เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 118 ซูเย่นำชัยชนะแรกมาให้!
บทที่ 118 ซูเย่นำชัยชนะแรกมาให้!
เอ่อ?
ทุกคนในสนามแข่งตึงเครียด
เกิดอะไรขึ้น?
แค่แข่งขัน แล้วเขากระอักเลือดได้อย่างไร?
“หวูปิ้ง”
ผู้นำตระกูลเจิ้งหน้าเสีย รีบพุ่งเข้าไปพยุงเจิ้งหวูปิ้งทันที เอามือช่วยลูบหลังและเอ่ยถามออกมาว่า “เป็นอะไรมากไหม?”
“ผม…” เจิ้งหวูปิ้งกุมปากเอาไว้ สูดหายใจเข้าสองสามครั้ง ก่อนจะสะบัดมือและเงยหน้าขึ้นมากล่าว “ไม่เป็นไรครับ ผมทนไหว”
กล่าวจบ เขายืดหลังตรง สายตากลับมาเป็นเหมือนปกติ มองไปยังซูเย่และกล่าว “ถ้าอย่างนั้น มาสู้กันอีกสักรอบ!”
ซูเย่มองกลับไป ถอนหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามออกมาว่า “การฝังเข็มของตระกูลเจิ้งก็ทรงพลัง ทำไมถึงไม่รักษานายล่ะ?”
ผู้ชมทั้งหมดเองก็จ้องมองไปยังตระกูลเจิ้ง
ซูเย่เพียงเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัยภายในจิตใจ
ตระกูลเจิ้งเป็นตระกูลแพทย์แผนจีนพื้นบ้านอย่างแท้จริง ความสามารถในการฝังเข็มเองก็เป็นอันดับต้นของจีน แล้วทำไมพวกเขาจึงปล่อยให้ทายาทสุดแสนสำคัญ ต้องทนป่วยทนทรมานและไม่รัก กษาให้หาย
“รักษาไม่ได้” เจิ้งหวูปิ้งส่ายหัวพร้อมใบหน้าอันซีดเซียว “ฉันเป็นโรคนี้ตั้งแต่ออกมาจากครรภ์ของแม่ พ่อและผู้อาวุโสหลายท่านใช้พลังงานไปมากเพื่อการรักษาฉัน แต่ก็ไม่หาย”
ซูเย่ทำหน้านิ่ว “มีโรคอะไรที่รักษาไม่หายด้วย?”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแกด้วย?” เจิ้งหวูปิ้งส่ายหัวและกล่าวออกมาอย่างเฉียบขาด “จะถามไปทำไม ถ้าอยากจะแข่งใหม่ ก็เริ่มสักที!”
ซูเย่ครุ่นคิดอยู่อีกสักพัก ก่อนจะกล่าวออกมา “ถ้าฉันรักษาโรคของนายได้ล่ะ?”
หือ?
เจิ้งหวูปิ้งชะงักไปชั่วขณะ
รวมถึงผู้นำตระกูลเจิ้งและสมาชิกตระกูลทั้งหมดเองก็อึ้งไป
“มันเป็นไปไม่ได้!” ผู้นำตระกูลเจิ้งกล่าวขึ้นมาเสียงดัง “ไม่มีหนทางรักษาโรคนี้”
ซูเย่กล่าวออกมาต่อ “คุณยังไม่บอกเลยว่าเป็นโรคอะไร แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ารักษาได้หรือไม่?”
“หยางกำเนิดไม่สมบูรณ์” ผู้นำตระกูลเจิ้งสูดลมหายใจลึก ก่อนจะจ้องมองซูเย่ด้วยสายตาเยือกเย็นและเอ่ยถาม “เธอรักษาได้ไหม? มีใครบนโลกที่รักษาได้ไหม?”
หยางกำเนิดไม่สมบูรณ์?
