เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 102 มาทำธุรกิจถึงสนามสอบเลยรึ
บทที่ 102 มาทำธุรกิจถึงสนามสอบเลยรึ
สองชั่วโมง คะแนนเต็ม?
เจ้าซูเย่เก่งขนาดนี้เลยเหรอ???
“อันดับสอบ หลี่เชี่ยนหยู 290 คะแนน”
……
“อันดับสิบ จ้าวชุนหวี่ 271 คะแนน”
…..
หลังจากฟังรายชื่อสามสิบสามคนที่ได้รับคัดเลือกจบ
ซูเย่ยิ้มออกมาเล็กน้อย
เขาได้ยินสองชื่อที่หลี่เคอหมิงพูดกับเขาก่อนหน้านี้
หลี่เชี่ยนหยู อัจฉริยะด้านแขนงสตรี นักศึกษาปริญญาโท
จ้าวชุนหวี่ อัจฉริยะแขนงบาดแผล นักศึกษาปริญญาโทเช่นกัน
ดูจากสถานการณ์ตอนนี้
หลี่เชี่ยนหยูมีความสามารถด้านแขนงผู้ใหญ่มากกว่าหน่อย แต่สองคนนี้ไม่ถนัดแค่วิชาใดวิชาหนึ่ง เช่นนั้นย่อมมีฝีมือที่ดีมากในขอบเขตที่ตัวเองถนัด
“นักศึกษาสามสิบสามคนนี้สามารถเข้าสอบคัดเลือกแขนงผู้ใหญ่หลังจากนี้ได้”
หลังจากอ่านรายชื่อเสร็จ หลินเจิ้นเฉียงก็พูดด้วยท่าทีจริงจัง “นี่เป็นการสอบคัดเลือกชั่วคราวเท่านั้น และคะแนนสอบในครั้งนี้ไม่รวมกับคะแนนสุดท้าย การสอบคัดเลือกแขนงผู้ใหญ่ด้วย การรักษาจะเริ่มในวันพรุ่งนี้ เราไม่เทียบวิชาแพทย์ เทียบเพียงผลการรักษา”
ทั้งสามสิบสามคนที่ได้รับคัดเลือกพยักหน้าพร้อมเพรียงกัน ล้วนแต่มั่นใจเต็มร้อย
ด้านสอบข้อเขียนพวกเขาสู้ซูเย่ไม่ได้จริง ๆ แต่ด้านรักษาจริงพวกเขาไม่คิดว่าตัวเองด้อยกว่าซูเย่ตรงไหน!
ไว้เราเจอกันตอนรักษาจริง!
“ดูท่า ทุกคนมั่นใจมากเลยจริง ๆ นะ”
เมื่อเห็นสีหน้ามั่นใจของทั้งสามสิบสามคน หลิวเจิ้นยิ้มอย่างพอใจพร้อมกล่าว “ถ้าอย่างนั้นเราพบกันพรุ่งนี้!”
สิ้นเสียง
“เดี๋ยวก่อนครับ”
จู่ ๆ ซูเย่ยืนขึ้น
หืม?
ทุกคนในที่นี้ต่างมองซูเย่ด้วยความฉงน
นายจะก่อเรื่องอะไรอีก
“นักศึกษาซูเย่ เธอมีอะไรเหรอ?” หลิวเจิ้นเฉียงถามอย่างสงสัย
ซูเย่ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ผมหวังว่าการสอบคัดเลือกด้วยการรักษาหนนี้จะใช้สมุนไพรจีนที่บริษัทกู่เต๋อผลิตครับ รวมถึงสมุนไพรจีนที่ต้องใช้ในการสอบคัดเลือกหลังจากนี้ ก็อยาก กให้ใช้สมุนไพรจีนที่บริษัทกู่เต๋อผลิตทั้งหมดครับ”
ทั้งหมดในที่นี้ขมวดคิ้ว
หลิวเจิ้นเฉียงที่ยืนอยู่บนเวทียิ่งมีสีหน้าย่ำแย่
นี่มันเวลาอะไร เจ้านี่คิดมาทำธุรกิจถึงสนามสอบเลยเหรอ!
หลิวเจิ้นเฉียงจ้องซูเย่และถาม
“ทำไม?”
“เพราะสมุนไพรจีนของเภสัชกรรมกู่เต๋อมีผลลัพธ์เป็นสิบเท่าของสมุนไพรจีนธรรมดาครับ” ซูเย่กล่าว
ว่ายังไงนะ!
