เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 955 เจ้าเมืองไม่รู้ + ตอนที่ 956 เพียงเพื่อพบภูตหมอ
ตอนที่ 955 เจ้าเมืองไม่รู้ + ตอนที่ 956 เพียงเพื่อพบภูตหมอ
ตอนที่ 955 เจ้าเมืองไม่รู้
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ โดยไม่พูดอะไร
หากไม่ใช่เพราะสถานะอาจารย์เช่นนี้ เธอคงไม่เจาะจงพาพวกเขาไปด้วย ส่วนการไปเทือกเขาอเวจีนั้น เดิมทีไม่คิดจะไปอยู่แล้ว แต่คิดว่าระหว่างทางแทนที่จะพาพวกเขากลับสำนักศึกษาไปสั่งสอน ไม่สู้พาไปเทือกเขาอเวจียังดีกว่า
“พวกเจ้าตื่นแล้วหรือ? ข้ากำลังคิดเลยว่าไม่รู้พวกเจ้ายังนอนกันอยู่หรือไม่!”
เจ้าอ้วนจ้ำม่ำหนิงหลางเดินเข้ามา หนุ่มน้อยอายุสิบหกอีกทั้งยังไม่สูง ท่าทางช่างน่าเอ็นดูเสียจริงๆ เสียแต่เจ้าอ้วนผู้น่าเอ็นดูคนนี้กลับเป็นคนที่วางแผนแยบยลนัก
เขามองๆ คนทั้งสอง สุดท้ายสายตาก็หยุดบนร่างเฟิ่งจิ่ว ดวงตาเล็กตี่หรี่ยิ้มพลางถามว่า “เฟิ่งจิ่ว เจ้าพักที่นี่สบายดีหรือไม่ ไม่คุ้นชินหรือไม่ ข้าต้องช่วยเจ้าเปลี่ยนเรือนไหม?”
“ไม่ต้อง ที่นี่ก็ดีมากแล้ว” เธอลุกขึ้นมาปัดๆ ชุดคลุม
“เช่นนั้นพวกเราไปข้างหน้ากันเถอะ! งานเลี้ยงด้านหน้าเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งพ่อแม่ข้ายังอยู่ที่นั่นด้วย” เขาหัวเราะร่าพลางชักชวน ให้สัญญาณทั้งสองเดินตามเขาไป
“ไปเถอะๆ! ท้องข้าหิวตั้งนานแล้ว” ต้วนเยี่ยกล่าว แล้วสาวก้าวเดินออกไปก่อน
แววตาที่มีรอยยิ้มของเฟิ่งจิ่วทางด้านหลังชำเลืองมองหนิงหลาง ก่อนจะเดินตามออกไปยังเรือนด้านหน้า
เขตเรือนด้านหน้า
“ทำไมยังไม่เห็นเขาเลย?”
“ใช่! ถึงตอนนี้ยังไม่เห็นเขา นี่เป็นเรื่องจริงหรือเท็จกันแน่?”
“จริงด้วย บอกว่าอยู่ในนี้ไม่ใช่หรือ?”
ฮูหยินกับเจ้าเมืองบนที่นั่งผู้อาวุโสได้ยินทุกคนที่นั่งอยู่สองฝั่งคุยกันเสียงเบา เหมือนบอกว่ายังไม่เห็นใครอะไรทำนองนั้น ในใจก็อดสงสัยไม่ได้
“ท่านทั้งหลาย กำลังบอกว่าลูกชายข้ายังไม่มาใช่หรือไม่? เหอะๆๆ เขาไปเชิญเพื่อนอีกสองคน ประเดี๋ยวคงกลับมาแล้ว”
เจ้าเมืองยิ้มเอ่ย รู้สึกแปลกในใจ ได้ยินลูกชายบอกว่าคืนนี้จะเชิญเพื่อนสองคนมางานเลี้ยง แต่ทำไมถึงเชิญผู้กุมอำนาจจากแต่ละกลุ่มอำนาจใหญ่ในเมืองหนิงมาหมด? อีกอย่างนึกไม่ถึงว่าแต่ละคนจะไม่ปฏิเสธ บางคนยังพาฮูหยินร่วมทางมาด้วย ช่างพิลึกจริงๆ
ทุกคนที่นั่งสองฝั่งได้ยินคำพูดนี้ก็ยิ้มทันควัน หนึ่งคนในนั้นถามว่า “ท่านเจ้าเมือง ได้ยินว่าภูตหมอมาที่จวนนี้ จริงหรือไม่?”
