เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 57 ฮาร์ดดิสที่ก้าวก่ายประวัติศาสตร์
บทที่ 57 ฮาร์ดดิสที่ก้าวก่ายประวัติศาสตร์
เขตมหาวิทยาลัย เมืองจี้หยาง
ด้วยการถกเถียงที่ร้อนแรงบนอินเทอร์เน็ต สถานการณ์จึงปะทุขึ้นอย่างสมบูรณ์
ในเวลานี้สื่อนับไม่ถ้วนแห่ติดตามมาถึงมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง
ที่หน้าประตูมหาวิทยาลัย มีนักข่าวที่ห้อยบัตรนักข่าว กำลังจะเดินเข้าไปในมหาวิทยาลัย
“กรุณาแสดงบัตรประจำตัวนักศึกษาของคุณ”
ยามหนุ่มเดินออกไปรั้งบุคคลนั้นแล้วเอ่ยขึ้น
“ผมเป็นนักข่าว นี่คือบัตรประจำตัวของผม”
นักข่าวยิ้มและแสดงบัตรประจำตัวที่แขวนอยู่ที่คอ
“ขออภัยครับ ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้แจ้งไว้ ดังนั้นผมจึงไม่สามารถให้คุณเข้าไปได้ หากคุณมีสัมภาษณ์ กรุณานัดหมายล่วงหน้า”
ยามปฏิเสธทันที
“ฉันเป็นนักข่าวและมีสิทธิ์สัมภาษณ์”
นักข่าวพูดอย่างไม่ยอมแพ้
“ขอโทษด้วยครับ ตอนนี้มหาวิทยาลัยเปิดเทอมแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาเข้าเรียน โปรดอย่ารบกวนเวลาในการเรียนการสอน และอีกอย่าง มหาวิทยาลัยของเรามีสิทธิ์ในการปฏิเสธการสัมภาษณ์”
ยามหน้าประตูปฏิเสธอีกครั้ง แล้วหันกายเดินเข้าไปในป้อมยาม ไม่สนใจนักข่าวอีก และไม่ได้เปิดประตูให้
แม่งเอ้ย ทำไมยังไม่ยอมเปิดอีกวะ!
ฉันไม่เคยเห็นยามที่หนักแน่นขนาดนี้มาก่อน ตอนนี้เขาเลยทำได้แค่ยืนเฝ้าที่หน้าประตูมหาวิทยาลัยเท่านั้น
ในเวลาเดียวกัน อาคารสำนักงานของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง ตึกคณบดี
“สวัสดีครับ”
หลี่เคอหมิงรับสายจากอธิการบดี
“เรื่องซูเย่เป็นมายังไง”
มีเสียงเอ่ยถามที่เปี่ยมไปด้วยความกังขาดังมาจากปลายสาย
“ผมกำลังสืบ แต่ผมแน่ใจว่าซูเย่ไม่ได้เป็นคนแบบนั้น เขาสามารถเรียนแพทย์แผนจีนถึงระดับนี้ได้ภายในครึ่งปี และเขาสามารถช่วยมหาวิทยาลัยของเราให้ชนะการแข่งขันแพทย์แผนจีนได้ ด้วยความสามารถในการเรียนรู้และความจำที่ดีเลิศเช่นนี้ วิทยานิพนธ์ง่ายๆ เขาจะเขียนไม่ได้เชียวหรือ แล้วเหตุใดเขาถึงต้องลอก”
หลี่เคอหมิงกล่าวทันที
“เป็นเช่นนั้น…” น้ำเสียงของอธิการบดีอ่อนลงเล็กน้อย “แม้ว่าซูเย่จะช่วยให้มหาวิทยาลัยของเราคว้าแชมป์ในการแข่งขันการแพทย์แผนจีน และเขาทำได้ดีมาก แต่เรื่องการลอกงานบนอินเทอร์เน็ตส่งผลกระทบอย่างมากและอาจส่งผลเสียต่อมหาวิทยาลัยของเรา เพียงแค่ความเชื่อที่คุณมีคงไม่เพียงพอ ยิ่งไปกว่านั้นเบื้องบนมีการออกคำสั่งขอให้มีการสอบสวนเรื่องนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน มิฉะนั้นรางวัลกองทุนพิเศษก็ยากที่จะแจกจ่าย หรือแม้แต่ถูกยกเลิก!”