ทุกคนชะงัก
“มีผลลัพธ์เป็นสิบเท่า? หมาเห่าใบตองแห้งน่ะสิ”
“ถึงแม้สมุนไพรจีนในปัจจุบันได้ผลดีไม่เท่าเมื่อก่อน แต่ทุกคนต่างอยู่ในสภาพแวดล้อมเดียวกัน ต่อให้จะขนาดไหนก็คงไม่ห่างชั้นกันถึงสิบเท่าหรอก”
ทุกคนพากันส่ายหัว พวกนักศึกษาไม่เชื่อ เหล่าคณบดีจากมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนยิ่งไม่เชื่อ
สมัยนี้หาสมุนไพรที่มีสรรพคุณดีได้ก็ไม่เลวแล้ว จะไปหาสมุนไพรที่ให้ผลลัพธ์เป็นสิบเท่าจากไหน
พอเห็นทุกคนไม่เชื่อ ซูเย่ยิ้ม และพูดต่อโดยไม่กลัวว่าใครจะตกใจตาย “ความจริงที่ผมเข้าสอบคัดเลือกหมอรู้แจ้งไม่ได้ใช้เวลาเฝ้าดูคนไข้ถึงเจ็ดวันครับ แต่แค่วันเดียวก็เห็นผลแล ล้ว”
วันเดียว?
นายโกงข้อสอบเหรอ?
ใช้เส้นสาย?
คนที่มีปฏิกิริยาใหญ่โตกลับเป็นคณบดีจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ และบรรดาอาจารย์ที่ติดตามมาด้วย รวมถึงเหล่าหมอรู้แจ้ง
ทั้งหมดขมวดคิ้วขณะจ้องมองซูเย่ สายตาอึมครึมสุด ๆ เต็มไปด้วยความแคลงใจ
พวกเขารู้จักขั้นตอนสอบหมอรู้แจ้งดียิ่งว่านักศึกษาที่นี่
ผ่านการสอบคัดเลือกในวันเดียวเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!
ทุกคนที่เข้าสอบคัดเลือกล้วนใช้เวลาเจ็ดวัน เพราะต้องใช้เวลาเจ็ดวันในการติดตามการฟื้นตัวของคนไข้ จะใช้แค่วันเดียวได้ยังไงกัน
“ที่ใช้เวลาแค่วันเดียวก็เพราะฤทธิ์ยาครับ”
ซูเย่มองสายตาคลางแคลงรอบ ๆ และรีบอธิบาย “ตอนนั้นผมใช้สมุนไพรจีนที่เภสัชกรรมกู่เต๋อผลิตครับ แต่ตำรับเดียวก็ได้ผลเทียบเท่ากับสิบตำรับ ถ้าพวกคุณไม่เชื่อติดต่อหัวหน้าสมาคมแพท ทย์แผนจีนมณฑลฉีตอนนี้เพื่อให้เขาเป็นพยานก็ได้ครับ”
“เรื่องนี้ฉันเป็นพยานได้”
สิ้นเสียงซูเย่ หลี่เคอหมิงก็ยืนหยัดออกมา
สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่หลี่เคอหมิงกันหมด
ความคลางแคลงในสายตายังคงเต็มเปี่ยม!
แม้ว่าหลี่เคอหมิงจะมีชื่อเสียง ไม่น่าจะโกหก แต่เรื่องที่ซูเย่พูดมันเหลือเชื่อเกินไปจริง ๆ!
“ฉันขอตรวจสอบก่อน”
หลิวเจิ้นเฉียงครุ่นคิด ก่อนจะหยิบมือถือออกมาโทรหาหัวหน้าสมาคมแพทย์แผนจีนมณฑลฉี
เปิดลำโพง ต่อหน้าทุกคน
ทั้งสถานที่เงียบลงในบัดดล
มีคนรับสาย
“สวัสดีครับหัวหน้าจู่ ผมเจิ้นเฉียงนะครับ ผมขอสอบถามอะไรคุณสักหน่อย”
“เจิ้นเฉียงเหรอ สวัสดีครับ มีอะไรงั้นเหรอ?”
