เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 16 เหล่าพี่น้องและฝูงหมาป่า!
บทที่ 16 เหล่าพี่น้องและฝูงหมาป่า!
“ลูกพี่ซู!!”
พอได้เห็นซูเย่ เหล่าพี่น้องต่างตะโกนเรียกด้วยความตื่นเต้นทันที และรีบมองสำรวจชายหนุ่มตั้งแต่หัวจรดเท้าเพื่อดูว่ามีแขนขาดหรือขาหักหรือไม่
“ทำไมถึงอยู่ตรงนี้กัน?” ซูเย่ถามด้วยความแปลกใจ “ไม่ใช่ว่าถอนกำลังกลับไปมหานครตะวันออกกันแล้วเหรอ?”
“พวกเราเป็นห่วงลูกพี่ไง!”
พอได้ยืนยันแล้วว่าซูเย่ปลอดภัย ซูชือก็กล่าวอย่างมีความสุขว่า “พวกเรารออยู่ที่มหานครตะวันออกอยู่นานแล้ว แต่ไม่เห็นนายมาสักที ก็เลยรีบออกมาตามหาทันทีที่สัญญาณเตือนหยุด แต่ไม่คิดว่าจะเจอตัวทันที”
“แล้วคนอื่นล่ะ” ซูเย่ถาม
“มีแค่พี่น้องเราที่มา” ซูชือส่ายหัวพร้อมตอบคำถาม “เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ของเมืองจี้หยางยังรออยู่ในมหานครตะวันออกและรอฟังข่าวคราว”
“ดีแล้วล่ะ จะได้ไม่เป็นเป้าสายตา” ซูเย่ยิ้มก่อนจะเอ่ยขึ้น “เหล่าพี่น้อง อยากร่วมทำการใหญ่กับฉันไหม?”
ทำการใหญ่เหรอ? ทุกคนตั้งใจฟัง
ดวงตาของพวกเขาลุกโชน!
ผ่านไปแล้วเกือบสองจากสามวันของการสำรวจ เนื่องจากไร้ความคืบหน้าใด ๆ พวกเขาล้วนสิ้นหวังและหดหู่ กว่าจะมีโอกาสได้รวมตัวกัน พวกเขาไม่อยากกลับไปมือเปล่า
ทุกครั้งที่ลูกพี่ซูบอกว่าจะทำการใหญ่ มันมักจะไม่ธรรมดา ต้องเป็นเรื่องพิเศษแน่!
“ได้เลย!”
“ลูกพี่ซู ขอแค่สั่งมา พวกเราจะทำตาม”
“นาน ๆ ทีจะได้รวมตัวกันสักหน ถ้ามีโอกาส ก็ต้องทำให้มันใหญ่โต!”
“ว่าแต่จะทำอะไรเหรอ?”
เหล่าพี่น้องต่างตอบรับด้วยความตื่นเต้น
“อาจจะมีความเสี่ยง ขอให้ทุกคนคิดอย่างถี่ถ้วนก่อน”
ซูเย่ตักเตือน เรื่องในครั้งนี้แน่นอนว่าอันตราย หรือจะเรียกว่าบ้าก็ย่อมได้
เหล่าพี่น้องทุกคนมองหน้ากัน ก่อนจะตอบอย่างพร้อมเพรียง
“จัดไป!”
ซูเย่ถามกลับด้วยความสงสัย “ทำไมตกลงง่ายจัง? ไม่ลองคิดกันก่อนเหรอ?”
ซูชือยิ้มตอบ “พวกเรารู้ว่านายไม่ทำอะไรเล่น ๆ อยู่แล้ว มีแผนเตรียมการไว้เรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”
พี่น้องทุกคนต่างยิ้ม และตามด้วยซูเย่ เขาถูกมองออกทะลุปรุโปร่ง!
“ช่างสังเกตและฉลาดมาก มาวางกลยุทธ์กัน!” ซูเย่เรียก “ทุกคน มารวมตัวกันตรงนี้!”
