เซียนหมากข้ามมิติ - ตอนที่ 469 สิ่งชั่วร้ายที่เดิมควรสูญพันธุ์
ตอนที่ 469 สิ่งชั่วร้ายที่เดิมควรสูญพันธุ์
กลางพายุห่างไกลด้านหลังเรือเหาะ มังกรมังกรเจียวแดงกำลังดิ้นรนกลางมรสุมอย่างบ้าคลั่ง ถึงขั้นยอมเข้าใกล้อสนีบาตฟาดผ่า
ตอนนี้บนตัวมังกรเจียวแดงเต็มไปด้วยแมลงประหลาดแน่นขนัด บ้างเหมือนตัวอ่อนนุ่มพัลวันเกี่ยวติดอยู่บนเกล็ดมังกรเจียวแดง บ้างคล้ายแมลงปีกแข็งกัดทึ้งไม่หยุด หากมีคนเห็นระยะประชิด แน่นอนว่าต้องขนพองสยองเกล้า
“โฮก…”
มังกรเจียวแดงพ่นไฟใส่หนอนประหลาดนับไม่ถ้วนบนตัวไม่หยุด ด้วยอยากเผาพวกมันให้ตาย
โครม ครืน…
อสนีบาตบนฟ้าฟาดผ่าตัวมังกรเจียวแดง สายฟ้าฟาดแมลงประหลาดนานัปการจำนวนมาก มีแมลงประหลาดร่วงกราวลงมา แต่เทียบกับจำนวนบนตัวมังกรเจียวแดงแล้วไม่ถือว่ามาก
ฟุ่บๆๆๆๆ…
ท่ามกลางน้ำทะเลปั่นป่วนและขุ่นมัว มีแมลงประหลาดนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นมาจากผิวทะเล เข้ามาเกาะมังกรเจียวแดงที่กำลังเหินฟ้า
มังกรเจียวแดงกลัวเข้าจริงแล้ว ในฐานะมังกร ทั้งเป็นมังกรเจียวแดงหนุ่มเปี่ยมกำลังวังชาตัวหนึ่ง มันมีความรู้สึกหวาดกลัวน้อยนัก แม้ว่ากลัวสิ่งมีชีวิตที่ปราณแกร่งกว่าตน แต่ส่วนใหญ่ความกลัวเช่นนั้นคือความยำเกรง ต่างจากความกลัวจนตัวสั่นเช่นตอนนี้
แมลงประหลาดมากมายที่เกาะบนตัวพวกนี้ถึงขั้นไม่กลัวอานุภาพมังกร กัดกินร่างมังกรไม่หยุด คิดกัดกินมันจนตาย ทั้งพวกมันยังชะลอความเร็วของมังกรเจียวด้วย ทำให้มันไม่อาจหลบพวกแมลงได้มากนัก
พลังปีศาจยังเต็มเปี่ยม แต่ตัวมังกรกลับหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ แมลงประหลาดพวกนี้คิดรวมพลังลากมังกรเจียวแดงลงทะเลคลั่งขุ่นมัว
“โฮก…”
มังกรเจียวแดงทะยานตัวเต็มกำลัง มีหรือจะกล้าลงน้ำ เจ้าพวกนี้บินออกมาจากในนั้น ถ้าไม่ระวังจนติดกับสะบัดหนีคงไม่พ้น ไม่รู้ว่าข้างล่างมีอีกเท่าไหร่ หากเข้าไปมีหรือจะไม่ใช่หนทางตาย
