เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 142 หกเข็มบวกอีกสิบเอ็ดเข็ม
บทที่ 142 หกเข็มบวกอีกสิบเอ็ดเข็ม
“เจ้านี่ เกิดอะไรขึ้น” ว่านเฉิงหยางจ้องซูเย่
เขาเป็นหนึ่งในหกกรรมการศึกประลองระหว่างแพทย์แผนจีนนะ ดังนั้นเลยเคยเห็นฝีมือฝังเข็มของซูเย่ด้วยตัวเอง …อีกฝ่ายไม่ได้มีแค่หกเข็มที่แสดงให้เห็นแน่
แล้วเขาทำอะไรอยู่กันแน่?
“หรือว่า ศึกษาวิชาได้ไม่ถ่องแท้?”
หลิวชิงเฟิงสงสัย
“ไม่หรอก!”
ว่านเฉิงหยางส่ายหัวทันที เขาจ้องซูเย่พร้อมกล่าว “ศิษย์ก้นกุฏิคนนี้ของตาฮัวแสดงฝีมือในศึกประลองแพทย์แผนจีนเก่งกาจสุดยอด ไม่ได้มีเท่านี้แน่นอน”
ได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของปรมาจารย์แพทย์แผนจีนสองคนด้านข้าง ท่านฮัวตั้งใจดูหกเข็มที่ซูเย่ฝัง
ตำแหน่งของทั้งหกเข็มแม่นยำมาก
ทว่า
ทำไมฝังไปได้หกเข็มแล้วก็ไม่ทำอะไรอีกล่ะ
สายตาท่านฮัวฉายแววฉงน
ซูเย่ทำอะไรอยู่
ซูเย่กำลังหาบางอย่าง
เบิกเนตรสวรรค์
และมองทะลุถึงข้างใน
หกเข็มของท่านฮัวเปิดแนวคิดใหม่ให้เขาอย่างมาก
ในเมื่อชีพจรตามแขนขามีเส้นลมปราณสาขา เช่นนั้นชีพจรทั้งสิบสองเส้นก็มีน่ามีจุดเชื่อมต่อเช่นกัน
ตอนแรกไม่ได้ใส่ใจ แค่สำรวจดูลวก ๆ เท่านั้น ไม่ได้ค้นคว้าอย่างละเอียด
ที่สำคัญที่สุดคือ
ซูเย่รู้สึกว่าเส้นลมปราณสาขาในชีพจรทั่วร่างไม่ได้มีแค่นี้แน่ และไม่ได้มีแค่ที่ตัวเองรู้
สิ่งที่เขาทำอยู่ตอนนี้ก็คือการตามหาเส้นลมปราณสาขาที่ตัวเขาเองยังไม่เจอ
เขาสังเกตเอกลักษณ์เส้นลมปราณสาขาทั้งหกอย่างถี่ถ้วน พบว่าทั้งหกใหญ่กว่าตัวชีพจรเอง
ด้วยลักษณะนี้ ซูเย่รีบตามหาทันที
เขาเริ่มจากเส้นลมปราณมือเส้าอินหัวใจ เพื่อตามหาเส้นลมปราณสาขาทั้งหมดที่เชื่อมกับเส้นลมปราณมือไท่อินปอด
เส้นลมปราณสาขาเหล่านี้เปรียบเสมือนลำธารสายเล็ก
สิ่งที่เขาต้องหาคือ ‘เกาะเล็ก’ กลางลำธารสักสาย
ออกเดินทาง
เส้นชีพจรสาขาเส้นแรก ผ่านฉลุย หาไม่พบ
กลับไปทางเดิม ไปที่เส้นชีพจรสาขาเส้นที่สอง ยังหาไม่พบ
กลับทางเดิมอีกครั้งเพื่อไปที่เส้นลมปราณสาขาเส้นที่สาม
เวลานั้น
ซูเย่พลันพบว่าศูนย์กลางเส้นลมปราณลีบแบนเส้นนี้จู่ ๆ ก็ใหญ่ขึ้น และลีบลงอีกครั้ง
“เจอแล้ว!” ซูเย่ดีใจ
หาเจอจริง ๆ ด้วย!
