เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 147 เกม Fantasy Dream ที่แท้จริง
บทที่ 147 เกม Fantasy Dream ที่แท้จริง
“ต้องการเข้าร่วมสังเวียนผู้กล้าหรือไม่?”
เมื่อซูเย่เดินเข้าไปในม่านน้ำตก ข้อความเดิมก็กลับมาปรากฏขึ้นอีกครั้ง
“ไม่มีตัวเลือกอื่นแล้วหรือไงนะ?”
ซูเย่ชะงักไปเล็กน้อย
หลังจากนิ่งคิดอยู่สักครู่หนึ่ง ชายหนุ่มก็ตัดสินใจกดออกจากเกม
เมื่อสามารถเคลียร์โหมดสังเวียนผู้กล้าได้แล้ว ก็จะได้รับหยกปราณธรรมชาติเป็นของรางวัล
วันพรุ่งนี้ตอนที่ไปรับหยกจากหวังเหา ค่อยลองถามดูก็แล้วกัน
หากได้รับหยกปราณธรรมชาติชิ้นใหม่ จุดลมปราณที่เหลืออยู่อีก 125 จุดก็จะต้องถูกเปิดได้สำเร็จอย่างง่ายดาย ดีไม่ดีซูเย่อาจเลื่อนขึ้นสู่ขั้นผู้ฝึกยุทธระดับสองได้เลยด้วยซ้ำ!
ตอนนี้เพิ่งเป็นเวลาเที่ยงคืนเท่านั้น
เมื่อถอดหมวก VR ออกมาแล้ว ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นเดินไปดูอาการของซูชือด้วยความเป็นห่วง
อีกฝ่ายยังคงปลอดภัยดี
เช่นเดียวกับจินฟาน
จินฟานยังคงสวมหมวกเล่นเกมในโหมดสังเวียนผู้กล้าต่อไป
เมื่อจ้องมองเพื่อนทั้งสองคน ซูเย่ก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้นมา
เขาน่าจะสอนทักษะการต่อสู้ที่สูงมากกว่านี้ให้แก่จินฟานกับซูชือได้เรียนรู้เอาไว้!
อย่างน้อยก็จะได้ไม่ถูกใครรังแกง่าย ๆ อีก
…
เช้าวันต่อมา
เมื่อจินฟานตื่นขึ้นมาถอดหมวก VR ออก เขาก็รีบหันมามองซูเย่ด้วยแววตาเป็นประกาย
“เวร! เมื่อคืนพอแพ้การประลองบนเวที ฉันก็หลับยาวถึงเช้าเลยว่ะ!”
ในเวลาเดียวกันนี้ ซูชือก็ถอดหมวกของตนเองออกมาเช่นกัน ก่อนจะหันมามองซูเย่ด้วยความสงสัย
“เสี่ยวเย่ เมื่อคืนนายได้แก้แค้นให้ฉันหรือเปล่า?”
“ไม่ใช่แค่แก้แค้นเท่านั้นนะ แต่เสี่ยวเย่ยังอัดอีกฝ่ายแบบไม่ไว้หน้าด้วย ขนาดหัวหน้าของพวกมันที่เป็นผู้เล่นอันดับหนึ่งของเซิร์ฟเวอร์ก็ยังตายอนาถเลยเหอะ”
จินฟานพูดเสียงแผ่วเบา ในเวลาเดียวกันนี้ก็หันกลับมามองหน้าซูเย่ด้วยความพินิจพิเคราะห์มากขึ้น
“พูดจริงสิ งั้นก็ยอดเยี่ยมไปเลย ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันรู้อยู่แล้วว่าเสี่ยวเย่จะต้องแก้แค้นให้ฉันแน่นอน!”
ซูชือยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี
“แล้วเสี่ยวเย่ก็ยังจัดการลูกน้องของพวกมันอีก 300 กว่าคนด้วยนะเว้ย” จินฟานพูดต่อ
“ว่าไงนะ?”
ซูชือมองหน้าเพื่อนสนิทด้วยความไม่อยากเชื่อ “นายกำลังจะบอกว่าเสี่ยวเย่เพียงตัวคนเดียวสู้กับฝ่ายตรงข้าม 300 คนงั้นเหรอ?”