ร่องรอยของความประหลาดใจและตกตะลึงปรากฏขึ้นในสายตาของทุกคน และจากนั้นพวกเขาจ้องมองไปยังเจิ้งหวูปิ้งด้วยสีหน้าเศร้าโศก
โรคนี้ไร้ซึ่งหนทางการรักษาอย่างแท้จริง
หยางกำเนิดจะคงสถานะเอาไว้ตั้งแต่ที่คลอดออกมา ไม่สามารถเพิ่มเติมเข้าไปได้
“พวกคุณรักษาไม่ได้ แต่ไม่ใช่ว่าผมจะรักษาไม่ได้เหมือนกัน” ซูเย่เผยอยิ้มเล็กน้อยและเอ่ยถาม “ถ้าผมรักษาได้ ให้ผมชนะการแข่งนี้เลยไหมครับ?”
เขารักษาได้หรือ?
ทุกคนในสนามแข่งตะลึงไป จ้องมองซูเย่อย่างประหลาดใจ
ก็รู้ดีว่าผู้คนที่อยู่ในสนามแข่ง ล้วนแต่เป็นผู้นำและผู้เชี่ยวชาญแนวหน้าในวงการแพทย์แผนจีน
ไม่ต้องพูดถึงสิบสามตระกูล แม้แต่ปรมาจารย์แพทย์แผนจีนแห่งชาติทั้งสอง และปรมาจารย์แพทย์แผนจีนพื้นบ้านอีกสองคน ซึ่งถูกเชิญให้มารับหน้าที่ตรวจสอบอาการของผู้ป่วยอาสา พวกเขาทั้งหม มดก็อดไม่ได้ที่จะแอบส่ายหัวกับตัวเอง
กล้าพูดออกมาได้อย่างไรว่าตัวเขาสามารถรักษาได้?
“เธอเนี่ยนะรักษาได้?” ผู้นำตระกูลเจิ้งเอ่ยถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ตาหรี่เล็ก
“ครับ” ซูเย่พยักหน้ายืนยัน
“เป็นไปไม่ได้หรอก!” เจิ้งหวูปิ้งเอ่ยออกมาอย่างไร้อารมณ์ “สิ่งที่หายไปตั้งแต่กำเนิด จะรักษาได้อย่างไร?”
แม้ว่าเขาจะไม่ปักใจเชื่อซูเย่ แต่ระหว่างที่เขาคุยด้วยกันนั้น ประกายความหวังก็ปรากฏออกมาจากสายตา
โรคร้ายนี้ทรมานเขามากว่ายี่สิบปี
ตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมา เขาเคยมีความหวังเล็ก ๆ อยู่ในใจเสมอ เชื่อมั่นมาตลอดว่าจะมีหนทางรักษา แต่เขาก็กลับไม่เคยพบมัน
ทว่าในตอนนี้ เขากลับได้ยินว่ามีคนรักษาให้เขาได้?
เป็นไปได้เหรอ?
เป็นไปได้จริงเหรอ?
เจิ้งหวูปิ้งจ้องมองซูเย่ตาเขม็ง สีหน้าของเขาแสดงออกถึงความรู้สึก ซึ่งแตกต่างมหันต์สองอย่างออกมาพร้อมกัน
ส่วนหนึ่งก็คือร่องรอยแห่งความหวัง และที่เหลือเป็นความหวาดระแวง!
“ก็แค่เพิ่มหยางเข้าไป” ซูเย่กล่าว
เพียงประโยคนี้ออกมา
ทั้งสนามแข่งก็เกิดความโกลาหลขึ้น
ไม่เพียงผู้คนฝั่งแพทย์แผนจีนพื้นบ้าน แต่รวมไปถึงกลุ่มคนจากฝั่งมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนด้วย ทุกคนล้วนจ้องมองซูเย่ด้วยความตกตะลึงอีกครั้ง
หยางกำเนิดสามารถเพิ่มเข้าไปได้?
มันจะเป็นไปได้อย่างไร?
หยางกำเนิดคืออะไร? มันคือแก่นแท้ของชีวิต!
ทั้งชีวิตของคนคนหนึ่งจะต้องใช้พลังงานจากหยางกำเนิด และหยางกำเนิดใช้พลังจากแสง ถึงจะทำให้มนุษย์มีชีวิตคงอยู่ได้จนตาย
หากมันเป็นสิ่งที่เพิ่มเติมได้ จะไม่ถือเป็นการต่ออายุหรอกหรือ?