“ฮูล่า” เหล่าพี่น้องตอบรับก่อนจะรวมตัวกัน
“สองวันที่ผ่านมา ฉันสำรวจไปหลายแห่งและได้เจอหญ้าปราณกับสายแร่…” ซูเย่นั่งยองลงทันทีพร้อมกับวาดภาพ
เขาวาดออกมาเป็นภาพของส่วนที่เขาค้นพบด้วยตัวเองในพื้นที่ระดับสี่ และเน้นตำแหน่งที่มีทรัพยากร
ขณะที่ฟังซูเย่เล่า ดวงตาของทุกคนก็สดใสขึ้น
พวกเขารู้ว่าพื้นที่ระดับสี่เปรียบเสมือนขุมสมบัติสภาพดั้งเดิมที่ยังไม่ถูกขุดค้น แต่พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าจะมีทรัพยากรมากเช่นนี้ ถ้าอิงจากคำบอกเล่าของซูเย่แล้ว ทรัพยากรปริมาณขนาดนี้ไม่สามารถลำเลียงออกไปได้ด้วยคนเพียงหนึ่งหรือสองทีม
แต่ถ้าหากนำออกไปได้ การสำรวจเที่ยวนี้จะไม่สูญเปล่า!
“บอกพวกเราสิว่าแผนเป็นอย่างไร!” ซูชือเอ่ยถามด้วยสีหน้าเบิกบาน
ทุกคนเองก็ต่างจ้องมองซูเย่ด้วยดวงตาที่ตื่นเต้น
ด้วยพละกำลังของพวกเขาในตอนนี้นั้น ไม่สามารถเข้าไปยังแหล่งทรัพยากรที่อยู่ลึกลงไปได้อย่างแน่นอน พวกเขาจึงต้องพึ่งพาแผนเด็ดของซูเย่!
“แผนง่ายมาก” ซูเย่ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเริ่มอธิบาย “ฉันจะจัดการมอนสเตอร์ทุกตัวที่อยู่ระหว่างทางเอง พวกนายหาโอกาสเก็บเกี่ยวหญ้าปราณและขุดเจาะสายแร่ จากนั้นรีบกลับออกมา”
“เอ่อ? แผนนี้…จะใช้ได้เหรอ?” ทุกคนเกิดความสงสัย
“ไม่จริงใช่ไหม?”
“ลูกพี่ซู มันจะไม่อันตรายไปหน่อยเหรอ?”
“อันตรายก็เรื่องหนึ่ง แต่จากคำบอกเล่าของเขาแล้ว ในนั้นมีหญ้าปราณจำนวนมากและสายแร่ ต่อให้พวกเรามีกำลังคนมาก แต่เราต้องการเวลาในการเดินทาง การขุดเจาะและการลำเลียงกลับมันน่าจะกินเวลาเป็นวันแน่ นอกเสียจากจะขวางมอนสเตอร์ไว้นานทั้งวันได้ เขาต้องตายแน่!”
เฉินเซียนเยว่วิเคราะห์
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
แผนนี้มันบ้าระห่ำเกินไป การปล่อยให้ซูเย่จัดการกับมอนสเตอร์คนเดียวนั้นอันตรายมาก
“ไม่ต้องห่วงเรื่องอันตรายหรอก ส่วนในเรื่องข้อจำกัดของเวลา”
รอยยิ้มปริศนาปรากฏขึ้นบนใบหน้าเขา “ถ้าหากว่าควบคุมอสูรได้ล่ะ?”
“ควบคุม?” ทุกคนประหลาดใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น
หมายความว่าอย่างไร?
สามารถควบคุมตัวอะไรได้อีกเหรอ?
หรือว่าทุกคนจะมีเฉิงหวง?
“พูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือจะหาสัตว์พาหนะให้ทุกคน” ซูเย่หัวเราะ
สิ้นสุดคำพูด เหล่าพี่น้องล้วนตกตะลึง
พวกเขาตาเบิกโพลงด้วยความตื่นเต้นที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
จะมีสัตว์พาหนะจริงเหรอเนี่ย?