“เออ และเพราะนายคนเดียวเลยนะ เสี่ยวเย่ถึงได้ออกกฎใหม่ไม่ให้มีการรังแกกันในโหมดสังเวียนผู้กล้าอีก ตอนหลังเขาก็เลยแสดงฝีมือด้วยการจัดการผู้ต่อสู้ 1,200 คนในพริบตาเดียว”
ซูชือพูดอะไรไม่ออก
“หลังจากนั้น เสี่ยวเย่ของพวกเราก็ขึ้นไปท้าสู้กับผู้คุ้มกันสังเวียนและสามารถเอาชนะเขาได้ไม่ยาก ทำให้เสี่ยวเย่กลายเป็นผู้เล่นคนแรก ที่สามารถเคลียร์โหมดสังเวียนผู้กล้าได้สำเร็จ”
ซูชือได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ
“นี่อำกันเล่นใช่ไหม? หรือว่าเรื่องจริง?”
ซูชือถามออกมาด้วยความสงสัย
“ฉันจะอำนายเล่นเพื่ออะไร?”
จินฟานหันขวับกลับไปมองหน้าซูเย่
ซูชือก็รีบหันกลับมาถามซูเย่ด้วยความเหลือเชื่อทันที
“ให้ตายสิ เสี่ยวเย่นายทำได้จริง ๆ เหรอนั่น ชักจะเก่งเกินหน้าเกินตาไปหน่อยแล้วไหม!”
“ฉันมันเก่งจริง ๆ นั่นแหละ แต่ไม่ต้องรีบชมฉันขนาดนี้ก็ได้”
ซูเย่ว่า
“ว่าไงนะ?”
เพื่อนทั้งสองคนเบิกตาโตด้วยความฉงน
ซูชือรีบถามด้วยความกระตือรือร้น “หมายความว่าสักวันหนึ่งพวกเราก็จะเก่งได้เท่านายใช่ไหม?”
“ไม่ใช่”
ซูเย่ส่ายหน้าปฏิเสธและขยายความต่อ “ยังไงพวกเราก็ต้องอยู่ด้วยกันไปอีกห้าปี ทุก ๆ วันนับจากนี้ พวกนายยังมีโอกาสได้ชมฉันอีกเยอะ”
“เชี่ย! ปากดีจังเลยนะเอ็ง”
เมื่อได้ยินคำตอบ ทั้งสองหนุ่มก็สบถออกมาพร้อมกันและชูนิ้วกลางให้แก่ซูเย่ด้วยความสามัคคี
พวกเขาแค่ชื่นชมซูเย่ไปตามมารยาทเท่านั้นเอง
เจ้าหมอนี่กลายเป็นคนหลงตัวเองไปแล้วอย่างนั้นหรือ?
“ฮ่าฮ่าฮ่า”
เมื่อเห็นว่าเพื่อนทั้งสองคนกลับมาทำตัวเป็นปกติดีแล้ว ซูเย่จึงหัวเราะออกมาด้วยความโล่งใจ ก่อนจะเหวี่ยงขาลงจากเตียงและถามซูชือ “ว่าแต่นายเถอะเป็นยังไงบ้าง รู้สึกเจ็บตรงไหนอยู่อีกหรือเปล่า?”
“ฉันไม่เป็นไรแล้ว”
ซูชือส่ายหน้าตอบกลับมา “ฉันแค่รู้สึกเหมือนฝันร้าย พอตื่นขึ้นมา ก็รู้สึกปวดเนื้อปวดตัวนิดหน่อย เหมือนไปออกกำลังกายหนัก ๆ มาทำนองนั้นน่ะ”
“ถ้างั้นก็ดีแล้ว”
ซูเย่พยักหน้า นี่หมายความว่าการเสียชีวิตในโหมดสังเวียนผู้กล้า ไม่มีอะไรน่ากลัวมากไปกว่าฝันร้ายตื่นหนึ่งเท่านั้นเอง
“ติ๊ง!”
เสียงข้อความเข้าดังแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือ
ซูเย่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดู และพบว่ามันเป็นข้อความที่ถูกส่งมาจากหวังเหา
“มารับหยกปราณธรรมชาติไปได้แล้ว”
“เดี๋ยวไปเลยครับ”
ซูเย่ตอบข้อความ หลังจากนั้นก็รีบล้างหน้าล้างตา และเดินทางไปยังสถานีตำรวจทันที
เมื่อชายหนุ่มไปถึงห้องฝึกพิเศษในสถานีตำรวจ เขาก็พบว่าหวังเหามารอต้อนรับอยู่ก่อนแล้ว
“หมวกที่โดนขโมยไปอยู่กับนายใช่ไหม?”
หวังเหาถามออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย จ้องหน้าชายหนุ่มเขม็ง ไม่เปิดโอกาสให้ซูเย่ได้มีเวลาคิด
“อะไรนะครับ?”
