เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 939 พาตัวไปแล้ว + ตอนที่ 940 ทะเลาะกันแล้ว
ตอนที่ 939 พาตัวไปแล้ว + ตอนที่ 940 ทะเลาะกันแล้ว
ตอนที่ 939 พาตัวไปแล้ว
“เฮ้อ แต่เสด็จพ่อข้าคงไม่ยอมให้ข้าไปแน่ๆ” ต้วนเยี่ยถอนใจเอ่ย
“เรื่องนี้ง่ายมาก ยกให้ข้าจัดการเป็นพอ” ในดวงตาเฟิ่งจิ่ววาบประกายชาญฉลาด กล่าวว่า “แต่เพื่อให้พ้นจากการติดตาม ยังจะต้องหนีไปเงียบๆ เอาเช่นนี้แล้วกัน! เจ้ากับสิงโตไฟตัวนั้นตามอสูรกลืนเมฆาของข้าไปก่อน ไปรอข้ายังชายขอบเขตอาคม ข้าจะไปอธิบายกับทหารอารักขาพวกนั้นเอง”
เขาตะลึงงัน “เจ้าเนี่ยนะ? จะได้หรือ ถึงเวลานั้นอย่าโดนจับไปเสียล่ะ”
ได้ยินเช่นนี้ เธอมองไปยังอสูรน้อยบนพื้น “กลืนเมฆา เจ้าคอยนำทางพวกเขา เดี๋ยวข้าจะตามพวกเจ้าไป”
“โฮก!” อสูรกลืนเมฆาอ้าปากคำรามเบาๆ แล้วเงยหน้าสาวขาสั้นเล็กนำทางพวกนั้นไป
“เอาเถอะ! หากเจ้าจัดการไม่ได้ก็มาหาข้า แต่ว่าในนี้มีเขตอาคม…”
“เจ้าอย่าพูดมากนักจะได้ไหม? ไปเร็วๆ” เธอกลอกตาอย่างหมดคำพูด พร้อมโบกมือไล่ให้ไป
ต้วนเยี่ยเห็นตามนั้น ก็ขี่สิงโตไฟตามอสูรน้อยไปโดยไม่พูดอะไรอีก เขาหันกลับไปมองเฟิ่งจิ่วที่ยืนอยู่ที่เดิม คิดว่าคงไม่เป็นไร หากฝ่ายนั้นจัดการไม่ได้จริงๆ เช่นนั้นค่อยวกกลับมาอีกก็ได้
ส่วนเฟิ่งจิ่ว หลังจากต้วนเยี่ยตามอสูรกลืนเมฆาออกไป ก็ไปหาทหารอารักขาพวกนั้นทันที ยังไม่ทันเดินเข้าใกล้ก็ได้ยินเสียงตะโกนเกรี้ยวกราด
“เจ้าเป็นใคร! โผล่มาที่นี่ได้อย่างไร!”
เฟิ่งจิ่วได้ยินเสียงตะโกน ครั้นหันมองทางคนคนนั้นก็เห็นเป็นชายวัยกลางคน วรยุทธ์ระดับกำเนิดวิญญาณ ดังนั้นจึงบอกว่า “ข้าเป็นอาจารย์จากสำนักศึกษาสองดารา แซ่เฟิ่ง ท่านเจ้าสำนักให้ข้าเข้ามารับต้วนเยี่ยไปขอรับ”
“อาจารย์จากสำนักศึกษาสองดารา?” ชายวัยกลางคนกวาดมองด้วยสายตาดุดัน เฟิ่งจิ่วไม่ก็เก็บซ่อนวรยุทธ์ และปล่อยพลังระดับหลอมแก่นพลังขั้นกลางออกมาทันที
“เจ้ามีหลักฐานอะไร?” ระดับกำเนิดวิญญาณผู้นั้นเห็นพลังระดับหลอมแก่นพลังขั้นกลางของอีกฝ่าย ก็เอ่ยถามเสียงเข้ม
“นี่เป็นป้ายหยกแสดงสถานะอาจารย์ขอรับ” เธอยื่นป้ายหยกไปพลางเอ่ย
ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณรับมากวาดมองด้วยดวงจิต สิ่งที่ประทับไว้บนนั้นคือรูปลักษณ์และสถานะของเด็กหนุ่มคนนี้ ด้วยเหตุนี้ถึงจะพยักหน้า สีหน้าสงบลง “องค์ชายสิบไม่ยอมไปสำนักศึกษา ท่านมีวิธีพาเขาออกไปหรือ?”
