เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 23 รับตราคำสั่งสร้างนคร!
บทที่ 23 รับตราคำสั่งสร้างนคร!
เมื่อไหลลงเข้าสู่ช่องท้อง ก็กลายเป็นพลังปราณที่พุ่งพล่าน และภายใต้การควบคุมของซูเย่ มันก็พุ่งไปที่จุดเส้นลมปราณจุดต่าง ๆ พลังปราณมหาศาลไหลเวียนเข้าไปในร่างกาย ไม่ต่างจากก่อนหน้านี้
ทะลวงจุดลมปราณอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาแห่งการเลื่อนขั้น แรงดึงดูดที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งก็ปะทุขึ้นจากเส้นลมปราณทันที สูดพลังปราณทั้งหมดในร่างกายของซูเย่ไปรวมที่จุดเดียว
วินาทีต่อมา พลังปราณระเบิดกระจายออก ไหลผ่านเส้นลมปราณของซูเย่โดยตรง
เมื่อสัมผัสได้ว่าเลื่อนขั้นแล้ว ซูเย่ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งใจ
ขั้นสี่ระดับหนึ่ง!
ในที่สุดเขาก็หลุดพ้นจากข้อจำกัดของขั้นสามและก้าวเข้าสู่ขั้นสี่แล้ว!
“ในที่สุดก็ถึงขั้นสี่ระดับหนึ่ง!”
ซูเย่ยกยิ้มเล็กน้อย เขามุ่งหน้าไปพื้นที่ระดับสี่อย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย
ในตอนที่เขานำฝูงมอนสเตอร์วิ่งวนรอบเขตระดับ 4 และนครต่าง ๆ ก่อนหน้านี้ เขาก็ไม่วิ่งเฉย ๆ แต่มองสังเกตบริเวณโดยรอบไปด้วย ระหว่างทางชายหนุ่มพบหญ้าปราณที่โตเต็มที่ในหลายสถานที่ และสมุนไพรเหล่านั้นจำเป็นสำหรับเครื่องดื่มทะลวงเส้นลมปราณ!
สมุนไพรปราณเหล่านั้นเพียงพอสำหรับเขาในการเตรียมมันให้สำหรับสองพี่น้องไป๋ ตอนนี้พวกเธออยู่ขั้นสามแล้ว เครื่องดื่มนี้คือสิ่งที่พวกเธอต้องการเพื่อให้ก้าวผ่านขั้นได้อย่างรวดเร็ว
มอบเป็นของขวัญให้ทั้งสองคนในพิธีรับศิษย์ถือว่าเหมาะสมแล้ว!
“เฉิงหวง!”
ซูเย่เอ่ยเรียกสัตว์พาหนะคู่ใจ รุดไปยังสถานที่ที่เขาจำได้ว่ามีหญ้าปราณอยู่
และเนื่องจากตอนนี้เขาทะลุขั้นสี่ระดับหนึ่งแล้ว จึงไม่ต้องเป็นกังวลพวกมอนสเตอร์ในเขตระดับสี่อีกต่อไป
สามารถเข้าไปได้อย่างองอาจ!
ระหว่างทางหากเจอมอนสเตอร์ก็สามารถฆ่าเพื่อเก็บคริสตัลปราณได้!
ในเวลาไม่นาน ซูเย่ได้เดินผ่านทุกจุดที่มีสมุนไพรปราณที่เขาพอจะจำได้ และเก็บพวกมันทั้งหมดลงใส่ในกระเป๋าของตน
เมื่อตรวจดูอย่างละเอียดถี่ถ้วน ซูเย่กลับขมวดคิ้วเล็กน้อย ยังขาดอีกอย่างอยู่…
“อัลมอนด์หวาน!”
