เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 48 บังเอิญตรงเผง!
บทที่ 48 บังเอิญตรงเผง!
ชายผู้ท้าชิงอยากจะเห็นปฏิกิริยาของซูเย่เมื่อเห็นกองเงินตรงหน้า ว่าเขาจะตกตะลึงจนตาค้างแค่ไหน แต่เขาก็ต้องพบกับความผิดหวัง
ซูเย่เพียงเหลือบมองเงินทั้งหมด จากนั้นจึงพยักหน้านิ่ง ๆ และพูดว่า “โอเค”
เจ้าของนามแฝง “คำพูดที่ไม่เคยคิด ที่จริงก็คือยาพิษ” ยิ้มอย่างผิดหวังก่อนจะเหลือบสายตามองดูจำนวนผู้คนที่กำลังเข้ามาชมการถ่ายทอดสดบนโทรศัพท์ของตนเอง
ตอนนี้จำนวนคนพุ่งสูงขึ้นทะลุ 100,000 คนแล้ว และมันยังคงพุ่งขึ้นเรื่อย ๆ
ชาวเน็ตแห่คอมเมนต์บ้าคลั่งเมื่อพวกเขาเห็นกองธนบัตรจำนวนมากที่ถูกเอาออกมา
“เหลือเชื่อ!”
“พอเห็นหน้าคนเก็บขยะแล้วรู้สึกเกลียดตัวเองที่ไม่ตั้งใจเรียนเลย!”
ขณะที่ความคิดเห็นและของขวัญมากมายถูกส่งมา หน้าจอถ่ายทอดสดก็ร้อนระอุเป็นอย่างมาก
“ทานกันก่อนเถอะ”
เจ้าของนามแฝง “คำพูดที่ไม่เคยคิด ที่จริงก็คือยาพิษ” ผายมือเชิญอีกฝ่าย จากนั้นจึงเป็นฝ่ายเริ่มคีบเนื้อวากิวขึ้นมาชิ้นหนึ่งใส่ลงไปในหม้อไฟ
ซูเย่ก็ไม่ได้เกรงใจแต่อย่างใด
ชายหนุ่มเริ่มลงมือทานอาหารเช่นกัน
ถัดไปด้านข้าง
ซุนชือและจินฟานที่นั่งอยู่หลังกล้องมองภาพตรงหน้าและทำได้เพียงกลืนน้ำลาย
ซูเย่แล้วก็ไอ้หน้าจืดเจ้าของนามแฝง “คำพูดที่ไม่เคยคิด ที่จริงก็คือยาพิษ” ชายผู้ท้าชิง อะไรนั่น คงไม่รู้ตัวเลยว่าที่ตัวเองกำลังทำอยู่มันทรมานพวกเขาแค่ไหน!
นายจะกินไหม? ถ้าจะกินก็รีบกินเข้าไป เลิกวางล่ออยู่หน้ากล้องได้แล้ว!
โชคดีที่ก่อนหน้านี้พวกเขาทานข้าวมาแล้ว ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงทนไม่ไหวแน่!
“นายดูมั่นใจนะ”
ชายผู้ท้าชิง เอ่ยขณะที่ทานอาหาร
“ผมค่อนข้างโชคดีน่ะ” ซูเย่เอ่ย
“ขอถามอะไรอย่าง นายตอบคำถามทั้งหมดนั่นด้วยตัวเองเลยเหรอ?”
ซูเย่พยักหน้า
ชายผู้ท้าชิง ดีดนิ้ว ทันใดนั้นบริกรคนหนึ่งก็เดินเข้ามา ในมือของเขามีอุปกรณ์บางอย่างที่ดูคล้ายกับกล้อง SLR จากนั้นจึงเดินไปทางด้านข้างของซูเย่และสแกนตัวของชายหนุ่มตั้งแต่หัวจรดเท้า
“นี่คือเครื่องสแกน อุปกรณ์ใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งสัญญาณหรือวงจรจะไม่สามารถรอดพ้นการสแกนของเครื่องนี้ไปได้ มันแม่นเสียยิ่งกว่าเครื่องตรวจข้อสอบของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสียอีก”
ชายผู้ท้าชิง เอ่ยด้วยรอยยิ้ม
ซูเย่ที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าและปล่อยให้อีกฝ่ายสแกนร่างของตน
เมื่อมองดูคนทั้งสองทานอาหารและสแกนร่างกายอีกครั้ง ผู้ชมทั้งหมดก็ไม่สามารถรอได้อีกต่อไป
รีบถามคำถามสิ มัวทำอะไรกันอยู่?