ช่วยเติมหยางกำเนิดให้ชีวิตของคน?
มันเหนือธรรมชาติเกินไป!
เป็นไปไม่ได้
เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!
“นายเพิ่มหยางกำเนิดได้จริงหรือ?” เจิ้งหวูปิ้งเอ่ยถาม
ซูเย่ตอบด้วยความมั่นใจ “ใช่!”
“ก็ได้!” ร่างของเจิ้งหวูปิ้งสั่นเทา จ้องมองซูเย่ด้วยสีหน้าจริงจังและกล่าว “ถ้านายทำได้ ฉันถือว่านายชนะการแข่ง!”
“มา!”
ซูเย่นั่งลงที่โต๊ะ จะทำการรักษาเจิ้งหวูปิ้งเป็นคนไข้รายที่ห้าสิบเอ็ด
เจิ้งหวูปิ้งฝืนร่างเดินเข้าไปและนั่งลงตาม
ซูเย่ฝังเข็มลงไปทันทีโดยไม่พูดอะไร
ฝังลงไปบนจุดไป่ฮุ่ยโดยตรง!
จุดบริเวณหลังคอ ซึ่งถือเป็นจุดรวมประสาทนับร้อย
ผู้คนบางส่วนในสนามเข้าไปรวมตัวกันและเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด
สามารถเพิ่มหยางกำเนิดได้จริงเหรอ?
เจิ้งหวูปิ้งยังคงนั่งนิ่ง โดยมีผู้นำตระกูลเจิ้งยืนอยู่ด้านข้าง จับตาดูอย่างละเอียด
เข็มแรก ได้ชี่!
ผู้คนจากตระกูลเจิ้งพากันดูวิชาของซูเย่ ส่วนผู้นำตระกูลเจิ้งสะดุ้งเล็กน้อย
เหมือนกับก่อนหน้านี้
ซูเย่ยังคงทำให้ได้ชี่ภายในเข็มเดียว
ไม่เพียงแค่นั้น
เข็มของซูเย่ที่ฝังลงไปเอง ก็ไม่ลึกหรือตื้นเกินไป อยู่ในตำแหน่งอันสมควร
วิธีการเช่นนี้ ถือได้ว่ามีความสามารถระดับแนวหน้า ในศาสตร์แห่งการฝังเข็มอย่างแน่แท้
ชายหนุ่มอายุเพียงเท่านี้ กลับมีความสามารถระดับสูง หายากยิ่งนัก
ผู้นำตระกูลเจิ้งเลิกสนใจเข็มของซูเย่ รีบย้ายกลับไปสำรวจอาการของเจิ้งหวูปิ้ง
ร่างของเจิ้งหวูปิ้งสั่นเล็กน้อย
คิ้วที่เคยขมวดแน่น เริ่มผ่อนคลาย
เขาแอบรู้สึกแปลกใจอยู่ลึก ๆ
เนื่องจากจังหวะที่เข็มของซูเย่แตะลงไป เขาสัมผัสถึงสิ่งที่คล้ายแสงสว่างปรากฏขึ้นเหนือจุดไป่ฮุ่ย
เส้นแสงนั้นไหลเทลง อย่างกับว่ามาจากบนท้องฟ้า
จากนั้นส่องประกายอยู่เหนือสมอง สาดแสงออกมาทันที ปกคลุมไปทั่วหัวทั้งภายในและภายนอก
หลังจากสามสิบวินาที
แสงนั้นค่อย ๆ สาดส่องลงมายังกระดูกสันหลัง และไหลไปตามแนวกระดูกทั้งหมด
จนไปถึงส่วนล่างสุดของกระดูกสันหลัง ไหลย้อนไปยังจุดฝีเย็บ และตรงเข้าจุดตันเถียน
เมื่อเจิ้งหวูปิ้งคิดว่าแสงสว่างนั้นอยู่ในจุดตันเถียนและหยุดนิ่งไป
มันกลับแบ่งแยกออกเป็นสองส่วน!