จำตำแหน่งนี้ไว้
ซูเย่ตามหาต่อ
ครั้งนี้เป็นเส้นลมปราณมือไท่อินปอดและเส้นลมปราณเท้าหยางหมิงกระเพาะอาหาร
ภายในนี้เหมือนผ่านไปแล้วหลายนาที แต่โลกภายนอกผ่านไปเพียงไม่กี่วิ
ซูเย่เจอเส้นที่สอง
หาต่อไป!
เส้นที่สาม!
เส้นที่สี่!
เส้นที่ห้า!
…..
จนกระทั่งเส้นที่สิบเอ็ด ซูเย่ก็หาไม่เจออีก
เมื่อเห็นที่ตัวเองเจอคือเส้นชีพจรสาขา
ซูเย่ค้นพบด้วยความตะลึงว่าทั้งสิบเอ็ดเส้นนี้เชื่อมต่อกันและกันระหว่างอวัยวะทั้งห้าบวกกับเส้นลมปราณหัวใจและเส้นลมปราณเยื่อหุ้มหัวใจ
ซูเย่รีบหันไปมองอีกหกจุดของท่านฮัว
เส้นลมปราณสาขาสิบเจ็ดเส้นเชื่อมต่อชีพจรทั้งหมดเข้าด้วยกัน
และเชื่อมต่ออวัยวะภายในเข้าไว้ด้วยกันจนเป็นวัฏจักร!
ตู้ม!
ซูเย่สะท้าน
ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าภาพรวมของแพทย์แผนจีนคืออะไร อวัยวะภายในเชื่อมต่อกันและกันไว้ด้วยกันทั้งหมด
ซูเย่ตื่นขึ้นจากภาวะมองทะลุภายใน สายตาเต็มไปด้วยความดีใจ
เวลานี้ เขารู้แจ้งในแพทย์แผนจีนมากขึ้นกว่าเดิม
โดยไม่มีลังเล
ซูเย่ลงมือฝังเข็มทันที
เขาหยิบเข็มเงินสองเล่มออกจากกระเป๋าผ้าบรรจุเข็มที่ไหล่ และแบ่งฝังลงจุดหยีเต่าและจุดหยีอวี้
เห็นดังนั้น
ท่านฮัวที่ยืนมองอยู่ด้านข้างขมวดคิ้วเล็กน้อย
ในที่สุดซูเย่ก็ขยับแล้ว
แต่สองเข็มนี้ไม่ใช่จุดในการรักษาโรคเบาหวานตามปกติ
สิ่งที่ซูเย่ทำเกินกว่าความคาดหมาย
ปรมาจารย์แพทย์แผนจีนอีกสองคนมีสายตาประหลาดใจ เขาจ้องซูเย่ อยากจะเห็นว่าเขาจะรักษายังไงกันแน่
เช่นเดียวกัน
หลี่เคอหมิงที่รักษาเสร็จสิ้น รอดึงเข็มออกก็มองซูเย่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน
ซูเย่ที่ฝังไปสองเข็ม ฝังสิบเอ็ดเข็มรัวท่ามกลายสายตาจับจ้องของทุกคน
พอเห็นสิ่งที่ซูเย่ทำ
ปรมาจารย์แพทย์แผนจีนทั้งสามคนขมวดคิ้วทันที
“หืม?”
พวกเขาชักจะงง
เพราะสิบเอ็ดเข็มนี้ของซูเย่ไม่มีเข็มไหนที่ฝังตรงจุดเลย
สถานการณ์แบบนี้
ปรมาจารย์แพทย์แผนจีนทั้งสามคนจับต้นชนปลายไม่ถูก
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นคนฝังเข็มลงตำแหน่งเหล่านี้
หลี่เคอหมิงสังเกตเห็นจุดที่ซูเย่ลงเข็มแล้วขมวดคิ้วตาม
ซูเย่จะทำอะไรกันแน่?
ฝังเข็มลงตำแหน่งเหล่านี้จะให้ผลเป็นการรักษาเหรอ?