“เขารับปากแล้วว่าจะตามไปด้วยขอรับ ข้าแค่เข้ามาบอกกล่าวเสียหน่อย เมื่อพวกท่านถอนเขตอาคม ข้าก็จะพาเขาไป”
“เขารับปากจะตามท่านไป?” ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณค่อนข้างประหลาดใจ
“ถูกต้องขอรับ” เฟิ่งจิ่วพยักหน้า
เห็นเช่นนี้เขาจึงครุ่นคิดสักพัก ถามว่า “ในเมื่อท่านเป็นอาจารย์สำนักศึกษาสองดารา และมารับองค์ชายสิบ เช่นนั้นจะเข้าวังไปเข้าเฝ้าผู้ครองแคว้นพร้อมองค์ชายสิบหรือไม่?”
“ยุ่งยากเกินไป ข้ายังมีธุระอีก จะไม่ไปพระราชวังขอรับ” ขณะกล่าว เธอเห็นเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย จึงบอกว่า “ท่านวางใจได้ สถานะของข้าไม่อาจปลอมแปลง หากไม่เชื่อพวกท่านส่งสารไปถามสำนักศึกษายังได้”
“ข้ารู้แล้ว” ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณเอ่ย มองๆ ท้องฟ้าและพูดว่า “หนึ่งชั่วยาม รอจับนักโทษประหารสิบคนนั้นได้แล้ว ข้าจะแก้เขตอาคมออกไป”
ได้ยินเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วยกริมฝีปากโค้ง เอ่ยว่า “ได้ขอรับ เช่นนั้นข้าจะเดินเล่นกับต้วนเยี่ยในนี้ไปก่อนแล้วกัน!” กล่าวจบก็หมุนตัวจากไป
เมื่อเห็นเด็กหนุ่มจากไปแล้ว ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณบอกทหารอารักขาด้านหลังทันทีว่า “กลับวังไปรายงานเดี๋ยวนี้”
“ขอรับ!” ทหารอารักขาขานรับแล้วแยกไปอย่างรวดเร็ว
“พวกเจ้าสองคนตามเขาไป พยายามอย่าให้เขารู้ตัว” เขาสั่งผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังขั้นกลางสองคน
“ขอรับ” ทั้งสองขานรับ ก่อนจะเรียกพลังตามหลังเฟิ่งจิ่วไป
ทว่าหลังจากเฟิ่งจิ่วเดินไปสักระยะ ก็สลัดสองคนที่ตามติดด้านหลังพ้นได้…
………………………………………………….
ตอนที่ 940 ทะเลาะกันแล้ว
ประมาณครึ่งชั่วยาม ยังคงไม่เห็นร่างเฟิ่งจิ่วกลับมา ต้วนเยี่ยหันไปมองๆ อย่างอดไม่ได้ พลางพึมพำว่า “เจ้าหมอนั่นคงไม่โดนจับกระมัง ช่างเถอะ ข้ากลับไปดูหน่อยดีกว่า”
ขณะกำลังตบพาหนะจะหันกลับไป ก็เห็นร่างสีแดงโผล่พรวดออกมาจากในป่า ไม่กี่ชั่วอึดใจก็มาถึงเบื้องหน้าเขา
“ต้วนเยี่ย อสูรตัวโตของเจ้าเก็บเข้าห้วงมิติสัตว์วิญญาณไปได้หรือไม่?” ขอแค่เป็นสัตว์ในพันธสัญญา ล้วนสามารถเก็บเข้าห้วงมิติสัตว์วิญญาณได้ เจ้าตัวนี้น่าจะทำได้ด้วยกระมัง?
“ได้สิ! แต่ทำไมต้องเก็บด้วย? ข้าขี่มันยังดีกว่าไม่ใช่หรือ?” เขามองเฟิ่งจิ่วพลางถามด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ
“รอออกจากแคว้นฉลองชัยแล้วค่อยขี่ มิเช่นนั้นจะเตะตาเกินไป รีบเก็บไว้แล้วไปกัน” เธอให้สัญญาณพลางหันกลับไปมอง มาที่ชายขอบเขตอาคม จากนั้นสองมือรวบรวมกลิ่นอายพลังวิญญาณมาไว้บนปลายนิ้ว แล้วชี้นิ้วไปพร้อมตะโกนเสียงดังชัดเจน
“ทำลาย!”
สิ้นเสียงตะโกนดังชัดนั้น กลิ่นอายพลังวิญญาณบนปลายนิ้วเธอก็พุ่งไปข้างหน้า ราวกับโยนหินก้อนใหญ่ลงในผิวน้ำทะเลสาบที่สงบนิ่ง จุดที่เหมือนโปร่งแสงพลันมีระลอกคลื่นพลังวิญญาณหลายวงกระเพื่อมออกไป
ต้วนเยี่ยกำลังเก็บสัตว์ในพันธสัญญาเข้าห้วงมิติสัตว์วิญญาณ เห็นเขตอาคมเหมือนประตูเล็กๆ เปิดให้พวกเขาอยู่ตรงหน้าก็ตะลึงงัน เช่นนี้ก็ได้ด้วยหรือ?
