เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 893 สำรวจดวงจิต + ตอนที่ 894 เข้าร่วมงานแข่งสำนักศึกษา
ตอนที่ 893 สำรวจดวงจิต + ตอนที่ 894 เข้าร่วมงานแข่งสำนักศึกษา
ตอนที่ 893 สำรวจดวงจิต
คืนนี้ก็นอนไม่หลับอย่างเลี่ยงไม่ได้
รอจนเก็บกวาดพื้นที่ด้านนอกเสียสะอาดก็เที่ยงคืนแล้ว เฟิ่งจิ่วที่กลับถึงในเรือนหลังสงบจิตใจสักพัก ถึงจะมายังคุกใต้ดิน มองผู้ฝึกวิชามารระดับกำเนิดวิญญาณที่ถูกขังไว้ในคุกและกำลังหมดสติ
“ลากเขาออกมา” เธอให้สัญญาณ ตู้ฝานกับเหลิ่งซวงสองคนด้านหลังจึงเข้าไปลากคนออกมา
เห็นผู้ฝึกวิชามารระดับกำเนิดวิญญาณยังคงไม่ได้สติ แววตาเธอหรี่ลงครึ่งหนึ่ง เดินเข้าไปยื่นมือออกไปสำรวจยังปั้นเหน่งเขา
สำรวจดวงจิตคือศาสตร์ชนิดหนึ่งที่ไม่ได้รับการยอมรับและน้อยคนนักจะใช้ คนที่ถูกสำรวจดวงจิตจะกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ ดวงจิตเสียหาย จิตใจถูกทำร้าย ได้แต่เป็นคนบ้า ด้วยเหตุนี้น้อยคนมากจะใช้ศาสตร์การสำรวจดวงจิตเช่นนี้ แต่สำหรับผู้ฝึกวิชามาร แม้เป็นพวกคนที่มีความลับ กลับยังคงมีคนใช้ศาสตร์เช่นนี้
เธอหลับตาลง มือที่กดตรงปั้นเหน่งเจาะเข้าไปสำรวจดวงจิต ข้อมูลภายในห้วงความคิดเขาฉายขึ้นในห้วงความคิดเธอทีละน้อยๆ อย่างไม่ปิดบัง คำพวกนั้นที่เคยพูด เรื่องที่เคยทำ พวกเรื่องที่เธอรู้ รวมถึงเรื่องที่เธอยังไม่รู้ ล้วนเข้ามาในดวงจิตเธอ…
ผ่านไปเนิ่นนานเธอลืมตาขึ้นและเก็บมือกลับ หมุนตัวจะออกไปข้างนอก ขณะเดียวกันยังทิ้งคำพูดไว้ “ลากไปเป็นขนมให้สัตว์ร้ายซะ”
เหลิ่งซวงตามหลังเธอออกไป ส่วนตู้ฝานหลังขานรับก็ลากคนที่หมดสติไปยังภูเขาด้านหลัง
กลางดึกวันนี้พวกเขารวมตัวในห้องโถงใหญ่ เฟิ่งจิ่วกำชับบางเรื่องกับพวกเขา สั่งพวกเขาว่าภายหลังตอนรับภารกิจออกไปต้องระวังหน่อย ขณะเดียวกันยังบอกพวกเขา ว่าผู้ฝึกวิชามารคนนั้นรู้เรื่องกระบี่คมพยับมาจากการสำรวจดวงจิต เขาคงคิดจะกอบโกย ข้อมูลยังไม่ปล่อยออกไป ด้วยเหตุนี้ช่วงนี้จึงต้องสังเกตการเคลื่อนไหวแต่ละฝ่าย
สุดท้ายเธอยังบอกหลัวอวี่ว่า “หลังฟ้าสว่างเจ้าไปตามหาหอสายลมหนาว บอกเริ่นเสียงว่ามีกลุ่มอำนาจกำลังวางแผนในมุมมืด คิดจะกลืนกลุ่มอำนาจตำหนักยมราช เจ้าให้เขาระวังตัวมากๆ หน่อย แล้วถามว่าเขาส่งยมราชน้อยให้คนมารับไปอย่างปลอดภัยหรือยัง”
“ขอรับ นายท่านโปรดวางใจ ข้าจะออกเดินทางตั้งแต่ฟ้าสว่าง” หลัวอวี่ขานรับ
เฟิ่งจิ่วพยักหน้าถึงจะลุกขึ้นกลับห้อง รอนางออกไปคนอื่นๆ ยังนั่งอยู่ในห้องโถง เพื่อปรึกษาหารือเรื่องราว
กระทั่งช่วงเย็นวันต่อมา หลัวอวี่ที่ออกไปกลับมาแล้ว ถามไถ่ว่า “นายท่านยังอยู่ในเรือน? หรือว่ากลับสำนักศึกษาแล้ว?”
