เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 19 ค้นพบตราคำสั่งสร้างนคร!
บทที่ 19 ค้นพบตราคำสั่งสร้างนคร!
“ในที่สุดก็มา!!!”
ไม่เพียงแค่ผู้ฝึกยุทธ์ แม้แต่เจ้าหน้าที่ หรือผู้รับผิดชอบส่วนต่าง ๆ ของเมืองก็มารวมตัวกันบนกำแพง พร้อมลงไปเก็บทรัพยากร!
นี่เป็นโอกาสครั้งหนึ่งของชีวิต
หากพลาดไป ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไร!
เนื่องจากเป็นบุคคลแรกที่ได้รับข้อความจากซูเย่โดยตรง ทำให้โมหลี่จับจองตำแหน่งดี ๆ ได้ก่อนคนอื่น
เขายืนอยู่บนกำแพงพร้อมรอยยิ้มกว้าง
ท้ายที่สุด
ซูเย่ก็มาถึงแล้ว
ชายหนุ่มนำกองทัพมอนสเตอร์มาถึงรอบนอกมหานครตะวันออก ภายใต้สายตาที่จับจ้องอย่างหิวกระหายจากผู้คนนับไม่ถ้วน
ซูเย่วิ่งอ้อมเป็นวงกว้างอยู่สองรอบ จากนั้นก็พากองทัพออกจากบริเวณเมืองไป
ในครั้งนี้
ซากศพของกองทัพมอนสเตอร์ที่มหานครตะวันออกมีมากกว่าเมืองอื่นถึงสองเท่า โชคไม่ดีที่บางส่วนถูกเหยียบทับจนเละไป
มีศพที่สภาพสมบูรณ์เหลืออยู่ประมาณครึ่งหนึ่ง
แต่ถึงอย่างนั้น
จำนวนศพและคริสตัลปราณที่ตกเป็นของมหานครตะวันออกก็มากกว่าเมืองอื่นโข!
สถานการณ์นี้ทำให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงและบรรดาผู้ฝึกยุทธ์ต่างพึงพอใจ ซูเย่ไม่ได้ลืมถิ่นของเขา!
หลังจากการวิ่งวนสองรอบ ซูเย่พากองทัพมอนสเตอร์กลับเข้าไปยังพื้นที่ระดับสี่
ขณะนี้ เวลาสามชั่วโมงหมดลงแล้ว
เมื่อได้ยินเสียงเตือนดังขึ้น
“พี่น้อง หมดเวลาแล้ว ถอนกำลัง!” ซูชือตะโกนสั่ง
เหล่าพี่น้องทุกคนที่ได้ยินจึงรีบเก็บข้าวของใส่กระเป๋าโดยไม่ต้องพูดอะไร
ออกมาจากแหล่งขุดและขึ้นขี่หมาป่าแดนแล้ง
มุ่งหน้าออกจากพื้นที่ระดับสี่
ซูเย่ได้คำนวณไว้ก่อนแล้วว่าขณะที่เขากลับเข้าไปในพื้นที่ระดับสี่ เขาจะพากองทัพมอนสเตอร์ไปอีกทิศทางหนึ่งเพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางกลับเมืองของเหล่าพี่น้อง
หลังจากผ่านไปได้พักใหญ่ ซูเย่ได้รับข้อความจากซูชือว่าถอนกำลังเรียบร้อยแล้ว เขาจึงถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความโล่ง
“ในที่สุดก็จบสักที”
“พี่น้อง พักผ่อนกันได้เลย”
ซูเย่ลูบหัวเฉิงหวงขณะยังวิ่งอยู่
มันแสดงสีหน้าถึงความโล่งและความลังเลใจ
หากเรื่องจบลง มันจะไม่ได้กินพลังปราณอีก...