เหมือนกับที่หวังห่าวมอบสมุนไพรให้เขา ตอนนั้นก็ขาดเพียงอัลมอนด์หวานเท่านั้น
ซูเย่กดดูหน้าภารกิจผ่านนาฬิกาข้อมือ มองข้อมูลภารกิจและของรางวัลของแต่ละภารกิจอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็ไม่พบภารกิจใด ๆ ที่ให้รางวัลเป็นอัลมอนด์หวานเลย
แล้วจะทำไงดี?
ทันใดนั้นซูเย่นึกถึงสถานที่ที่เขาได้อัลมอนด์หวานมาทันที
ป่าเกล็ดน้ำค้างแข็ง…
ในพื้นที่ด้านหลัง สัตว์ประหลาดน้ำแข็งยักษ์มีสมุนไพรมากมายเติบโตอยู่ มีต้นอัลมอนด์หวานที่เคยไปเก็บมารอบหนึ่ง แต่เขาจำได้ว่าครั้งล่าสุดยังมีอัลมอนด์หวานที่ยังไม่สุกอยู่อีกสองสามต้น
นับเวลาดู น่าจะกำลังสุกได้ที่
“ไปหาเจ้าก้อนน้ำแข็งอีกรอบกัน”
ซูเย่คิดทางอื่นไม่ออกก็ตรงไปลองดู
“แต่ครั้งนี้มีวิชาพรางตัว!”
ซูเย่มาที่ป่าเกล็ดน้ำค้างแข็งอีกครั้ง เมื่อเข้าใกล้สระน้ำเย็น ซูเย่เห็นอัลมอนด์หวานสองต้นที่เพิ่งสุก
วิชาพรางตัว!
ซูเย่สูดหายใจเข้าลึก ปกปิดลมหายใจของตัวเองอย่างสมบูรณ์ และเดินเข้าไปอย่างแผ่วเบาที่สุดโดยปราศจากเสียงใด ๆ
ในที่สุดซูเย่ก็ประสบความสำเร็จในการเดินผ่านเข้าไปข้างหลังมัน และเก็บผลอัลมอนด์หวานอย่างระมัดระวังแล้วเดินออกไป
เมื่อเขาหันกลับไปดู ร่างของสัตว์ประหลาดน้ำแข็งที่กำลังหลับใหลมีการเคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน
ไอเย็นที่มีหยาดน้ำแข็งพุ่งออกมาจากรูจมูกของมัน ร่างกายของซูเย่แข็งค้าง ยืนอยู่กับที่ ไม่กล้าเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย เหลือเพียงสองตาที่เหลือบมองดูมันอย่างระมัดระวัง
เมื่อแน่ใจว่ามันไม่ได้ตื่นขึ้นมา ซูเย่จึงถอนหายใจอย่างโล่งอกและรีบเดินออกไปอย่างระมัดระวัง
หลังจากออกจากป่าเกล็ดน้ำค้างแข็งแล้ว ก็มีรอยยิ้มประดับขึ้นบนใบหน้าของเขา เมื่อได้อัลมอนด์หวานมาแล้ว ของขวัญ สองชุดก็เป็นอันเรียบร้อย
“ยังมีเวลาเหลืออยู่…”
ซูเย่อดไม่ได้ที่จะหันมองไปมองทางแดนลับในเขตสี่ ครั้งที่แล้ว เขายังไม่ได้รับตราสร้างนคร แต่ตอนนี้เขาได้เลื่อนผ่านมาถึงขั้นสี่แล้ว
น่าจะไปลองดูได้!
“ไป!”
ซูเย่เรียกเฉิงหวงออกมาและมุ่งหน้าไปยังแดนลับทันที เมื่อเข้าสู่แดนลับอีกครั้ง ที่นี่ยังคงเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกิดขึ้น ความกดดันของพลังปราณที่ปรากฏขึ้นตอนนั้นได้สงบลงอย่างสมบูรณ์
เขาเดินไปที่แท่นหินที่วางตราคำสั่งไว้
ซูเย่สูดหายใจเข้าลึก เตรียมโคตรพลังปราณทั้งหมดในร่างกายของเขาและเอื้อมมือออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อคว้าตราคำสั่ง
“บูม!”