“ผมได้ยินว่าซูเย่ใช้สมุนไพรจีนที่ผลิตโดยเภสัชกรรมกู่เต๋อตอนเข้าสอบคัดเลือกหมอรู้แจ้งที่สมาคมของคุณ เนื่องจากผลลัพธ์ของยาดี จึงใช้เวลาสอบเพียงวันเดียว”
ทุกคนในที่นี้หูตั้งกันหมด
“ใช่แล้ว ยานั่นไม่ได้ผลลัพธ์ดีธรรมดาเลยนะ พวกเราลองทดสอบดูหลังจากนั้น ยานั่นได้ผลเป็นอย่างน้อยสิบเท่าของยาธรรมดา และไม่มีสารตกค้างจากยาฆ่าแมลงและสารโลหะอย่างอื่นเกินม มาตรฐานจริง ๆ! ตอนนี้สมุนไพรของบริษัทกู่เต๋อเป็นตัวยาที่ทางสมาคมแพทย์แผนจีนมณฑลฉีแนะนำให้ใช้แล้ว”
ฟึ่บ!
สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่หน้าของซูเย่ด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ
เมื่อกี้นายพูดน้อยไปด้วยซ้ำ ไม่ใช่สิบเท่า แต่อย่างน้อยสิบเท่า!
“ขอบคุณหัวหน้าจู่ครับ เดี๋ยวไว้ผมไปมณฑลฉีแล้วจะเลี้ยงชาคุณ” หลิวเจิ้นเฉียงวางสาย
หันมองซูเย่อีกครั้ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความทึ่งที่ไม่อาจปกปิด เขาสูดหายใจเข้าลึก ข่มความตะลึงในใจและกล่าว
“หลังจากผ่านการตรวจสอบ สิ่งที่ซูเย่กล่าวมาคือความจริง และร่นระยะเวลาได้จริง เดิมทีการสอบแขนงผู้ใหญ่ใช้เวลาสามวัน สอบข้อเขียนใช้ไปแล้วหนึ่งวัน แต่เวลามีจำกัด เอาเป็นหลังจากน นี้เราจะใช้สมุนไพรจีนของกู่เต๋อ ทุกคนคิดเห็นยังไงบ้าง”
เมื่อได้ฟัง เหล่าคณบดีในที่นี้มองหน้ากัน
การที่ผลลัพธ์ยาดีช่วยกระบวนการสอบได้มาก!
ไม่จำเป็นต้องเสียเวลามากมายเพื่อตั้งใจติดตามอาการของคนไข้ กินยาแค่ตำรับเดียวจะดีจะเลวก็เห็นผลได้เลย
ประหยัดทั้งกำลังคนและกำลังทรัพย์รวมถึงเวลา
“ได้ครับ/ค่ะ”
“ไม่ว่าจะได้ผลลัพธ์เป็นสิบเท่าหรือไม่ ในเมื่อเป็นยาที่สมาคมแพทย์แผนจีนระดับมณฑลแนะนำ เราลองดูก็ไม่เสียหาย”
“ถ้าผลลัพธ์ยาดี มันก็ย่อมช่วยการสอบคัดเลือกในวันพรุ่งนี้ได้มากจริง ๆ”
“ก็ได้”
หลิวเจิ้นเฉียงพยักหน้า และเอ่ยขึ้น “เอาอย่างนี้ หลังจากใช้ยาไปแล้วหนึ่งวันก็จะเห็นผลลัพธ์ทันตา และแสดงถึงฝีมือการรักษาของทุกคนได้ไวขึ้น นอกจากจะประหยัดกำลังคนและกำลังทรัพ พย์แล้ว ยังประหยัดเวลาให้เราได้มาก”
พูดจบเขาหันมองซูเย่ “รบกวนเธอรีบส่งสมุนไพรจีนมาด้วยนะ พยายามขนมาเยอะ ๆ เลย ชนิดก็ต้องมากพอ ราคากันเองหน่อย”
“วางใจได้ครับ ไม่มีปัญหา ราคาเดียวกับสมุนไพรจีนประเภทอื่น”
หลิวเจิ้นเฉียงถึงพยักหน้าอย่างพอใจ
ซูเย่กลับยิ้ม
จุดประสงค์ที่เขาทำแบบนี้ง่ายมาก เพื่อฉวยโอกาสนี้โปรโมตเสียหน่อย
ณ ที่แห่งนี้ มีกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เก่งกาจที่สุดในวงการแพทย์แผนจีน และเป็นเสาหลักของวงการแพทย์แผนจีนในอนาคต