มีสแกนด้วย นี่มันมืออาชีพชะมัด! เพราะฉะนั้นก็รีบถามคำถามกันได้แล้ว!
“โอเค” การสแกนเสร็จเรียบร้อย
เมื่อยืนยันแล้วว่าซูเย่ไม่ได้พกเครื่องมือโกงชิ้นไหนมาด้วยทั้งสิ้น ชายผู้ท้าชิง ที่เห็นเช่นนั้นจึงหยิบไอแพดขึ้นมาเปิดและกล่าวว่า “เดี๋ยวฉันจะบอกกฎกติกาเบื้องต้นให้นายฟังก่อนเป็นอันดับแรก”
“ได้” ซูเย่พยักหน้า
“กติกาในครั้งนี้นั้นง่ายมาก คำถามมีทั้งหมด 10 คำถาม แต่ละคำถามจะมีเวลาตอบเพียง 5 วินาที นายจะต้องตอบให้ทันเวลา ถ้าหากเกินกว่านี้หรือตอบผิด ทุกอย่างจะจบลงทันที…”
ชายผู้ท้าชิง มองหน้าคนตรงหน้าและถามว่า “นายมีข้อสงสัยตรงไหนหรือเปล่า?”
“ไม่มีครับ” ซูเย่ส่ายศีรษะ
กฎของอีกฝ่ายเป็นกฎเดียวกันกับเกมในแอป Question ก่อนหน้านี้
“โอเค”
“ถ้าอย่างนั้นเรามาเริ่มกันเลย” ชายผู้ท้าชิง พยักหน้าและกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ซูเย่พยักหน้าตอบ
ผู้ชมทั้งหมดที่อยู่หน้าจอเองก็รีบนั่งตัวตรงทันที
พวกเขาตั้งตารอสิ่งนี้มานานแล้ว~
หัวใจของซุนชือและจินฟานเต้นแรงขึ้น รู้สึกเป็นห่วงเพื่อนของตน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะอยากให้ซูเย่ชนะ แต่อีกฝ่ายก็เตรียมตัวมาอย่างดี เพราะฉะนั้น ตอนนี้พวกเขาเลยหวังแค่ว่าเพื่อนของตนจะไม่พ่ายแพ้จนน่าเกลียดเกินไป
“คำถามแรก”
ชายผู้ท้าชิงเลื่อนไอแพดและอ่านคำถาม “บุคคลใดต่อไปนี้ไม่ได้เป็น 4 ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยางรุ่นล่าสุด”
“A. หลิวหวันซู B. จางเจียปิน C. หลี่ตงหยวน D. จูตันซือ E. จางชงเจิง”
เมื่อเอ่ยจบ ชายผู้ท้าชิง ก็มองหน้าซูเย่ทันที
ภายในเพจถ่ายทอดสด ผู้ชมกว่า 2 แสนคนที่ได้ยินคำถามรีบพิมพ์แสดงความเห็นกันอย่างรวดเร็ว
“ยากตั้งแต่คำถามแรกเลย!”
“ลูกพี่สุดยอดมาก! คนเก็บขยะจบเห่แล้ว!”
“แพทย์แผนจีนคือคณะที่เรียนและทำความเข้าใจยากที่สุดเลย เพราะฉะนั้นมันไม่มีทางเลยที่จะเป็นเพียงคำถามธรรมดา ๆ เขาไม่น่าจะรู้คำตอบข้อนี้นะ!”
“คำถามนี้มันยากกว่าคำถามที่ยากที่สุดในเกมชิงเงินล้านเสียอีก!”
คนทั้งหมดคิดว่าเน็ตไอดอลเจ้าของนามแฝง “คำพูดที่ไม่เคยคิด ที่จริงก็คือยาพิษ” ชายผู้ท้าชิง คงไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากสำหรับคำท้าครั้งนี้ แต่เหนือความคาดหมาย…คำถามแรกที่ออกมากลับยากกว่าที่คิดเอาไว้มาก
คนเก็บขยะแย่แน่
ดวงตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ร่างของซูเย่ที่อยู่ทางด้านซ้ายของหน้าจอ
ซูเย่เพียงใช้ตะเกียบคีบเนื้อขึ้นมาจากหม้อ ถือค้างมันไว้ในอากาศ มอง ชายผู้ท้าชิง ด้วยสายตาประหลาดใจและกล่าวว่า
“ผมเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง”
จินฟานและซุนชือแทบจะหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินเช่นนั้น นี่มันบังเอิญตรงเผงสุด ๆ ไปเลย!
