งไหลออกมาราวกับน้ำหลากภายใต้การปลดปล่อยจากเธอ กลายเป็นสัตว์ร้ายกระโจนไปหาผู้ฝึกวิชามารระดับกำเนิดวิญญาณ
“ซี๊ด!”
“นะ นี่มัน…”
เขาสูดลมหายใจ ในดวงตามีความเหลือเชื่อ เป็นถึงผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณ จึงรู้สึกถึงแรงกดดันในตำนานภายในแรงกดดันที่หนุ่มน้อยโจมตีออกมาได้ แน่นอนว่ารู้สึกได้เช่นกัน ว่าในกระแสลมระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุดที่กระจายออกมาจากบนร่างเด็กหนุ่มในยามนี้ ยังแฝงด้วยกลิ่นอายแสนน่ากลัว
นะ นั่นเป็นกลิ่นอายวิถีสวรรค์… ระ หรือว่าเขามีรากฐานวิถีสวรรค์!
กระแสลมทรงพลังที่แรงกดดันในตำนานโจมตีออกมาตรึงร่างเขาไว้เสียดื้อๆ เพียงรู้สึกว่ากลิ่นอายแห่งความตายปกคลุมมาเหนือศีรษะ ร่างกายแข็งทื่อไปชั่วขณะ แต่ประกายสีดำตรงหน้าวาววับในทันใด ความเจ็บรวดร้าวใจยังแล่นมา
“ซี๊ดอ๊าก!”
เวลานั้นที่คมพยับตวัดลงไป ก็ตัดแขนอาบเลือดกระเด็นออกไปเช่นนั้น หลังจากหมุนวนในอากาศหลายรอบก็ร่วงตกออกไปสามจั้งกว่า เสียงกรีดร้องรุนแรงตัดผ่านท้องฟ้าในยามนั้นและลอยเข้าหูทุกคน
“ซี๊ด! นะ นี่เป็นไปได้อย่างไร!”
ผู้ฝึกวิชามารระดับหลอมแก่นพลังที่ห่างออกไปไกลสามจั้งรวมถึงเหล่าผู้ฝึกวิชามารระดับสร้างรากฐานต่างพากันตกใจกับภาพนี้ แต่ละคนเบิกตาโตอย่างเหลือเชื่อ มองแขนที่ขาดนั้นกระเด็นไปพร้อมเลือดสดๆ วาดผ่านกลางอากาศและตกลงบนพื้นที่ปกคลุมไปด้วยหินทรายเล็กละเอียด
ผู้ฝึกวิชามมารระดับกำเนิดวิญญาณกุมไหล่ที่ขาดพลางก้าวถอยหลังไป ในดวงตามีความยากจะเชื่อและประหลาดใจ เหมือนนึกไม่ถึงว่าความเร็วเฟิ่งจิ่วจะไวเช่นนั้น ยิ่งนึกไม่ถึงว่าผู้ฝึกวิชามารระดับกำเนิดวิญญาณจะถูกผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐานตัดแขนขาด
ความเจ็บรุนแรงที่แล่นมาบนร่าง และเลือดอุ่นๆ ที่เปื้อนมือที่กุมไหล่ไว้บอกเขาอย่างชัดเจน ว่านี่ไม่ใช่ของปลอม นี่คือเรื่องจริง! แขนเขาถูกเด็กหนุ่มตัดไปแล้วจริงๆ!
เฟิ่งจิ่วถือกระบี่ยืนรับลม ชุดแดงปลิวไหวท่ามกลางท้องฟ้ายามวิกาล กลางหว่างคิ้วมีกลิ่นอายดุดันกระหายเลือดกระจายอยู่ จ้องมองผู้ฝึกวิชามารระดับกำเนิดวิญญาณตรงหน้า แล้วยกกระบี่คมพยับในมือขึ้นชี้เขา
“รู้หรือไม่? เมื่อครู่ข้าแค่ขยับกระบี่เข้าไปเล็กน้อย ครั้งนี้สิ่งที่ตัดไปคงไม่ใช่แค่แขนข้างเดียว” มุมปากเธอยกยิ้มเย็นเยาะเย้ย “รู้ว่าข้ามีสัตว์เทวะในตำนาน และถือครองกระบี่คมพยับ ยังจะกล้ามายั่วยุข้าอีก? เหอะ! ช่างรนหาที่ตายจริงๆ!”
“เข้าไปให้หมด! ฆ่าเขาซะ!”
ผู้ฝึกวิชามารระดับกำเนิดวิญญาณก้าวถอยหลังไป กลับสั่งพวกผู้ฝึกวิชามารด้านหลังเข้าไป ทว่าคนพวกนี้เดิมเป็นผู้ฝึกวิชามาร หลังเห็นว่าแม้แต่ผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณยังถูกตัดแขนขาด ใครจะกล้าเข้าไปตายเล่า?
ผู้ฝึกวิชามารระดับกำเนิดวิญญาณเห็นไม่มีใครเข้าไป ก็หันกลับไปจ้องทุกคนที่ถอยออกไปกว่าสามจั้งอย่างโกรธเกรี้ยวโดยฉับพลัน “เข้าไปสิ! นิ่งกันทำไม? ฆ่าเขาซะ!”
ทว่ากล่าวจบก็รู้สึกถึงความเย็นด้านหลัง ไอสังหารจู่โจมมา ก็หันกลับไปในทันที เพียงเห็นหนุ่มน้อยชุดแดงมือถือกระบี่คมพยับก้าวเข้ามาใกล้ จิตสังหารดุดันไม่ปล่อยให้เขาล่าถอย เขาพลันกัดฟันกรอด แขนที่ไม่ได้บาดเจ็บรวบรวมกระแสลมรุนแรงโจมตีไปทางหนุ่มน้อย หมุนตัวคิดจะหนีไปก่อนเพื่อรักษาชีวิตไว้ ไม่ห่วงว่าภายหน้าจะไม่มีโอกาสเอาชีวิตเขา
“คิดหนีรึ? มาแล้ว เจ้าก็อย่าคิดว่าจะรอดชีวิตออกไปได้เลย”
น้ำเสียงกระหายการฆ่าเปล่งออกมา จิตสังหารมากล้นกระจายไป ทำให้ทุกคนโดยรอบอกสั่นขวัญแขวน…
………………………………………………….