เซียนหมากข้ามมิติ - ตอนที่ 83 ไม่สมดังหวัง
ตอนที่ 83 ไม่สมดังหวัง
เหตุใดมังกรเจียวเฒ่าเทพแม่น้ำบุกมา คิดอย่างไรก็รู้สึกเหมือนกับบุกมาหาเขาคนแซ่จี้ เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าเป็นเพราะปราณสีเหลืองเข้ม แต่ความคิดนี้ทำให้จี้หยวนรู้สึกว่าไร้สาระอยู่บ้าง
ตอนจุดธูปมีปราณสีเหลืองเข้มแปลกๆ ลอยออกมาจริง แต่ตอนนี้จี้หยวนเองก็มีความรู้สึกเวียนศีรษะจากการดื่มสุราเช่นกัน ทรมานทีเดียว เขาตัดสินใจดับธูปก้านนั้นเพราะรู้สึกไม่ดี คราวนี้ถึงรู้สึกดีขึ้นไม่น้อย
เพราะใจเสาะอยู่บ้าง จี้หยวนที่แต่เดิมอยากดูรูปภาพ บทกลอน และตัวหนังสือบนกำแพงเหล่านั้นไม่ได้รั้งอยู่นาน รีบออกจากอารามเทพแม่น้ำ
เป็นดังคาด หลังจากนั้นไม่นานก็เห็นมีร่างจางๆ ของมังกรบินมาจากขอบฟ้า ตกลงตรงที่ไหนสักแห่งห่างจากแม่น้ำวสันต์ ก่อนที่จะมีปราณมังกรตลบอบอวลทั่วอารามเทพแม่น้ำ ท่าทางเป็นมังกรเจียวเฒ่าตัวนั้นไปถึงที่นั่นแล้ว
ส่วนจะตามหาใครนั้น จี้หยวนอยากบอกอย่างยิ่งว่าไม่เกี่ยวกับตนเอง ทว่าแม้แต่เขาเองยังไม่เชื่อความคิดนี้เลย
‘หรือจะเป็นเพราะจุดธูปดอกนั้นแล้วเราไปดับมันทิ้ง’
แต่เทพแม่น้ำผู้ยิ่งใหญ่ไม่ควรคิดเล็กคิดน้อยขนาดนั้น ท่าทางปัญหาจะอยู่ที่ปราณสีเหลืองเข้มสายนั้นจริงๆ ความรู้สึกที่ทำให้จี้หยวนไม่สบายใจยังคงชัดเจนอยู่ในความทรงจำ
ตอนที่จุดธูปให้เทพหลักเมืองตอนนั้นก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ เห็นทีน่าจะเกี่ยวข้องกับเตาโอสถกลายเป็นสะพานเชื่อมเขตแดนอยู่บ้าง
‘เฮ้อ…หลังจากนี้เข้าอารามเจอรูปปั้นเทพ แค่ประสานมือคำนับก็พอแล้ว จะจุดธูปมั่วๆ ไม่ได้…’
พอมีความคิดแบบนี้ จี้หยวนเข้าไปในเมืองแล้วยังคงรู้สึกไม่ปลอดภัย รีบร้อนเดินไปทางตะวันตกของเมือง คิดว่าจะทะลุจังหวัดชุนฮุ่ยออกจากเมืองไป ยิ่งมีความเกี่ยวข้องที่ไม่ชัดเจนกับเทพแม่น้ำ จี้หยวนที่แต่เดิมจะไปจากที่นี่อยู่แล้วยิ่งไม่คิดอยู่ต่อนาน
…
อารามเทพแม่น้ำวสันต์ ชายชราที่แต่เดิมใช้อำนาจบาตรใหญ่ปล่อยผู้ดูแลธูปเทียนแล้ว คนรอบข้างยังคงมีความรู้สึกแปลกประหลาดชนิดที่ไม่กล้าหายใจแรง มองส่งชายชราจากอารามเทพแม่น้ำไปทีละก้าว
เมื่อออกจากอารามเทพแม่น้ำ ร้านค้าเล็กๆ ข้างทางยังคงตะโกนขายของอย่างกระตือรือร้น ผู้แสวงบุญรอบข้างบ้างก็รีบเร่ง บ้างก็เดินทอดน่อง อีกทั้งมีบางคนเป็นนักท่องเที่ยว…
แต่ทุกอย่างนี้ดูเหมือนห่างไกลจากชายชรามาก เขาเพียงเดินอย่างเชื่องช้า ในใจมีความสงสัยเจือความผิดหวังเล็กน้อย
เมื่อครู่นี้มีผู้วิเศษแบ่งปราณบุญให้เขา ปราณสีเหลืองเข้มสายนั้นแตกต่างจากกลิ่นอายเจือจางอันเกิดความปรารถนาซับซ้อนและสลายไปอย่างรวดเร็วยามผู้แสวงบุญทั่วไปขอพร มันไร้มลทินและไร้ที่ติอย่างชัดเจน ถึงขนาดทำให้มังกรเจียวเฒ่าเกือบจะรับรู้ความหมายที่แท้จริงไม่ได้
จนกระทั่งหลังจากเวียนศีรษะเมื่อครู่นี้ มังกรเจียวขาวรู้สึกตัวชา ถึงขั้นรู้สึกได้ว่าลมปราณที่ขาดช่วงมีสัญญาณได้รับการฟื้นฟู คราวนี้มังกรเจียวขาวพลันมีปฏิกิริยาตอบสนอง รีบเร่งไปทางอารามเทพแม่น้ำ ทว่ามาถึงแล้วกลับเป็นเช่นเมื่อครู่นี้
สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นไม่ใช่เพราะได้รับปราณบุญที่มหัศจรรย์หาใดเปรียบสายนั้น แต่เป็นเพราะมีคนทำเรื่องน่าเหลือเชื่ออย่างการแบ่งบุญ รวมพลังฟ้าดินได้สำเร็จ นี่เป็นสิ่งที่มีอยู่แค่ในตำนานเท่านั้น!
