เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 13 หยกปราณก้อนโตอยู่ในมือแล้ว!
บทที่ 13 หยกปราณก้อนโตอยู่ในมือแล้ว!
“รวมพล! อย่าแตกหมู่!”
โมหลี่ตะโกนออกคำสั่ง
“พรึ่บ!”
อีแร้งโลหิตไม่ให้โอกาสตั้งตัว แผ่ปีกออกกว้างก่อนจะสะบัดเข้าหากันดูแหลมคมดุจดั่งเข็ม พุ่งฝ่าอากาศเข้าหากลุ่มคน
มันมีความเร็วเกินกว่าจะหลบได้!
ทุกคนแสดงสีหน้าตกใจ!
ด้วยความเร็วและกำลังของอีแร้งโลหิต ถ้าหากมันพุ่งไปถึงฝูงชน คงได้กลายเป็นหายนะแน่นอน
นี่ไม่ใช่ Fantasy Dream ทุกคนในโลกนี้มีเพียงชีวิตเดียว!
“เร็ว……” โมหลี่อุทาน
ยังไม่ทันสิ้นสุดคำพูด อีแร้งโลหิตได้พุ่งทะยานมาเกือบจะถึงกลุ่มของเขาแล้ว
โมหลี่หยุดคำพูดและเอาตัวเข้าขวางอีแร้งโลหิตไว้
ทว่าก่อนที่จะถึงตัวของเขา อีแร้งหักหลบและมุ่งหน้าไปยังฝูงชนในทิศทางอื่นทันที
“แย่แล้ว!”
สีหน้าของโมหลี่เต็มไปด้วยความตกตะลึง เขากลัวเข้าไปถึงหัวใจ
ต้องมีคนตายแน่!
เขาพยายามจะไปขวางไว้อีกรอบ
ทว่าความเร็วของเขาเทียบกับอีแร้งโลหิตไม่ได้
ในเวลานั้นเอง
“ชิ้ง!”
เสียงของดาบดังขึ้น
ซูเย่ที่อยู่ท่ามกลางฝูงชนจ้องมองไปยังอีแร้งโลหิตอย่างเย็นชา กระตุ้นพลังปราณในร่างออกมาภายนอกโดยตรง กลายเป็นรูปร่างดาบ
“ฟิ้ว!”
ดาบปราณพุ่งลอยออกไปในอากาศ เสมือนกระสุนปืนพุ่งออกจากลำกล้อง ชนเข้ากับร่างของอีแร้งโลหิตจากด้านหน้า
ฉัวะ!
เกิดเป็นเสียงเพียงเบา ๆ
จากการปะทะกันของทั้งสอง ดาบของซูเย่ดูเหมือนระเบิดหายไป แต่อันที่จริงมันกลับเจาะทะลุหัวของอีแร้งโลหิต เข้าไปยังลำตัวและระเบิดร่างนั้นออก
ในชั่วพริบตา
อีแร้งโลหิตระดับ 44 ระเบิดกลางอากาศกลายเป็นกลุ่มละอองเลือดลอยอยู่
ภายในดาบเดียว?
ทุกคนที่ได้เห็นต่างอ้าปากค้าง
นี่มันสัตว์ประหลาดระดับ 44 เชียวนะ!
พวกเขาเคยเห็นเจ้าตัวนี้ใน Fantasy Dream มาก่อน มันเป็นสัตว์ประหลาดที่มีความสามารถโจมตีอย่างรวดเร็วและพลังป้องกันสูง โดยทั่วไปแล้วผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ลงไปไม่สามารถเจาะทะลุการป้องกันของมันได้
ในครั้งนั้น พวกเขาสังเวยชีวิตแล้วชีวิตเล่าเพื่อจัดการมัน
ทว่าในครั้งนี้ใช้เพียงดาบเล่มเดียวของซูเย่?
ทรงพลังอะไรเช่นนี้?
ทุกคนจับจ้องไปที่ซูเย่อย่างไม่เชื่อสายตา ทว่าชายหนุ่มกลับยังคงทำตัวตามปกติ
ทันใดนั้นพวกเขาก็คิดได้ว่า ชายผู้นี้เคยจัดการผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ระดับห้ามาก่อน!