เวลานี้มังกรเจียวแดงซึ่งรีบหนีไม่ดูทางเห็นแสงเซียนข้างหน้า เขาไม่สนว่าเซียนกับปีศาจต่างกันแล้ว ถึงอย่างไรเผ่ามังกรก็ต่างจากเผ่าปีศาจอื่นอยู่บ้าง เขาเอ่ยปากขอความช่วยเหลือทันที
“ข้าคือมังกรเจียวแดงบริวารประมุขมังกร เหล่าเซียนเบื้องหน้าช่วยข้าด้วย! เซียนทุกท่านช่วยข้าด้วย! อึก… โฮก…”
แม้ว่ามังกรเจียวแดงขอความช่วยเหลือจากเรือเหาะตรงหน้า แต่ในใจไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะลงมือทันที แต่อย่างไรก็มีความหวังบ้าง ร่างมังกรยิ่งทะยานไปทางเรือเหาะเต็มกำลัง
ต่อให้เซียนพวกนั้นไม่ลงมือช่วยตน ไม่แน่ว่าอาจแบ่งเบาแรงกดดันบ้าง
ยามมีความหวังขึ้นมา
ชิ้ง…
เสียงออกจากฝักชัดกระจ่างดังขึ้น
แสงกระบี่เจิดจ้าตัดผ่านอสนีบาตดังฟุ่บ สาดส่องน่านน้ำแถบนี้ เจตกระบี่เฉียบคมพลันปรากฏ ต่อมาฟ้ากับทะเลแบ่งเป็นสองฟาก…
กระบี่นี้แหวกน้ำทะเล มรสุม พายุฝน อสนีบาตด้านหลังเรือเหาะทั้งปวง เผยเส้นทางราวร่องลึกสายหนึ่ง ระหว่างเรือเหาะกับมังกรเจียวชัดเจนทันที
‘มีเซียนลงมือแล้ว!’
ในใจมังกรเจียวปีติยินดี กระตุ้นพลังปีศาจลอยไปทางเรือเหาะ บนดาดฟ้าท้ายเรือเหาะที่ห่างไกล ผู้ฝึกเซียนมากมายเห็นสภาพมังกรเจียวแดงตัวนั้นชัดเจน
มังกรเจียวที่เดิมสีเพลิง ตอนนี้นอกจากส่วนหัวซึ่งพ่นไฟออกมาไม่หยุด ส่วนอื่นแทบดำสนิท เมื่ออีกฝ่ายเข้ามาใกล้อย่างต่อเนื่อง ยามมองโดยละเอียดพบว่ามีแมลงประหลาดเกาะเต็มตัว
หากมีคนเป็นโรคกลัวความหนาแน่นเห็นเข้าคงยากจะรับได้จนอยากตายแน่
“ท่านเซียนช่วยข้าด้วย…!”
มังกรเจียวตะโกนลั่นขึ้นมา กระบี่เครือเขียวบินกลับมาข้างกายจี้หยวนแล้ว ถึงอย่างไรกระบี่เซียนก็ฟันแมลงไม่สะดวก
ยามจี้หยวนกำลังคิดเปลี่ยนวิธี ด้านข้างมีผู้ฝึกปราณเอ่ยปากกล่าว
“สหายยุทธ์ ข้าช่วยหนุนท่านอีกแรงเอง!”
“พวกเราก็ด้วย!”