“หากธูปดอกนั้นไม่ดับ…หากจุดธูปจนหมดดอก…หากหมดดอกเล่า…เหตุใดจุดแล้วก็ดับทิ้ง เหตุใด…หรือว่าโชคชะตาจะยังมาไม่ถึง…หรือข้าพลาดที่ตรงไหน…”
วินาทีนี้ เทพแม่น้ำวสันต์ที่ได้รับตำแหน่งดั้งเดิมพึมพำกับตัวเอง รู้สึกสิ้นหวังและซึมเซาอยู่บ้าง
เงาร่างของเขาในสายตาของคนรอบข้างเริ่มขาดความรู้สึกของการดำรงอยู่ จนกระทั่งหายไปไม่เห็น หลังจากนั้นครู่หนึ่งก็มีเงามังกรเลือนรางบินขึ้นฟ้าไป
เมื่อถึงระดับพลังเดียวกับมังกรเจียวขาวย่อมรู้ว่าโอกาสจากไปแล้ว การเฝ้าคอยอยู่ที่นั่นเป็นการเฝ้าคอยอย่างไม่มีที่สิ้นสุดแน่นอน
…
ในจวนเทพแม่น้ำ การรอคอยอยู่ครู่หนึ่งเช่นนี้ไม่ได้ทำให้เต่าเฒ่าร้อนใจเท่าไหร่ เดิมทีเต่าก็ชอบความสงบอยู่แล้ว เพียงแต่ในใจคาดเดาอยู่ตลอดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถึงทำให้เทพแม่น้ำเสียกิริยาเช่นนี้
ครึ่งชั่วยามให้หลังจากที่เทพแม่น้ำออกไป ชายชราผู้หนึ่งเหยียบคลื่นน้ำเดินเข้ามาจากข้างนอกจวน
“ท่านเทพ!”
“คารวะท่านเทพแม่น้ำ!”
ยักษ์และเต่าเฒ่ารีบคารวะอย่างนอบน้อม
“อืม…”
ต่อหน้าพวกเขา มังกรเจียวขาวกลับมาเย็นชาดังเดิม เมื่อตอบรับเรียบๆ เสียงหนึ่งแล้วก็เดินไปทางไหสุรากองนั้นที่ถูกดันไปอยู่ข้างกำแพงลานทราย จากนั้นค่อยหยิบสุราไหหนึ่งที่เปิดจุกดินแล้วขึ้นจรดปาก
“อึกๆ” เมื่อดื่มวสันต์พันวันหมดหนึ่งไหในคราวเดียว ความไม่พอใจยังคงอยู่ ถึงขนาดเข้มข้นขึ้นด้วยซ้ำไป
ทันใดนั้นชายชราหันไปมองเต่าเฒ่า แววตานั้นทำให้เต่าเฒ่ารู้สึกกลัวอยู่บ้างอย่างน่าประหลาด
“เต่าเฒ่า ใช้วิชาของเจ้าอย่างสุดความสามารถ ทำนายดวงชะตาให้ข้าที!”
มังกรเจียวเฒ่าพูดพลางยกไหสุราอีกไหหนึ่งเดินเข้าไปใกล้หลายก้าว
“และข้าขอบอกเจ้าไว้ก่อน การทำนายดวงชะตานี้อันตรายสำหรับเจ้าอย่างยิ่งยวด แต่หากเจ้าทำนายดวงชะตาแล้วยังรอดชีวิตอยู่ วันหน้าข้าต้องช่วยเจ้าอย่างเต็มที่แน่นอน!”