หนึ่งคนและหนึ่งตัว พามอนสเตอร์ทั้งหมดเข้ามายังพื้นที่ใจกลางได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อมาถึงยังพื้นที่ซึ่งมีเฉพาะมอนสเตอร์ระดับ 49 ซูเย่หันกลับไปยิ้มใส่กองทัพมอนสเตอร์ก่อนจะตรงเข้าไปซ่อนในแดนลับ
ทันทีที่เขาเข้าสู่แดนลับได้สำเร็จ
“เฮ้อ……”
เขาถอนใจอีกครั้ง กระโดดลงจากหลังเฉิงหวงและนั่งลงบนพื้น “ในที่สุดก็เรียบร้อย”
ชายหนุ่มไม่รู้เลยว่าวิ่งมานานแค่ไหน แต่น่าจะเกือบทั้งวัน
แม้ว่าฝีเท้าของเฉิงหวงจะรับประกันความปลอดภัยของเขาได้ แต่เสียงกรีดร้อง คำราม และเสียงพื้นดินสะเทือนกึกก้องอยู่ในหูซูเย่ตลอดวัน
ตอนนี้เสียงพวกนั้นหมดไป ซูเย่รู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่
เขาถอนหายใจออกมาอีกครั้ง
ซูเย่กรอกตาและถอดกระเป๋าด้านหลังเขาออกทันที นำหญ้าเซียนที่แย่งมาจากมอนสเตอร์ยักษ์ระดับ 48 ทั้งสองออกมา
“กินดีไหมนะ?”
ซูเย่เกิดลังเลขณะที่จ้องมองหญ้าเซียนในมือเขา
หากเขากิน ก็จะไม่ต้องแบ่งสามในห้าให้ทางการ แต่กินเข้าไปก็มีผลเพียงการกักตุนพลังปราณจากต้นหญ้าเซียน
หากเขาไม่กิน คุณค่าของหญ้าเซียนอาจจะนำไปหักลบแทนทรัพยากรอื่นที่เขาต้องการได้
สุดท้ายแล้ว
เขาต้องนำหยกปราณออกไปให้ได้อย่างน้อย 1,000 ก้อนจากการสำรวจครั้งนี้
และยังไม่รู้ว่าเหล่าพี่น้องขุดเจาะได้มากแค่ไหน
ซูเย่จึงเลือกที่จะเก็บหญ้าเซียนเผื่อไว้ก่อน หากได้หยกปราณมาไม่เพียงพอ เขาจะใช้มันจ่ายทดแทน
“น่าจะใกล้หมดสามวันแล้ว พักก่อนแล้วกัน รอให้ข้างนอกสงบก่อน”
ภายนอกแดนลับ เมื่อไร้การกระตุ้นจากผงของหินสีเขียว กองทัพมอนสเตอร์จึงต่อสู้กันเพียงชั่วครู่
จากนั้นจึงแยกย้ายกระจัดกระจายกลับถิ่นไปอย่างช้า ๆ ……
……
มหานครตะวันออก
กลุ่มสมาชิก 300 คนจากเมืองจี้หยางรวมตัวกัน
“ครบสามวันแล้ว!”
โมหลี่กล่าวต่อหน้าทุกคนด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “วันนี้ทุกคนต้องกลับออกไป ครั้งต่อไปคืออีกครึ่งเดือน หวังว่าพบกันครั้งหน้าจะพัฒนากว่าเดิม”
“ซูเย่ยังไม่กลับมาเลยครับ!”
เมื่อได้ยินโมหลี่เอ่ยปากไล่กลับแล้ว ซูชือจึงพาเหล่าพี่น้องลุกขึ้นและกล่าวออกมาอย่างไม่สบอารมณ์
ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาซูเย่จะจัดการกับกองทัพมอนสเตอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่การที่ยังไม่กลับมานั้นถือว่าน่ากังวล ใครจะรับประกันได้ล่ะว่าซูเย่จะไม่บังเอิญเกิดข้อผิดพลาด?
ถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา!
ในส่วนของหมาป่าแดนแล้งนั้น
เพื่อที่จะไม่ให้ตกเป็นเป้าความสนใจ ก่อนที่จะออกจากพื้นที่ระดับสี่ พวกเขาเลยได้พามันกลับไปคืนและเดินเท้าเปล่าออกมา จะได้ไม่มีคนรู้ว่าพวกเขาควบคุมอสูรได้
“ช่วยไม่ได้” โมหลี่ส่ายหัว “ถึงกำหนดเวลาแล้ว พวกเธอต้องกลับไปก่อน!”
