เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 28 เรตติ้งแตะหนึ่ง
บทที่ 28 เรตติ้งแตะหนึ่ง
“หา?”
จะให้ตบหน้าเนี่ยนะ?
คุณพ่อของซูเย่ถึงกับตกตะลึงไปทันที
“ฉันจะได้รู้ไงว่าฉันไม่ได้ฝันไป”
คุณแม่หันมามองค้อนคุณพ่อ ก่อนจะชี้มือไปยังหน้าจอโทรทัศน์ “นั่นใช่ลูกชายของฉันจริงๆ หรือเปล่า ลูกชายของฉันเพิ่งไปเรียนมหาลัยแพทย์แผนจีนได้ครึ่งปีเท่านั้น ทำไมถึงเก่งขนาดนี้?”
“เขาต้องเป็นลูกคุณอยู่แล้ว!”
คุณพ่อรีบขยับหนีออกมา
เขาไม่กล้าตบหน้าภรรยาตามคำร้องขอ เพราะรู้ดีว่าเธอต้องมาตบเขาคืนแน่นอน
คุณแม่จึงตีขาของซูเย่อย่างแรงอีกครั้ง
“แกเจ็บไหม?”
“เจ็บสิครับ!”
ซูเย่พยักหน้าด้วยความเศร้า
“ฮ่าฮ่าฮ่า งั้นฉันก็ไม่ได้ฝันไป!”
คุณแม่ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข “ลูกชายของฉันเก่งจริงๆ ด้วย!”
…
บ้านคุณป้า
“ในอนาคต พวกแกสองคนต้องเรียนแพทย์แผนจีน”
คุณป้าซึ่งยังคงตื่นเต้นหลังรับชมรายการจบ เธอพูดกับลูกสาวทั้งสองคนว่า “เมื่อถึงตอนนั้น พวกแกต้องตั้งใจเรียนให้ได้แบบพี่เขาล่ะ”
“ไม่เอาหรอก”
ผู้เป็นลูกสาวคนแรกรีบส่ายหน้าปฏิเสธ “ให้ตายก็ไม่ไปเรียนแพทย์แผนจีนเด็ดขาด!”
“หนูก็เหมือนกัน” ลูกสาวคนที่สองก็ส่ายหน้าปฏิเสธเช่นกัน
พวกเธอรู้ดีว่าซูเย่เก่งเทพในเรื่องแพทย์แผนจีนมากเกินไป หากพวกเธอไปเรียนสาขานี้ ก็คงต้องอยู่ใต้ร่มเงาของเขาไปตลอดชีวิตแน่!
…
“ทำได้ดีมากเลยนะ!” เมื่อรับชมรายการจบลง หลี่เคอหมิงก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
นี่แหละสิ่งที่เขาต้องการ
แสดงให้มหาวิทยาลัยอื่นๆ ได้รู้ว่า มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยางไม่ใช่ที่ที่ใครจะมาดูถูกกันได้ง่ายๆ อีกแล้ว
…
“อืม”
ปรมาจารย์ฮั่วปิดทีวี จิบน้ำชาอึกสุดท้ายและพยักหน้าพร้อมกับยิ้มกว้าง
…
ในเวลาเดียวกันนี้
ตอนที่รายการจบลงด้วยการประกาศว่าซูเย่เป็นผู้ที่ทำคะแนนได้เป็นอันดับหนึ่ง
“แตะ 1 แล้วครับ เรตติ้งแตะ 1 แล้ว!”
ทีมงานรายงานด้วยความดีใจสุดขีด
เมื่อได้ยินเช่นนั้น
จ้าวเหมียนก็รีบถามกลับไปด้วยความตื่นเต้น
“พูดจริงนะ?!”
“พูดจริงสิครับ!”
“ดีมาก!”
จ้าวเหมียนลุกขึ้นยืนกระโดดตัวลอย
เรตติ้งแตะหนึ่งได้สำเร็จแล้ว นี่คือระดับเรตติ้งที่เขาไม่เคยทำได้มาก่อน เพราะว่ามันมากกว่ารายการปกติของเขาถึงสองเท่า!