“หนักขนาดนี้เลย?”
ใบหน้าของหลี่เคอหมิงเคร่งขรึมลง
เขาไม่ได้คาดหวังว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้
“คุณตระหนักดีถึงความสำคัญของเงินจำนวนนี้ที่มีต่อมหาวิทยาลัยของเรา ดังนั้น คุณต้องเริ่มสอบสวนเรื่องนี้ทันที แม้ว่าคุณจะไม่ให้คำอธิบายต่อสาธารณะ คุณก็ต้องให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลต่อเบื้องบน”
อธิการบดีเตือนอย่างจริงจัง
“ครับ แต่ยังไงผมก็เชื่อมั่นในตัวศิษย์น้องของผม”
หลี่เคอหมิงเอ่ยตอบ “อาจารย์ของผมก็เช่นกัน”
“นาย…”
ทันทีที่อธิการบดีได้ยินดังนั้น เขาก็หมดคำจะพูด
เขาแค่พูดกล่าวไม่กี่คำ ก็ยกปรมาจารย์ฮัวมาข่มกันแล้ว?
เห็นว่าเพิ่งประกาศข่าวไปเมื่อไม่กี่วัน?
จากลูกศิษย์กลายเป็นศิษย์น้อง!
“ฉันก็ไม่ได้ต้องการที่จะกดดันคุณ และไม่ต้องการที่จะกดดันซูเย่ แต่เรื่องนี้ได้รับคำสั่งลงมาแล้ว คุณต้องให้คำอธิบาย ฉันเชื่อว่าปรมาจารย์ฮัวกำลังรอคำอธิบายของซูเย่เช่นกัน”
อธิการบดีกล่าว
“ผมได้ติดต่อซูเย่แล้ว และอีกฝ่ายบอกขอเวลาหนึ่งวัน เขาจะแก้ปัญหาด้วยตัวเองก่อนที่พิธีรับศิษย์จะมาถึง”
หลี่เคอหมิงกล่าว
“งั้นก็รีบๆ เข้า มีเวลาแค่วันเดียว”
อธิการบดีตอบและวางสายไป
ขณะที่วางสาย หลี่เคอหมิงก็สูดหายใจเข้าลึกๆ และขมวดคิ้วอย่างเคร่งขรึมบนใบหน้าของเขา
……
ตี้ตู
หลี่มู่เสวี่ยที่เพิ่งกลับมามหาวิทยาลัยได้ไม่กี่วัน เดินออกจากประตูหลังของมหาวิทยาลัยโดยสวมหมวกและหน้ากากอนามัย เพื่อกำลังจะไปหาที่หลบข้างนอก
แต่ทันทีที่เธอเดินออกจากประตู หญิงสาวก็ถูกล้อมไปด้วยนักข่าวกลุ่มหนึ่งอย่างรวดเร็ว
“นักศึกษา คุณมาจากมหาวิทยาลัยแพทย์ตี้ตูหรือเปล่า”
“ขอสัมภาษณ์หน่อยได้มั้ยคะ”
“นักศึกษา คุณเคยได้ยินชื่อซูเย่ในมหาวิทยาลัยของคุณหรือไม่”
นักข่าวเริ่มตั้งคำถามทั้งๆ ที่ยังไม่เห็นรูปลักษณ์อย่างชัดเจน ตอนนี้มหาวิทยาลัยแพทย์ตี้ตูไม่อนุญาติให้เข้าไป จึงทำได้เพียงรอสัมภาษณ์นักศึกษาด้านนอกเท่านั้น
หลี่มู่เสวี่ยที่ถูกรายล้อมไปด้วยนักข่าวอย่างกะทันหัน เธอเดินไปข้างหน้าด้วยความตื่นตระหนกและพยายามหลบหนีจากฝูงชน แต่ทว่าหญิงสาวก็ไม่สามารถขยับเดินได้เลย
หลังจากไม่กี่ก้าว หมวกของเธอก็บิดเบี้ยว แม้แต่หน้ากากอนามัยบนใบหน้าของเธอก็ยังถูกกระชากออก ร่องรอยของความตื่นตระหนกปรากฏในดวงตาของหลี่มู่เสวี่ย หญิงสาวรีบจับหน้ากากอนามัยใส่ใหม่อีกครั้ง
แต่มันสายไปแล้ว
“หลี่มู่เสวี่ย?”
