เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 215 ซูเย่หมื่นศพ!
บทที่ 215 ซูเย่หมื่นศพ!
ดีที่ไม่ใช่ในชีวิตจริง มิเช่นนั้น เพียงแค่สีหน้าเช่นนี้ของพวกเขา ก็เพียงพอที่จะทำให้คนนับไม่ถ้วยตกอกตกใจเอาได้
ผู้บัญชาการเคยเผยสีหน้าเช่นนี้เสียที่ไหนเล่า!
“เจ้าหนุ่มหน้ามนคนนี้เป็นอัจฉริยะจริง ๆ!” จ้าวซานหลิน ผู้บัญชาการเขตตงเป่ยอดกล่าวชมไม่ได้
“เจ้าเด็กร้ายกาจ คนเดียวก็หลอกคนนับหมื่นไปตาย แล้วยังหลอกใช้สัตว์ประหลาดให้ช่วยฆ่าคนไปอีกสองสามหมื่น!”
แววตาของเจียงซาน ผู้บัญชาการเขตฮัวตงเต็มไปด้วยความชื่นชม ทำได้ดี!
“เจ้าหนูนี่น่าสนใจขึ้นเรื่อย ๆ เสียแล้วสิ” เยี่ยนตี้ ผู้บัญชาการฮัวเป่ยยิ้มแย้มพลางเอ่ยปาก
หลานหลานผู้บัญชาการเขตซีหนานยักคิ้วพลางกล่าว “ที่เราจัดเพิ่มให้เขา ดูเหมือนว่าจะยังแรงไม่พอนะ”
ผู้บัญชาการคนอื่นมองหน้ากันไปมาแล้วยิ้ม
“พรุ่งนี้เราเพิ่มระดับให้เขาหน่อยไหม อย่างน้อยก็ไม่ให้เขาใช้ประโยชน์จากป่านี้ได้…”
“ประเสริฐ!” ทุกคนพากันออกปากชม
“พวกคุณจะแกล้งเด็กเขตผมไปถึงไหนกัน !” เจียงซาน ผู้บัญชาการเขตฮัวตงโจวยิ้มขืนพลางกล่าว
“อย่าเสแสร้งไปหน่อยเลย ที่แท้แล้วคุณก็อยากรู้ขีดความสามารถที่แท้จริงของเขาเหมือนกัน!”
“ฮ่าฮ่า ถูกมองออกเสียแล้ว”
……
เมื่อออฟไลน์เกมแล้ว ซูเย่ก็ถอดหมวก VR ออก ส่วนผู้เล่นทุกคนก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อล็อกอินเข้าบอร์ดสนทนา
ผู้เล่นที่ไม่ได้เข้าร่วมต่างก็รอให้ศึกป่าเกล็ดน้ำค้างแข็งจบลง ถึงตอนนั้นในบอร์ดต้องลุกเป็นไฟแน่
ในเวลาอันรวดเร็ว ก็มีโพสต์ปรากฏขึ้นมา
“ศึกป่าเกล็ดน้ำค้างแข็ง เจ้าเวรกรรมคนเดียวเอาชนะแปดหมื่นคน!”
ในโพสต์นี้ไม่เพียงมีขั้นตอนทั้งหมดระหว่างการต่อสู้เท่านั้น แต่มีภาพหน้าจอประกอบด้วย
เมื่อดูขั้นตอนทั้งหมดอย่างละเอียด ทุกคนถึงกับตะลึงตาค้าง…
“ตายไปสามสี่หมื่นคน? น่ากลัวขนาดนี้เลยเหรอ?!”
“เจ้าเวรกรรมหมื่นศพ?”
“เจ้าเวรกรรมเจ๋งเกินไปแล้ว หลอกคนไปฆ่าแล้วยังรอดมาได้ น่ากลัวเกินไปแล้ว ดีนะที่ไม่ได้ไป…”
“เจ้าเวรกรรมทำแบบนี้ก็ได้เหรอ แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งมาก แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะชนะการต่อสู้ครั้งนี้ด้วยพลังของเขาเอง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือป่าเกล็ดน้ำค้างแข็ง…”
“การมีอยู่ของป่าเกล็ดน้ำค้างแข็ง นั้นเทียบเท่ากับตัวช่วยหลักของเขา ไม่มีใครสามารถฆ่าเขาได้แน่ เว้นแต่สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวนั้นในป่าจะถูกฆ่า หรือไม่ก็ไม่มีป่าแบบนั้น”
“ฉันอยากรู้จริง ๆ ว่าผู้เล่นที่ถูกฆ่ารู้สึกยังไงในตอนนี้ ?” ในเวลานี้ ผู้เล่นนับไม่ถ้วนที่ถูกหลอกไป เข้ามาออนไลน์อย่างโกรธเคือง
รู้สึกยังไงกันในตอนนี้?
