เซียนหมากข้ามมิติ - ตอนที่ 315 สนหรือว่าเขากะโหลกหนากระดูกแข็ง
ตอนที่ 315 สนหรือว่าเขากะโหลกหนากระดูกแข็ง
รถม้าคันนั้นไม่ได้วิ่งอ้อมไปอ้อมมาอะไร เห็นชัดว่ารู้ดีว่าในเมืองไม่มีเทพผีคอยปกป้อง สามารถเดินบนท้องถนนกลางเมืองได้อย่างกำเริบเสิบสาน
ด้วยกลางคืนประตูเมืองลู่ผิงปิดสนิท ดังนั้นรถม้าเหมือนไม่ได้วิ่งออกจากเมือง หากแต่หยุดอยู่นอกเรือนใหญ่บางแห่งช่วงตอนเหนือของเมือง
จากนั้นบ่าวเหี้ยมบนรถต้อนเด็กกับหญิงแต่งงานแล้วด้านในลงมา ร่วมกันพาคนเข้าเรือนใหญ่พร้อมข้ารับใช้ในเรือน ‘นายท่านหก’ ที่อยู่ข้างในเข้าไปโดยรั้งท้ายก้าวหนึ่ง
จี้หยวนกับหนิวป้าเทียนมาถึงนอกเรือนช้าเล็กน้อย เห็นว่าบานประตูโอ่อ่าหรูหรา ทั้งแขวนโคมไฟถึงสองดวง
หนิวป้าเทียนมองแผ่นป้ายพลางกล่าวกับจี้หยวน
“ท่านจี้ บนนั้นเขียนว่า ‘จวนตระกูลหลาง’ แปดส่วนต้องเป็นปีศาจหมาป่าแน่”
“สร้างจวนอาศัยอยู่ในเมือง กล้ามากนักนะ!”
จี้หยวนกล่าวอย่างเย็นชาประโยคหนึ่ง
“หึ ท่านจี้ ข้าไม่ชอบหน้าเขานานแล้ว คราวก่อนตอนอยู่เมืองผีไร้ขอบเขตเขาถูกสองสามีภรรยาเกาเทียนหมิงสั่งสอน ข้าคนแซ่หนิวไม่ได้ร่วมด้วย ครั้งนี้ท่านไม่ต้องลงมือ ข้าจัดการเอง!”
หนิวป้าเทียนกล่าวอย่างอดรนทนไม่ไหว กลัวว่าจี้หยวนที่อยู่ด้านข้างสะบัดมือกำจัดปีศาจในจวนไปโดยตรง
“ถึงอย่างไรก็เป็นปีศาจแปลงกาย อย่าทำเสียเรื่องล่ะ”
“ท่านวางใจเถอะ! ข้าคนแซ่หนิวต่างจากพวกชั้นต่ำเช่นนี้!”
ประโยคนี้จี้หยวนเชื่อ หนิวป้าเทียนสร้างกายปีศาจจากการหยั่งรู้เอง ถือเป็นการบุกเบิกเส้นทางฝึกปราณของตน พัฒนาสู่การเป็นพญาปีศาจ ต่างจากพวกปีศาจชั้นต่ำโดยพื้นฐาน
ขณะกล่าวหนิวป้าเทียนกับจี้หยวนเดินเข้าเรือนแล้ว ผ่านทางสวนด้านหลังไปทั้งอย่างนั้น บ่าวที่เจอระหว่างทางเหมือนมองไม่เห็นพวกเขา
คฤหาสน์หลังนี้ถึงขั้นใหญ่กว่าที่เห็นภายนอก ในภาพจำจี้หยวนคือไม่ด้อยกว่าจวนตระกูลเว่ยแห่งจังหวัดเต๋อเซิ่ง
เรือนข้างแห่งหนึ่งภายในจวน พวกบ่าวเหี้ยมหญิงร่างใหญ่ตักน้ำร้อนเข้ามาด้านใน ภายในห้องมีเสียงร้องห่มร้องไห้
“อย่าร้อง! ถือว่าวาสนาของพวกเจ้ามาถึงแล้ว!”