นักข่าวคนหนึ่งตะโกนขึ้นอย่างประหลาดใจ
หลี่มู่เสวี่ย??
ดวงตาของนักข่าวในที่เกิดเหตุพลันพลันสว่างวาบ
ดันได้เจอตัวหลักของเรื่องพอดี!
จากตอนแรกที่กลุ่มนักข่าวเริ่มล่าถอย พวกเขาก็เข้าไปรุมล้อมอีกครั้ง
“คุณคือนักศึกษาหลี่มู่เสวี่ย ฉันเคยเห็นรูปถ่ายของคุณบนอินเทอร์เน็ต สวัสดี ขอสัมภาษณ์คุณได้ไหม”
“คุณคือคนที่ซูเย่ลอกงานใช่ไหมครับ”
“ซูเย่ลอกงานคุณจริงหรือเปล่า”
นักข่าวทุกคนเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น
หลี่มู่เสวี่ยไม่กล้าตอบแม้แต่คำถามเดียว
เธอเอามือปิดหูด้วยความตื่นตระหนก ก้มศีรษะแล้วเดินไปข้างหน้า
แต่ว่าไม่ว่าจะจากไปอย่างไร เธอก็ถูกรายล้อมไปด้วยนักข่าวเสมอและไม่สามารถออกไปไหนได้เลย
“สวัสดี ซูเย่ลอกงานของคุณ จริงไหม?”
“คุณเป็นแฟนเก่าของซูเย่ ตอนนั้นซูเย่ลอกงานของคุณหรือเปล่า”
“ซูเย่ลอกงานของคุณหรือคุณใส่ร้ายซูเย่?”
หลี่มู่เสวี่ยที่รู้สึกประหม่า เมื่อได้ยินคำถามเมื่อครู่ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป และหญิงสาวก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของเธอได้อีก
“พวกคุณจะทำอะไร”
เธอเงยหน้าขึ้นอย่างกะทันหันและพูดอย่างโกรธเคือง “ประกาศการลงโทษของมหาวิทยาลัยถูกโพสต์บนอินเทอร์เน็ตแล้ว คุณอ่านไม่ออกเหรอ”
“คุณเป็นคนใส่ร้ายซูเย่ หรือว่าซูเย่ลอกงานของคุณ”
นักข่าวคนหนึ่งเอ่ยถามพลางจ้องเขม็งไปทางหลี่มู่เสวี่ย
“ก็ต้องเป็นซูเย่ลอกงานฉันสิ!”
หลี่มู่เสวี่ยเอ่ยขึ้นอย่างโมโห “ทำไมฉันจะต้องใส่ร้ายเขาด้วย ทางมหาวิทยาลัยได้สืบแน่ชัดแล้ว และได้ลงโทษซูเย่ไปแล้ว ซูเย่ถึงได้โดยไล่ออกไง เรื่องนี้จบไปแล้ว ที่ควรได้รับโทษก็ได้รับไปแล้ว และได้รับผลของการกระทำของเขาแล้ว เรื่องนี้จบแล้ว ทุกคนแยกย้ายไปใช้ชีวิตของตัวเองแล้ว พวกคุณจะขุดคุ้ยให้ได้อะไร?”