ขณะนี้ ทีมงานทุกคนก็ได้รับทราบข่าวนี้แล้วเช่นกัน
“เราได้เรตติ้งแตะหนึ่งแล้วจริงๆ เหรอ?”
“แค่ตอนแรกก็ทำเรตติ้งได้ตั้งหนึ่งเปอร์เซ็นต์เลยเนี่ยนะ?”
หลายคำถามถูกส่งเข้ามาในกลุ่มแชทของทางทีมงานภายในแอปวีแชท
“ให้ตายสิ แค่ตอนแรกก็ทำเรตติ้งได้ถึง 1.01 เปอร์เซ็นต์ ผู้กำกับจ้าวสุดยอดจริงๆ!”
“แค่ตอนแรกก็ดังระเบิดขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย แถมฉากจบของตอนแรกยังทิ้งท้ายให้น่าติดตามต่อไปอีก ถึงจะไม่มีดราม่าเรียกคนดูเท่าที่ควร แต่ได้เรตติ้งถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์นี่มันมหัศจรรย์ที่สุดเลยแฮะ!”
“รายการของเรากำลังจะดังเป็นพลุแตก!”
กลุ่มทีมงานพร้อมใจกันแสดงความคิดเห็นด้วยความตื่นเต้น
จ้าวเหมียนก็กำลังรู้สึกเช่นเดียวกันนี้
รายการที่เพิ่งออกอากาศแค่ตอนแรกกลับทำเรตติ้งได้ทะลุหนึ่งเปอร์เซ็นต์ ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง!
“ความทุ่มเทของทุกคนไม่เสียเปล่า ในที่สุดเราก็เริ่มได้ดี หลังจากนี้ พวกเรามาพยายามกันให้หนักมากขึ้น และทำให้ดีมากกว่านี้กันเถอะ!”
จ้าวเหมียนส่งข้อความเสียงไปปลุกใจทีมงาน
ในเวลาเดียวกันนี้
“ติ๊ง”
เสียงข้อความเข้าดังขึ้น
มีข้อความเสียงถูกส่งมาจากเฉินหลี่ซ่าง ผู้กำกับรายการชุมนุมวิชาการ
เขากดเข้าไปฟัง
“เหล่าจ้าว รายการของคุณยอดเยี่ยมมาก ทำได้ดีมากกว่ารายการชุมนุมวิชาการของผมซะอีก แค่ตอนแรกเรตติ้งก็ทะลุหนึ่งเปอร์เซ็นต์ ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นยากมาก คุณต้องขอบคุณผมแล้วนะ!”
นั่นคือข้อความทั้งหมดจากเฉินหลี่ซ่าง
“ขอบคุณกับผีน่ะสิ!”
จ้าวเหมียนคำรามออกมาทันที
เขาเพิ่งจะสบถออกมาเท่านั้น
โทรศัพท์ก็สั่นครืด ก่อนที่เสียงเรียกเข้าจะดังขึ้น เมื่อเห็นว่าผู้ใดโทรมา จ้าวเหมียนก็ต้องรีบลุกขึ้นยืนด้วยความสุภาพเรียบร้อย
เพราะเป็นสายตรงจากหัวหน้าของเขาเอง
“จ้าวเหมียน ครั้งนี้คุณทำได้ดีมาก รายการค้นหาสุดยอดแพทย์แผนจีนรุ่นใหม่ของคุณ ผมได้ข่าวว่าทำเรตติ้งถล่มทลาย ยากมากที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาได้ คุณต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ดี พยายามไต่ระดับเรตติ้งให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆ เลยนะ”
นั่นคือเสียงจากหัวหน้าใหญ่
“ครับผม พวกเราจะพยายามให้เต็มที่ครับ”
จ้าวเหมียนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและจริงใจ
“เอาละ ผมหวังว่าคุณจะทำรายการนี้ให้ดีขึ้นไปอีก ผมจะเอาใจช่วยพวกคุณ”
จ้าวเหมียนรู้ว่าท่านหัวหน้าค่อนข้างพอใจกับรายการของตนเอง จึงรีบตอบกลับ “แน่นอนครับผม ขอบคุณมากครับ”
หลังจากนั้น
เมื่อกดวางสายเรียบร้อย
ชายอ้วนก็โทรศัพท์มาหา
“ผู้กำกับจ้าว ผมได้รับโทรศัพท์จากสปอนเซอร์หลายราย พวกเขาอยากเพิ่มโฆษณาในรายการของเรา…”
จ้าวเหมียนได้ยินดังนั้นก็หัวเราะออกมาด้วยความดีใจ
แล้วอย่างนี้รายการของเขาจะไม่ดังระเบิดได้อย่างไร?