ประโยคนี้เฉียบขาดมาก ไม่เหลือทางหนีให้เต่าเฒ่าเลย ทำให้ฝ่ายหลังที่เป็นสัตว์เลือดเย็นอยู่แล้วยิ่งมีเหงื่อเย็นๆ ออกทั่วตัว
“ระ รับบัญชา…”
…
เรื่องราวเกี่ยวพันกับการฝึกปราณ มังกรเฒ่าย่อมจริงจังเป็นอย่างยิ่ง นอกจากจำเป็นต้องสงบจิตใจรอคอยแล้ว ยังแอบกลับไปที่อารามเทพแม่น้ำอีกครั้งหนึ่ง เพื่อนำขี้เถ้าธูปทั้งหมดในกระถางธูปกลับมา
แม้ธูปดอกนั้นจะกลายเป็นว่างเปล่าแล้ว แต่ในเมื่อก่อนหน้านี้เผาไหม้ไปท่อนหนึ่ง ก็ต้องมีขี้เถ้าธูปหลงเหลืออย่างแน่นอน
พอกลับมาถึงจวน มังกรเฒ่าไล่ยักษ์ออกไป แล้วพ่นเลือดมังกรที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายมังกรใส่กลางขี้เถ้าธูปต่อหน้าเต่าเฒ่า ฝ่ายหลังเห็นแล้วยิ่งหวาดผวา
เตรียมตัวอยู่ครึ่งชั่วยามเต็มๆ เต่าเฒ่ายังคงเครียดเกร็งและหวาดกลัว ด้วยเงื่อนไขการทำนายดวงชะตาที่เทพแม่น้ำตั้งขึ้น มันถึงขนาดรู้วันเกิดของมังกรเจียวขาว และเวลาที่แม่นยำยามกลายร่างเป็นมังกรล้มเหลวสองครั้ง
ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ทำให้เต่าเฒ่ากดดันอย่างหนัก เพราะรู้ชัดเจนแล้วว่าการทำนายดวงชะตาไม่ใช่เรื่องล้อเล่น มันถึงกับเสียดายภายหลังอยู่บ้างที่มาขอร้องเทพแม่น้ำ
ขณะทำนายดวงชะตา กระดองเต่าสีดำส่องสว่างแผนภาพเก้าวังแปดทิศขึ้นมา
ทว่ายิ่งเต่าเฒ่าทำนายดวงชะตา ดวงตาสองข้างที่เดิมทีปิดสนิทก็ค่อยๆ เปิดกว้างขึ้น ดวงชะตาที่ทำนายออกมาแตกต่างกับที่จินตนาการไว้โดยสิ้นเชิง…
ดูท่าอันตรายจากการทำนายดวงชะตาจะไม่มีแล้ว แต่อันตรายที่แท้จริงกลับยังไม่ได้กำจัด
เห็นปฏิกิริยาของเต่าเฒ่าเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เทพแม่น้ำที่อยู่ด้านข้างก็ถามด้วยความสนใจ
“เป็นอย่างไร ทำนายได้อะไรบ้างหรือไม่”
เต่าเฒ่าหดคอตามจิตใต้สำนึก มองเทพแม่น้ำชราด้วยความระแวดระวัง แววตาและสีหน้าไร้เดียงสา อีกทั้งสับสน น่าสงสารอยู่บ้างอย่างเห็นได้ชัด
“ท่านเทพแม่น้ำ…ข้าเต่าเฒ่าขอสาบานด้วยการฝึกปราณมาทั้งชีวิต ทุกคำพูดและทุกคำนายอาจไม่เป็นจริง คำทำนายนั้น…ว่างเปล่า!”
ว่างเปล่า?
ชายชราฟังแล้วมองเต่าเฒ่าที่ไม่กล้าขยับเขยื้อนเขม็ง สีหน้าเปลี่ยนแปลงอยู่หลายครั้ง อยากเอ่ยปากแต่กลับพูดอะไรไม่ออก
เนิ่นนานผ่านไปถึงจะถอนใจออกมาเสียงหนึ่ง
“เฮ้อ…ช่างเถอะๆ ไปได้แล้ว…”
เต่าเฒ่าที่ยังคงหวาดผวาราวกับรอดพ้นจากสถานการณ์น่าสิ้นหวัง รีบคลานออกไปอย่างไม่คิดชีวิต ไม่กล้าคิดเงินค่าทำนายดวงชะตาโดยสิ้นเชิง
“เต่าเฒ่า…”
เสียงดังมาจากข้างหลัง ทำให้เต่าเฒ่าตัวแข็งทื่อในทันที
“ข้าจะส่งเคล็ดวิชาฝึกตรัสรู้เองให้เจ้า ถึงจะมีความไม่เข้ากันกับเต่า แต่เจ้าเลือกปประโยชน์ในเคล็ดวิชาได้ หากภายในสิบปียังไม่มีวี่แววบรรลุ เช่นนั้นค่อยพิจารณามรรคเทพแปลงกายเถอะ!”