เมื่อพูดจบ เธอก็สะบัดหน้าเดินจากไปอย่างเกรี้ยวกราด
เมื่อได้คำตอบและวิดีโอที่ต้องการแล้ว นักข่าวจึงหยุดถามและปล่อยให้หลี่มู่เสวี่ยกลับเข้ามหาวิทยาลัย
วิดีโอสัมภาษณ์นี้ถูกโพสต์อย่างรวดเร็วบนเวยป๋อและแชร์ออกไปโดยสื่อต่างๆ มากมาย
คลื่นนับพันที่เกิดจากหินก้อนเดียว!
มันเหมือนกับพายุเฮอริเคนที่กวาดล้างทุกอย่าง
ภายใต้การตัดต่ออย่างระมัดระวังของนักข่าว
หลี่มู่เสวี่ยที่ดูโกรธเกรี้ยว ในวิดีโอนั้นเธอดูเหมือนผู้รับเคราะห์น่าสงสาร และบอกกับสื่อว่าเธอถูกซูเย่ขโมยงาน!
แววตาที่โกรธเคือง ประกอบกับใบหน้าที่งดงามนั้น ได้รับความสงสารจากชาวเน็ตนับไม่ถ้วนในทันที
บนเวยป๋อลุกเป็นไฟอีกครั้ง!
“สาวสวยขนาดนี้ ซูเย่ลงทำได้ลงคออีกเหรอ เดรัจฉานจริงๆ”
“น่าเสียดายจริงๆ สาวสวยขนาดนี้ถ้าเป็นแฟนฉันจะดีสักแค่ไหนหนอ”
“เรื่องนี้เป็นความจริงร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วสินะ”
“วิธีการของซูเย่ช่างทำให้คนหวาดกลัว ตั้งแต่วันนี้ไปฉันขอเลิกชอบเขา ไร้คุณธรรมจริยธรรม คนชั่วแบบนี้ ไม่คู่ควร!”
“ใบหน้าที่เสแสร้งของซูเย่ในที่สุดก็ถูกแฉหมดเปลือก นอกจากนี้เขายังทำเรื่องชั่วช้าอะไรไว้อีกบ้าง มีใครรู้ไหม”
“หมาป่าห่มหนังแกะเป็นแบบนี้นี่เอง”
ข้อกล่าวหานับไม่ถ้วนพุ่งโจมที่ไปที่ซูเย่
การปรากฏตัวของหลี่มู่เสวี่ย ดูเหมือนจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่บดขยี้แฟนๆ ของซูเย่ และทำให้แฟนๆ ของซูเย่ส่วนใหญ่หันหลังให้กับเขา
บนอินเทอร์เน็ตทุกคนต่างต่อต้านซูเย่
ซูเย่เห็นคลิปสัมภาษณ์
“ฮึ…”
ในคลิป หลี่มู่เสวี่ยพูดกับปากว่าเป็นเขาลอกงานของเธอ ซูเย่จึงอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อเห็นแบบนั้น
“ถ้าเธอไม่ออกมา ฉันก็จะปล่อยไป แต่ตอนนี้…”
“ใช้ความจริงมาพูดกันเถอะ”
ซูเย่ลุกขึ้นตรงไปที่โต๊ะ หยิบกุญแจเพื่อเปิดตู้หนังสือ หยิบกระเป๋าเป้ออกมา และหยิบฮาร์ดดิสก์ที่วางอยู่ในชั้นในของกระเป๋านักเรียนออกมา
ซูเย่ยังคงจำได้อย่างชัดเจนว่าเมื่อเกิดเรื่องลอกวิทยานิพนธ์ขึ้น ข้อมูลทั้งหมดที่เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ของเขาถูกลบโดยหลี่มู่เสวี่ย และเพื่อไม่ให้ทิ้งร่องรอยใดๆ เธอจึงได้ทำลายดิสก์คอมพิวเตอร์ให้อยู่ในสภาพที่แก้ไขไม่ได้
แม้แต่อีเมลที่เขาเคยส่งต้นฉบับงานให้เธอก็ถูกลบไป
หลักฐานทั้งหมดถูกทำลาย
ดังนั้น หลังจากถูกลงโทษ เขาจึงไม่พูดอะไรและเลือกที่จะลาออกเอง
เรื่องนี้ได้กลายเป็นความเจ็บปวดที่ไม่อาจลบล้างในใจของเขา
การทรยศของคนรัก การถูกแทงข้างหลัง ความเจ็บปวดที่แทบจะฉีกหัวใจเป็นชิ้นๆ …เขาไม่มีวันลืม!