ไม่ว่าจะเป็นโลกในเกมหรือดินแดนภูผามหานที ทุกคนล้วนเป็นเหมือนผู้เล่นหรือผู้ฝึกยุทธ์ส่วนมาก พวกเขาอิจฉาซูเย่จากก้นบึ้งของจิตใจที่เขามีสัตว์พาหนะและหวังว่าจะมีเป็นของตัวเองบ้าง
อย่างไรก็ตาม สัตว์พาหนะเป็นสิ่งหายากใน Fantasy Dream นอกจาก X และซูเย่แล้ว ก็ไม่มีใครมีโอกาสได้ครอบครอง!
ไม่ต้องพูดถึงดินแดนภูผามหานทีซึ่งเป็นโลกแห่งความจริง
มอนสเตอร์ที่สามารถพบได้ในโลกนี้ซึ่งนำมาเป็นสัตว์พาหนะได้ล้วนเป็นอันตรายต่อมนุษย์ พวกมันจะยอมสู้จนตัวตายทันทีที่พบ
แล้วจะทำให้เชื่องได้อย่างไร?
นอกจากจะเป็นเฉิงหวง ทว่ามันมีเพียงตัวเดียวบนโลก
ซูเย่คลายข้อสงสัยพร้อมรอยยิ้ม “ฉันมีตราควบคุมอสูรอยู่น่ะ ใช้มันเพื่อสั่งการมอนสเตอร์ได้”
ตราควบคุมอสูร?
เหล่าพี่น้องจ้องมองมันตาโต
โห! ลูกพี่ซูมีกระทั่งของแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย?
“มีอยู่จริงเหรอ?” จินฟานถามด้วยความไม่อยากเชื่อ
“ใช่” ซูเย่พยักหน้าตอบรับ
พอได้เห็นซูเย่ยืนยัน ทุกคนกลับมาตื่นเต้นอีกครั้ง มันมีอยู่จริง!
พวกเขาจะได้มีสัตว์พาหนะกันแล้ว!
เวลากำลังหมดลง
ซูเย่ไม่พูดพร่ำ เริ่มลงมือสอนเหล่าพี่น้องถึงวิธีการควบคุมมอนสเตอร์ทันที
วิธีการของมันค่อนข้างเข้าใจง่าย ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว
“ไปกันเลย!”
เมื่อได้เห็นว่าเหล่าพี่น้องพร้อมที่จะลองแล้ว ซูเย่จึงนำทางและพาทุกคนไปตามหามอนสเตอร์ระดับ 41 หมาป่าแดนแล้ง!
“พลังของทุกคนในตอนนี้สามารถควบคุมได้เพียงหมาป่าแดนแล้งระดับ 41 เท่านั้น”
ระหว่างตามหามอนสเตอร์ ซูเย่ได้อธิบายขึ้น “แน่นอนว่าหากแข็งแกร่งขึ้นก็จะสามารถใช้พลังควบคุมอสูรได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในอนาคตก็จะสามารถไปตามหามอนสเตอร์ที่เก่งกว่าเดิมมาใช้งานได้”
เหล่าพี่น้องทนรอต่อไปไม่ไหว
ในไม่นาน พวกเขาได้พบกับถ้ำมอนสเตอร์ที่มีหมาป่าแดนแล้งอยู่กว่า 20 ตัว
ในเวลานั้น สายตาของเหล่าพี่น้องที่จ้องมองหมาป่าไร้ซึ่งความอาฆาตต่างจากก่อนหน้านี้ กลับตรงกันข้ามกลายเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความรักดั่งเป็นสมบัติของพวกเขา
พวกมันน่ารัก!