ในวินาทีที่เขาสัมผัสตราคำสั่ง พลังปราณมหาศาลระเบิดออกมาอีกครั้ง สร้างแรงกดดันออกมาโดยรอบ พยายามจะขับไล่ผู้บุกรุก
แต่ขอโทษนะ ครั้งนี้เขาเตรียมพร้อมรับแรงปะทะไว้แล้ว!
พลังปราณในร่างของเขาพลันระเบิดออกมาในขณะนี้ ต่อต้านแรงกดดันมหาศาลของพลังปราณรอบแท่นวางตราคำสั่ง ชายหนุ่มเพียงถอยกลับไปครึ่งก้าว ก็สามารถทนต่อแรงกดดันของพลังนี้ได้แล้ว!
ซูเย่ฉวยโอกาสคว้าตราคำสั่งบนแท่นหินออกมาโดยไม่ลังเล แล้วหยิบมันออกไป
“บูม!”
วินาทีที่ตราคำสั่งถูกนำออกไป พลังปราณก็ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าจากแท่นหินและหายไปในแดนลับแห่งนี้
นอกเขตแดนลับ ในพื้นที่ระดับสี่ทุกตารางนิ้ว มอนสเตอร์ทุกตัวส่งเสียงคำรามอย่างดังกึกก้องดุ และพื้นดินเริ่มสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง
……
โลกแห่งความจริง พลังปราณมหาศาลที่ไม่รู้ว่าไหลบ่ามาจากไหนปรากฏขึ้นและพุ่งตรงขึ้นไปบนท้องฟ้า
เมื่อกระแสพลังนี้ปรากฏขึ้น ในพื้นที่ต่าง ๆ ได้มีคนเห็นสิ่งแปลกปลอมบนท้องฟ้า บางคนดูเหมือนจะเห็นบางสิ่งที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า บางคนเห็นแสงประกายบางอย่างที่ไม่รู้ว่าคืออะไร
ในท้ายที่สุด กระแสพลังนี้ก็มาถึงตอนกลางของประเทศจีน สถานที่ที่เรียกว่าเมืองลั่วซาง เมืองที่ตั้งอยู่ใจกลางประเทศจีน ทางตอนใต้ของเทือกเขาฉิ่นหลิ่ง
ตอนที่มีปรากฎการณ์นี้ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า เป็นเวลาเที่ยงวันพอดี ในเขตเมืองผู้อยู่อาศัยหลายล้านคนถูกดึงดูดด้วยสิ่งแปลกประหลาดบนท้องฟ้า
“เห้ย ดูนั่นดิ บนฟ้าคืออะไรอะ?”
“อะไรวะนั่น”
“UFO เหรอวะ”
“ดูเหมือนมีบางอย่างบินผ่านไป”
ในทุกมุมของเมือง มีหลายคนแหงนมองท้องฟ้า และถ่ายวิดีโอด้วยโทรศัพท์มือถือของพวกเขา
ในขณะที่ทุกคนกำลังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
บนท้องฟ้าในยามนี้พลันปรากฏภาพที่น่าตกใจขึ้น!
นั่นคือเมือง เมืองที่ดูสง่างามและน่าเกรงขามอย่างหาที่เปรียบมิได้ ดูสดใสราวกับเมืองใหญ่ที่มีอยู่จริง!
“มิราจลวงตา*[1]!!!”
“สวยจัง! ฉันอยากไปเที่ยวที่นั่น!”
“อยู่ดี ๆ มีมิราจลวงตาแบบนี้ได้ยังไง”
“ถ่ายไว้แล้ว ถ่ายไว้แล้ว!”