เจ้าเมืองได้ยินก็ตกใจ “ภูตหมอ? ไปได้ข่าวมาจากไหนกัน ทำไมข้าถึงไม่รู้เรื่อง?” เขาไม่รู้เรื่องจริงๆ ภายในจวนเจ้าเมืองมีภูตหมอมาเสียที่ไหน? ช่วงนี้ภูตหมอคนนั้นชื่อเสียงแพร่สะพัด ทุกคนอยากพบเขาก็ไม่รู้จะไปตามหาที่ไหน แล้วจะมาปรากฏตัวในจวนเจ้าเมืองได้อย่างไร?
หนำซ้ำ หากคนผู้นั้นอยู่ในบ้านจริงๆ เขาจะไม่รู้เรื่องได้หรือ?
“ท่านเจ้าเมืองไม่รู้หรือ? เหอะๆ อย่าล้อเล่นเลย คืนนี้คุณชายเชิญพวกเรามา อ้อ ไม่ใช่สิ” คนคนนั้นส่ายหน้ายิ้มกล่าว บอกว่าเชิญแต่กลับไม่ใช่ พวกเขาจ่ายหนึ่งแสนเหรียญทองซื้อเทียบเชิญมาต่างหาก
เจ้าเมืองฟังแล้วสีหน้าสับสน มองฮูหยินข้างกายแวบหนึ่ง เห็นนางส่ายน้อยๆ สื่อว่าไม่รู้เรื่องเช่นกัน จึงอดมองผู้คนที่นั่งอยู่ซ้ายขวาไม่ได้ เอ่ยถามอย่างลังเลเล็กน้อยว่า “นี่เรื่องอะไรกัน? ท่านทั้งหลาย…”
คนที่นั่งอยู่ฝั่งซ้ายขวาเห็นว่าเขามีสีหน้าสงสัยจริงๆ ก็นึกแปลกใจ หรือว่าเจ้าเมืองไม่รู้เรื่องจริง?
หนึ่งคนในนั้นจึงกล่าวว่า “คุณชายเปิดเผยข่าวแก่พวกเรา บอกว่ายามนี้ภูตหมออยู่ในจวนท่านเจ้าเมือง เขาให้เทียบเชิญพวกเรามา แต่เทียบเชิญนี้ราคาหนึ่งแสนเหรียญทอง ด้วยเหตุนี้พวกเราจึงอยากรู้ว่าภูตหมออยู่ในจวนจริงหรือไม่ ทำไมถึงตอนนี้ยังไม่เห็นหน้าเลย?”
………………………………………………….
ตอนที่ 956 เพียงเพื่อพบภูตหมอ
เจ้าเมืองได้ยินคำพูดนี้ ขณะตกตะลึงคิ้วก็ขมวดกันแน่น สีหน้าก็เคร่งเครียดตามมา หากนี่เป็นเรื่องจริง หนึ่งในหนุ่มน้อยสองคนที่มากันวันนี้ต้องเป็นภูตหมอแน่ นอกนั้นภายในจวนเจ้าเมืองของพวกเขาก็ไม่มีแขกคนอื่นมาอีก
แต่หากหนึ่งคนในนั้นเป็นภูตหมอจริง หลางเอ๋อร์ปล่อยข่าวออกไปให้พวกเขามาร่วมงานเลี้ยงด้วยราคาหนึ่งเทียบเชิญหนึ่งแสนเหรียญทอง วิธีการเช่นนี้กลับไม่เหมาะสม
ขณะจะให้ฮูหยินไปถามดูว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ก็เห็นพ่อบ้านตรงมาทางด้านนี้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“นายท่าน ฮูหยิน คุณชายกับสหายทั้งสองมาแล้วขอรับ”
ทุกคนได้ยินดังนี้ก็หันไปมองอย่างรวดเร็ว เพียงเห็นเด็กหนุ่มสามคนเดินมา คนนำด้านหน้าคือหนิงหลางลูกชายของเจ้าเมือง ร่างอวบอ้วนนั้นเห็นแค่แวบเดียวก็มองออกแล้ว
ส่วนหนุ่มน้อยสองคนด้านหลัง คนหนึ่งสวมชุดสีม่วงหรูหรา สูงส่งข่มขวัญคน อีกคนสวมชุดคลุมสีแดง ซุกซนและเปิดเผย
สายตาของพวกเขามองที่เด็กหนุ่มชุดแดงตามสัญชาตญาณ ยามเห็นใบหน้าที่งดงามทว่าร้ายกาจอยู่มากนั้น แต่ละคนพลันดวงตาเป็นประกาย พากันลุกขึ้นมา
“ภูตหมอ! เป็นภูตหมอจริงๆ ด้วย!”