“ใช่ คืนนี้ล้างตัวให้สะอาดค่อยเปลี่ยนชุดใหม่ตรงนั้น พรุ่งนี้นายท่านหกจะพาพวกเจ้าออกจากเมืองไปบ้านภรรยา!”
พวกหญิงร่างใหญ่สั่งบ่าวรับใช้เตรียมน้ำสำหรับอาบใส่ถังไม้ใหญ่สองสามใบให้แล้วเสร็จ ทั้งตรวจสอบอุณหภูมิน้ำ ก่อนตวาดคนที่หดตัวด้วยหวาดกลัวอยู่ตรงนั้น
“ขดตัวอยู่ตรงนั้นทำไม มาอาบน้ำ! ต้องให้ข้าช่วยพวกเจ้าหรืออย่างไร”
หญิงเหี้ยมร่างบึกบึนสี่ห้าคนเผยสีหน้ารังเกียจประชิดใบหน้าหวาดกลัวของคนพวกนั้น
“ไม่! ไม่อาบ! คนที่ถูกนายท่านหกตระกูลหลางพาไปไม่เคยกลับมา! ข้าไม่ไป ขอร้องพวกท่านปล่อยข้ากับลูกออกไป ข้าจะไปยืมเงินจากบ้านท่านแม่ ย่อมคืนเงินซึ่งสามีติดค้างได้แน่…”
“เจ้าเข้าใจอะไร ท่านพาไปสถานที่ห่างไกล อย่าหวังเรื่องคืนเงินอะไรเลย ถ้ามีเงินพวกเจ้าคงไม่มาถึงที่นี่ ดีกว่าถูกขายไปหอนางโลม รีบมาอาบน้ำ ถ้าพวกเจ้าไม่มาข้าช่วยพวกเจ้าเอง!”
“กรี๊ด…”
“ฮือๆๆๆ ท่านแม่…”
เสียงนี้ดังมาแต่ไกล แม้ว่าจี้หยวนไม่เห็นตำแหน่ง แต่รู้ว่าคนที่ถูกจับมาอยู่ไหน เขาไม่หยุดฝีเท้า เดินตามปราณปีศาจ ขณะเดียวกันยังตบหน้าอก จากนั้นศีรษะกระดาษขนาดเล็กมุดออกมาจากสาบเสื้อทันที
เจ้าวัวตกตะลึง สายตาพลันถูกดึงดูดไป นี่มันตัวอะไร
ครู่ต่อมานกกระดาษตัวหนึ่งแทรกตัวออกจากถุงผ้าไหมตรงหน้าอกจี้หยวน สยายปีกบินมาอยู่ตรงไหล่ของจี้หยวน
“นกกระดาษ?”
เห็นชัดว่าเสียงของเจ้าวัวเจือความตกตะลึง บนตัวนกกระดาษไม่มีกลิ่นอายปราณปีศาจอะไร ถึงขั้นพูดได้ว่าไม่มี ‘กลิ่นอาย’ ไม่เพียงแต่บินเองได้ มันยังแฝงความฉลาดเฉลียวด้วย ไม่เหมือนสิ่งของจากการใช้วิชาทั่วไป
จี้หยวนไม่สนใจเจ้าวัว เขาหันหน้ากล่าวกำชับไปทางหัวไหล่เสียงเบา จากนั้นนกกระดาษค่อยกระพือปีกบินจากไป
‘ฟังท่านจี้สั่งความได้? มีชีวิตจริงหรือ’
เจ้าวัวประหลาดใจเล็กน้อย แต่รู้ว่ายังไม่ใช่เวลา ถึงอย่างไรตอนนี้ก็ยังมีเรื่องสำคัญอย่างอื่น
เดินผ่านประตูโค้งเชื่อมกำแพงเรือนสามบาน สุดท้ายจี้หยวนกับหนิวป้าเทียนก็มาถึงห้องนอนของจวนตระกูลหลาง ข้างในมีเสียงกรน ปีศาจหมาป่านั่นกลับมาก็นอนหลับสนิทบนเตียงหลังใหญ่
แต่เมื่อจี้หยวนกับหนิวป้าเทียนเดินมาถึงที่นี่ แม้ว่าเสียงกรนข้างในดังไม่หยุด แต่หูคนบนเตียงกลับขยับเล็กน้อย
แม้ว่าไม่รู้สึกถึงกลิ่นอายประหลาดอะไร แต่กลับได้ยินเสียงผิดปกติเสี้ยวหนึ่ง ทว่ายังไม่รอให้ปีศาจหมาป่าตื่นขึ้นมา ชั่วพริบตาต่อมาการเปลี่ยนแปลงประหลาดพลันเกิดขึ้น