“แต่ซูเย่…พวกผมจะรอต่ออีกสักพัก”
“ฉันจะคอยติดต่อเขาเอง แล้วถ้าหากมีอันตราย ฉันจะขอกำลังคนไปช่วยเหลือเอง พวกเธอต้องกลับไปก่อนตามข้อตกลง!”
ซูชือและเหล่าพี่น้องยังคงขอกลับออกไปพร้อมซูเย่
โมหลี่ทำได้เพียงรายงานให้เบื้องบนทราบ
สุดท้ายแล้ว
ด้วยคำสั่งของเจ้าเมือง ทำให้พวกของซูชือไม่มีทางเลือกและต้องยอมเข้าอุโมงค์เพื่อออกจากดินแดนภูผามหานที
ในเวลาเดียวกัน โมหลี่ได้ส่งข้อความหาซูเย่
“ครบสามวันแล้ว รีบกลับมา!”
ในแดนลับนั้น
หลังจากได้รับข้อความของโมหลี่ ซูเย่จึงตรวจสอบดูเวลาและพบว่าเป็นจริง
“ไหน ๆ อยู่ตรงนี้แล้ว ขออยู่ต่ออีกสักหน่อย ตรงนี้มันเข้ามายากนะ”
ซูเย่ลุกขึ้นยืน พลังปราณในร่างของเขาฟื้นฟูเรียบร้อยแล้ว
มีหนึ่งสิ่งที่เขายังไม่ได้ทำ
ก็คือแดนลับที่เขาสัมผัสได้ก่อนหน้านี้!
ดูเหมือนมันจะมีความพิเศษอยู่ เพราะเขาไม่เคยพบเจอมันในโลกของ Fantasy Dream
เขาเคยสัมผัสถึงมันได้เพียงจากกลิ่นที่รุนแรงของพลังปราณ
แดนลับเช่นนั้น
จะมีอะไรอยู่ข้างในกัน?
เขาจะมาเสียเที่ยวไม่ได้!
เมื่อออกมาจากแดนลับ ซูเย่สำรวจพื้นที่รอบข้าง พบว่ากองทัพมอนสเตอร์สลายไปแล้ว
แม้ว่าจะมีศพกองอยู่เกลื่อน
แต่ศพพวกนี้ถูกกินไปแล้วโดยมอนสเตอร์ที่รอดชีวิตไปแล้ว ไร้ซึ่งคริสตัลปราณหลงเหลืออยู่
“นึกว่าจะได้ออกมาเก็บทรัพยากรเล่นสักหน่อย!”
ซูเย่ยิ้มเจื่อน
ถ้ารู้เช่นนี้ เขาคงจะออกมาเร็วขึ้น อาจจะยังพอมีคริสตัลปราณให้เก็บ
เขาได้แต่ส่ายหัวจากความเสียดาย
“กายมายาทำงาน!”
ซูเย่สังการเบา ๆ เพื่อปิดซ่อนพลังปราณ
“นาสาสวรรค์ทำงาน!”
และอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเปิดนาสาสวรรค์
เขาวิ่งไปรอบ ๆ เพื่อดมสัมผัสกลิ่น พยายามระบุตำแหน่งของแดนลับที่ยังเป็นปริศนา
ไม่พบกลิ่นของสิ่งใดเลยอยู่พักใหญ่
ใช้เวลาไม่นานหลังจากนั้น
เมื่อตามกลิ่นไปแล้ว ซูเย่เข้ามายังป่าลึก
ไร้ซึ่งหญ้า เถาวัลย์ และดอกไม้ มีเพียงต้นไม้สูงใหญ่ ลำต้นเรียบตรง ตั้งอยู่
ทั้งป่าเงียบสงัด พื้นดินราบเรียบเป็นพิเศษ ไม่มีแม้กระทั่งมอนสเตอร์
เขาเต็มไปด้วยความสงสัย
ซูเย่เดินไปรอบป่า แต่ไม่พบสิ่งใดเลย
“หือ? ทำไมถึงไม่มีอะไรเลยล่ะ?”