ขอเพียงพวกเขาและคณบดีจากมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนต่าง ๆ ยอมรับในสมุนไพรของเภสัชกรรมกู่เต๋อ
เช่นนั้นผลการโปรโมตก็จะแพร่ไปทั่วประเทศ และได้รับการยอมรับจากทั้งแวดวงแพทย์แผนจีนได้รวดเร็วขึ้น
สมุนไพรจีนล็อตที่สามจากดินแดนภูผามหานทีมาถึงแล้ว ครั้งนี้มีมูลค่าสามสิบล้านหยวน มีครบทุกชนิดของสมุนไพรจีน
เพียงพอให้ใช้กับการสอบคัดเลือกครั้งนี้
กระทั่งเขารู้สึกว่าท้ายที่สุดแล้วตอนการประลองระหว่างแพทย์แผนจีนชาวบ้านและมหาวิทยาลัย ก็ลองโปรโมตสมุนไพรจีนของกู่เต๋อได้เช่นกัน
คิดมาถึงตรงนี้ ซูเย่รีบเดินออกไปเพื่อโทรหาข่งอวี้โจว
นักศึกษาทุกคนมองซูเย่ด้วยสายตาอิจฉา
ถ้าผลิตสมุนไพรจีนที่มีผลลัพธ์ดีขนาดนี้ได้จริง ๆ เภสัชกรรมกู่เต๋อถึงคราวรุ่งโรจน์แน่!
ถึงตอนนั้นค่าตัวซูเย่คงทวีคูณ
เป็นนักศึกษาเหมือน ๆ กัน ดูเขาสิ…
เทียบไม่ได้เลย!
…..
วันรุ่งขึ้น
ภายใต้การจัดแจงของเหล่าคณบดี สามสิบสามคนที่เข้าร่วมคัดเลือกนั่งอยู่บนรถบัสที่ขับไปยังเมืองจงหยวนเป็นที่เรียบร้อย
รถบัสขับเข้าเขตเมือง และมุ่งตรงมาอยู่หน้าโรงพยาบาลกลางเมืองจงหยวน
ทว่า
รถไม่ได้แล่นเข้าไปในโรงพยาบาล
แต่จอดที่ข้างโรงพยาบาล
ทุกคนลงจากรถ เดินตามพวกหลิวเจิ้นเฉียงไป และมาถึงสนามของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจงหยวนที่อยู่ติดกับโรงพยาบาล
เวลานั้น
สมุนไพรทั้งหมดของเภสัชกรรมกู่เต๋อส่งมาถึงเรียบร้อย
ตรงสนาม
โต๊ะตรวจสามสิบสามตัวตั้งกระจายอยู่ทุกที่ และติดป้ายตรวจฟรีทั้งหมด
บนรถ
“นักศึกษา เป้าหมายในครั้งนี้คือมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนที่ใหญ่ที่สุดในโลก มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเมืองจงหยวน”
หลิวเจิ้นเฉียงบอกกับทุกคน “หลังจากนี้ ฉันจะประกาศกฎการสอบในครั้งนี้”
“พวกเธอต้องทำการรักษาแบบจิตอาสาเป็นเวลาสองวัน”
“วันแรกวินิจฉัย วันที่สองเฝ้าดู ปรับปรุง และดูอัตราการฟื้นฟู”
“ระหว่างที่เข้าร่วมการสอบคัดเลือก พวกเธอทุกคนมีผู้คุมสอบระดับหมอรู้แจ้งติดตัวหนึ่งคน ในระหว่างวินิจฉัยต้องให้ผู้คุมสอบตรวจดูก่อน เพื่อตัดสินความร้ายแรงของอาการป่วย แล้วจึง ให้พวกเธอวินิจฉัยและรักษาต่อ ส่วนเรื่องต้มยาพวกเธอไม่ต้องสนใจ มีคนที่ทำเรื่องพวกนี้โดยเฉพาะ คะแนนสุดท้ายตัดสินโดยผู้คุมสอบตามสถานการณ์ในวันที่สอง”
ทุกคนพยักหน้า
กฎข้อนี้สมเหตุสมผลมาก และยุติธรรมมาก
ทุกคนมีสีหน้ามั่นใจเต็มเปี่ยม
“ตอนนี้ลงจากรถได้ และไปหาโต๊ะตรวจของตัวเอง เริ่ม!”