คล้ายว่าอากาศสั่นสะเทือนเล็กน้อย
ปัง…
ประตูห้องนอนพลันแตกเป็นเสี่ยง เงาดำล้อมรอบปราณขาวหลายสายพุ่งตัวมาอยู่ตรงหน้าปีศาจหมาป่าชั่วพริบตา บนตัวยังมีเศษประตูห้องมากมาย
“มอ…”
ท่ามกลางเสียงวัวคำรามมีเงาหมัดวาบผ่าน เมื่อปีศาจหมาป่าเพิ่งลืมตาคิดตอบสนองก็มาถึงตรงหน้าแล้ว
ตูม…
หมัดหนักเหวี่ยงทุ่มใส่หัวหมาป่ายักษ์เต็มแรง ถึงขั้นก่อเกิดคลื่นสะเทือนกลางอากาศ แม้แต่ขนผิวหนังศีรษะยังถูกบีบอัดม้วนออกรอบทิศ
โครม… ตูม…
ทั้งเตียงพังถล่มพร้อมกัน ถูกร่างหมาป่าบีบกดติดพื้น
ยามหินบนพื้นแตกละเอียด แผ่นไม้มากมายพุ่งออกรอบทิศ เศษฝุ่นพลิกตลบเป็นระลอก
“โฮก…”
ปีศาจหมาป่าแสยะปากหลั่งเลือด เตรียมกัดแขนหนิวป้าเทียนด้วยสัญชาตญาณสัตว์ป่า ทำให้เมื่อฝ่ายหลังถอยห่าง มันถีบพื้นทะลุหลังคาดังปึง
เพล้งๆๆ…
แผ่นกระเบื้องมากมายตกลงมา จี้หยวนมองช่องว่างบนหลังคา เห็นลมปีศาจโผนนภาห่างออกไปรางๆ
“กะโหลกหนากระดูกแข็งเอวเต้าหู้ ครั้งหน้ายามต่อยหมาป่า จำไว้ว่าลงมือตรงเอว”
“หึ ข้าคนแซ่หนิวแค่ไล่เขาออกจากเมืองเท่านั้น!”
หนิวป้าเทียนกล่าวทิ้งท้ายเช่นนี้ เขาพุ่งตัวกระโดดออกจากช่องหลังคาซึ่งปีศาจหมาป่าหนีออกไป ก่อลมปีศาจติดตาม
ในหูได้ยินเสียงร้องตื่นตระหนกของพวกบ่าวรับใช้จวนตระกูลหลาง
จี้หยวนไม่อยู่ต่อเช่นกัน แต่เขาไม่ทะลวงผ่านช่องว่างออกไป ทว่าเดินมานอกประตูแล้วขี่ลมขึ้นไป ตามลมปีศาจของหนิวป้าเทียนอยู่ไกลๆ
ด้วยความเร็วว่องไว ผ่านไปครู่หนึ่งผู้เร่งไล่ติดตามสามคนลอยออกจากเมืองลู่ผิงแล้ว ในหูจี้หยวนหนิวป้าเทียนกำลังตะโกนด้วยเสียงหยิ่งผยอง
“ฮ่าๆๆๆๆ… หมาจรจัดไร้เจ้าของอย่างเจ้าหนีไม่พ้นหรอก มิสู้หันกลับมาประมือกับข้าคนแซ่หนิวดีกว่า ถึงตายก็ตายอย่างสบายใจ มอ…”
เสียงวัวคำรามแยกขอบฟ้า พร้อมกับเสียงคำรามเจ้าวัวปรากฏตัวกลางลมปีศาจ รอบนอกราวมายาเลือนรางชั้นหนึ่ง ร่างกายเป็นคน แต่ศีรษะกลับมีเขายาวโค้งงอกออกมารางๆ
ท่ามกลางเสียงคำรามร่างพร่ามัวเหมือนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ พริบตายามเสียงคำรามสิ้นสุดร่างหดกลับเท่าตัวหนิวป้าเทียน ก่อนกลายเป็นวงแสงแถบหนึ่ง
“หมาจรจัด เจ้าฝึกปราณไม่ถึงขั้น ความเร็วไม่ว่องไวพอ ลองชิมบาทาฟ้าคำรามของข้าคนแซ่หนิวหน่อย!”