เมื่อเสียงดังขึ้นมีแสงธรรมสี่ห้าสายพุ่งออกมา บ้างเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ บ้างเป็นแสงยันต์ ทั้งมีเปลวไฟกลายเป็นห่วงเพลิงมากมายลอยไปไกล
แสงยันต์หลายสายไม่ลอยไปหามังกรเจียวแดง แต่พุ่งตรงไปยังผืนทะเล ชั่วพริบตายามแตะน้ำทะเลกลายเป็นยันต์แสงมหึมา ปกคลุมผืนทะเลแถบใหญ่ พวกแมลงประหลาดด้านล่างพุ่งตัวออกมาจากรัศมียันต์แสงไม่ได้
เปลวเพลิงกับแสงธรรมที่เหลือทยอยจัดการร่างมังกรเจียว ฝ่ายหลังรู้ว่านี่คือการช่วยตนจึงไม่หลบหลีก
ครืน…
ซ่า…
แสงเพลิงกับแสงอสนีผสานบนตัวมังกรเจียว ทั้งมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์กวาดตรงที่มีแมลงประหลาดหนาแน่น คล้ายแปรงเหล็กขอดเกล็ดลิดครีบ
“โฮก…”
เสียงมังกรคำรามดังจากปากมังกรเจียวแดงอีกครั้ง ครั้งนี้เสียงกังวานไม่น้อย ด้วยถูกอาวุธศักดิ์สิทธิ์และวิชาผู้ฝึกเซียนเฉียดผ่าน ตัวมังกรย่อมรู้สึกเจ็บ แต่เทียบกับเมื่อครู่กลับผ่อนคลายขึ้นเรื่อยๆ ความเร็วการทะยานนานเข้ายิ่งว่องไว เข้าใกล้เรือเหาะได้เร็วขึ้น
หลังจากผ่านไปราวยี่สิบกว่าลมหายใจ มังกรเจียวห่างจากเรือเหาะร้อยจั้งแล้ว มีผู้ฝึกปราณจวนเร้นจิตทำมุทราสำแดงวิชา สลายค่ายกลเรือเหาะส่วนหนึ่ง มังกรเจียวฉวยโอกาสรีบลอยเข้ามาข้างใน
“ทุกท่านหลีกทางหน่อย ให้มังกรเจียวตัวนี้โรยตัวลง!”
เมื่อเห็นมังกรเจียวไม่กลายร่างเป็นคน ไม่รู้ว่าไม่อยากหรือทำไม่ได้ แต่หลังจากเข้าสู่ค่ายกลเห็นชัดว่าความเร็วกลับช้าลง ดังนั้นผู้ฝึกเซียนโดยรอบเลยทยอยหลีกทางเป็นสองฟาก เว้นพื้นที่ว่างตรงดาดฟ้าท้ายเรือจนมากพอ
ตึง…
มังกรเจียวแดงยาวยี่สิบกว่าจั้งร่วงลงบนดาดฟ้า เกล็ดเคลือบเมือกกับน้ำฝนเสียดสีดาดฟ้าจนเกิดเสียงดังครืดๆๆ ถลาไปสิบกว่าจั้งค่อยหยุดลง
เหล่าผู้ฝึกปราณจวนเร้นจิตมองจุดที่จี้หยวนอยู่ นี่ก็คือสาเหตุที่พวกเขายินดีเปิดค่ายกล ในเมื่อจี้หยวนอยู่ที่นี่ ทั้งลงมือทันที การปล่อยมังกรเจียวแดงตัวนี้เข้ามาย่อมไม่มีปัญหาอะไร
หลังจากมังกรเจียวแดงเข้าสู่ค่ายกลเรือเหาะ ความปั่นป่วนบนทะเลคลั่งบรรเทาลงไม่น้อยทันที จากนั้นไม่นานก็กลับสู่สภาพปกติ นอกจากลมพายุและกระแสคลื่นยักษ์รุนแรงสลับมรสุมแล้ว ไม่มีเงาพวกแมลงประหลาดอีก
“ฮู่… เฮือก… ฮู่… เฮือก…”
มังกรเจียวแดงทรุดกองบนดาดฟ้า เสียงลมหายใจราวกับลมโกรก ทั้งเจือกลิ่นคาวและความร้อนแรง