ซูเย่ถามกลับไปด้วยความไม่เข้าใจ
นายตำรวจหวังเหาจ้องหน้าเขาอยู่อีกอึดใจใหญ่
“ไม่มีอะไรหรอก”
สุดท้าย หัวหน้าทีมสืบสวนพิเศษก็สะบัดศีรษะแรง ๆ เพราะไม่พบว่าซูเย่จะมีพิรุธอย่างที่เขาคาดหวังเลยสักนิด
“ยินดีด้วยนะ นายผ่านโหมดสังเวียนผู้กล้าได้แล้ว นี่คือของรางวัลของนาย”
พูดจบ นายตำรวจหวังเหาก็ล้วงกล่องไม้ขนาดเล็กออกมาจากกระเป๋ากางเกง
เมื่อเปิดกล่องออกดู
ก็จะพบว่าด้านในบรรจุเอาไว้ด้วยเศษหยกที่มีขนาดเท่ากับเล็บมือ และมันกำลังส่องแสงเป็นประกายอยู่เบื้องหน้าซูเย่
“ได้แค่ชิ้นเดียวเองเหรอครับ? เมื่อวานนี้ผมลงทุนลงแรงไปตั้งเยอะ ขอพิเศษอีกสักชิ้นไม่ได้หรือไง?”
ซูเย่ปั้นหน้ายิ้มประจบ
“นายยังต้องการอะไรอีก?”
หวังเหามองหน้าชายหนุ่มตาขวาง เกือบจะสบถคำหยาบออกมาแล้ว
หยกปราณธรรมชาติถือเป็นของหายาก แม้แต่ในทีมสืบสวนของเขา การได้รับหยกปราณธรรมชาติสักหนึ่งชิ้น ก็แทบจะเป็นเกียรติประวัติสูงสุดในชีวิตแล้ว
แล้วนี่ซูเย่ยังอยากได้ถึงสองชิ้น?
ชักจะโลภมากเกินไปแล้ว!
“มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ ตกลงแล้วเกม Fantasy Dream ที่แท้จริงคืออะไรกันแน่?”
ซูเย่เปลี่ยนเรื่องพูด
เมื่อได้ยินคำถามจากชายหนุ่ม นายตำรวจหวังเหาก็เกิดความลังเลเล็กน้อย “ในเมื่อนายสามารถผ่านโหมดสังเวียนผู้กล้าได้สำเร็จ ฉันก็จะบอกความลับให้เป็นกรณีพิเศษแล้วกัน”
“เกม Fantasy Dream ที่แท้จริงก็คือเกม Fantasy Dream แบบเดียวกับที่ผู้เล่นทั่วไปกำลังเล่นกันอยู่นี่แหละ เพียงแต่ว่าผู้ที่มีเลเวลระดับ 30 ขึ้นไป จะได้รับประสบการณ์บางอย่างที่ผู้เล่นระดับต่ำกว่านั้นไม่มีทางได้สัมผัส”
“กล่าวโดยสรุปก็คือ เกม Fantasy Dream สำหรับผู้เล่นที่มีเลเวลไม่ถึงระดับ 30 มันก็เป็นเพียงเกมธรรมดาเท่านั้น แต่สำหรับผู้เล่นที่มีเลเวล 30 ขึ้นไป มันจะช่วยมอบประสบการณ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง”
ได้ยินดังนั้น ซูเย่ก็ขมวดคิ้วทันที และนึกขึ้นมาถึงความรู้สึกเจ็บปวดบนสังเวียนต่อสู้ จึงถามว่า “ประสบการณ์ที่แตกต่างนั่นรวมถึงความเจ็บปวดด้วยใช่ไหมครับ?”
“มีมากกว่านั้นอีก”
หวังเหากล่าว
“ในโลกของเกม Fantasy Dream ที่แท้จริง ความรู้สึกในร่างกายของผู้เล่นจะเปิดรับถึง 90% ไม่ว่าจะเป็นความเร็วในการต่อสู้ ความรู้สึกเจ็บปวดตอนได้รับบาดเจ็บ หรือพลังลมปราณที่มีอยู่ในร่างกาย จะจำลองมาจากโลกแห่งความจริงทั้งหมด เวลาที่นายต่อสู้กับสัตว์ประหลาดในเกม ก็จะเหมือนกับนายได้ต่อสู้กับสัตว์ประหลาดในโลกความจริงด้วยเช่นกัน”
“แต่ระบบเซตติ้งของเกมนี้ เป็นมิตรกับผู้ฝึกยุทธ์มากเลยนะ เดี๋ยวนายลองเข้าไปเล่นก็รู้เองนั่นแหละ”
ซูเย่ยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนถามออกมา “ถ้าสามารถฆ่าสัตว์ประหลาดในเกมได้ ผู้เล่นจะได้รับอะไรบ้างครับ?”