…
ในเว็บบอร์ดรวมมิตรมหาลัย
บอร์ดย่อยของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง
“แม่เจ้า ซูเย่คนนี้จะเก่งไปไหนวะ”
“ฉันสงสัยมานานแล้วนะว่าเขาไม่เคยเรียนแพทย์แผนจีนมาจริงเหรอ? เขาดูไม่เหมือนเด็กใหม่ในวงการนี้เลยนะ?”
“ฉากสุดท้ายที่หวังจี้เชาได้ยินว่าอาจารย์ในมหาลัยตัวเองเป็นคนตรวจข้อสอบของซูเย่น่ะ หมอนั่นก็เงิบไปเลยดิ ฉันหยุดหัวเราะไม่ได้เลยล่ะ”
“เออ อันนั้นฉันก็หัวเราะหนักอยู่เหมือนกัน”
“สะใจโว้ย!”
หลังรับชมรายการจบลง กลุ่มนักศึกษาแพทย์แผนจีนทุกคนต่างก็รู้แล้วว่าซูเย่มีความแข็งแกร่งถึงขนาดไหน
ครั้งนี้
พวกเขาได้พบมุมมองใหม่
ซูเย่ต้องแข่งขันกับนักศึกษาแพทย์แผนจีนระดับหัวกะทิจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ!
ทุกคนตกตะลึงมากไปกว่าเดิม
ลวี่อวิ๋นเผิงกับลู่จวิ้นก็เข้าร่วมการแข่งขันในรายการนี้เช่นกัน ถึงพวกเขาจะรู้เรื่องความยอดเยี่ยมของซูเย่ระหว่างการแข่งขันก่อนหน้าเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยคนอื่น แต่พวกเขาก็ยังอดประทับใจในตัวซูเย่ไม่ได้อยู่ดี ต้องยอมรับเลยว่าทีมตัดต่อของทางรายการมีความสามารถจริงๆ
ส่วนคนเดียวที่ไม่ตื่นเต้นอะไรกับรายการนี้เลย ก็คือตัวซูเย่คนเดียวเท่านั้น!
…
ที่ไหนสักแห่งในเมืองตี้ตู
“ซูเย่” หลังรับชมรายการจบลง หวังจี้เชาก็กัดฟันมองหน้าจอโทรทัศน์ด้วยความเคียดแค้น เขาสูดหายใจลึก พูดออกมาว่า “ดูเหมือนฉันจะประมาทนายมากเกินไปจริงๆ นายมีคุณสมบัติดีพอที่จะมาเป็นคู่แข่งของฉัน”
“ครั้งนี้ฉันจะปล่อยให้นายได้ใจไปก่อน”
“แต่ผู้ชนะคนสุดท้ายต้องเป็นฉันคนเดียวเท่านั้น!”
…
หลี่มู่เสวี่ยใบหน้างอง้ำ
เธอคิดว่าซูเย่เป็นพวกที่จะจมปลักอยู่ที่เดิมไปตลอดชีวิต
คิดไม่ถึงเลยว่าเขากลับมีความสามารถด้านแพทย์แผนจีนถึงขนาดนี้!
“ซูเย่”
หลี่มู่เสวี่ยพูดชื่อนี้ออกมาแผ่วเบา ความทรงจำเกี่ยวกับตัวเขาผุดพราวขึ้นในหัวสมอง สีหน้าของหญิงสาวแสดงความสับสน ไม่มีใครรู้เลยว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
…
ในกรุ๊ปแชท : พรรคถู่โช่วจย้าเทียน
“หัวหน้าซู ให้ซองแดงพวกเราหน่อยสิครับ!”