กับสายตาสงสัยที่คนรอบข้างมองมา ซูเย่ไม่ทำการอธิบายใด ๆ แต่หลังจากเขาฝังเข็มเสร็จก็รีบตรวจชีพจรให้คนไข้ทันที
ลงมือปุ๊บ ซูเย่ก็รู้สึกอย่างชัดเจนว่าส่วนต่าง ๆ ของร่างกายคนไข้กำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
“ทรงพลังจริง ๆ!”
ซูเย่คลี่ยิ้ม
เส้นลมปราณสาขาทั้งสิบเอ็ดเส้นนี้ให้ผลสุดยอดจริง ๆ
หากเส้นลมปราณสาขาทั้งหกของท่านฮัวเป็นการปรับวัฏจักรรอบนอกของร่างกายมนุษย์ เช่นนั้นเส้นลมปราณสาขาทั้งสิบเอ็ดที่ซูเย่ค้นพบก็เป็นการเสริมความแข็งแกร่งวัฏจักรรอบในของร่างกา ายมนุษย์
เมื่อจัดให้ทั้งยี่สิบเส้นนี้เข้าคู่ด้วยกันจะเกิดเป็นวัฏจักรใหญ่ทั้งรอบนอกและใน
ใต้สถานการณ์ที่รอบนอกและในหมุนเวียนพร้อมกัน เทียบเท่ากับการปรับทิศทางพลังชี่ของคนทั้งหมด และกระตุ้นให้อยู่ในภาวะที่ไร้ที่ติที่สุด
ด้วยสภาพนี้ สมรรถภาพทางร่างกายของมนุษย์จะเข้าสู่สภาวะฟื้นฟูตัวเองอย่างรวดเร็ว
จากนั้น ก็หายป่วยด้วยความเร็วสูง
ซูเย่เซอร์ไพรส์มาก
เขารู้ดีกว่าการค้นพบนี้ของตัวเองเรียกได้ว่าเป็นดั่งสายฟ้าฟาดของแผนกการฝังเข็มในแพทย์แผนจีน!
คาเข็ม
ซูเย่รออยู่ด้านข้าง คอยตรวจดูอาการของคนไข้ตลอดเวลา
หลี่เคอหมิงอีกด้านก็เช่นกัน
ทุกคนไม่พูดจา
ปรมาจารย์แพทย์แผนจีนทั้งสามคนก็ไม่ได้ปริปากรบกวนซูเย่
ไม่นานนัก ก็ผ่านไปสิบห้านาที
ซูเย่และหลี่เคอหมิงดึงเข็มออกพร้อมกัน
“เริ่มตรวจกันเถอะ”
ท่านฮัวขมวดคิ้วมองซูเย่และเอ่ยขึ้น
“นี่คือเครื่องตรวจน้ำตาลในเลือดที่คนไข้พกมาเอง”
ประธานสู่สั่งให้เจ้าหน้าที่นำเครื่องตรวจน้ำตาลออกมา พร้อมกล่าว “เครื่องตรวจน้ำตาลในเลือดมีการบันทึกผลตรวจคนไข้ตอนเช้าที่ท้องยังว่างอยู่ด้วย จวบจนตอนนี้คนไข้ยังไม่ได้ทานน น้ำทานอาหาร ดังนั้นผลตรวจตอนนี้นับว่าสมบูรณ์และวัดผลได้จริง”
ขณะที่พูด
คนไข้ของทั้งสองก็จัดการเครื่องตรวจน้ำตาลในเลือดด้วยตัวเองและทำการตรวจ
คนไข้ด้านหลี่เคอหมิงเป็นฝ่ายตรวจก่อน
“หืม ลดลง”
คนไข้ของหลี่เคอหมิงพูดด้วยสีหน้าดีใจ “น้ำตาลในเลือดของฉันลดลงจริง ๆ ถึงจะไม่ได้กินอะไรแต่ฉันก็ไม่รู้สึกกระหายน้ำและไม่รู้สึกหิวข้าว”
หลี่เคอหมิงพยักหน้ายิ้ม ๆ
ปรมาจารย์แพทย์แผนจีนทั้งสองอย่างว่านเฉิงหยางและหลิวชิงเฟิงเดินเข้าไปทำการตรวจคนไข้