ก่อนที่เขาจะกลับออกไปนั้น
ความผันผวนของพลังปราณที่เขาสัมผัสได้จากแดนลับก่อนหน้านี้ ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ดวงตาของซูเย่เบิกกว้าง นี่แหละ!
เขารีบคว้าโอกาสนี้ไว้
เขาตามทิศทางของพลังปราณไปทันที มาสู่ใจกลางของป่าลึกแห่งนั้น
แน่นอนว่าต้องเป็นระหว่างต้นไม้ใหญ่สองต้น เขาเห็นเป็นม่านแสงเกิดขึ้นมา
ก่อนที่เขาจะทันเข้าไปดู ม่านแสงได้จางหายไป
ขณะที่เขาเดินเข้าไปใกล้ ซูเย่ได้ปลดปล่อยพลังปราณออกมาด้านหน้า
ม่านแสงปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง!
เขาตรวจดูอย่างใกล้ชิด
ภาพของมหานครโบราณฉายขึ้นมาบนม่านแสง
เมืองแล้ว เมืองเล่า ปรากฏขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ซูเย่ได้แต่สับสน
ประตูลับต้องการจะบอกอะไรเขา?
เมื่อภาพฉายบนม่านแสงหยุดไป ซูเย่จึงเข้าใจในทันที
มหานครโบราณเหล่านี้เคยมีอยู่จริงในดินแดนภูผามหานทีมาก่อน ทว่าถูกทำลายไปหมดแล้ว
“เป็นหน้าตาของดินแดนภูผามหานทีในอดีตงั้นเหรอ?”
สายตาของซูเย่แสดงออกถึงความประหลาดใจ
เขาส่ายหัว พยายามหยุดความคิดเหล่านี้ไว้ก่อน และเริ่มคิดหาวิธีเปิดประตูแดนลับ
แต่ไม่ว่าจะลองวิธีการไหนก็ไม่สามารถเข้าไปได้ ภาพที่ฉายมาจากม่านแสงเองก็ไม่ได้มีเบาะแสอะไร
ไม่มีทางเลือกอื่น
ซูเย่ทำได้เพียงลองปลดปล่อยพลังลมปราณภายในร่างเขา
ส่งผลให้เขาสามารถตรงเข้าประตูของแดนลับไปโดยไม่ถูกขัดขวางเลยแม้แต่น้อย
“หืม?” ซูเย่เกิดความแปลกใจขึ้นมา
ไม่เคยคิดมาก่อน พลังลมปราณมีความสามารถเช่นนี้ด้วยเหรอ?
พลังลมปราณในดินแดนภูผามหานทีดูเหมือนจะค่อนข้างทรงพลัง!
เขาไม่เคยมีโอกาสได้ลองใช้มันในโลกจริง
“ในเมื่อแม้แต่การเปิดประตูยังต้องใช้พลังลมปราณ จะมีอะไรซ่อนอยู่ในแดนลับกันนะ?”
ดวงตาของซูเย่เป็นประกายจากความคาดหวัง
เมื่อก้าวเข้าสู่แดนลับ
ทิวทัศน์ตรงหน้าเขาก็เปลี่ยนไป
ซูเย่พบว่าเขาอยู่ในสถานที่ประหลาด
รอบกายเต็มไปด้วยหญ้าเขียวชอุ่ม มีเส้นทางเป็นหินสีฟ้าอยู่ใต้เท้า ซึ่งจะนำพาไปสู่แท่นหินทรงกลมที่อยู่ห่างไปไม่ไกลนัก
ดูเหมือนเป็นสถานที่บูชาสักการะโบราณ
เพื่อที่จะเข้าไปใกล้ ซูเย่ค่อย ๆ ก้าวเดินอย่างระมัดระวัง
หลังจากแน่ใจแล้วว่าไม่มีอันตราย ในไม่ช้า เขาก็ขึ้นไปถึงแท่นหิน
ใจกลางของแท่นหินนั้น มีโต๊ะที่ดูทรุดโทรมตั้งอยู่
และมีเหรียญตราซึ่งทำจากหินถูกวางอยู่บนโต๊ะ
เขาจึงเดินเข้าไปตรวจสอบ
“นคร?”