“ยังอยู่ในเรือน แต่ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ยังไม่ออกมาเลย” ฟั่นหลินเอ่ย พร้อมถอนหายใจเบาๆ ถามว่า “เรื่องที่นายท่านสั่งเจ้าไปทำเป็นอย่างไรบ้าง?”
“อืม ข้านำสาสน์ไปถึงแล้ว และถามเรื่องที่นายท่านต้องการถาม กำลังจะไปรายงานนายท่าน” เขากล่าวจบ ยังบอกว่า “ข้าจะไปดูในเรือนนายท่านเสียหน่อย”
“ข้าจะไปด้วย” ฟั่นหลินตามไปทันที
มาถึงภายในเรือน เหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวาสองคนล้วนอยู่ด้วย พวกเขาถามว่า “นายท่านเล่า? ยังไม่ออกมาหรือ?”
“พวกเจ้ามาหานางมีธุระอะไร? ข้าจะไปรายงาน” เหลิ่งหวากล่าว แล้วเข้าไปเคาะประตูเรียก “นายท่าน พี่ใหญ่หลัวกลับมาแล้วขอรับ”
ภายในห้องไม่มีการเคลื่อนไหว ผ่านไปสักพักประตูห้องถึงจะเปิดออก เฟิ่งจิ่วในชุดสีแดงเดินออกมา มองพวกเขาในลานบ้าน สายตาก็หยุดลงบนร่างหลัวอวี่
หลัวอวี่เห็นท่าทางก็รีบร้อนรายงานว่า “นายท่าน ข้าน้อยส่งสาสน์ไปถึงแล้ว เริ่นเสียงคนนั้นบอกว่าส่งยมราชน้อยให้คนมารับไปอย่างปลอดภัย นายท่านไม่ต้องเป็นห่วง”
เฟิ่งจิ่วได้ยินเช่นนี้ก็พยักหน้า มองๆ ท้องฟ้า ก่อนจะบอกว่า “เช่นนั้นข้าจะกลับสำนักศึกษาก่อน มีเรื่องอะไรค่อยแจ้งข้าแล้วกัน!” เธอกำชับ จากนั้นค่อยสาวก้าวเดินออกไป
………………………………………………….
ตอนที่ 894 เข้าร่วมงานแข่งสำนักศึกษา
เห็นนางจะไปแล้ว ทุกคนจึงพากันไปส่งนางถึงนอกคฤหาสน์ หลังเห็นนางขี่บนหลังเหล่าไป๋และพาอสูรกลืนเมฆาออกไป พวกเขายืนที่เดิมสักพักถึงจะกลับไปภายในคฤหาสน์
แม้บอกว่าเป็นนายบ่าว แต่นายท่านปฏิบัติกับพวกเขาเฉกเช่นครอบครัว พวกเขาต่างรู้ว่านายท่านเห็นเซี่ยงหวาถูกฆ่าในใจจึงโศกเศร้านัก ถึงอย่างไรทุกคนที่ติดตามนางล้วนถูกคัดเลือกออกมาอย่างดี ยามนี้กลับจากไปเช่นนี้
นึกถึงตรงนี้ทุกคนต่างแอบๆ ตัดสินใจในใจ ว่าจะต้องขยันฝึกบำเพ็ญและแข็งแกร่งขึ้นโดยเร็ว!
เช้าตรู่วันต่อมา หลังเฟิ่งจิ่วไปตลาดมืดก็กลับถึงสำนักศึกษา หลังจากเข้าประตูใหญ่สำนักศึกษาก็ไปยังอาศรมทันที
ต้นเดือนสองสำนักศึกษาก็เปิดเรียนแล้ว พวกนักเรียนล้วนกลับมา เพียงแต่ตอนนี้ยังค่อนข้างเช้า นักเรียนที่เดินไปมาในสำนักศึกษาจึงไม่ได้มากมาย นอกจากกลับสำนักศึกษามารายงานตัว เธอก็ไม่ออกไปข้างนอกอีก ทุกวันไม่ฝึกบำเพ็ญในอาศรม ก็กลั่นยาเซียนปรุงยาอยู่ด้านใน
กระทั่งผ่านไปครึ่งเดือนกว่า วันนี้เจ้าสำนักส่งคนเข้ามาตามเธอไป
“ท่านเจ้าสำนัก รองเจ้าสำนัก” เธอที่มาถึงยอดเขาหลักคารวะไปทางทั้งสอง สายตากวาดมองไปเห็นโม่เฉินอยู่ข้างๆ เช่นกัน พยักหน้าเล็กน้อย เห็นอีกฝ่ายตอบกลับด้วยรอยยิ้มเบาๆ ถึงจะละสายตาออกไป
“ได้ยินว่าเจ้ากลับมาช่วงก่อนหน้านี้ ตลอดมาไม่เห็นเจ้าเดินไปมาในสำนักศึกษา วันนี้เรียกเจ้าเข้ามา เพื่อบอกเจ้าว่าอีกสามวันนักเรียนสำนักศึกษาสิบคนที่คัดเลือกมาเรียบร้อยจะต้องตามรองเจ้าสำนักกับอาจารย์สองสามท่านไปเข้าร่วมงานจัดอันดับอิทธิพลระหว่างสำนักศึกษาแล้ว เจ้าเตรียมตัวดีแล้วหรือยัง?”