“ไปเถอะ!”
เฟิ่งจิ่วลากเขากระโจนออกไป กลืนเมฆาตัวน้อยรีบโดดตามหลังทั้งสองคนไปพร้อมกัน หลังจากพวกเขากระโจนออกไป จุดนั้นค่อยๆ กลับสู่สภาพเดิมอีกครั้ง
“อึก! ทำไมข้าไม่รู้ว่าทำลายเขตอาคมเช่นนี้ได้ด้วย? ออกมาแบบนี้ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะไม่รู้หรือ?”
เขาหันมามองด้วยสีหน้าประหลาดใจ ก็ถูกเฟิ่งจิ่วลากพากระโดดขึ้นขนนก แม้แต่อสูรกลืนเมฆาตัวน้อยยังขึ้นมาด้วยกัน แล้วมุ่งไปยังสถานที่ห่างไกลด้วยความรวดเร็ว…
หนึ่งวันผ่านไป ในเมืองหนึ่งของแคว้นฉลองชัย
ภายในโรงเตี๊ยม เฟิ่งจิ่วกำลังพักผ่อนบนเตียง ได้ยินแว่วๆ ว่าชั้นล่างคล้ายจะมีเสียงวิวาทอะไรกัน จึงดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมศีรษะ ทว่าผ่านไปไม่นานนัก เจ้าของโรงเตี๊ยมก็ขึ้นมาชั้นบนอย่างลนลาน มาทุบประตูอยู่หน้าห้องเธอ
“คุณชายๆ คุณชายเปิดประตูเร็วเข้า เกิดเรื่องแล้วๆ”
เฟิ่งจิ่วฟังความกระวนกระวายในคำพูดเขาออก จึงลุกขึ้นมาอย่างจนใจ หลังจากล้างหน้าแปรงฟันอย่างลวกๆ ก็สวมเสื้อนอกและไปเปิดประตูห้อง น้ำเสียงมีความไม่พอใจอยู่บางส่วน “เกิดเรื่องอะไรแต่เช้า?”
เจ้าของโรงเตี๊ยมเห็นประตูห้องเปิด ก็รีบเร่งบอกว่า “คุณชาย คุณชายท่านนั้นที่ตามท่านมาด้วยกันทะเลาะกับคนอยู่ข้างนอกขอรับ”
“ทะเลาะ?” เฟิ่งจิ่วตกใจไปพักหนึ่ง จากนั้นค่อยกล่าวอย่างไม่สนใจ “ทะเลาะก็ทะเลาะไปสิ มีอะไรสำคัญหรือไร?” พละกำลังของต้วนเยี่ยนั่นไม่แน่ว่าคงสู้ชนะ
ด้วยเหตุนี้เมื่อเฟิ่งจิ่วจะปิดประตูห้อง เจ้าของโรงเตี๊ยมกลับขวางไว้ “ไม่นะขอรับ! คนที่เขาวิวาทด้วยเป็นจอมอันธพาลในเมือง จอมอันธพาลคนนั้นมีภูมิหลังอยู่บ้าง เกรงว่าคุณชายท่านนั้นจะ…”
เธอขมวดคิ้ว “มีภูมิหลังอะไร? ซัดแล้วก็ซัดไป ไม่สู้กันตายเป็นพอ จะมีเรื่องใหญ่อะไร?”
เจ้าของโรงเตี๊ยมได้ยินคำพูดนี้ก็นิ่งไป พูดอะไรไม่ออกในทันที ไม่สู้กันตายเป็นพอ? คนที่พูดถึงเป็นคุณชายท่านนั้นหรือจอมอันธพาล?
“ช่างเถอะ สั่งคนยกอาหารเช้ามาให้ข้าหน่อย อย่างดีที่สุดก็เอาข้าวต้มอีก” เธอสาวก้าวเดินออกไป ข้างเท้ามีอสูรกลืนเมฆาตามไปด้วย
“คุณชายจะไม่ไปดูสหายท่านนั้นหน่อยหรือขอรับ” เจ้าของโรงเตี๊ยมถามอย่างอึ้งๆ
“เจ้าไม่ได้ยินที่ข้าบอกหรือ?” ฝีเท้าเธอชะงักเล็กน้อย หันกลับไปชายตามองเจ้าของโรงเตี๊ยม
แค่แวบเดียวก็ทำให้เจ้าของโรงเตี๊ยมเหงื่อไหล ก่อนจะพยักหน้ารัวๆ แล้วออกไป
………………………………………………….