พวกเขาเองก็ได้รู้คำตอบของคำถามข้อนี้ตั้งแต่เข้าเรียนในคณะไม่กี่วัน!
…
ชายผู้ท้าชิง ชะงักไป
เวลานี้บนหน้าเพจจู่ ๆ บรรยากาศการรับชมก็ดูสนุกสนานขึ้นมา
“55555 ตลกชะมัด อุตส่าห์เตรียมคำถามนี้มา แต่มันกลับเป็นมหาลัยของคนตอบซะงั้น!”
“55555 ดูหน้าหมอนั่นสิ! ดูโง่ชะมัด!”
“คำตอบคือข้อ B. จางเจียปิน”
ซูเย่เอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะเอาเนื้อใส่ปาก
ความอับอายบนใบหน้าของ ชายผู้ท้าชิง ฉายชัดออกมา นี่มันน่าอับอายเกินไป เขาไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายเรียนมหาวิทยาลัยแพทย์!
เขารีบฉีกยิ้มและเอ่ยว่า “นั่นเป็นแค่คำถามเรียกน้ำย่อยเท่านั้น ตั้งใจฟังคำถามต่อ ๆ ไปให้ดี”
“สายทั้งหกเส้นของกีตาร์โฟล์ค ไล่เสียงจากต่ำไปสูง ข้อใดถูกต้อง?”
“ข้อ A: – E, A, C, G, B, E.
ข้อ B: – E, A, D, G, B, E.
ข้อ C: – E, B, C, D, B, E.
เมื่อได้ยินคำถามนี้ ทุกคนก็เริ่มแสดงความคิดเห็นกันอีกครั้ง
“คำถามเฉพาะทางอีกแล้ว! สรุปว่านี่คือการตอบคำถามระดับผู้เชี่ยวชาญเหรอ?”
“คนเก็บขยะน่าจะตอบคำถามนี้ไม่ได้นะ เขาเรียนแพทย์แผนจีนนี่นา ไม่ใช่คณะดนตรี ใช่ไหม?” คนทั้งหมดต่างมองไปที่ซูเย่อีกครั้ง
บนเพจถ่ายทอดสด จำนวนผู้เข้าในตอนนี้เกือบถึง 250,000 คนแล้ว และตัวเลขของมันก็ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
“พรืด…”
ซุนชือและจินฟานที่นั่งอยู่หลังกล้องหลุดหัวเราะออกมาทันที
ตลกชะมัด เขาถามตรงจุดอีกแล้ว!
ทำไมถึงหัวเราะ?
ชายผู้ท้าชิง มองคนทั้งสองอย่างประหลาดใจ
และเมื่อหันกลับมามองซูเย่ เขาก็พบว่าคนตรงหน้าเองก็มองเขาด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
วินาทีนั้น ชายผู้ท้าชิง รู้สึกได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“ขอโทษด้วยนะครับ”
ซูเย่ยิ้มออกมาเมื่อสบตากับฝ่ายตรงข้าม จากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า “แต่บังเอิญว่าผมคือนักศึกษาในมหาลัยแพทย์แผนจีนที่รู้เรื่องเกี่ยวกับกีตาร์ดีพอสมควร”
“เพราะฉะนั้น ผมตอบข้อ B”
หะ?…
ชายผู้ท้าชิง” ชะงักค้างไปอีกครั้ง แววตาของเขาฉายชัดถึงความประหลาดใจ
นี่มันจะบังเอิญเกินไปหรือเปล่า? !
ผู้ชมจะต้องเริ่มคิดว่าฉันสมรู้ร่วมคิดกับหมอนี่แน่ ๆ !
ความคิดเห็นบนหน้าจอถ่ายทอดสดต่างครึกครื้นยิ่งกว่าเดิม!
“555555 ฉันขำจนจะตายอยู่แล้ว! นี่มันบ้าชัด ๆ เขาถามตรงจุดสองครั้งแล้วนะ! อะไรมันจะเหมาะเหม็งขนาดนี้!”