หากเปรียบเทียบกับมอนสเตอร์ตัวอื่น พวกมันไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก แต่ก็ใหญ่กว่าขนาดตัวของมนุษย์ทั่วไป
หมาป่าแดนแล้งตัวหนึ่งมีขนาดเทียบเท่ากับแรดธรรมดา
พวกมันสูงประมาณหนึ่งเมตร ลำตัวยาวกว่าสองเมตร ดูสง่างาม
โชคเข้าข้างที่มอนสเตอร์กลุ่มนี้ไร้จ่าฝูง มีเพียงตัวธรรมดาเต็มไปหมด
“เริ่มกันเลย” ซูเย่ตะโกน
เหล่าพี่น้องวิ่งตรงเข้าไปและจับกลุ่มช่วยกันแยกหมาป่าทั้งยี่สิบตัวออกจากกัน จากนั้นจึงผลัดกันใช้ควบคุมอสูร
ไม่นานนัก
หมาป่าแดนแล้งตัวแรกถูกควบคุมโดยเฉินเซียนเยว่
จากนั้นซูชือและจินฟานได้ควบคุมตัวที่สองและสามทันที
แม้ว่าจะเพิ่งได้เรียนรู้วิธีการมา ทุกคนก็มีโอกาสทำสำเร็จสูงมาก
“หรือว่าจะเป็นเพราะมอนสเตอร์พวกนี้ได้รับผลกระทบจากแสงของหินสีเขียว พวกมันเลยถูกควบคุมได้ง่าย?”
ซูเย่เกิดความสงสัยขึ้นมา แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจนัก
เวลากำลังหมดลง ถือเป็นเรื่องดีที่เหล่าพี่น้องสามารถควบคุมมอนสเตอร์ได้สำเร็จ!
หลังจากหมาป่าแดนแล้งมากกว่า 20 ตัวถูกควบคุมครบแล้ว ซูเย่พาคนที่เหลือไปตามหาพวกมันเพิ่ม
ใช้เวลาเพียงไม่นาน
นอกจากสองพี่น้องไป๋จือ จางจงหมิงและตัวซูเย่เอง เหล่าพี่น้องทั้ง 70 คนถ้วนต่างมีหมาป่าแดนแล้งอยู่ในครอบครอง
ในพริบตา
กลุ่มชาย 70 คนกลายมาเป็น 70 อัศวินหมาป่า
สง่างามยิ่งนัก!
สีหน้าของทุกคนแสดงออกถึงความพึงพอใจ
“เอาล่ะ” เมื่อได้เห็นเหล่าพี่น้องกำลังตื่นเต้น ซูเย่เองก็ยิ้มออกมาอย่างภูมิใจ “ถ้าคุ้นชินกับพวกมันแล้ว จะเริ่มแผนเดี๋ยวนี้เลย”
“ด้วยฝีเท้าของหมาป่าแล้ว ความเร็วจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป!”
“ลูกพี่ซูไม่ต้องกังวลไป เหล่าพี่น้องจะช่วยให้แผนสำเร็จเอง!”
ทุกคนตอบรับเสียงดัง
“ยังมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของนายอยู่ดี อันตรายเกินไป” ซูชือขมวดคิ้ว
“ไม่ต้องห่วง คนระมัดระวังอย่างฉันจะพลาดได้อย่างไร?”
ซูเย่กล่าวย้ำด้วยรอยยิ้ม “แต่ก่อนหน้านั้น ทุกคนต้องไปกับฉันก่อน”
กล่าวเสร็จ เขานำเหล่าพี่น้องหลบมอนสเตอร์เข้ามายังพื้นที่ห่างไกลซึ่งอยู่ระหว่างพื้นที่ระดับ 41 และ 42
จากการสำรวจครั้งก่อน ซูเย่พบว่าบริเวณนี้แทบจะไร้ซึ่งมอนสเตอร์ ดังนั้นการให้ทุกคนมาตั้งหลักตรงนี้จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
“จำทางได้ไหม?” ซูเย่เอ่ยถามซูชือ
“ไม่ต้องห่วง จำได้แม่นเลย” ซูชือพยักหน้ายืนยันและกล่าวต่อ “จะไม่มีอะไรผิดพลาดแน่นอน”
“ดีเลย!” ซูเย่พยักหน้ากลับ “ทุกคนรออยู่ตรงนี้ก่อน ห้ามไปไหนโดยพละการ รอฉันสั่ง”
กล่าวจบ
เขารีบพุ่งตรงไปยังพื้นที่ระดับ 42 ด้วยความเร็วสูง
มอนสเตอร์บริเวณนี้มีทั้งกลุ่มใต้ดินและบนดิน พวกที่ซ่อนอยู่ใต้ดินจะปกคลุมไปด้วยเกล็ดเหล็กกล้าสีดำ ส่วนพวกบนดินจะเป็นคางคงยักษ์น่าเกลียดและพ่นพิษ
อย่างไรก็ตาม ซูเย่เคยเจอและจัดการพวกมันมาก่อนจากในเกม เขารู้วิธีการดี!