“คนอื่นเก้าคนเป็นใครขอรับ?” เธอถามไถ่
เจ้าสำนักยิ้มๆ บอกว่า “ในหมู่ผู้มีพรสวรรค์สิบอันดับแรกของสำนักศึกษามีสองคนถูกเจ้ากับเซียวอี้หานดึงลงมา คนอื่นๆ ยังไม่เปลี่ยนแปลง เดิมทีพวกเราคิดจะให้พี่ชายเจ้าเข้าร่วมด้วย แต่ถึงตอนนี้เขายังไม่กลับมา แต่ให้คนส่งข่าวไป บอกว่าตามทหารรับจ้างตลาดมืดไปแคว้นอื่น เดาว่าในเวลาสั้นๆ คงไม่กลับมา ถึงได้ไม่มีรายชื่อเขา”
เธอได้ยินคำพูดนี้ แววตาสั่นไหวเล็กน้อย พี่ชายยังไม่กลับมา? ครึ่งเดือนนี้เธอไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้เลย แค่ตั้งใจฝึกบำเพ็ญและกลั่นยาเซียนปรุงยา ไม่มีกะใจไปสนใจเรื่องอื่นๆ
“อืม ข้าไม่มีปัญหา ออกเดินทางสามวันให้หลังใช่หรือไม่? ข้ารู้แล้วขอรับ” เธอพยักหน้าพลางเอ่ย
“เช่นนั้นเจ้ากลับไปเตรียมตัว อีกสามวันมารวมตัวตรงลานกว้าง”
“ขอรับ เช่นนั้นข้าจะกลับไปก่อน” เธอขานรับ แล้วหมุนตัวออกไป
กลับถึงอาศรม เธอเห็นเหล่าไป๋กับอสูรกลืนเมฆานอนอยู่นอกอาศรมก็เดินเข้าไป “อีกสามวันข้าจะไปเข้าร่วมงานแข่งสำนักศึกษา พวกเจ้าสองตัวจะอยู่ที่นี่หรืออยากเข้าไปในห้วงมิติ?”
“ข้าจะตามนายท่านไป เข้าไปในห้วงมิติก็ได้ ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่” เหล่าไป๋รีบร้อนเอ่ย
“ข้าก็จะตามนายท่านไปเช่นกันขอรับ” อสูรกลืนเมฆาเอ่ยปากบอก
มีแค่หมีดำตัวใหญ่ข้างๆ ที่ไม่รู้ว่าพวกเขากำลังพูดอะไร เอียงคอมองพวกเขาท่าทางเหลอหลา
“เหล่าไป๋รูปร่างใหญ่ไป หลังเข้าห้วงมิติไปจะออกมาอีกไม่ได้ ส่วนอสูรกลืนเมฆาไม่ต้องเข้าห้วงมิติยังได้ ตามไปข้างกายข้าตรงๆ เป็นพอ” เธอมองสองสัตว์อสูรพลางกล่าว มองหมีดำตัวใหญ่ข้างๆ แล้วลูบๆ หัวมัน “เสี่ยวเฮยจะกลับไปป่าหรือเปล่า?”
“กรร!” มันคำรามเสียงเบา กอดต้นไม้ข้างๆ ไว้ทันที แสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากกลับไป
“เจ้ากับข้าไม่มีพันธสัญญากัน อันที่จริงไม่ต้องตามข้าไปตลอดหรอก” เธอถอนหายใจเบาๆ เห็นมันเป็นเช่นนี้ก็บอกว่า “เอาเถอะ! ในเมื่อไม่กลับไป เช่นนั้นก็เฝ้าอาศรมที่นี่แหละ รอวันหน้าข้าจะไปแล้วค่อยหาที่ไปดีๆ ให้เจ้า”
………………………………………………….