“55555 เรียกรถพยาบาลให้ที นี่ฉันขำจนหายใจไม่ออกแล้ว”
“ฉันว่าลูกพี่ที่หาคำถามพวกนี้มาฉลาดมากแล้วนะ แต่คนเก็บขยะที่ต้องเป็นฝ่ายตอบคำถามกลับเจ๋งกว่าอีก 5555 นึกว่าไลฟ์นี้จะเคร่งเครียด แต่มันกลายเป็นตลกซะอย่างนั้น!”
“รอบรู้มาก 555″
ชายผู้ท้าชิง ยิ้มเก้อเขินก่อนจะรีบเลื่อนหน้าจอไอแพดไปที่คำถามถัดไป เขาเงยหน้าขึ้นมามองซูเย่และกล่าวว่า “โอเค ฉันรู้แล้วว่านายเรียนเกี่ยวกับแพทย์แผนจีน ฉันรู้แล้วว่านายเล่นกีตาร์ และในเมื่อนายเล่นกีตาร์ นายก็คงจะไม่รู้จักพิณผีผา…”
“เพราะฉะนั้นคำถามต่อไปก็คือ…” เขาหยุดอยู่ครู่หนึ่งและมองหน้าซูเย่
และเขาก็เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังมองมาที่เขาด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเห็นเช่นนั้นเขาจึงหันไปมองหน้าจินฟานและซุนชือที่นั่งอยู่หลังกล้องทันที ทั้งสองเองก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าเช่นกัน
หัวใจของชายผู้ท้าชิง เต้นเร็วขึ้น เขารีบเปลี่ยนคำถามทันที
“ฉันไม่ถามเรื่องพิณผีผาแล้วดีกว่า”
ขณะเดียวกันเขาก็ลอบตะโกนในใจ ‘อย่าบอกนะว่ารู้เรื่องพิณผีผาด้วย?’
ใบหน้าของซุนชือและจินฟานเผยแววเสียดาย อีกฝ่ายเกือบจะต้องหน้าหงายอีกรอบแล้วเชียว
ทว่าสายตาอันคมกริบของชาวเน็ตที่นั่งดูการถ่ายทอดสดอยู่กลับสังเกตถึงความผิดปกตินี้
“ขี้โกงนี่หว่า!”
“คนถามก็ยังหนุ่มนะ แถมยังเป็นฝ่ายเริ่มท้าก่อนด้วย เพราะฉะนั้นช่วยเลิกทำเรื่องน่าเกลียดแบบนี้ทีเถอะ”
“ลูกพี่ ขึ้นชื่อเรื่องรักษาคำพูดมาก แต่เกมถามคำถามครั้งนี้กลับจะมีการโกงเกิดขึ้น! ไม่ไหวแล้ว ฉันขอตัวไปหัวเราะก่อน เกมพลิกชัด ๆ เลย55555”
“คำถามข้อที่ 3” หลังจากแอบโกงไปเล็กน้อย ชายผู้ท้าชิง” ก็เปลี่ยนหมวดหมู่ทันที
“คำถามเกี่ยวกับประวัติศาสตร์?”
“หลังจากที่ซือหม่าเชียนเสียชีวิตไปนานหลายปี ผู้ที่ทำหน้าที่เผยแพร่ประวัติของเขาให้เป็นสาธารณะคือผู้ใด”
“A. หยางหยุน B. ผานกู่ C. สวี่กวางฮั่น”
เมื่อถามคำถามนี้ออกไป ใบหน้าของชายผู้ท้าชิง ก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ความมั่นใจของเขากลับคืนมา
แพทย์แผนจีน ดนตรี และประวัติศาสตร์ ทั้งสามหัวข้อนั้นไม่มีความเกี่ยวข้องกันอย่างสิ้นเชิง
คนที่จะรู้เกี่ยวกับเรื่องแพทย์แผนจีน ดนตรี มิหนำซ้ำยังเชี่ยวชาญทั้งกีตาร์และพิณผีผาในเวลาเดียวกัน นี่เป็นเรื่องที่หาได้ยากมาก
แล้วถ้าจะบอกว่าคนตรงหน้าเก่งวิชาประวัติศาสตร์อีก มันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว!
“1, 2…”
ชายผู้ท้าชิง เริ่มนับถอยหลังในใจ
“คำตอบคือข้อ A. หยางหยุน”
ซูเย่เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ดูเหมือนว่าโชคของผมวันนี้จะค่อนข้างดีนะ คำถามที่คุณถามผมแต่ละข้อล้วนเป็นเรื่องที่ผมรู้ทั้งนั้นเลย”
นายรู้คำตอบอีกแล้วเหรอ?