เมื่อได้ยินเรื่องนั้น ตอนแรกพวกเขาก็ไม่อยากจะเชื่อ
แต่ตอนนี้พวกเขาเชื่อสนิทใจ
พอได้เห็นทุกคนทำสีหน้าตื่นตกใจ ซูชือและคนอื่น ๆ ต่างหัวเราะคิกคัก
เพิ่งจะรู้เหรอว่าลูกพี่ซูแข็งแกร่งแค่ไหน?
เขายังแกร่งได้มากกว่านี้อีก!
ซูเย่เดินเข้าไปและหยิบคริสตัลปราณออกจากอีแร้งโลหิตโดยตรง
“ดาบพลังปราณเหรอ?”
เป็นสิ่งที่โมหลี่ประหลาดใจที่สุด เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่อยากเชื่อ
นั่นเป็นดาบพลังปราณที่มีเพียงผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ขึ้นไปสามารถใช้ได้ ซูเย่สามารถใช้ได้จริงเหรอ?
ไม่ใช่ว่าเขาแค่ขั้นสามระดับห้าเหรอ?
เขาสามารถสร้างดาบจากปราณได้อย่างไร?
โมหลี่ตกตะลึงไปกับสิ่งที่ซูเย่แสดงให้เห็นโดยสมบูรณ์
หมอนี่สุดยอดไปเลย!
“สถานการณ์คลี่คลายแล้ว”
หลังจากฟื้นฟูจากความสะเทือนใจหลาย ๆ อย่างแล้ว โมหลี่จ้องมองซูเย่อยู่พักใหญ่ ก่อนจะตะโกนกล่าว “แยกย้ายกันได้ตามสบาย จะดีที่สุดหากจัดเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 30 คน ถ้าหากเจอสัตว์ประหลาดมากกว่าสองตัวเมื่อไรให้เรียกขอความช่วยเหลือทันที”
“ย้ำอีกครั้ง ไม่อนุญาตให้ออกจากเขตระดับ 41 ทั้งหมดนี้ล้วนเพื่อชีวิตของพวกคุณเอง”
“ตราบใดที่สามารถรักษาชีวิตและดูแลความปลอดภัยของตัวเองไว้ได้ ก็ทำตามใจชอบได้เลย!”
สิ้นสุดคำสั่ง
ฝูงชนชูมือและตะโกนเสียงดัง
ในที่สุดก็สามารถแยกย้ายได้อย่างอิสระ
แม้ว่าเพิ่งจะพบกับวิกฤตใหญ่มา แต่ความตื่นเต้นที่จะได้สำรวจพื้นที่ที่ไม่รู้จักและขุมสมบัติที่รอคอยอยู่ ทำให้ทุกคนล้วนรอคอยช่วงเวลานี้
ไร้ซึ่งความลังเล ผู้คนเริ่มจับกลุ่มกันอย่างรวดเร็ว
ซูเย่และเหล่าพี่น้องเองก็รวมตัวกัน ปรึกษาถึงวิธีการแบ่งกลุ่ม
“พวกเรา แบ่งกันเป็นสองกลุ่ม” ซูเย่แนะนำ
ในไม่ช้าพวกเขาก็จัดเป็นสองกลุ่มเรียบร้อย
ซูเย่กับเฉินเซียนเยว่ และซูชือกับจินฟานนำทีม
แบ่งกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว
ทุกคนเริ่มการสำรวจ
ซูเย่เดินตามทั้งสองกลุ่มและเริ่มสำรวจพื้นที่ระดับ 41 ตามฝูงชนไป
“นาสาสวรรค์ ทำงาน!”