รู้สึกถึงเตี่ยเอ็งมั้ง!
ทุกคนพร้อมใจกันแท็กหาแอคออฟฟิเชียล
“โหมดไล่ฆ่ามี BUG !!!” นี่มันหลอกกันชัด ๆ เลย!
ผู้ล่าที่อยู่ข้างหลังพวกเขาไม่ทันได้เห็นหน้าซูเย่เลยด้วยซ้ำ ตอนที่เพิ่งหันหลังหนีก็ตายเสียแล้ว!
นี่มันต้องเป็น BUG แน่ๆ!
“ต้องแก้บัคที่ป่าเกล็ดน้ำค้างแข็งเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นผู้ล่าที่เข้าไปใครจะไปกล้าไล่โจมตีพวกมันล่ะ ! แล้วเจ้าเวรกรรมก็จะอยู่ยงคงกระพัน!”
“ใช่ ฉันถูกเจ้าเวรกรรมหลอกไปฆ่า ฉันไม่ปล่อยมันไปแน่!”
“เม้นบน ทำไมนายถึงไม่ปล่อยเขาไปละ สู้ไม่ได้ก็ใช้ปากโจมตีงั้นเหรอ?”
“เม้นล่างเมื่อกี้ กูคือเตี่ยเอ็งไง!”
ในเวลานี้ ผู้เล่นคนอื่น ๆ ต่างตื่นขึ้นมาทีละคน พวกเขาพูดถูก ! เมื่อรอถึงวันสุดท้ายที่มีวงบีบ แล้วมันดันไปเป็นพื้นที่ป่าเกล็ดน้ำค้างแข็งละก็.. เจ้าเวรกรรมก็ไม่ชนะได้สบาย ๆ หรอกหรือ?
“แก้บัคนี้ด้วย…รังแกกันเกินไปแล้ว!”
ผู้ฝึกยุทธ์ที่บอร์ดผู้ฝึกยุทธ์มองโพตส์ที่ถูกแชร์มาจากบอร์ดผู้เล่นอย่างโง่งม
พวกเขาคิดแล้วคิดอีกก็คิดไม่ถึงว่าเจ้าเวรกรรมจะอยู่จนถึงสุดท้าย แถมยังชนะอีก!
“เจ้าเวรกรรมโหดเกินไปแล้ว!”
“แบบนี้ก็ได้เหรอ?!”
“รู้งี้ไปตั้งนานแล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะได้ฆ่าสักสองสามคน…”
“ขาดทุนจริง ๆ ทำไมตอนนั้นฉันไม่ไปนะ?”
“ไม่ได้การแล้ว คืนนี้ฉันจะไปหลบที่ป่าเกล็ดน้ำค้างแข็งดูบ้าง ขอแค่เพียงหลบอยู่ในป่าก็ไม่โดนฆ่าแล้ว”
……
เขตมหาวิทยาลัย ถนนเศรษฐกิจ ตึกสำนักงานตึกที่ 2 ภายในตึกสำนักงาน
“ไม่ตาย ไม่มีใครตายเลย ซูเย่ก็ไม่ตาย เจ๋งสุดยอด”
หวังเหาเมื่อรู้ว่ายังไม่มีใครในเขตมหาวิทยาลัยที่เขาควบคุมเสียชีวิต ก็อดตื่นเต้นไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ยินคะแนนที่ยอดเยี่ยมของซูเย่ในป่าเกล็ดน้ำค้างแข็ง ก็ตื่นเต้นจนไม่เป็นตัวของตัวเอง
ในเขตของเขามีอัจฉริยะถือกำเนิดขึ้น!
“ติ๊ด…ติ๊ด…”
ขณะที่หวังห่าวกำลังตื่นเต้นมาก โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เมื่อหยิบออกมาดู เป็นเกาหรงเฉิงที่โทรมา
“ครับ หัวหน้า” หวังเหารับสายทันที
“นำข้อมูลทั้งหมดของซูเย่ส่งให้ฉันอีกครั้ง ฉันต้องการข้อมูลที่ล่าสุดที่สุด!”
เสียงของเกาหรงเฉิงดังมาจากปลายอีกด้านของโทรศัพท์และพูดว่า “เดี๋ยวนี้…ทันที!”