“หัวหน้าได้ที่หนึ่งในรายการเชียวนะ แจกอั่งเปาให้ลูกน้องบ้างสิ”
“หัวหน้าซูของพวกเราจิตใจกว้างขวางอยู่แล้ว จริงไหม?”
ในขณะนี้
มีคนจำนวนมากส่งข้อความหาซูเย่ในกลุ่มแชท
ซูเย่ซึ่งแกล้งนอนหลับอยู่บนโซฟาเพื่อไม่ต้องตอบคำถามของพ่อแม่ เลยจำเป็นต้องผงกศีรษะขึ้นมาเปิดดูโทรศัพท์
เมื่อดูข้อความเหล่านั้น เขาก็พบว่าไม่ได้มีเพียงสมาชิกของพรรคถู่โช่วจย้าเทียนเท่านั้น แม้แต่เพื่อนร่วมคณะวิจัยสมุนไพรจีนก็ส่งข้อความมาขออั่งเปาจากเขาเช่นกัน
ซูเย่ยิ้มแหย ทำได้เพียงส่งอั่งเปาให้คนในกลุ่มจำนวนหนึ่ง
ทันใดนั้น
“ติ๊ง!”
เสียงสวรรค์ดังขึ้นในหัว
หัวใจของชายหนุ่มพองโต
แต้มศีลธรรม +50
ซูเย่ยิ้มเล็กน้อย ในที่สุดก็ได้มาแล้ว
ที่เขาได้มาไม่ใช่เพราะการแจกอั่งเปา แต่เขาได้มาเพราะเมื่อรายการจบลง กลุ่มนักศึกษาแพทย์แผนจีนก็เกิดแรงบันดาลใจให้ตนเองตั้งใจเรียนมากขึ้น
“ต่างจากตอนทำดีแบบไม่มีคนเห็นเยอะเลยแฮะ”
ซูเย่ถอนหายใจออกมาด้วยความเศร้า “ไม่ว่าจะยุคไหนสมัยไหน โทรทัศน์ก็เป็นสื่อโฆษณาชวนเชื่อที่ดีที่สุดเสมอ”
ในอนาคต เขาคงต้องไปปรากฏตัวในรายการทีวีให้มากกว่านี้แล้วสิ
แต่โชคร้าย
ที่โอกาสดีซึ่งเป็นอยู่ในขณะนี้ คงยากจะเกิดขึ้นอีก
ในตอนนี้
ถึงรายการจะจบลงแล้ว แต่คนดูจำนวนมากก็ยังไม่กดเปลี่ยนช่อง เพราะพวกเขาอยากจะรับชมตัวอย่างรายการตอนที่สอง
ไม่ต้องรอนาน
ตัวอย่างตอนต่อไปถูกแสดงบนหน้าจอ
ทุกคนได้เห็นไฮไลท์สำคัญของรายการในตอนที่สอง รวมถึงได้เห็นฉากที่ซูเย่ลุกขึ้นยืนแสดงเจตนาบริสุทธิ์และมอบความยุติธรรมให้แก่ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ และก็ยังมีฉากความก้าวร้าวของหวังจี้เชาด้วยเช่นกัน
มันเป็นฉากที่ซูเย่ให้กำลังใจผู้เข้าแข่งขันทุกคน แต่ภาพสุดท้ายที่คนดูเห็น ก็คือหวังจี้เชายกมือขึ้นชูนิ้วกลางให้ซูเย่
เมื่อรับชมตัวอย่างตอนต่อไปจบลง
ชาวเน็ตก็รีบแสดงความคิดเห็นด้วยความตื่นเต้น
“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าสองคนนี้กำลังจะต่อยกันเลยนะ?”
“รายการตัดต่อได้เรียกแขกมากว่ะ โคตรดราม่า!”
“น่าดูชะมัด! ซูเย่กับหวังจี้เชาไม่ถูกกันตั้งแต่ในอีพีแรก พวกเขายังจะเป็นคู่กัดกันในอีพีต่อไปอีกเหรอเนี่ย”
“ฮึ่ย ไม่น่าหลงเข้ามาดูตัวอย่างเลยวุ้ย ฉันต้องทนรอไปอีกหนึ่งอาทิตย์เลยเหรอ?”