“ไม่เลว”
หลังตรวจเสร็จ ว่านเฉิงหยางกล่าวยิ้ม ๆ “ร่างกายของคนไข้ดีขึ้นอย่างชัดเจน เข้าสู่ระยะฟื้นฟูแล้ว”
“อืม เจ้าหลี่มีความสามารถไม่ธรรมดาจริง ๆ”
หลิวชิงเฟิงก็ชื่นชมหลี่เคอหมิงด้วยรอยยิ้ม
“ศิษย์น้อง โอกาสออกศึกแทนอาจารย์เป็นของฉันแล้วสินะ”
หลี่เคอหมิงยิ้มและหันมองซูเย่
ซูเย่ตอบด้วยรอยยิ้ม “เรื่องนั้นก็ไม่แน่”
พอได้ฟัง ปรมาจารย์แพทย์แผนจีนทั้งสามคนและประธานสู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย
บอกตามตรง
การฝังเข็มของซูเย่เมื่อกี้ พวกเขาดูไม่รู้เรื่องจริง ๆ
“หา”
อยู่ ๆ คนไข้ของซูเย่ก็ร้องเสียงดีใจพร้อมกล่าว “น้ำตาลในเลือดของฉันก็ลดลงไปแล้วเหมือนกัน ลดไปอยู่ระดับของคนปกติแล้ว!”
เมื่อเขาพูดเช่นนี้
ทุกคนในที่นี้ผงะ
ต่างเข้าไปตรวจดู และพบว่าระดับน้ำตาลในเลือดของคนไข้คือ 6
ท่านฮัวสายตาแข็งทื่อไป
ปรมาจารย์แพทย์แผนจีนทั้งสองท่านก็มีสายตาตะลึง
ถึงแม้น้ำตาลในเลือดคนไข้ของหลี่เคอหมิงลดลงเหมือนกัน แต่ลดถึงแค่ 6.7 ส่วนซูเย่ลงมือหลังเขานานขนาดนั้น แต่กลับลดไวยิ่งกว่าเขาเสียอีก?
การฝังเข็มที่ดูไม่รู้เรื่องของซูเย่ทำไมถึงได้ผลดีขนาดนี้ล่ะ
ปรมาจารย์แพทย์แผนจีนสองคนสบตากัน และรีบก้าวเข้าไปตรวจร่างกายให้คนไข้
หลังจากแต่ละคนจับชีพจรเสร็จ ก็มีสีหน้าตะลึงระคนสงสัยกันหมด
พวกเขาค้นพบด้วยความทึ่งว่าคนไข้ของซูเย่ไม่เพียงแต่ฟื้นตัวกลับมาได้ แต่กระทั่งสมรรถภาพทางร่างกายก็ฟื้นคืนสู่ภาวะที่ดีที่สุด
นี่มันเรื่องอะไรกัน?!
ทุกคนมองซูเย่ด้วยสีหน้าตะลึง รวมถึงท่านฮัวที่เมื่อกี้ยังเป็นห่วงซูเย่อยู่
“เธอทำได้ยังไง”
ทันทีที่หลี่เคอหมิงตรวจเสร็จก็ถามด้วยเสียงตะลึง สถานการณ์เช่นนี้น่าเหลือเชื่อจริง ๆ
เมื่อกี้นอกจากซูเย่จะใช้หกจุดที่ท่านฮัวสอนแล้ว ตำแหน่งอื่นมั่วทั้งนั้น
“ฉันดูวิธีฝังเข็มเมื่อกี้ของเธอต่างจากวิธีรักษาปกติ และตำแหน่งฝังเข็มสิบเอ็ดเข็มตอนหลังก็ไม่ใช่จุดที่เคยใช้กัน”
ท่านฮัวมองซูเย่และเอ่ยยิ้ม ๆ “แนวคิดการรักษาของเคอหมิงพวกเราดูออกกันหมด แต่แนวคิดการรักษาของเธอฉันมองไม่ออกเลย ไหนลองว่ามาซิ”
ปรมาจารย์แพทย์แผนจีนทั้งสองท่านก็หันมองซูเย่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
การประลองในวันนี้ประหลาดอยู่นะ!