เต่าเฒ่าได้ยินแล้วดีใจและคาดหวังมาก รีบกลับหลังหันไปน้อมคำนับเทพแม่น้ำ
“ขอบคุณท่านเทพแม่น้ำ ขอบคุณท่านเทพแม่น้ำ!”
“อืม…เดิมทีเต่าก็ฝึกฝนไม่ง่ายอยู่แล้ว ตั้งใจให้ดีก็แล้วกัน!”
เมื่อพูดจบแล้ว เทพแม่น้ำสะบัดแขนเสื้อเดินเข้าไปในตำหนักหลังเพียงลำพัง ไหสุราดีที่อยู่ไกลออกไปถูกกระแสน้ำม้วนตามหลังไปทั้งหมด
…
จี้หยวนที่หนีไปตั้งนานแล้วย่อมไม่รู้ถึงสถานการณ์ของมังกรเจียวขาวโดยสิ้นเชิง แต่กลับมองเห็นเงามังกรลอยขึ้นฟ้าจากไปที่ใจกลางเมือง
‘มาเร็วไปเร็ว น่าจะไม่ได้โมโหหรอกมั้ง’ เขาคิดในใจ
สถานการณ์ที่เกี่ยวพันกับตนเองเมื่อครู่นี้ จี้หยวนได้แต่คาดเดาว่าตนเองส่งผลกระทบในทางที่ดีต่อมังกรเจียวขาว ถ้ามังกรขาวตัวนั้นมาเพราะเขาจริงๆ นะ
แต่แม้จี้หยวนจะไม่เข้าใจเหตุผลที่แท้จริง ก็ไม่กล้าไปถามความมังกรขาวโดยตรงอยู่ดี
ถึงมังกรขาวจะไปแล้ว จี้หยวนก็ไม่คิดอยู่ต่ออีก ซื้อขนมเปี๊ยะแห้งที่ริมทางแล้วมุ่งหน้าไปทางตะวันตกของเมือง ฝีเท้าว่องไวขึ้นเรื่อยๆ
ประมาณหนึ่งชั่วยามครึ่งให้หลัง จี้หยวนเดินอยู่บนทางหลวงฝั่งตะวันตกของจังหวัดชุนฮุ่ยแล้ว
เมื่อถึงตรงนี้ แม้ยังคงมีรถม้าขวักไขว่ แต่ความคึกคักของจังหวัดชุนฮุ่ยพลันเจือจางไป
จี้หยวนยิ่งรู้สึกผ่อนคลายขึ้นอีก อันดับแรกสาวเท้าก้าวใหญ่อย่างไม่ค่อยชัดเจนนักมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่ค่อนข้างห่างเหิน จนสุดท้ายมองเห็นคนไม่เท่าไหร่แล้วถึงค่อยเริ่มห้อตะบึง
ต่อไปก็คือออกจากรัฐจี มุ่งหน้าไปยังหลุมศพจั่วขวงถูที่อยู่ทางมุมตะวันออกของรัฐอี๋ มีถนนระหว่างทางไม่น้อย ทว่าไม่มีธุระจำเป็นให้ต้องหยุดเดินทางเป็นพิเศษ จี้หยวนรู้สึกเพียงต้องมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่แม่นยำด้วยความมั่นใจ วิ่งอย่างรวดเร็วเช่นนี้เข้าใกล้จุดหมายปลายทางขึ้นเรื่อยๆ
ราวกับเท้ามีลมกรด สองเท้าของจี้หยวนเคลื่อนไหวเหมือนไร้เงา ข้างหูเกิดเสียงลมหวีดหวิวเพราะวิ่งด้วยความเร็วสูง จนกระทั่งความเร็วเพิ่มขึ้นจนถึงขีดจำกัดแล้ว จี้หยวนถึงออกแรงที่เท้าโดยพลัน
หวือ ทั้งตัวเขาลอยขึ้นสู่กลางอากาศ
“เหาะเหินเดินอากาศไปจนสุดขอบโลก จากจังหวัดชุนฮุ่ยสู่รัฐอี๋ ฮ่าๆๆๆ…”
ถึงจะยังเหยียบเมฆขี่หมอกและขับคุมวาโยไม่ได้ แต่วิ่งเร็วๆ แล้วกระโดดขึ้นแบบนี้ก็ทำให้จี้หยวนรู้สึกเหมือนบินได้ เบิกบานใจอย่างอดไม่อยู่
ไม่ว่าจะเป็นชาติก่อนหรือชาตินี้ คนมักจะเดินทางทางอากาศ จี้หยวนเองก็เห็นการเดินอากาศเป็นเป้าหมายหนึ่งในการฝึกปราณเช่นกัน