ความจริงผู้ฝึกเซียนไม่น้อยเพิ่งเคยเห็นมังกรเจียวเป็นครั้งแรกเช่นกัน หรือกล่าวว่าเพิ่งเคยเห็นร่างมังกรในระยะประชิดเช่นนี้ ถึงอย่างไรมังกรเจียวส่วนใหญ่ถือเป็นปีศาจที่มีมรรควิถีไม่ธรรมดา กอปรกับความหยิ่งทะนงของมังกร โอกาสเช่นนี้หายากจริงๆ ดังนั้นรอบตัวมังกรจึงล้อมด้วยผู้ฝึกเซียนไม่น้อยช้าๆ คนธรรมดาใจกล้าก็มีบ้าง
ตอนนี้มังกรเจียวหลับตา หนวดมังกรโบกไหวตลอด กำลังผ่อนคลายจิตใจฟื้นฟูพลังกาย ครู่ใหญ่ค่อยลืมตาเล็กน้อย ดวงตามังกรสีอำพันกวาดมองโดยรอบก่อนขยับปากส่งเสียง
“ขอบคุณเซียนทุกท่านที่ลงมือช่วย มิฉะนั้นวันนี้ข้าคงเสียท่าแล้ว…”
ตอนนี้ความรู้สึกสงบลงไม่น้อย แต่หวนนึกถึงเมื่อครู่ มังกรเจียวแดงยังนึกกลัว
ไม่รู้ว่าจี้หยวนเดินมาตรงหน้ามังกรเจียวแดงตั้งแต่เมื่อไหร่ เขามองมังกรเจียวแดงพลางเอ่ยถามเบาๆ
“แมลงประหลาดพวกนั้นคือตัวอะไร มังกรเจียวอย่างเจ้าเหาะเหินได้ ทำไมถึงถูกเกาะติดจนเป็นเช่นนี้”
ดูจากผลการลงมือโจมตีเมื่อครู่ของเหล่าผู้ฝึกปราณ แม้ว่าแมลงประหลาดพวกนี้น่ารังเกียจ แต่ไม่ได้แข็งแกร่งมากเกินไป ทั้งหมดทยอยถูกฆ่าหรือกวาดร่วง ต่อให้มังกรเจียวตัวหนึ่งไม่อาจกำจัดเจ้าพวกนี้จนสิ้น แต่ไม่มีทางหนีไม่พ้น
ตอนนี้กระบี่เครือเขียวไม่ซ่อนตัว ลอยเอียงอยู่ด้านหลังจี้หยวนเช่นนี้ ตามสัญชาตญาณมังกรเจียวแดงวิเคราะห์ว่าคนผู้นี้ก็คือผู้ฝึกเซียนชั้นสูงที่ซัดกระบี่แยกฟ้าทะเลตอนแรก
“ท่านเซียน ด้วยไม่อยากถูกมรสุมกร่อนพลังมากเกินไป เดิมข้าแหวกว่ายกลางทะเลคลั่ง คิดเลาะผ่านน่านน้ำแถบนี้ไป… ตอนนั้นเป็นเวลากลางคืนทั้งมีพายุรุนแรง ก้นทะเลคลั่งดำมืด กระแสน้ำปั่นป่วน ช่วงท้องแนบก้นสมุทร เดิมแมลงประหลาดพวกนี้หมอบอยู่ก้นทะเล ไม่ต่างอะไรกับก้อนหินโคลนตม ไม่อาจพูดว่ามีคลื่นชีวิต หลังจากถูกข้ารบกวน…”
มังกรเจียวแดงนึกถึงตรงนี้แล้วนึกกลัวอยู่บ้าง ตั้งจิตครู่หนึ่งค่อยกล่าวต่อ
“พวกมันเหมือนตั๊กแตนแตกรัง ทั้งหมดฟื้นคืนชีพ เกาะติดตัวข้าอย่างบ้าคลั่ง คล้ายว่าก้นสมุทรแถบนั้นมีแต่พวกมันทั้งสิ้น หากไม่ใช่ว่าข้ากัดฟันปิดทุกช่องทางทันเวลา เกรงว่าคงแทรกเข้าตาหูจมูกปากข้าแล้ว…”
“ข้าไม่ทันสังเกตชั่วขณะ กระทั่งถูกพวกแมลงประหลาดกัดกิน ถึงขั้นรู้สึกตัวหนักเป็นพิเศษ พลังปีศาจกับปราณวิญญาณบนตัวรั่วไหลไม่หยุด แหวกว่ายไม่เร็ว สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือจำนวนของแมลงประหลาดพวกนี้ ราวกับไร้สิ้นสุด…”