พุ่งจากกระดูกเชิงกราน และกระจายออกไปตามน่องซ้ายและขวา
ไม่ว่าแสงจะผ่านจุดไหน ก็ทำให้เขาประหลาดใจทุกครั้ง เมื่อได้เห็นร่างกายส่องแสงออกมาส่วนแล้วส่วนเล่า ทั้งเข่า หน้าแข้ง ข้อเท้า ฝ่าเท้า ตลอดไปจนถึงนิ้วเท้าทั้งหมดล้วนส่องแสงออก กมา
จากนั้นแสงได้ย้อนกลับมาจากเส้นทางเดิมที่เคยไหลผ่าน เข้าคืนสู่จุดตันเถียน
ทว่ายังไม่จบเพียงเท่านั้น
เส้นแสงสว่างเดินทางต่อไปตามกระเพาะอาหาร ตรงขึ้นสะดือ หัวใจ ลำคอ กลางใบหน้า หว่างคิ้ว และจากนั้นก็ย้อนคืนสู่จุดไป่ฮุ่ยซึ่งอยู่กลางหลังหัว
เป็นเส้นทางแสนเรียบง่าย
ทั้งร่างของเจิ้งหวูปิ้งสั่นเทาเล็กน้อย เขารู้สึกอบอุ่นไปทั่วทั้งกาย อย่างกับเพิ่งเคยออกจากถ้ำมาอาบแสงอาทิตย์เป็นครั้งแรก ช่างสบายยิ่งนัก
ไม่นาน แสงก็สลัวไป
เมื่อเจิ้งหวูปิ้งตามหาแสงสว่างอีกครั้ง
ซูเย่จึงบิดเข็มเล็กน้อยอย่างเบาบางและอ่อนโยน
เหนือจุดไป่ฮุ่ยของเจิ้งหวูปิ้งเกิดแสงขึ้นมาอีกครั้ง
เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ ไหลเวียนไปอีกรอบหนึ่ง
เจิ้งหวูปิ้งยิ่งรู้สึกผ่อนคลายและสบายกว่าเดิม
ในขณะเดียวกัน ก็ได้เกิดความประหลาดใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พลางคิดว่า มันจะช่วยเติมหยางกำเนิดให้เขาได้จริงเหรอ? เขาจะหายเป็นปกติได้เหรอ?
“ปิดกั้นความรู้สึก!”
ซูเย่กล่าวบอกอย่างแผ่วเบา
เมื่อเจิ้งหวูปิ้งได้ยินคำพูดนั้น เขารีบละทิ้งสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นในใจ สงบสติอารมณ์และความรู้สึกลง อยู่อย่างสงบนิ่ง
แสงจางหายไป
ซูเย่จึงบิดเข็มอีกครั้ง
ด้านข้างนั้น ผู้นำตระกูลเจิ้งขมวดคิ้วเล็กน้อย
เขาจับตาดูซูเย่อยู่ตลอดเวลา เพราะเขาต้องการรู้ว่าซูเย่จะใช้วิธีการใดเพื่อรักษา
ไม่คาดคิดเลยว่า
ตั้งแต่แรกเริ่ม ซูเย่ทำแค่เพียงฝังเข็มลงไปบนจุดไป่ฮุ่ยของเจิ้งหวูปิ้ง
นอกจากนั้นก็ไม่มีการฝังเข็มลงไปยังจุดอื่น หรือการรักษาใดเพิ่มเติม
“ฝังเข็มลงไปบนจุดเดียวหรือ?”
แม้ว่าจุดไป่ฮุ่ยจะสำคัญมาก แต่ไม่ว่าจะอาการป่วยใด ก็ไม่สามารถรักษาได้ด้วยการฝังเข็มจุดเดียว
ซูเย่ต้องการทำอะไรกันแน่?
และถึงเขาจะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ผู้นำตระกูลเจิ้งก็ไม่กล้ารบกวนการรักษา เขาก็คอยสังเกตสีหน้าของเจิ้งหวูปิ้งตลอดการรักษาของซูเย่
เขาพบว่า
สีหน้าของเจิ้งหวูปิ้งดูดีขึ้นเล็กน้อย!