“แล้วพวกเราจะผ่านอาทิตย์นี้ไปได้ยังไง?”
กลุ่มคนดูแสดงความคิดเห็นอย่างบ้าคลั่งในเว็บเว่ยป๋อ
…
แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับกับซูเย่เขาทำเหมือนกับว่ารายการค้นหาสุดยอดแพทย์แผนจีนรุ่นใหม่ ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับตนเองเลย
เขาช่วยที่บ้านเตรียมจัดงานตรุษจีนอย่างผ่อนคลาย
สองวันต่อมา ก่อนวันตรุษจีนหนึ่งวัน
“สวัสดีวันปีใหม่!”
นอกหน้าต่างที่มีหิมะโปรยปราย ปรากฏพลุไฟระเบิดตัวสวยงาม
ซูเย่รับประทานอาหารค่ำกับครอบครัวอย่างมีความสุข
และอีกไม่กี่วันต่อมา มีญาติมาเยี่ยมบ้านหลายคน
คุณลุงและคุณป้าของเขาพาลูกๆ มาหาในวันที่สองของเทศกาลตรุษจีน
และเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตั้งคำถาม
ซูเย่จึงแอบหนีขึ้นมาเก็บตัวอยู่ในห้องตั้งแต่หัววัน
แต่ถึงเขาจะหนีการตั้งคำถามจากคุณลุงคุณป้าได้สำเร็จ เขากลับหนีลูกพี่ลูกน้องของตนเองไม่พ้น
“พี่ชาย เปิดประตูเดี๋ยวนี้!”
ลูกพี่ลูกน้องสองสาวถูกพ่อแม่สั่งให้ขึ้นมาเคาะประตูห้องนอนของซูเย่
ซูเย่เปิดประตูอย่างเสียมิได้
“ขออั่งเปา”
ลูกพี่ลูกน้องทั้งสองคนยืนอยู่หน้าประตูห้อง จ้องมองซูเย่พร้อมกับยื่นมือออกมาข้างหน้า
“ได้สิ พี่เตรียมเอาไว้ให้แล้ว” ซูเย่หยิบซองแดงที่เตรียมเอาไว้ส่งให้น้องๆ คนละซอง
เมื่อได้รับอั่งเปากันเรียบร้อย
“พี่ชายมีแฟนหรือยังจ๊ะ?” หนึ่งในญาติรุ่นน้องชิงถามซูเย่โดยไม่ทันให้เขาตั้งตัว
เมื่อคำถามนี้ถูกถามออกมา บรรดาผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นทั้งสี่คนต่างหยุดบทสนทนา และกางหูรับฟังด้วยความสนใจทันที
ดูซิว่าจะตอบยังไง!
ซูเย่จับแขนของญาติรุ่นน้อง ตอบกลับพร้อมกับยิ้มกว้าง “พี่ยังไม่มีแฟน”
ระหว่างที่พูด เขาก็บีบต้นแขนของอีกฝ่ายเล็กน้อย
“โอ๊ย พี่จะมาตีฉันทำไมเนี่ย เจ็บนะ!” คนตั้งคำถามร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดเกินจริง
ซูเย่ถึงกับพูดอะไรไม่ออก
“พี่ต้องรีบมีแฟนได้แล้ว พ้นช่วงมหาลัยไปก็หาแฟนยากแล้วละ สุดท้ายกลายเป็นหมาหัวเน่า ไม่มีใครเอาไม่รู้ด้วยนะ” เจ้าตัวแสบตะโกนใส่หน้าเขาก่อนจะวิ่งหนีกลับเข้าไปในห้องนั่งเล่น
ซูเย่ขมวดคิ้วนิ่วหน้า
“เสี่ยวเย่ มานี่หน่อยสิ”
เสียงคุณแม่ตะโกนเรียก
“น้องแกพูดถูกนะ แกเองก็ไม่ใช่เด็ก มีฟงมีแฟนได้แล้ว” เมื่อซูเย่เดินเข้าไปถึงในห้องนั่งเล่น มารดาของเขาก็เปิดฉากพูดขึ้นมาทันที
“ถูกต้อง”
คุณพ่อพยักหน้าอย่างเห็นด้วยและกล่าวเสริมด้วยสีหน้าจริงจัง “พ่อกับแม่แกก็เจอกันตอนเรียนมหาลัยนี่แหละ ถ้าแกไม่รีบหาแฟนตอนนี้ เรียนจบไปจะยิ่งหาลำบาก”
คุณลุงกับคุณป้าก็พยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน
“ถ้าเจอใครน่าสนใจ ผมจะลองคบดูนะครับ”
ซูเย่ตอบกลับไปพอเป็นพิธี
แต่ในทันใดนั้น เสียงประกาศจากในโทรทัศน์สะดุดหูของเขาเข้าอย่างจัง
“นี่คือวันแรกของฤดูใบไม้ผลิ…”
ดวงตาของซูเย่เป็นประกายแวววาว
วันนี้คือวันแรกของฤดูใบไม้ผลิอย่างนั้นหรือ?