ได้ยินคำพูดมังกรเจียวแดง เหล่าผู้ฝึกเซียนในที่นั้นนึกภาพออก เดิมกรงเล็บทั้งสี่แนบท้อง เคลื่อนไหวลำตัวแหวกว่ายอยู่ก้นทะเล ทันใดนั้นเบื้องล่างคือหนอนแมลง ทั้งเกาะติดเต็มตัวคอยชอนไช น่าหวาดผวาจริงๆ
“รู้หรือไม่ว่านี่คือแมลงอะไร”
จี้หยวนชี้ไปด้านข้าง ตรงนั้นมีผู้ฝึกปราณคนหนึ่งใช้อาวุธศักดิ์สิทธิ์จับแมลงบางส่วนไว้ กำลังถูกล้อมอยู่กลางแสงธรรม
แมลงประหลาดมีใหญ่มีเล็ก ตัวเล็กบางและยาวแค่นิ้วก้อยคนธรรมดา ตัวใหญ่หนาราวแขนเด็ก มีประมาณสามสิบกว่าตัว แตกต่างกันสิบกว่าชนิด บ้างเหมือนพยาธิ แต่กลับมีปล้องแข็งเป็นลายขด บ้างคล้ายด้วง แต่มีฟันหนาแน่น บ้างเหมือนปลิง สรุปคือหลายตัวล้วนน่าขยะแขยง
แม้ว่าดูเหมือนมีหลายประเภท แต่จมูกจี้หยวนแค่ดมก็รู้ว่ากลิ่นอายแมลงพวกนี้คล้ายกันมาก เรียกได้ว่าเป็นพวกเดียวกัน
มังกรเจียวแดงกวาดสายตามองแสงธรรมของผู้ฝึกปราณคนนั้น นัยน์ตามังกรหดรัดเล็กน้อย
“สิ่งชั่วร้ายกลางทะเลคลั่งมีไม่น้อย ทุกวันล้วนก่อเกิดดับสูญ ข้าไม่รู้จักแมลงพวกนี้ หากรู้ว่าที่นี่มีเจ้าพวกนี้อยู่ ให้ตายข้าก็ไม่มาทางนี้แน่!”
ตอนนี้เหล่าผู้ฝึกเซียนด้านข้างกระซิบกระซาบเสียงเบา ประเด็นสนทนาไม่พ้นเรื่องพวกแมลงประหลาดกับมังกรเจียวแดงบนเรือ ทั้งมีคนเดาว่าเหตุใดแมลงพวกนี้ถึงไม่กลัวอานุภาพมังกร
“หนอนศพมังกร! เจ้าพวกนี้คือหนอนศพมังกร!”
ตอนนี้จูหยวนจื่อเดินออกมาจากโถงโดยสาร ชั่วพริบตายามเห็นแมลงประหลาดพวกนี้ เขาเอ่ยปากบอกคำตอบออกมา
“แมลงพวกนี้เพิ่มจำนวนจากศพมังกร ส่วนใหญ่ไม่กลัวอานุภาพมังกร ถือเป็นสิ่งชั่วร้ายอย่างหนึ่ง ขอเพียงเผ่ามังกรสี่คาบสมุทรพบเจอ ย่อมสังหารพวกมันจนสิ้น!”
มีผู้อาวุโสเหมือนมีของล้ำค่า จูหยวนจื่อฝึกปราณมาแปดร้อยกว่าปี ต่อให้เป็นพวกติดบ้านแห่งเขาล้อมหยก แต่ถือว่ามีความรู้กว้างขวาง เมื่อเขาเอ่ยปากจี้หยวนย่อมไม่สงสัย
มังกรเจียวแดงที่ฟังคำพูดนี้ยิ่งตอบสนองเด่นชัด
“อะไรนะ!? หนอนศพมังกร? สิ่งชั่วร้ายนี้สูญพันธุ์แล้วไม่ใช่หรือ ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้!”
เสียงมังกรคำรามดังครั่นครื้น กระเทือนจนผู้ฝึกเซียนโดยรอบขมวดคิ้วไม่หยุด พวกคนธรรมดาใจกล้าที่มาดูเรื่องสนุกยิ่งถูกทำให้ตระหนกจนอุดหูทรุดตัวลง