“ผมรู้ว่าถ้าเป็นการฝังเข็มปกติผมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของศิษย์พี่แน่นอน”
ซูเย่ยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ที่จริง โชคดีที่ได้อาจารย์ครับ ผมเองก็ได้รับแรงบันดาลใจจากอาจารย์ นอกเหนือจากหกเข็มของอาจารย์แล้ว ผมค้นพบอีกสิบเอ็ดจุด”
อะไรนะ?
ตาของหลี่เคอหมิงโตขึ้นทันควัน เขามองซูเย่อย่างไม่อยากจะเชื่อ
ทั้งชีวิตของอาจารย์ยังเจอแค่หกจุด ไปเฉียดประตูนรกมารอบนึงถึงแลกกลับมาได้อีกสามจุด
นี่นายเพิ่งใช้เวลาไปเท่าไหร่เอง กลับพบอีกสิบเอ็ดจุดอย่างนั้นเหรอ
ท่านฮัวสะท้านไปทั้งร่าง
เขาจ้องซูเย่เขม็งและถาม “ที่เธอว่ามาเป็นความจริงเหรอ?”
“ครับ”
ซูเย่พยักหน้าอย่างแน่ใจ “หลังจากเจอทั้งสิบเอ็ดจุดนี้แล้ว ผมเลยคิดอยู่ว่าจะลองใช้ดูดีไหม พอดีมีอาจารย์และปรมาจารย์แพทย์แผนจีนสองท่านคอยคุ้มกันอยู่ที่นี่ผมจึงลองดู และพบ บว่าได้ผลจริง ๆ ผลลัพธ์ก็อยู่ตรงหน้านี่แหละครับ”
“มาสิ ฝังเข็มฉัน”
ท่านฮัวเดินตรงเข้ามาให้ซูเย่ฝังเข็มตัวเอง เขายังไม่ค่อยอยากเชื่อเท่าไหร่
“มา ฝังเข็มฉันด้วย”
หลี่เคอหมิงก็รีบก้าวเข้ามา หมายจะลองด้วยตัวเอง
ซูเย่ยิ้มน้อย ๆ เขาไม่ลังเล
ไปขอเข็มเงินจากประธานสู่อีกสองชุด และฝังเข็มให้ท่านฮัวกับหลี่เคอหมิงคนละสิบเอ็ดเข็ม
เมื่อเข็มแทงลงไป
ท่านฮัวหลับตาลิ้มรสความรู้สึกทันที
ไม่นานนัก เขาก็สั่นไปทั้งตัว
และลืมตาโพลง
“ฮ่า ๆ”
จู่ ๆ ท่านฮัวก็หัวเราะลั่น เสียงดังก้องไปทั่ว
ท่าทางมีความสุขสุด ๆ
หลี่เคอหมิงลืมตา ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเฝื่อน ๆ เขามองซูเย่พลางกล่าว
“พรสวรรค์ของเธออย่างกับปีศาจ แม้แต่วิชาลับเช่นนี้ยังทวีคูณจากรากฐานเดิมได้ สวรรค์ไม่ยุติธรรม!”
พูดไปพลางส่ายหัว แม้ว่าใบหน้าจะเต็มไปด้วยรอยยิ้มเฝื่อน
แต่ที่ซูเย่เติบโตได้ขนาดนี้ เขาก็ยังดีใจด้วยอยู่ดี
“คลื่นลูกใหม่ซัดคลื่นลูกเก่า ไม่เลว ๆ!”
เสียงหัวเราะลั่นจบลง ท่านฮัวตบบ่าซูเย่อย่างพึงพอใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ในที่สุดฉันก็ไม่ทำการใดที่ผิดต่อสายวิชาของฉัน มีคนสืบทอดแล้ว! ฮ่า ๆๆๆ”
ได้ยินท่านฮัวพูดเช่นนี้
ว่านเฉิงหยางและหลิวชิงเฟิงที่ยืนงงอยู่ด้านข้างฉงน
“ตาฮัว นายหมายความว่ายังไง”
หลิวชิงเฟิงถาม อยู่ ๆ ตาเฒ่าฮัวก็เหมือนเป็นบ้าขึ้นมา ไม่ใช่ว่าอ่อนแรงหรือไง?