“น่าทึ่งมาก ไม่คิดว่าจะได้เห็นมิราจลวงตาเลยสักครั้งในชีวิต”
“เดี๋ยวก่อนนะ เราอยู่ในแผ่นดินแล้วจะเห็นมิราจลวงตาได้ยังไง”
“ภาพมิราจลวงตานี้เหมือนจะเป็นเมืองโบราณเมืองหนึ่ง แถว ๆ นี้มีเมืองโบราณอยู่ใกล้ ๆ ไหม”
ในเวลาไม่นาน ผู้คนในเมืองลั่วซางทั้งหมดเริ่มพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน รถราบนท้องถนนที่พลุกพล่านหยุดลงพร้อมกันเพื่อมองดูปรากฏการณ์ความมหัศจรรย์ที่ปรากฏบนท้องฟ้า
ในเวลาไม่นาน รูปภาพและวิดีโอก็ถูกโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ต
ชาวเน็ตจำนวนมากสนทนากันอย่างตื่นเต้น
‘ว้าว เมืองนี้สง่างามเกินไปรึเปล่า’
‘ทำไมปรากฏภาพแบบนี้ได้’
‘เมืองใหญ่ขนาดนั้น มีสถานที่แบบนั้นในโลกด้วยเหรอ มีผู้เชี่ยวชาญบอกว่าภาพมิราจลวงตาเป็นหลักการหักเหของแสงในชั้นบรรยากาศ งั้นช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าครั้งนี้เป็นภาพหักเหของแสงจากเมืองไหน?’
‘ภาพมายาไม่ใช่เรื่องของการหักเหของแสง เรื่องนี้ยังไม่ได้รับการพิสูจน์อย่างชัดเจน’
‘ไหนบอกว่ามิราจลวงตามีแค่ที่ที่อยู่ใกล้ทะเล’
‘ฉันมักจะรู้สึกว่าภาพมายาเป็นการฉายภาพของโลกคู่ขนาน อาจมีโลกอื่นอยู่ก็เป็นได้ และมันก็แตกต่างจากโลกที่เราอาศัยอยู่ใบนี้’
……
ในขณะเดียวกัน ผู้ฝึกยุทธ์หลายคน รู้สึกได้ถึงพลังปราณที่ผิดปกติของโลก ทุกคนล้วนอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครคิดอะไรมาก เพราะเวลานี้ทุกคนกำลังสนใจอีกเรื่องหนึ่งมากกว่า
สำนักเมฆาคราม หนึ่งในสำนักโบราณที่สืบทอดมาหลายพันปี กำลังจะรับศิษย์ใหม่!
“คุณได้ยินไหม ว่าสำนักเมฆาครามกำลังจะรับศิษย์”
“ดูเหมือนว่าไม่ใช่เพียงสำนักเมฆาคราม แต่ยังมีอีกสองสำนักโบราณที่ประกาศว่าพวกเขาจะเปิดประตูเพื่อรับลูกศิษย์”
“น่าแปลกที่ทั้งสามสำนักโบราณ สืบทอดให้เฉพาะคนในเท่านั้น และพวกเขาแทบจะไม่ยอมรับศิษย์นอกสำนักมาหลายร้อยปีแล้ว ทำไมคราวนี้พวกเขาถึงเปิดประตูสำนักของพวกเขาอย่างกะทันหัน?”
“ได้ยินมาว่าพิธีรับศิษย์ของสำนักเมฆาครามจะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้!”
“น่าแปลก สำนักเมฆาครามปกติไม่ค่อยทำเรื่องเอิกเกริก คราวนี้ก็เปิดประตูสำนักก็แล้วไปเถอะ เหตุใดถึงประกาศวันพิธีรับศิษย์ หรือว่าต้องการเชิญผู้คนในยุทธภพไปเข้าร่วมชมพิธี?”