หลิวเจิ้นเฉียงออกคำสั่ง
ทุกคนรีบลงจากรถและนั่งประจำที่ตัวเอง
เมื่อเห็นป้ายตรวจฟรี คนไข้มากมายที่เตรียมเข้าโรงพยาบาลต่างหยุดมอง คนไข้จำนวนหนึ่งรีบไปต่อแถวของโรงพยาบาล และให้ญาติอยู่รอดูสถานการณ์
ตอนแรก
ไม่มีคนไข้ในสนามเลยสักคน
นักศึกษาทั้งสามสิบสามคนกระอักกระอ่วนจนหันมองรอบ ๆ ไม่หยุด ไม่รู้จะทอดสายตาไปที่ไหน
เวลานั้น
ญาติคนไข้คนหนึ่งเดินเข้ามา
“ที่พวกคุณตรวจฟรีนี่เรื่องจริงหรือเรื่องหลอก” ญาติคนไข้ถามอย่างแปลกใจ
“จริงครับ”
หลิวเจิ้นเฉียงฝืนยิ้มและเดินเข้าไปอธิบาย “พวกเขาคือนักศึกษาสามสิบสามคนที่ฝีมือแพทย์เก่งกาจที่สุดที่ได้รับคัดเลือกจากมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนต่าง ๆ แต่ละคนระดับปริญญาโทกันทั้ งนั้นครับ”
“นักศึกษาหมดเลยเหรอ แล้วจะรักษาได้เหรอ” ญาติคนไข้ขมวดคิ้ว สงสัยนิดหน่อย
“ถึงแม้ว่าฝีมือแพทย์ของพวกเขาไม่ได้เก่งไปกว่าหมอในโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ด้อยไปกว่าหมอในโรงพยาบาลแน่นอนครับ และคนที่ยืนอยู่ข้างกายพวกเขาล้วนแต่เป็นหมอรู้แจ้งที่หาได้น้อยใน นประเทศ มีพวกเขาอยู่คนไข้สบายใจได้เต็มร้อยครับ”
หลิวเจิ้นเฉียงโปรโมตด้วยรอยยิ้ม
ญาติคนไข้ได้ฟังก็ตาเป็นประกายทันที
อีกด้าน เหล่าญาติคนไข้ที่กระเถิบเข้ามาฟังก็พากันขยับตัว รีบไปเรียกคนไข้ที่ต่อแถวรอรับคิวออกมา
ในไม่ช้า
เรื่องที่นักศึกษาสามสิบสามคนที่ได้รับเลือกจากมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนต่าง ๆ มารักษาให้ฟรีก็แพร่หลายในโถงต่อแถวของโรงพยาบาล
เวลานั้น หน้าจออิเล็กทรอนิกส์ของโถงต่อแถวโรงพยาบาลปรากฏตัวอักษรหนึ่งแถว
‘ยินดีต้อนรับทุกคนไปรักษาฟรีที่สนามด้านข้าง’
ด้านล่างเป็นการแนะนำสมาชิกที่มารักษาให้ฟรี
พอเห็นนักศึกษาปริญญาโทและปริญญาเอกเต็มหน้าจอ ทุกคนก็ตาเป็นประกาย
“มีซูเย่ด้วยเหรอ?”
มีคนไม่น้อยร้องเสียงหลงด้วยความดีใจ
จากนั้นพวกเขาก็พบว่าในสามสิบสามคนนี้ไม่ได้มีแค่ซูเย่ แต่ยังมีหมอรู้แจ้งฝีมือสูงมาคุมสถานการณ์ด้วย ที่สำคัญที่สุดคือรักษาฟรีโดยไม่คิดเงินแม้แต่ค่ายา
ชั่วขณะนั้น คนไข้มากมายพากันมาที่นี่
สนามที่ตอนแรกไม่มีใครสักคนก็มีฝูงชนทะลักเข้ามามากมายอย่างรวดเร็ว เหล่าคนไข้ที่มาถึงเห็นโต๊ะไหนคนน้อยก็ไปต่อโต๊ะนั้น ยังไงซะมีหมอรู้แจ้งคุมอยู่ ใครรักษาก็เหมือนกัน
เพียงแต่คนมาต่อแถวของซูเย่มีเยอะเป็นพิเศษก็เท่านั้น!