ซูเย่เปิดใช้งานนาสาสวรรค์อย่างลับ ๆ
เขาต้องการตรวจสอบว่า เขาสามารถใช้โอกาสนี้ในการค้นหาหยกปราณจากพื้นที่ระดับ 41 ได้หรือไม่
ทันทีที่นาสาสวรรค์ทำงาน ซูเย่รับรู้ได้ถึงพลังปราณรุนแรง
ดวงตาของเขาเป็นประกาย
“พลังห่าวหรานนี่ดีจริง ๆ”
ซูเย่ถอนใจ หากเขาไม่มีพลังนาสาสวรรค์ การค้นพบหยกปราณด้วยตัวเองเป็นเรื่องยากมาก
เขารีบมุ่งหน้าสู่ทิศทางที่เขาได้กลิ่น ในไม่ช้าชายหนุ่มก็ได้พบกับภูเขาและป่าที่มีหญ้าปราณเติบโตอย่างสวยงาม
“หญ้าปราณเองก็ดีนะเนี่ย”
ไร้ซึ่งความลังเล ซูเย่เด็ดมาและกินเข้าไปโดยตรง
กินเข้าไปเท่าที่ไหว เพราะ 60% จะต้องถูกหักเข้าส่วนกลาง
เพื่อนร่วมทีมที่สำรวจอยู่รอบ ๆ ต่างสนใจในการกระทำของซูเย่เมื่อครู่นี้ พอได้เห็นว่าเขาทำอะไร
ทุกคนก็ตาลุกวาว!
แน่นอน!
ทรัพยากรทุกอย่างจะต้องถูกหัก 60% เข้าส่วนกลาง แต่ไม่ได้มีข้อกำหนดว่าเริ่มนับตั้งแต่พบ กลับกัน การคำนวณปริมาณทรัพยากรจะเริ่มนับตอนพวกเขากลับ
ดังนั้น กินเท่าที่กินไหว ดูดซึมเท่าที่ดูดซึมได้!
เป็นวิธีการเดียวที่จะได้รับผลประโยชน์เต็มที่
พอคิดได้แบบนี้แล้ว
ทุกคนต่างถอนใจเบา ๆ ลูกพี่ซูทำตัวสมเป็นเขาจริง ๆ
ได้เรียนรู้ความชั่วร้ายมาจากเขาอีกแล้ว ไม่สิ เขาเรียกว่าความมีไหวพริบ!
พื้นที่สำรวจระดับ 41 นั้นมีขนาดใหญ่มาก หลังจากเคลื่อนไปรอบ ๆ แล้ว ทุกคนเริ่มจัดการสัตว์ประหลาดและเก็บเกี่ยวทรัพยากร ทว่าซูเย่ไม่ได้เข้าไปข้องเกี่ยว เขายังค้นหาต่อไป
หลังจากค้นหารอบพื้นที่กลุ่มของเขาในระยะ 10 กิโลเมตรแล้ว
ซูเย่ตั้งเป้าหมายไปยังพื้นที่สำรวจระดับ 42
ไม่มีสิ่งอื่นหลงเหลือในแถบนี้แล้ว พื้นที่ถูกแบ่งจับจองโดยกลุ่มอื่น ๆ หรือกระทั่งกลุ่มจากเมืองอื่น หากเขาต้องการบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ เขาต้องไปยังพื้นที่ระดับสูงกว่า
ซูเย่มองไปรอบกาย ทุกคนยังคงทำการสำรวจอยู่
เขาเริ่มออกเดิน
ชายหนุ่มย่องไปใกล้เขตพื้นที่สำรวจระดับ 42 ตรวจสอบด้วยนาสาสวรรค์และเขาก็พบได้ทันที
เขาได้กลิ่นหยกปราณ!
ทว่าขณะที่เขาจะก้าวเข้าไปนั้น เขาพบว่าโมหลี่อยู่ห่างไปไม่ไกลนัก กำลังจ้องมาทางนี้อย่างระแวดระวัง
ฮ่าฮ่า เขารู้ดีว่าต้องมีคนไม่ยอมอยู่กับที่!
ซูเย่ชักเท้ากลับมา เดินเข้าไปหาโมหลี่พร้อมรอยยิ้ม
“ผมขอเข้าไปสำรวจในพื้นที่ระดับ 42 ครับ” ซูเย่เอ่ยขอตรงไปตรงมา
“ไม่ได้!” โมหลี่ปฏิเสธทันที
“ผมเพิ่งกำจัดอีแร้งโลหิตระดับ 44 ด้วยดาบเดียวนะครับ”
“……”
“แล้วผมก็ชนะผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ระดับห้าต่อหน้าคนจำนวนมากมาแล้ว”
“……”
“ผมแค่ขอไปเดินเล่นในพื้นที่สำรวจระดับ 42”
“ไปซะ!” โมหลี่หันหลังกลับด้วยใบหน้าคร่ำเครียด
เก่งเป็นบ้าเลย!
แต่อย่างไรเขาก็ต้องย้ำเตือน จึงหันกลับไปหาซูเย่และกล่าว
“อย่าลืมกฎของการสำรวจด้วยล่ะ ชีวิตสำคัญที่สุด!”
“วางใจได้เลยครับ” ซูเย่ยิ้มตอบ
เขาเดินเข้าสู่พื้นที่สำรวจระดับ 42
เหล่าพี่น้องที่อยู่ห่างไปต่างจ้องมองซูเย่ด้วยความอิจฉา ยังไงลูกพี่ก็คือลูกพี่ เจ๋งชะมัด!
หากพวกเขาแข็งแกร่งกว่านี้ พวกเขาเองก็คงสามารถเข้าไปสนุกในพื้นที่สำรวจระดับ 42 ได้!
โห ได้คบทั้งสาวสวย แล้วยังได้สิทธิพิเศษเข้าไปเขตระดับ 42 คนเดียว
ชีวิตของผู้ชนะชัด ๆ!
ภายใต้สายตาอิจฉาริษยาจากทุกคน ซูเย่ได้เข้าสู่พื้นที่สำรวจระดับ 42 เต็มตัวแล้ว
ทันใดนั้น สัตว์ประหลาดที่ปกคลุมด้วยเกล็ดเหล็กกล้าสีดำได้โผล่ทะลุพื้นดินขึ้นมาโจมตีทันที
“ฉับ!”
ซูเย่ยกดาบในมือขึ้นและลง มันถูกฆ่าตายภายในดาบเดียว
จากนั้น เขาเร่งฝีเท้าและพุ่งตรงไปในทิศทางที่ได้กลิ่นหยกปราณ
เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า ทุกคนต่างอิจฉายิ่งขึ้น
“นี่มันเจ๋งเกินไปแล้ว”
“รวดเร็วและรุนแรง ดุจดั่งยอดนักดาบ!”
“นี่แหละชีวิตที่ใฝ่หา นี่แหละยุทธวิชาที่ใฝ่ฝัน”
“เมื่อไรจะเท่ได้แบบเขาบ้างนะ?”
คำยกย่องและคำกล่าวอิจฉาดังสลับกันดังขึ้นมาไม่หยุดหย่อน
ในฐานะสมาชิกพรรคถูโช่วจย้าเทียน เหล่าพี่น้องภูมิใจในตัวลูกพี่เป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้พวกเขารู้ตัวว่าควรพยายามมากขึ้นเพื่อที่จะได้ไม่ถูกทิ้งห่างโดยซูเย่ไปมากกว่านี้
“เลิกมองได้แล้ว!”
พอได้เห็นว่าทุกคนต่างจ้องไปที่ซูเย่ไม่เป็นอันทำอะไร ซูชือจึงตะโกนออกมา “รีบคว้าโอกาสฝึกฝนไว้ พวกเรามีเวลาแค่ 3 วัน จะปล่อยให้เสียเปล่าไม่ได้!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกเขาจึงรีบลงมือทันที
ถึงแม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรให้เก็บเกี่ยวในพื้นที่สำรวจระดับ 41 แต่ยังคงมีสัตว์ประหลาด!
ทุกครั้งที่ฆ่าสัตว์ประหลาดจะได้รับคริสตัลปราณ ซึ่งสามารถนำไปแลกเป็นหยกปราณได้ เป็นแหล่งสำหรับสิ่งที่ใช้ในการฝึกตน ส่วนขน เขี้ยวและเล็บของสัตว์ประหลาดเองก็สามารถใช้แลกเปลี่ยนได้เช่นกัน
เพื่อก้าวข้ามลูกพี่ซูให้ได้!
……
ซูเย่ยังคงรีบมุ่งหน้าเข้าไปยังส่วนลึกของพื้นที่สำรวจระดับ 42
ยิ่งลึกเท่าไร สัตว์ประหลาดก็ยิ่งเยอะเท่านั้น
เมื่อเข้าไปยังจุดลึกสุดได้
สัตว์ประหลาดระดับ 42 ล้อมรอบเขาทั่วทุกทาง
“โดนล้อมยิ่งดีเลย จัดการง่ายขึ้นไปอีก”
“หนึ่งคมดาบปราบสิบสี่รัฐ”
ต่อหน้าฝูงสัตว์ประหลาด ซูเย่ร่ายกระบวนดาบแรกออกมา
พลังปราณระเบิดออกมาจากร่าง ไหลเวียนตามการฟาดฟันของมือขวา
ดาบพลังปราณอันแหลมยาวสร้างเส้นแสงสีเงินตัดอากาศขึ้นมาดุจดั่งทางช้างเผือก
ตำแหน่งใดที่เส้นแสงเคลื่อนผ่านล้วนปลิดชีพสัตว์ประหลาดจนสิ้น
เพียงดาบเดียวก็กำราบศัตรูได้จากทุกทิศ!
“ไม่เลว!”
ซูเย่พยักหน้าพึงพอใจเมื่อได้เห็นสัตว์ประหลาดฝูงใหญ่ถูกจัดการด้วยดาบของเขา “ในที่สุดก็สามารถใช้พลังครึ่งหนึ่งของกระบวนดาบแรกสำเร็จ”
กล่าวเสร็จเขาจึงรีบเก็บคริสตัลปราณด้วยมืออย่างรวดเร็ว
จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังทิศทางของหยกปราณต่อ
ในไม่ช้า ซูเย่ได้พบกับหินก้อนใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ในป่า
“ข้างใน?”
ซูเย่ตรวจสอบกลิ่นอย่างละเอียดจึงพบว่าพลังปราณของหยกนั้นออกมาจากก้อนหินจริง ๆ
เขาใจเต้นแรง ซูเย่กำมือแน่นและทุบลงไป
“ปัง!”
ก้อนหินใหญ่แตกสลาย
ปรากฏเป็นแสงสว่างส่องออกมาจากซากหิน
เมื่อมองอย่างละเอียดแล้วจึงเห็นเป็นหยกปราณ
หยกปราณก้อนโต!
“ขนาดของมัน” ซูเย่รีบหยิบหยกปราณทั้งก้อนขึ้นมาและคำนวณอย่างรวดเร็ว จากนั้นกล่าวออกมาอย่างเบิกบาน “เทียบเท่ากับหยกปราณธรรมดา 50 ก้อนเลย!”
ถึงแม้จะยังห่างไกลจากเป้าหมายที่เขาต้องการ แต่ก็ถือว่ามีความคืบหน้าที่ดี
เพราะอย่างไรการสำรวจก็เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น!
เขาเก็บหยกปราณลงไปในกระเป๋าแล้วเริ่มค้นหาต่อ
แต่หลังจากค้นหาไปได้สักพักหนึ่ง กลับไม่พบสิ่งใดเลย
“เหมือนจะต้องเข้าไปลึกกว่านี้”
ซูเย่จ้องมองเข้าไป พื้นที่ระดับสี่นั้นกว้างใหญ่เกินไป
“เฉิงหวง!” ซูเย่ตะโกนออกมา
ทันใดนั้นจึงปรากฏเป็นกลุ่มหมอกขึ้น
เฉิงหวงที่ไม่ได้พบซูเย่เป็นเวลานาน เดินออกมาจากหมอกเข้าหาซูเย่พร้อมใช้หัวของมันเข้าไปคลอเคลีย
“ไปสำรวจด้วยกันเถอะ”
ซูเย่ยิ้มพร้อมกับขึ้นขี่เฉิงหวง