……
ดินแดนภูผามหานที
เมื่อได้ตราสร้างนคร ซูเย่ก็ออกจากแดนลับทันที และเขายังรู้สึกถึงพลังปราณที่เพิ่มขึ้นจากบนท้องฟ้าอย่างชัดเจน ทว่าชายหนุ่มไม่รู้จะไปที่ไหนดี ด้วยตอนนี้ไม่ใช่เวลาในการสำรวจ
ดังนั้น เมื่อออกจากแดนลับ ซูเย่เลยขี่เฉิงหวงมุ่งหน้ากลับมหานครตะวันออก
เวลาสามวันมาถึงแล้ว ระหว่างทางกลับ คิ้วของซูเย่ขมวดขึ้นทันใด และดวงตาของเขาพลันเป็นประกายจ้า
“หยุดก่อน!”
ซูเย่บอกให้เฉิงหวงหยุดวิ่งทันที แล้วลงมามองสำรวจตัวเฉิงหวงไปมาอย่างสนุกสนาน มองจนเฉิงหวงรู้สึกตะขิดตะขวงใจแปลก ๆ มันกำลังจะใช้เขาของมันดันซูเย่ออกไป ทว่าชายหนุ่มกลับก้าวหลบ ดวงตาของซูเย่มองเฉิงหวงอย่างเป็นประกายเจิดจ้า
อยู่ ๆ เขาก็นึกถึงความสามารถในการหายตัวของเฉิงหวง ทำให้ในใจพลันมีไอเดียสร้างสรรค์แวบเข้ามา!
“ในเมื่อเฉิงหวงสามารถหายตัวไปและล่องลอยไปในดินแดนภูผามหานทีได้ตามใจชอบ หมายความว่ามันมีพลังในการเข้าออกช่องว่างพอที่จะใช้ได้ และทางผ่านระหว่างดินแดนภูผามหานทีกับโลกแห่งความจริงก็ถือได้ว่าเป็นพลังของช่องว่างของพื้นที่คล้าย ๆ กัน”
“ถ้าอย่างนั้น เฉิงหวงสามารถออกจากที่นี่ไปยังโลกแห่งความจริงได้หรือไม่? แล้วเรียกเฉิงหวงในโลกความจริง”
“นอกจากนี้ เฉิงหวงสามารถหายไปเองได้ แล้วมันสามารถหายไปพร้อมกับสิ่งต่าง ๆ ในเวลาเดียวกันได้ไหม.. ถ้าเป็นเช่นนั้น มันสามารถตามเขาไปโลกความจริง แล้วเป็นไปได้ไหมที่จะ ‘ลักลอบนำของออกไป’?”
“ทรัพยากรที่ได้มาก็ฝากไว้ให้เฉิงหวงเอาออกไป ต่อไปก็ไม่ต้องถูกหักส่วนแบ่ง นี่ก็เหมือนกับแหวนพื้นที่มิติเคลื่อนที่ได้!”
ยิ่งซูเย่คิดเรื่องนี้ ดวงตาของเขาก็ยิ่งสดใส!
“คาบไว้”
เขารีบส่งตราคำสั่งให้เฉิงหวงทันที
เฉิงหวงคาบมันเอาไว้
“ไปได้แล้ว”
ซูเย่โบกมือให้มันและพูดอย่างมีความหวัง “ฉันจะเรียกแกใหม่ทีหลัง”
วินาทีต่อมา เฉิงหวงก็หายวับไป ตราคำสั่งก็หายไปเช่นกัน!
ดวงตาของซูเย่เป็นประกายโดยพลัน
น่าสนใจ!
“เฉิงหวง”
ซูเย่เรียกเฉิงหวงออกมาอีกครั้ง เฉิงหวงปรากฏตัวขึ้นทันทีและมองที่ซูเย่อย่างสงสัย แกล้งมันเล่นงั้นเหรอ? เพิ่งไปก็เรียกออกมาอีกเนี่ย!
ในปากของมัน ยังคงคาบตราคำสั่งไว้อย่างเดิม
[1] มิราจลวงตาหรือปรากฏการณ์มิราจ คือการเกิดภาพลวงตาตามธรรมชาติ เกิดจากการหักเหของแสง มักพบได้บ่อยในช่วงที่มีอากาศร้อนจัด