ชายหนุ่มไม่สามารถเข้าใจได้จริงๆ หากตอนนี้หลี่มู่เสวี่ยขอเขาตรงๆ ด้วยความสัมพันธ์คนรักของพวกเขา ซูเย่ให้เธอได้อยู่แล้ว เพราะไม่ว่ายังไงก็สามารถเขียนใหม่ได้
ต่อให้เธอตีพิมพ์ไปแล้ว แล้วค่อยมาบอกเขาก็ได้ เขาก็ไม่ว่าอะไร
แต่ทำไมเธอถึงมองดูเขาส่งงานไปตีพิมพ์และถูกตราหน้าว่าลอกงาน?
ทำไมถึงเลือกทางที่ทำให้มีแผลที่เจ็บปวดที่สุด!
ทำไม?!
แต่เธอคงคาดไม่ถึงสินะ ว่าเขาจะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง!
มีชีวิตอยู่ตั้งแต่ 2,500 ปีที่แล้วจนถึงตอนนี้!
ครั้งเดียวที่เขาได้เข้าไปก้าวก่ายสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต ก็คือตอนก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้น เขาได้เอาข้อมูลทั้งหมดคัดลอกลงฮาร์ดดิสนี้!
“หลี่มู่เสวี่ย เธอคงคิดไม่ถึงสินะ”
ซูเย่หยิบฮาร์ดดิสก์ออกมาพลางยิ้มแผ่วเบา
“ควรจะปิดฉากลงเสียที”
ซูเย่สูดหายใจเข้าลึก แล้วใส่ฮาร์ดดิสก์ลงในกระเป๋า หลังจากนั้นก็ออกจากมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยางมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูง
เวลา 5 โมงเย็น เขาได้ปรากฏตัวขึ้นที่มหาวิทยาลัยแพทย์ตี้ตู
ซูเย่เงยหน้าขึ้น สายตาฉายแววเยาะเย้ยไปทางมหาวิทยาลัยแพทย์ตี้ตู
เมื่อเห็นซูเย่ นักข่าวที่กำลังนั่งยองๆ ที่ประตูมหาวิทยาลัยแพทย์ตี้ตูพลันตกตะลึง
พวกเขานั่งเฝ้าที่นี่เพื่อรอสัมภาษณ์นักศึกษาอีกสองสามคน
แต่คิดไม่ถึงว่าจะรอจนได้เจอซูเย่แบบนี้!
ทำไมซูเย่ถึงได้มาปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา!!
หลังจากชะงักงันไปชั่วครู่ นักข่าวทุกคนในที่เกิดเหตุต่างก็ตื่นเต้น
“นั่น ซูเย่”
“เขามาที่นี่ได้ไง”
“เขายังกล้าโผล่หน้ามาอีกเหรอ”
นักข่าววิ่งเข้าไปรุมล้อมชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว
พวกเขาต่างเห็นคลิปสัมภาษณ์หลี่มู่เสวี่ยในอินเทอร์เน็ตแล้ว
เมื่อซูเย่เห็นนักข่าว เขาก็หยุดฝีเท้าลงอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ได้หลบหลีก