ฟุ่บ…
ลมปีศาจของเจ้าวัวเร่งความเร็วชั่วพริบตา ลอยอยู่เหนือศีรษะปีศาจหมาป่าตอนไม่ตอบสนอง หนิวป้าเทียนเหวี่ยงมือขึ้นฟ้าเหมือนฟาดกำแพง
เสียงกึกก้องราวอสนีบาตดังครั่นครื้น แสงเหลืองส่องประกายเหนือหน้าผากปีศาจหมาป่า หนิวป้าเทียนแหวกทลายลมปีศาจของตน พุ่งตัวลงมาพร้อมเสียงคำราม ขาข้างหนึ่งกระทืบลงมา ตรงปลายเผยมายาเหมือนกีบวัว
เมื่อจี้หยวนมาถึงสิ่งที่เห็นก็คือภาพนี้
ตูม…
เหนือเมฆเกิดเสียงดังสนั่น ลมปีศาจหมาป่าถูกกีบเท้าซัดทลาย ร่างกายปีศาจหมาป่าถูกเหยียบร่วง ทะลวงชั้นเมฆแถบหนึ่งบนเวิ้งฟ้า เกิดเสียงแหวกอากาศกระแทกลงพื้นอย่างหนักหน่วง
วู้มๆๆ… ตูม…
หินโคลนบนพื้นแตกละเอียดเศษฝุ่นฟุ้งตลบ
“บรู๊ว…”
เสียงหมาป่าหอนดังมาจากพื้น ปราณปีศาจเจือกลิ่นอายเข้มข้นระเบิดออก ดวงตาแดงก่ำส่องประกาย พวงหางมหึมากวาดฝุ่นควัน เบื้องล่างมีหมาป่ายักษ์ลำตัวยาวหกเจ็ดหมี่ตะกายลุกขึ้นจากพื้นช้าๆ
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ… เผยร่างเดิมคิดทุ่มสุดตัวแล้วหรือ ฮ่าๆๆๆๆ… เจ้าหมาจรจัด ยอมรับความตายโดยดีเถอะ!”
เสียงหัวเราะร่าของหนิวป้าเทียนดังมาจากเวิ้งฟ้า เงาร่างทะลวงชั้นเมฆลงมา ตอนนี้เหนือศีรษะมีมายาเขายักษ์เหลือบแสงเหลืองคู่หนึ่งปรากฏ ร่างกายเหมือนกำยำกว่าก่อนหน้านี้มาก
“จำชื่อของข้าคนแซ่หนิวไว้ ถึงตายก็ตายอย่างกระจ่าง! ผู้เอาชีวิตเจ้าไปคือข้าหนิวป้าเทียน! มอ…”
พร้อมเสียงวัวคำรามครั้งนี้ ชั้นเมฆบนฟ้าแตกสลายเป็นวงกว้างชั่วพริบตา แสงเหลืองอบอวลพื้นดินรัศมีเกือบลี้โดยมีปีศาจหมาป่าบนพื้นเป็นศูนย์กลาง คล้ายคลื่นไร้เสียงมากมายรวมตัวม้วนซัดไปทางปีศาจหมาป่า ยามฝุ่นดินหมุนวนก็ปิดกั้นรอบตัวปีศาจหมาป่าแล้ว
ปีศาจหมาป่ากระตุ้นพลังปีศาจสุดชีวิต แต่เหมือนตกอยู่ในบ่อโคลนตลอด
เหนือชั้นเมฆจี้หยวนพลันผงะในใจ นี่คือกระบวนท่าซึ่งหนิวป้าเทียนจัดการปีศาจสาวที่หนีรอดไปเมื่อครั้งก่อน เพียงแต่อิทธิพลกับอานุภาพตอนนี้แข็งแกร่งกว่ามาก
“กรร… โฮก… ข้าไม่เคยรู้จักเจ้า เป็นเผ่าปีศาจเหมือนกัน ทำไมเจ้าถึง…”
“ตายซะ…!”