ก่อนหน้านี้ ใบหน้าของเขาซีดเซียวจากการกระอักเลือด ทว่าตอนนี้กลับดูมีเลือดไหลเวียนหลังจากรับการรักษาของซูเย่
แม้ว่าจะดูเชื่องช้า แต่ก็เห็นได้ว่ากำลังดำเนินไปในทิศทางที่ดี!
“ได้ผลจริงเหรอ?”
ร่างของผู้นำตระกูลเจิ้งสั่นไหวเล็กน้อย ความหวังปรากฏขึ้นในหัวใจ
ซูเย่บิดเข็มต่อไป
ทำซ้ำอยู่ถึงเก้าสิบเก้าครั้ง
การบิดทุกครั้งจะทำให้สีหน้าของเจิ้งหวูปิ้งดูมีเลือดไหลเวียนมากขึ้น
จนถึงครั้งที่เก้าสิบเก้า
สีหน้าของเจิ้งหวูปิ้งกลับมาดูเป็นเหมือนคนทั่วไป แถมยังดูแดงกว่าปกติด้วยเสียอีก!
“ตื่น!” ซูเย่ตะโกนออกมาหลังจากดึงเข็มออก
เจิ้งหวูปิ้งลืมตาตื่นขึ้นอย่างสะลึมสะลือ
“เสร็จแล้วเหรอ?” เขาเอ่ยถามขึ้นในขณะที่ลืมตาอย่างมึนงง
“เรียบร้อยแล้ว” ซูเย่พยักหน้าบอก
“เรียบร้อยแล้ว?”
สายตาของเจิ้งหวูปิ้งเบิกกว้าง เขาลงมือตรวจสอบอาการของตนโดยไม่พูดอะไรต่อ
หลังจากผ่านไปสักพัก
เจิ้งหวูปิ้งรีบลุกยืนขึ้นโดยพลัน แสดงสีหน้าแสนตื่นเต้น และกล่าว “หายดีแล้วจริงด้วย อาการทั้งหมดถูกรักษากลับมาเป็นปกติแล้ว!”
ผู้คนรอบข้างตกตะลึงไป
หายดีแล้ว?
“จริงหรือ?”
ผู้นำตระกูลเจิ้งพุ่งตัวเข้ามาหาด้วยความตกใจ รีบจับและตรวจสอบอาการของเจิ้งหวูปิ้งบ้าง
ผู้นำคนอื่นจากสิบสองตระกูลแพทย์แผนจีนพื้นบ้านเองก็เข้ามาหา ตรวจอาการของเจิ้งหวูปิ้งทีละคน แม้แต่ปรมาจารย์แพทย์แผนจีนแห่งชาติ และปรมาจารย์แพทย์แผนจีนพื้นบ้านทุกคน ก็อดไม ม่ได้ที่จะตรวจสอบด้วย
“หายดีเกิดคาดเลย!”
“หยางกำเนิดเพียงพอเหลือเฟือ ไม่เหลืออาการที่เคยมีก่อนหน้านี้แล้ว”
“สิ่งที่ขาดหายไปตั้งแต่เกิด ก็สามารถเพิ่มเติมได้จริงหรือนี่?”
พรึ่บ!
ทุกสายตาจดจ่อไปยังซูเย่โดยทันที
“เธอทำได้อย่างไร??”
“ฮ่าฮ่า!”
พอได้เห็นสีหน้าตกตะลึงของกลุ่มแพทย์แผนจีนพื้นบ้านและจากผู้ตัดสินทุกคนแล้ว หลิวเจิ้นเฉียงหัวเราะพร้อมเดินเข้ามาหา กล่าวขึ้นว่า “ยังไม่ต้องสนหรอกว่าทำได้อย่างไร ตอนนี้ ก การแข่งควรจะถือว่าจบลงแล้วใช่ไหม? ใครล่ะที่ชนะ?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของเหล่าผู้นำตระกูลก็นิ่งไป
“นายชนะ”
เจิ้งหวูปิ้งมองไปหาซูเย่ด้วยความซาบซึ้งและชื่นชม จากนั้นโค้งคำนับและกล่าวต่อ “ขอบคุณที่ช่วยรักษาฉัน”
ศาสตร์แห่งการฝังเข็ม ต้องเป็นซูเย่เท่านั้น!