นี่เป็นการขอข้อมูลครั้งที่สาม ! เห็นได้ชัดว่าเบื้องบนสนใจในตัวซูเย่!
หวังเหาไม่ลังเลและรีบจัดการข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับซูเย่ในมือของเขาแล้วเตรียมจะส่งมันไป
ต้องรายงานเรื่องของ X ด้วยไหม?
หวังเหาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และสุดท้ายก็คิดว่าคงเป็นการดีกว่าที่จะไม่รายงานในตอนนี้ เก็บเอาไว้กระตุ้นซูเย่น่าจะดีกว่า
เขานำข้อมูลทั้งหมดที่เขาตรวจสอบด้วยตัวเองรายงานขึ้นไปทันที
เวลาสี่ทุ่ม…ผู้บัญชาการทั้งหกยังคงนั่งดูอยู่บนยอดเขา
แต่ไม่เหมือนก่อนหน้านี้ บนยอดเขาที่พวกเขาอยู่ตอนนี้ มีจอภาพหนึ่งจอ บนจอคือข้อมูลของซูเย่ที่ละเอียดยิ่งกว่าเดิม
คนทั้งหกอ่านอย่างละเอียด โดยในระหว่างที่อ่านข้อมูลอยู่นั้น ใบหน้าของคนทั้งหกคนไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย ทุกคนเผยสีหน้าเคร่งเครียด ในดวงตาของพวกเขาเฉยเมย ราวกับว่าพวกเขาไม่มีความรู้สึกใด ๆ ทำให้ผู้คนได้รับแรงกดดันบางอย่าง ที่แม้ไม่มีท่าทางโกรธขึงแต่ก็แฝงไปด้วยความน่าเกรงขามอย่างอธิบายไม่ถูก
“อืม…”
หลังจากนั้น…ผู้บัญชาการซีเป่ยก็พยักหน้าพลางกล่าว “ดูจากข้อมูลที่ทีมสืบสวนส่งมา เจ้าเด็กซูเย่คนนี้ยังไม่มีปัญหาอะไร เพียงแค่ยังไม่รู้ว่าสืบทอดมาจากผู้ใด”
“มีความเข้าใจมวยจีนโบราณที่สลับซับซ้อน”
อู๋เซียนห่าวผู้บัญชาการหญิงเขตจงหนานโจว ยักคิ้วขึ้นพลางกล่าวอย่างไม่แน่ใจ “พวกคุณคิดว่าจะเป็นผู้อาวุโสท่านนั้นหรือไม่?”
“ท่านไหน?”
“ท่านผู้นั้นเมื่อสิบสองปีก่อนอย่างไรเล่า !” อู๋เซียนห่าวเอ่ยกล่าว
“เขา?”
เมื่อฟังคำพูดนี้ คนทั้งหกก็จมลงสู่ความเงียบงันไปชั่วขณะ
“ถ้าเป็นผู้อาวุโสท่านนั้นจริง ๆ ก็ไม่ผิดคาดแล้ว”
หลานหลานผู้บัญชาการเขตซีหนานกล่าวเสริม “จากข้อมูลที่ปรากฏ สิบสองปีก่อนผู้อาวุโสท่านนั้นก็ปลีกวิเวกเข้าสู่หุบเขา ไม่เข้าร่วมเรื่องทางโลกอีก หลังจากนั้นก็ไม่มีข่าวคร่าวอันใด ต่อให้เป็นข้อมูลที่เรามี ก็ไม่ได้กล่าวถึงเขามากนัก และจุดหนึ่งที่แปลกประหลาดก็คือ เขาเข้าใจเกือบทุกศาสตร์บนโลกอย่างลึกซึ้ง”
“ขึ้นเขาปลีวิเวก เขาลูกไหนกันล่ะ ?” เจียงซานผู้บัญชาการเขตฮัวตงโจวมุ่นคิ้ว โดยขณะพูดคุย เขาก็ขยับมือกดที่หน้าจอด้วยตัวเอง แล้วประทับลายนิ้วมือลงไป เพื่อเปิดเอกสารลับออก
“หืม?”
เมื่อเห็นข้อมูล สีหน้าของคนทั้งหกก็เปลี่ยนไป
พวกเขาพบว่า ในเอกสารลับฉบับนี้บันทึกไว้ว่าหุบเขาลึกที่ผู้อาวุโสท่านนั้นไปปลีกวิเวก อยู่ใกล้กับบ้านเดิมของซูเย่!