โอกาสดีมาถึงแล้ว!
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดูช่วงเวลา[1]หลี่ชุนอย่างไม่รอช้า
ช่วงเวลาหลี่ชุนของปีนี้อยู่ระหว่างวันที่ 9 ถึงวันที่ 23 !
มุมปากของชายหนุ่มยกยิ้มเล็กน้อย
ช่วงเวลาที่เป็นจุดเริ่มต้นและจุดจบของฤดูใบไม้ผลิ ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ดูดซับพลังปราณธรรมชาติที่สุดแล้ว!
เพราะมันเป็นช่วงที่พลังงานจากสวรรค์และโลกมนุษย์เชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งเดียว
และพลังปราณธรรมชาติในช่วงจุดเริ่มต้นของฤดูใบไม้ผลิ ถือเป็นพลังงานที่มีความบริสุทธิ์มากที่สุดในรอบปี
หากผู้ใดนั่งโคจรพลังในช่วงเวลานี้ ก็จะได้ผลลัพธ์ออกมาดีมากกว่าเดิมถึงสองเท่า
มีคุณภาพมากกว่าการรับประทานสมุนไพรวิเศษระดับสูงซะอีก!
ซูเย่ค้นพบเรื่องราวเหล่านี้โดยบังเอิญระหว่างการใช้ชีวิต 2500 ปีของเขา ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ นอกจากซูเย่เพียงคนเดียว
เมื่อนาฬิกาเดินมาถึงเวลา 20:40 น. ซูเย่ก็หันไปมองหน้าบิดาของตนเอง
สองพ่อลูกประสานสายตากัน ราวกับมีโทรจิตสื่อสารกันได้ พวกเขาพยักหน้าให้กัน
“ผมขอออกไปสูดอากาศข้างนอกหน่อยนะ”
คุณพ่อพูดก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
“ผมไปด้วยครับ”
ซูเย่รีบลุกขึ้นตามออกไปอย่างไม่รอช้า
พวกเขามาถึงสวนหย่อมหน้าที่พักชั้นล่าง
“มีอะไรก็ว่ามา”
คุณพ่อถาม “แกให้พ่อออกมาข้างนอกแบบนี้ คงมีเรื่องจะบอกใช่ไหม?”
“วันนี้ก็เข้าสู่ช่วงหลี่ชุนแล้วครับ”
ซูเย่ยิ้มกว้าง “ผมจะบอกความลับให้ฟัง”
“แกทำผู้หญิงท้องใช่ไหม?”
คุณพ่อถามกลับมาเสียงเครียด
ส่วนซูเย่ที่ได้ยินแบบนั้น เขาก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว….!
[1] หนึ่งในช่วงเวลาตามการระบุของปฏิทินจีนโบราณ ซึ่งภายในหนึ่งปีจะแบ่งออกเป็น 24 ช่วง ช่วงเวลาหลี่ชุนถือเป็นช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นของฤดูใบไม้ผลิ และเป็นช่วงเวลาที่ชาวจีนโบราณให้ความสำคัญมาก ในอดีตถือเป็นวันทำพิธีบวงสรวงสวรรค์ เสี่ยงทายความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และจัดพิธีขอพรจากเทพเจ้าแห่งการเกษตร