“เสี่ยวเย่ ระวังตัวด้วย” เสียงของซูชือและจินฟานดังมาจากด้านหลัง
ซูเย่โบกมือกลับไปยังเหล่าพี่น้อง ขึ้นขี่เฉิงหวงและเริ่มวิ่งไปทั่วพื้นที่ระดับ 42
พอเห็นคางคก ซูเย่หยิบหินสีเขียวที่เขาเก็บมาจากแดนลับออกมาทันทีเพื่อดึงดูดมอนสเตอร์
ด้วยพลังของหินสีเขียว
เหล่ามอนสเตอร์ทั่วพื้นที่ระดับ 42 ทั้งใต้ดินและบนดินต่างเคลื่อนที่ตามกันมา
เริ่มรวมตัวกันเป็นกลุ่ม
พวกมันไล่ล่าซูเย่อย่างบ้าคลั่ง
“ครืน……”
เมื่อมีมอนสเตอร์มากและมากขึ้นเรื่อย ๆ พื้นที่ระดับ 42 เริ่มสั่นสะเทือนจากการเคลื่อนที่ของพวกมัน
แรงสั่นสะเทือนนี้ไกลไปถึงพื้นที่ระดับ 41
เมื่อเห็นว่าเกือบจะกลายเป็นกองทัพมอนสเตอร์แล้ว
ซูเย่มุ่งหน้าไปยังขอบของพื้นที่ระดับ 41
เตรียมการลากมอนสเตอร์ทั้งหมดออกจากพื้นที่ระดับ 42
ในเวลานั้น ผู้คนในพื้นที่ระดับ 41 เองต่างรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนของพื้นดินอย่างชัดเจน
“กองทัพมอนสเตอร์กำลังจะมาเหรอ?”
“เวรละ ลูกพี่ซูเล่นใหญ่ตั้งแต่เริ่มเลยเหรอเนี่ย?”
ไร้ความลังเลใด ๆ
เหล่าพี่น้องเตรียมพร้อมและรอฟังคำสั่งจากซูเย่
ย้อนกลับไปยังมหานครตะวันออก หลังจากที่ผู้คนออกจากเมืองได้ไม่นานและได้ยินเสียงของการเคลื่อนไหว พวกเขาจึงรีบกลับเข้าไปอีกครั้ง
“มีใครเห็นกลุ่มมหาวิทยาลัยจี้หยางไหม?”
โมหลี่ไล่ถามกลุ่มที่กลับเข้าเมืองมาอย่างกังวลใจ
และกลายเป็นว่าไม่มีใครพบพวกนั้นเลย
สถานการณ์นี้ทำให้โมหลี่อดไม่ได้ที่จะหงุดหงิด เขาเป็นถึงผู้นำของกลุ่มคนจากเมืองจี้หยาง และตอนนี้มีคนหายไปกว่า 70 คน จะให้เขาไม่ตื่นตระหนกได้อย่างไร?
พวกเขาจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม?
แค่มีซูเย่ที่อยู่เฉยไม่เป็นคนเดียวก็พอแล้ว อย่าเป็นตามกันไปหมดสิ!
ว่าแล้วโมหลี่ก็รีบรายงานสถานการ์และขอออกไปตรวจสอบนอกเมืองทันที!