“ไม่ผิดๆ ข้ามีภาพเหมือนของภูตหมอ ตัวจริงงดงามเด่นตากว่าภาพเหมือนเสียอีก”
“นึกไม่ถึงเลย! ภูตหมอเป็นเพียงเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ข้าคิดมาตลอดว่าเขาคงเป็นชายแก่ มิเช่นนั้นก็เป็นชายวัยกลางคน กลับไม่นึกว่าจะอายุน้อยเช่นนี้”
“ภูตหมอ ข้าคือ…”
ทันใดนั้น แต่ละคนพุ่งตรงเข้าไปล้อมเฟิ่งจิ่วไว้ตรงกลาง คำพูดจาเจือความตื่นเต้น และยิ่งดีใจกันไม่สิ้นสุด พากันล้อมวงอยู่ข้างเฟิ่งจิ่ว บางคนขอยารักษา บางคนขอยาอายุวัฒนะ บางคนขอรับการรักษา แทบพูดได้เลยว่าคนนี้พูดประโยคหนึ่ง คนนั้นก็พูดอีกประโยคหนึ่ง ไม่ให้โอกาสเฟิ่งจิ่วพูดอะไร และไม่ให้เวลาตอบโต้โดยสิ้นเชิง
ต้วนเยี่ยที่โดนเบียดไปข้างๆ ขมวดคิ้ว เหลือบมองหนิงหลางข้างๆ กันที่ยิ้มตาหยี ก่อนถามว่า “เจ้าอ้วน ภูตหมออะไรกัน นี่เจ้าทำบ้าอะไร?”
“เหอะๆๆ ต้วนเยี่ย เจ้าไม่รู้หรือ? เขาคือภูตหมอ! ช่วงนี้แต่ละแคว้นใหญ่เล่ากันไปทั่ว ยาของเขาขวดหนึ่งช่วยให้คนบรรลุขั้น ยาอายุวัฒนะหนึ่งเม็ดทำให้คนแก่ฟื้นคืนรูปลักษณ์ที่งดงามที่สุด ทักษะการแพทย์ยอดเยี่ยม เล่ากันว่าเป็นหมออัจฉริยะที่ช่วงชิงคนคืนจากเงื้อมมือมัจจุราชได้ ด้วยเหตุนี้คนจึงเรียกขานว่าภูตหมอ”
“เขา? เป็นไปไม่ได้กระมัง?” ต้วนเยี่ยตกใจเล็กน้อย สายตาจับจ้องเฟิ่งจิ่ว เห็นเขาโดนทุกคนล้อมไว้ สีหน้าท่าทางไม่เปลี่ยนไป บนใบหน้างดงามยังมีรอยยิ้มบางๆ เพียงแต่สายตาที่เหลือบมองมาโดยไม่ตั้งใจกลับทำให้ต้วนเยี่ยรู้สึกแปลกๆ
ดังนั้นเขาจึงใช้ศอกกระทุ้งหนิงหลางข้างกาย “เจ้าอ้วน เจ้าไปขัดใจเขาหรือเปล่า? ทำไมข้าเห็นสายตาที่เขามองเจ้าแปลกเช่นนั้น เจ้าบอกข้ามา…”
เมื่อคำพูดออกจากปาก ช่วงท้ายกลับไม่กล่าวต่ออีก ภาพที่เฟิ่งจิ่วฆ่าคนแวบผ่านเบื้องหน้า ใจเขาสั่นกลัวเล็กน้อย มองเจ้าอ้วนที่ปกติเหมือนจะไร้พิษสง คิดว่าเทียบกับตนเองแล้ว เฟิ่งจิ่วยังอันตรายและคาดเดายากยิ่งกว่า
เจ้าอ้วนไม่ไปขัดใจเขาจะดีที่สุด มิเช่นนั้นต้วนเยี่ยกล้ามั่นใจได้ ต่อให้ไม่ตายเฟิ่งจิ่วก็จะทำให้หนิงหลางลดไขมันไปได้สองสามจิน
“ข้าแค่…” หนิงหลางกำลังเอ่ยปากก็โดนเรียกไว้
“หลางเอ๋อร์ เจ้าเข้ามานี่!” เจ้าเมืองจ้องลูกชายตัวอ้วนของตนเองด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ในใจมีไฟโทสะปะทุ
ฮูหยินเห็นเช่นนี้ก็รีบร้อนกวักมือเรียก “เข้ามาเร็วหลางเอ๋อร์ พ่อเจ้ามีเรื่องจะถาม” นางมองออกว่ายามนี้สามีของตนกำลังโมโหเดือดดาล เพื่อเลี่ยงไม่ให้เกิดเรื่องอะไรขึ้น ให้พวกเขาสองคนพ่อลูกคุยกันเสียหน่อยจะดีกว่า
………………………………………………….