ซูเย่ยิ้มกลับและประกบกำปั้นพร้อมกล่าว “การรักษาโรคและช่วยชีวิตผู้คน เป็นสิ่งที่ฉันต้องทำอยู่แล้ว”
“ถ้าเช่นนั้น ฉันขอประกาศ” หลี่เจิ้งต้าวกล่าว “ผู้ชนะในศาสตร์แห่งการฝังเข็มก็คือ ซูเย่จากมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง!”
เมื่อได้ยินคำนั้น ทางฝั่งสถาบันการศึกษาทั้งดีใจและรู้สึกโล่ง
หลังจากแพ้มาหกสาขารวด ในที่สุดฝั่งพวกเขาก็ชนะครั้งแรก!
ก็แค่ชนะศาสตร์เดียว
ผู้คนจากทางฝั่งสิบสามตระกูลแพทย์แผนจีนพื้นบ้านยิ้มเยาะ
รีบดีใจไปทำไม
แม้ว่าจะแพ้ไปหนึ่งอย่าง แต่ก็ยังมีอีกหกสาขาที่เหลือ ตราบใดที่สามารถชนะได้อีกเพียงศาสตร์เดียว ก็จะถือว่าได้ชัยขนะไปในทันที
“การแข่งขันของวันนี้จบลงแล้ว การแข่งขันในวันพรุ่งนี้คือ ศาสตร์แห่งการนวดกดจุด”
หลี่เจิ้งต้าวประกาศต่อไปว่า “ขอให้ผู้เข้าแข่งขันในวันพรุ่งนี้เตรียมตัวให้พร้อมด้วย เพื่อที่จะได้มีสภาพร่างกายสมบูรณ์ที่สุดสำหรับการแข่งขัน”
ทั้งสองฝั่งพยักหน้า
“แม้ว่าจะเพิ่งชนะได้แค่ศาสตร์เดียว แต่ตราบใดที่เธอชนะต่อไป พวกเราก็จะยังคงมีโอกาส”
หลิวเจิ้นเฉียงกล่าวกับซูเย่โดยที่มีผู้คนจากทางสถาบันรายล้อมอยู่ “พรุ่งนี้ก็จะต้องชนะให้ได้!”
“ได้ครับ” ซูเย่ยิ้มออกมาและพยักหน้า
“เฮอะ เพิ่งชนะได้อย่างเดียว”
เสียงเย้ยหยันดังขึ้นมา
หันตามเสียงกลับไป
พบว่าเป็นชายหนุ่มผมยาว อย่างกับหลุดออกมาจากภาพศิลปะ โดยที่เขาเป็นตัวแทนจากตระกูลเว่ยแห่งแพทย์แผนจีนพื้นบ้าน ใบหน้ามีรอยยิ้มอันเต็มไปด้วยความดูถูก กล่าวบอกกับทุกคนในฝั่ งสถาบันว่า “อย่าตื่นเต้นสนุกสนานกันมากเกินไป เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะสอนว่าร้องไห้ทำอย่างไร”
อีกฝั่งหนึ่ง
ผู้คนจากทางสถาบันเองก็พากันหัวเราะ
“อย่าเพิ่งพูดมากเลย ในศาสตร์แห่งการนวดน่ะ เธอไม่รู้หรอกว่าซูเย่แข็งแกร่งขนาดไหน!” หลิวเจิ้นเฉียงสวนกลับด้วยรอยยิ้ม
ได้ยินเช่นนั้น
สายตาของทุกคนในกลุ่มแพทย์แผนจีนพื้นบ้านก็จับจ้องและหรี่เล็กลง
สีหน้าของผู้คนฝั่งมหาวิทยาลัยดูมั่นใจในตัวของซูเย่เป็นอย่างมาก
ไม่ใช่การสรรเสริญยกยอเฉย ๆ
เรียกได้ว่าเป็นความเชื่อมั่นสุดหัวใจ
มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาก่อน?
ความสามารถของซูเย่ในด้านการนวดกดจุด แข็งแกร่งถึงขนาดนั้นเลยหรือ?