ใบหน้าของชายผู้ท้าชิง เปลี่ยนจากมั่นใจเป็นตกตะลึงทันที คำถามยากขนาดนี้ก็ยังตอบได้?
“โอเค!”
เมื่อซุนชือและจินฟานมองหน้าของชายหนุ่มผู้เป็นเน็ตไอดอล พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคำตอบของซูเย่นั้นถูกต้อง
ชาวเน็ตต่างก็รีบใช้โอกาสนี้ในการไปหาคำตอบในอินเทอร์เน็ต และพวกเขาก็ได้รู้คำตอบในทันที
“บ้าน่า! เขาตอบถูก! ฉันหาดูแล้ว มันตอบข้อ A จริง ๆ !”
“คนเก็บขยะรอบรู้ชะมัดเลย!”
ชาวเน็ตจำนวนมากเริ่มที่จะชื่นชอบในตัวของซูเย่มากขึ้นหลังจากผ่านมาสามคำถาม
ตอนแรกพวกเขาเชื่อว่าคนเก็บขยะจะต้องโกงแน่ ๆ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด
ถ้าหากเป็นพวกเขาที่ต้องตอบคำถามสามข้อนี้ แค่คำถามแรกเพียงอย่างเดียวก็คงจะสามารถคัดคนส่วนใหญ่ออกไปได้แล้ว นับประสาอะไรกับสามคำถาม
“ไม่เลว”
ชายผู้ท้าชิง จึงทำได้เพียงทำตามคนทั้งหมดและเอ่ยชมซูเย่ออกไป
จากนั้นเขาจึงหยิบตะเกียบ และเตรียมที่จะชะลอความเร็วในการตอบคำถามลง
ภายในเพจของการถ่ายทอดสด
ผู้ชมทุกคนที่ดูทั้งสองนั่งทานหม้อไฟต่างก็กลืนน้ำลายของตัวเองอย่างห้ามไม่ได้
เมื่อทานเสร็จ ชายผู้ท้าชิง ก็จิบน้ำอึกหนึ่ง จากนั้นจึงมองหน้าซูเย่อีกครั้ง ดวงตาของเขาเป็นประกายวูบไหว ก่อนจะเอ่ยว่า “คำถามข้อที่ 4!”
“คำถามข้อนี้จะยังเป็นคำถามเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เหมือนเดิม ตั้งใจฟังให้ดี”
ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะดูศึกษาประวัติศาสตร์มาอย่างดี แต่คำถามนี้ เขาค่อนข้างมั่นใจมากว่าฝ่ายตรงข้ามจะต้องไม่รู้คำตอบอย่างแน่นอน
“ผู้ใดเป็นคนลอบสังหารเจียชิง?”
“A. เฉินเต๋อ B. จางเต๋อ C. เจาเต๋อ”
ใครเป็นคนลอบสังหารเจียชิง?
เจียชิงถูกลอบสังหารเหรอ?
เขาเป็นจักรพรรดิไม่ใช่เหรอ? คนที่เป็นจักรพรรดิจะถูกลอบสังหารได้ยังไง?
ณ เวลานี้ ความคิดเห็นที่ปรากฏขึ้นมาในเพจถ่ายทอดสดกำลังดุเดือด
“สุดยอด! คำถามนี้โคตรยากเลย ฉันว่าคนเก็บขยะตอบข้อนี้ไม่ได้แน่!”
“เขาตอบไม่ได้แน่นอน! คนที่ไม่ได้เรียนประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ชิงไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้แน่ ขนาดฉันที่เรียนประวัติศาสตร์ยังตอบไม่ได้เลย”
…
เมื่อจินฟานและซุนชือได้ยินคำถามนี้ พวกเขาก็หันไปมองซูเย่ด้วยสายตาเป็นกังวล
ชายผู้ท้าชิง มองหน้าซูเย่นิ่ง ๆ ประกายแห่งความมั่นใจปรากฏขึ้นในแววตาของเขา
ซูเย่ยิ้มมุมปากและเอ่ยว่า “ผมตอบข้อ A. เฉินเต๋อ”
เมื่อเอ่ยจบ ชายหนุ่มก็ใช้ตะเกียบคีบเนื้อเข้าปากและเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย