เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 133 เซ็นสัญญากับตระกูลเว่ยและตระกูลหลี่! - novel-lucky

บทที่ 133 เซ็นสัญญากับตระกูลเว่ยและตระกูลหลี่!

หลังการจากไปของตระกูลแพทย์แผนจีนพื้นบ้าน

ซูเย่ถูกฝูงชนโยนขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง

“ทำได้ดีมาก!”

หลิวเจิ้นเฉียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ จับไหล่ของซูเย่และกล่าว “คนอื่นก็เก่งนะ แต่เธอน่ะเป็นนักศึกษาที่เก่งที่สุดจากบรรดามหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนของพวกเราเลย!”

“ตัดสินจากผลการแข่งขัน ตัวแทนคนอื่นยังทำได้ไม่ดีพอ ต่อไปฉันจะขอให้คณบดีแต่ละมหาวิทยาลัยเพิ่มความเข้มงวดในการเรียนการสอน เพื่อให้นักศึกษาพัฒนาไปได้ด้วยดีที่สุด และก้าวหน้าไปด้วยกัน เพื่ออนาคตของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนทั้งสามสิบสามแห่ง!”

หลี่เชี่ยนหยวีและนักศึกษาคนอื่น ๆ พยักหน้ากันอย่างมุ่งมั่น

ในมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีน ความสามารถของพวกเขาถือว่าเป็นที่สุด เป็นบุคคลที่รุ่นน้องยกย่องและชื่นชม

ทว่าหลังจากการแข่งขัน

พวกเขากลับได้พบว่าความสามารถเพียงแค่นี้ ไม่ควรค่าพอที่จะให้กล่าวถึง

โดยเฉพาะหลังจากที่พ่ายแพ้ให้กับตระกูลแพทย์แผนจีนพื้นบ้าน พวกเขาล้วนตัดสินใจแล้วว่าหลังการประชุม จะทุ่มกำลังทั้งกายและใจจดจ่อกับการทบทวนและร่ำเรียน เพื่อพัฒนาตัวเองให้เหมาะสมกับการจะทำงานเป็นบุคลากรทางการแพทย์

“ไป ฉลองกัน!”

หลิวเจิ้นเฉียงโบกมือยิ้มร่า นำทางทุกคนออกไปจากสนาม

เป็นวันที่มีแต่ความเบิกบานและปีติยินดี

ขณะเดียวกัน

ข่าวการสิ้นสุดการแข่งขันก็ได้กระจายไปทั้งอินเทอร์เน็ตในทันที

‘จากข้อมูลล่าสุดที่ได้รับ ศึกแห่งแพทย์แผนจีนได้สิ้นสุดลงแล้ว ทั้งสองฝั่งกลับจากสนามแข่ง’

เพียงพริบตา ข่าวนี้ก็ดังระเบิดไปอย่างรวดเร็ว

‘จบแล้วเหรอ?’

‘ใครชนะ???’

‘มีใครถ่ายภาพตอนที่พวกเขากลับกันไหม? ถ้าเห็นสีหน้าแล้วน่าจะพอเดาได้นะ’

‘มีท่านเทพคนไหนรู้ผลบ้าง?’

ความสงสัยของชาวเน็ตก่อตัวขึ้น ศึกที่กินเวลายาวนานร่วมเดือน ในที่สุดก็ได้จบลงเสียที!

แล้วใครชนะ?

เกิดการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างเข้มข้น แต่ไม่ว่าอย่างไร ก็ไม่มีใครสามารถให้คำตอบที่แน่ชัดได้

‘ไม่มีใครรู้เลยจริงเหรอ?’

คำถามนี้ของชาวเน็ต ล้วนได้รับคำตอบเป็นปฎิเสธทั้งหมด

‘แม่งเอ๊ย! เก็บความลับกันเก่งจังวะ?’

ระหว่างที่บางคนเริ่มหงุดหงิดและสบถออกมา ก็ได้มีอีกข่าวปรากฏขึ้น

‘เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสำนักข่าวแห่งชาติ จะเผยแพร่เรื่องราวทั้งหมดของศึกแห่งแพทย์แผนจีนในวันมะรืน!’

พอได้ทราบข่าว อารมณ์ของชาวเน็ตก็แบ่งแยกกันไป มีทั้งเศร้า ดีใจ และตื่นเต้น

ในที่สุดก็มาสักที!

พวกเขาจึงเปิดเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสำนักข่าวแห่งชาติและได้พบกับประกาศ

‘ศึกแห่งวงการแพทย์แผนจีนอันตึงเครียดได้สิ้นสุดลงแล้ว ในฐานะที่เป็นทีมงานเดียวที่ได้รับอนุญาตให้ถ่ายทำการแข่งขันตั้งแต่ต้นจนจบ ผู้กำกับจ้าวเหมียนและทีมงานของเราอยู่ระหว่างการลงมือตัดต่ออย่างสุดความสามารถ เพื่อให้รายการออกมามีคุณภาพอย่างถึงที่สุด และมีกำหนดการฉายในวันมะรืน ขอเชิญชวนให้ทุกท่านได้รับชม’

อ่านประกาศเสร็จ ชาวเน็ตก็ตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม

ทุกคนติดตามศึกแห่งแพทย์แผนจีนมาตั้งแต่วันแรก และให้ความสนใจเป็นอย่างมาก แต่ผลคือการแข่งขันกลับถูกสำนักข่าวแห่งชาติปิดกั้นสถานที่เอาไว้ทั้งหมด

ไม่ต้องพูดถึงสื่ออื่น แม้แต่ดาราที่ทำรายการถ่ายทอดสดตามอินเทอร์เน็ตจะเข้าไปใกล้ ตั้งแต่ไม่กี่ร้อยเมตรไปจนถึงหลายกิโลเมตร ล้วนถูกขวางเอาไว้ทั้งหมด

ตลอดเวลาการแข่งขัน ไม่รู้เลยว่าอุปกรณ์การถ่ายทอดสดของพวกเขาถูกยึดไปแล้วกี่เครื่อง

การร่วมมือกันของสำนักข่าวแห่งชาติและกระทรวงการจัดการส่วนท้องถิ่น ทำให้สนามแข่งถูกเฝ้าระวังอย่างหนาแน่น ไม่สามารถมีข่าวอะไรเล็ดลอดออกมาได้แม้แต่น้อย

พอเจอสถานการณ์เช่นนี้เข้าไป ชาวเน็ตล้วนสิ้นหวัง

แต่ในตอนนี้

ในที่สุดก็จะได้รู้แล้ว

รายการใกล้จะได้เวลาออกอากาศแล้ว

ความสงสัยที่สะสมก่อตัวมาเป็นเวลาหลายวัน ได้ระเบิดออกกลายเป็นความคาดหวัง

‘ในที่สุดก็จะได้ดูแล้ว!’

‘ตัดไฮไลท์มาให้ดีนะ! ไม่สิ! บอกผลมาเลย ไม่อยากดูแล้ว!’

‘ลองคิดดู บางทีแบบตัดต่อแล้วอาจจะสนุกกว่าก็ได้ อย่างน้อยก็ตัดส่วนที่น่าเบื่อออกไป ช่วยประหยัดเวลาให้พวกเรา’

‘ผู้กำกับจ้าว จัดมาให้แจ่ม ๆ ล่ะ!’

บนเวยป๋อ

ชาวเน็ตที่กำลังตื่นเต้นก็เข้าไปส่งข้อความให้ผู้กำกับจ้าวเหมียน

‘ผู้กำกับจ้าว ฉันน่ะแฟนตัวยงของคุณเลย บอกได้ไหมว่าใครชนะศึกแห่งแพทย์แผนจีน? ฉันสัญญาว่าจะไม่บอกใครต่อ ตอบกลับข้อความฉันหน่อยนะ!’

‘ไม่ต้องบอกก็รู้ ว่าซูเย่ชนะ ใช่ไหม?’

‘เบื้องบนคิดตื้นเกิน ซูเย่เก่งก็จริง แต่กลุ่มแพทย์แผนจีนพื้นบ้านเก่งกว่าเยอะ พวกเขานำไปก่อนแล้วตั้งหกศาสตร์ ต้องตีกลับมาด้วยเจ็ดศาสตร์ ซูเย่คนเดียวจะไปทำได้อย่างไร?’

‘ผู้กำกับจ้าว รีบตัดเร็ว พวกเรารออยู่!’

เพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้กำกับจ้าวเหมียนที่ไม่ได้มีผู้ติดตามมากนัก กลับมียอดถูกใจ ความเห็น และแชร์ไปเกินครึ่งล้านครั้ง บนโพสต์ที่เกี่ยวกับแพทย์แผนจีนในสองสามวันที่ผ่านมา

ตลอดทั้งวัน

โทรศัพท์ของผู้กำกับจ้าวเหมียนดังไม่หยุด

พอได้เห็นแรงเชียร์และความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย เขาจึงรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา

ตึกของสำนักข่าวแห่งชาติ ในห้องตัดต่อ

“เต็มที่กันหน่อยทุกคน!” ผู้กำกับจ้าวเหมียนมองไปยังทีมงานในห้องและกล่าว “เหลือส่วนที่ยังไม่ได้ตัดอีกเพียงนิดเดียว แต่ขอให้รักษาคุณภาพเอาไว้ด้วย นี่เป็นคำสั่งจากเบื้องบน จะสะเพร่าไม่ได้เด็ดขาด!”

“รับทราบ!”

ทีมงานตอบกลับอย่างพร้อมเพรียง เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น

……

วันถัดมา เมืองจี้หยาง

เขตตงเฉิง ตึกสูงใจกลางถนนเจาหยาง ชั้นที่หก

ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของเภสัชกรรมกู่เต๋อ

หลังจากเปิดตัวบริษัทอย่างเป็นทางการ ข่งอวี้โจวได้เช่าชั้นหกเอาไว้ทั้งชั้นทันทีเพื่อให้เป็นที่ตั้งของบริษัท

ภายใต้การควบคุมของข่งอวี้โจว จึงสามารถจัดการกำลังคนมาได้อย่างพอเหมาะพอควร และดำเนินการผลิตไปได้โดยราบรื่น

ซูเย่เข้ามายังห้องทำงานของผู้จัดการโดยการนำทางของข่งอวี้โจว

“ฉันคิดว่านายจะไม่เข้ามาที่บริษัทเสียอีก ก็เลยไม่ได้จัดเตรียมห้องประธานเอาไว้ให้”

ทันทีที่นั่งลง ข่งอวี้โจวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “แต่ว่ามีพื้นที่อยู่เหลือเฟือ ฉันจะติดต่อคนมาจัดการทำห้องให้ภายในสองวัน”

“ไม่ต้องรีบหรอกครับ” ซูเย่พยักหน้าและยิ้มตอบ “ตอนนี้บริษัทก็ดำเนินไปได้ด้วยดี เอาตามที่เห็นสมควรเลย ขอบคุณที่ทำงานอย่างหนักครับ”

“นายให้โอกาสฉันได้มีชีวิตใหม่อีกครั้งหนึ่ง จะไม่ให้เต็มที่ได้อย่างไร” ช่งอวี้โจวกล่าวขณะที่ชงชาให้ซูเย่

ติ๊ดติ๊ดติ๊ด

ในตอนนั้น โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของซูเย่ได้ดังขึ้น

เมื่อมองดู ก็พบว่าเป็นคุณแม่โทรมา

“ครับ แม่?” ซูเย่รับสายทันทีโดยไม่ลังเล

“ได้ยินมาว่าแข่งจบแล้วนี่?” ปลายสายกล่าวกลับมาด้วยความเร่งรีบ

“ใช่ครับ แข่งเสร็จเช้าเมื่อวาน” ซูเย่ตอบ “ตอนนี้ผมอยู่จี้หยางแล้ว”

“ใครชนะ?” คุณแม่ซูเอ่ยถามทันที น้ำเสียงเต็มไปด้วยความตึงเครียด

ซูเย่เอ่ยถามกลับด้วยรอยยิ้ม “ไม่รอดูผลในรายการเอาเหรอครับ?”

“จะบอกหรือไม่บอก!” คุณแม่ซูทำเสียงโกรธ “รีบบอกมาว่าใครชนะ หรือตอนกลับมาอยากจะเจอดีสักหน่อย!”

“จะเป็นใคร ก็ต้องลูกชายสุดเก่งของคุณแม่ไง!” ซูเย่เอ่ยต่อ “ภูมิใจไหมครับ?”

“ชนะจริงเหรอ?” คุณแม่ซูน้ำเสียงประหลาดใจ

“ครับ” ซูเย่ตอบอีกครั้งเป็นการยืนยัน “หรือถ้าจะเอาให้ชัดเจน ก็คือฝั่งมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนชนะครับ”

“ดีแล้ว เดี๋ยววันนี้แม่ออกไปกินข้าวข้างนอก ให้รางวัลตัวเองที่เป็นแม่แสนวิเศษ ให้กำเนิดลูกแบบเธอออกมา แค่นี้นะ”

คุณแม่ซูตัดสายไปด้วยน้ำเสียงมีความสุข

“……”

ซูเย่ถึงกับพูดไม่ออก

อีกทางหนึ่ง

ข่งอวี้โจวได้รับโทรศัพท์

“คนจากตระกูลเว่ยและตระกูลหลี่มาถึงแล้ว” หลังจากคุยเสร็จ เขาจึงยิ้มและกล่าวบอกซูเย่ “เดี๋ยวจะให้คนพาขึ้นมา”

“มาเร็วเหมือนกันนะ” ซูเย่พยักหน้าพร้อมยิ้ม

ด้วยการนำทางของเจ้าหน้าที่ ผู้นำตระกูลเว่ยพร้อมเว่ยเย่ชิง และผู้นำตระกูลหลี่กับหลี่พ่างตุนก็เข้ามาด้วยกัน

“นั่งลงก่อนครับ”

เมื่อเห็นคนทั้งสี่ ซูเย่จึงลุกขึ้นและกล่าวบอกเชิญชวนพวกเขาให้นั่งลง

“ไม่ต้องลีลาหรอก ในเมื่อเธอเป็นฝ่ายชวนพวกเรามาเอง ก็บอกมาเถอะว่าต้องการจะร่วมงานกันอย่างไร”

ทันทีที่นั่งลง ผู้นำตระกูลเว่ยจึงกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

เขาและผู้นำตระกูลหลี่รู้เรื่องของการนวดกดจุดสำหรับเด็กหมดแล้ว และแน่นอนว่าพวกเขาขัดขืนไม่ได้

แทนที่จะแข่งขัน สู้ร่วมมือกันทั้งสามฝ่ายครองตลาดจะดีกว่า แถมมีข้อได้เปรียบจากความโด่งดังของซูเย่ ที่จะยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปด้วยรายการในวันพรุ่งนี้อีก

“ดี! แผนพร้อมไหมครับ?” ซูเย่พยักหน้า จากนั้นเอ่ยถามข่งอวี้โจว

“เรียบร้อยแล้ว”

ข่งอวี้โจวพยักหน้า เดินไปที่โต๊ะและหยิบแผนการที่เตรียมไว้ออกมา ส่งให้กับผู้นำตระกูลเว่ย

“ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะเอาชนะ 7 ตระกูลแพทย์แผนจีนพื้นบ้านของพวกเราได้ด้วยตัวคนเดียว”

หลังจากอ่านแผนและส่งต่อไปให้ผู้นำตระกูลหลี่ ผู้นำตระกูลเว่ยจึงกล่าวออกมา “ไม่ใช่ฝั่งมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนหรอกที่ชนะ แต่เป็นเธอนั่นแหละ ซูเย่”

“ผิดแล้วครับ” ซูเย่ส่ายหัว “ไม่ใช่ผมที่ชนะ ไม่ใช่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนที่ชนะ แต่เป็นแพทย์แผนจีนต่างหาก ที่ชนะ”

“แพทย์แผนจีนชนะ ยกเว้นพวกเรา หมอพื้นบ้าน”

ผู้นำตระกูลหลี่เงยหน้าขึ้นจากแผน ยิ้มออกมาอย่างไร้อารมณ์

ซูเย่ยิ้มออกมาเล็กน้อย เขามีแผนการสำหรับเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน

ทางเว่ยเย่ชิงและหลี่พ่างตุนตาเป็นประกาย

“เป็นอย่างไรบ้างครับ?”

หลังจากผู้นำตระกูลหลี่อ่านจบ ซูเย่จึงเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม

“ไม่มีปัญหา” ผู้นำตระกูลหลี่พยักหน้า “อย่างที่ได้ตกลงกันไปก่อนหน้านี้ เธอถือหุ้น 30% คุณข่ง 10% แล้วพวกเราอีกตระกูลละ 30%”

“ครับ” ข่งอวี้โจวกล่าวแทรก “แต่อย่างที่ได้ระบุไปในแผนนะครับ ถึงจะถือหุ้นเท่ากัน แต่ซูเย่จะมีอำนาจเหนือกว่า พวกท่านทั้งสองถือว่าเป็นเจ้าของวิชา สิ่งที่ต้องทำก็คือคิดค้นชุดวิชาสำหรับการนวดให้เด็กโดยเฉพาะ”

“จากที่อ่านในแผนการแล้ว มีนายคนเดียวที่ออกเงินลงทุน จะออกเงินเท่าไรเหรอ?”

หลี่พ่างตุนมองซูเย่และเอ่ยถามขึ้นมาอย่างกระทันหัน

“เรื่องนั้น……” ซูเย่ครุ่นคิด และกล่าวออกมาต่อ “เดี๋ยวจะลงทุนไปก่อนห้าสิบล้าน ถ้าไม่พอก็ให้มาขอเพิ่มได้”

ระหว่างที่พูด ก็ใช้โทรศัพท์ทำการโอนเงินให้ข่งอวี้โจวไปห้าสิบล้าน

ผู้นำตระกูลเว่ยและผู้นำตระกูลหลี่มองหน้า พยักหน้าให้กัน

พวกเขาเคยเห็นเรื่องแบบนี้เฉพาะตามโทรทัศน์ ที่บอกว่าจะลงทุนแล้วก็จัดการทันที

สุดยอด!

รวยจริง ๆ!

หลี่เผียวชุนและเว่ยเย่ชิงตาเป็นประกาย พวกเขาก็อยากรวยแบบนี้บ้าง!

“หากไม่มีปัญหาอะไร ก็ยินดีที่จะร่วมงานด้วยไหมครับ?”

ซูเย่ยิ้มและลุกยืนขึ้น

“ยินดีที่ได้ร่วมงาน”

ผู้นำตระกูลเว่ยและผู้นำตระกูลหลี่ยืนขึ้นตาม ยิ้มและจับมือกับซูเย่

“จากนี้ปล่อยการดำเนินแผนการให้ผมได้เลยครับ พวกท่านเพียงแค่คิดค้นวิชาการนวดกดจุดสำหรับเด็กที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ แล้วเดี๋ยวค่อยคิดเรื่องฝึกบุคลากรกันทีหลัง”

ข่งอวี้โจวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม จับมือกับผู้นำตระกูลทั้งสอง

นี่เป็นการคุยธุรกิจที่รวดเร็วที่สุดในชีวิตเขา ไม่มีการอ้อมค้อม เร็วเกินไปจนเขาแอบรู้สึกอึดอัด

“ไม่มีปัญหา” ผู้นำทั้งสองกล่าวออกมาพร้อมเพรียง

“ทันทีที่รายการออกอากาศผมจะประกาศเรื่องนี้ เมื่อถึงตอนนั้นก็จะเป็นเรื่องการขยายสาขา พวกเราต้องเร่งลงมือเปิดสาขาให้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ช่วงนั้นก็อาจจะหนักหน่อยนะครับสำหรับทุกคน” ซูเย่กล่าว

ทุกคนพยักหน้า จิตใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น

หนทางทำเงินอยู่ตรงหน้า ใครล่ะจะยอมปล่อยไป

ทั้งสองฝ่ายแบ่งหน้าที่กันทันที โดยทางสองตระกูลหาที่ประชุมเพื่อคิดค้นวิชาการนวดกดจุดสำหรับเด็ก

ส่วนทางข่งอวี้โจวเริ่มสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถ และเตรียมตัวที่จะเปิดบริษัทใหม่

……

บนอินเทอร์เน็ต

วันที่สาม

รายการเผยแพร่ออกอากาศอย่างเป็นทางการ

“สารคดี ศึกแห่งแพทย์แผนจีน”

รายการนี้ถูกจัดเวลาให้ออกอากาศบนช่องสำนักข่าวแห่งชาติหมายเลขหนึ่งและบนเว็บไซต์ของสำนักข่าวเองก็จะเผยแพร่พร้อมกัน

มีทั้งหมดเจ็ดตอน ออกอากาศภายในสองวัน โดยแต่ละตอนจะออกอากาศทุกแปดชั่วโมง