เมฆลมบนฟ้ารวมตัวกันเป็นขวานยักษ์ด้ามหนึ่งในมือหนิวป้าเทียน ไม่พูดมากความกับปีศาจหมาป่าโดยสิ้นเชิง เหวี่ยงเมฆลมเหมือนหมอกขาวลงมาอย่างบ้าคลั่ง
ตูม…
ฝุ่นควันบนพื้นฟุ้งตลบอีกครั้ง หินทรายปลิวว่อนนับไม่ถ้วน
“ฮู่… ฮู่… ฮู่…”
หนิวป้าเทียนทิ้งตัวลงมาจากท้องฟ้า กลิ่นอายบนตัวมืดสลัวไม่กระจ่าง ไม่ค่อยเสถียรอยู่บ้าง หอบหายใจหลายเฮือก
“ทะ ท่านจี้ สนหรือว่าเขากะโหลกหนากระดูกแข็งเอวเต้าหู้ เมื่อกำลังมากอานุภาพพอ ต่อให้หัวแข็งแค่ไหนก็ถูกผ่า!”
จี้หยวนมองลงมาจากฟ้า ฝุ่นควันบนพื้นซ่านสลายทีละน้อย เมื่อเทียบกับหมาป่าตัวใหญ่นี้ ร่างกายเจ้าวัวดูเล็กจ้อย แต่หมาป่ายักษ์ถูกผ่าแหวกตั้งแต่คอลากยาวถึงโคนหาง สีแดงขาวร่วงกระจายทั่วทั้งแถบ
“หึๆๆ ปีศาจหมาป่าตัวนี้ใจเสาะเกินไปแล้ว ถูกข้ารุกไล่ ไม่ทันแสดงพลังก็ตายโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่! สะใจ สะใจ! ฮ่าๆๆๆๆ…”
หนิวป้าเทียนหัวเราะร่าพลางซวนเซเล็กน้อย เขารีบหอบหายใจปรับพลังและปราณปีศาจ ปากยังเอ่ยพึมพำ
“ปล่อยตัวกับเหล่าหญิงสาวของหอหยกอ่อนมากเกินไปหรือ…”
“วัวเถื่อนอย่างเจ้า ไม่ถามสักประโยคก็ฆ่าเขาเสียแล้ว!”
จี้หยวนลงมาจากชั้นเมฆ เมื่อเห็นท่าทางลำพองของเจ้าวัว เขาเจตนากล่าวตำหนิเช่นนี้ ทำให้หนิวป้าเทียนอึ้งงัน
“หา? อยากจับเป็นหรือ”
เขามองศพหมาป่าที่อยู่ด้านข้าง ศีรษะผ่าครึ่งตายสนิท แม้แต่วิญญาณปีศาจยังแผ่ซ่านอยู่ภายใต้ปราณชั่วร้ายของการโจมตีครานั้น
แต่เมื่อเจ้าวัวเห็นรอยยิ้มเลือนรางบนหน้าจี้หยวน เขาเกาศีรษะเล็กน้อยทันที
“ท่านจี้ล้อเล่นเป็นด้วย…”
จี้หยวนเก็บรอยยิ้มพลางส่ายหัว
“ไม่ได้พูดเล่นทั้งหมด ในเมื่อเขาถูกเรียกว่านายท่านหก ไม่แน่ว่าอาจมีนายท่านห้านายท่านสี่นายท่านใหญ่อะไรอีก แต่ข้าทำนายดูแล้วว่าตัวอื่นตกเป็นอาหารคนธรรมดาหมดแล้ว”