ซูเย่มองออกทันทีที่เห็น เหรียญตรานั้นสลักไว้ด้วยอักขระโบราณเป็นคำว่า ‘นคร’
“ทั้งแดนลับนี้มีของอย่างเดียว?”
ซูเย่มองไปรอบกายอย่างระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรตกหล่น สิ่งที่สามารถนำออกไปได้มีเพียงเหรียญตรานี้
ในแดนลับที่หายากขนาดนี้ มีเพียงเหรียญตราชิ้นเดียวที่นำออกไปได้ และยังเป็นเหรียญตราที่สลักไว้ด้วยอักขระโบราณอีกด้วย
น่าจะเป็นของดีนะ?
ซูเย่เอื้อมมือไปหยิบขึ้นมาด้วยความสงสัย
ทันทีที่มือของชายหนุ่มแตะเหรียญตรา ก็ได้ปรากฏเป็นข้อความขึ้นมาในจิตของซูเย่
‘คำสั่งสร้างนคร!’
‘เหรียญตรานี้บรรจุไว้ด้วยพลังที่ยิ่งใหญ่ พลังงานที่กักเก็บอยู่สามารถปลดปล่อยออกมาเพื่อปกป้องเมืองในรัศมี 50 กิโลเมตรได้เป็นเวลานาน 50 ปี ต่อต้านได้กระทั่งการโจมตีของมอนสเตอร์ระดับสี่ ทำให้เมืองที่ถูกปกป้องนั้นไร้ซึ่งมอนสเตอร์และอยู่คงทนยั่งยืน’
การปรากฏขึ้นของข้อความทำให้ซูเย่สั่นไปทั้งร่าง
ดวงตาของเขาเบิกกว้าง!
“คำสั่งสร้างนคร?”
“กลายเป็นว่าสิ่งนี้คือคำสั่งสร้างนครเหรอ?”
ซูเย่ยังประหลาดใจไม่หาย
เขาไม่เคยคาดฝันว่าในโลกแห่งความเป็นจริง จะมีของที่สรรพคุณเหลือเชื่อเหมือนเกิดขึ้นได้เพียงในเกม
“ด้วยของสิ่งนี้ หากเราสร้างเมืองใหม่ขึ้นมา ก็จะไม่ต้องคอยเดินทางไปกลับจากพื้นที่ระดับสี่และมหานครตะวันออกอีกต่อไป! มนุษย์จะสามารถตั้งรกรากบนพื้นที่ระดับสี่ได้โดยตรง!”
พื้นที่ระดับสี่คือใจกลางที่เชื่อมไปสู่มหานครทุกแห่ง และยังคงเป็นจุดเริ่มต้นของดินแดนภูผามหานทีอีกด้วย
หากสามารถสร้างเมืองในที่แบบนี้ได้
จะมีผลในอนาคตอย่างใหญ่หลวง!
การเก็บเกี่ยวทรัพยากรในภายภาคหน้าจะสะดวกขึ้น และไม่ต้องคอยกังวลว่ามอนสเตอร์ระดับสี่จะคลุ้มคลั่งขึ้นมาเมื่อไร!
เมื่อคิดได้เช่นนั้น
ซูเย่หยิบเหรียญตราขึ้นมาทันที นี่เป็นของดีอย่างแน่นอน มันจะต้องมีมูลค่ามหาศาล!
ทว่าในทันใดนั้น
“ตูม!”
พลังปราณจากใต้แท่นที่ทรุดโทรมได้พุ่งทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า
อย่างกับเป็นพายุที่ต่อต้านไม่ได้ก่อตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทำให้ซูเย่ต้องถอยหลังด้วยความตกใจ
ในเวลาเดียวกันนั้น
ที่ใดสักแห่งบนโลก
ถูกพลังปราณที่อธิบายไม่ได้พุ่งเข้าใส่ และอันตรธานหายไปในพริบตา