เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 4 ซูเย่แข็งแกร่งขนาดนี้เลยเหรอ?
บทที่ 4 ซูเย่แข็งแกร่งขนาดนี้เลยเหรอ?
“อันดับหนึ่งลูกรักสวรรค์ ได้มาจากการลอบโจมตีรึ?”
อีกฝ่ายหลบพ้นการโจมตีพลางเอ่ยเสียดสี
จินซานไห่ถอยหลังหนึ่งก้าวและหลีกเลี่ยงการโจมตีของคู่ต่อสู้ จากนั้น เมื่อคู่ต่อสู้โจมตีอีกครั้ง เขาคว้าข้อเท้าของคู่ต่อสู้และต่อยเข้าโดยตรงที่น่องของอีกฝ่ายโดยไม่ลังเล
เสียงกระดูกหักดังไปทั่วบริเวณ ทำให้ทุกคนมึนงง
สีหน้าของซูชือและคนอื่น ๆ พลันเปลี่ยนไป!
ลูกพี่ซูขาหักเหรอ?
เซียวจวิ้น จูอวี้ และคนอื่น ๆ สีหน้าพลันเคร่งเครียด เกาหรงกวงขมวดคิ้วแน่น ซูเย่ไม่ควรด้อยไปกว่าจินซานไห่มากนัก…
เมื่ออีกฝ่ายล้มลงอยู่บนพื้นก็ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด แต่อีกฝ่ายพยายามกัดฟันเก็บเสียงร้องไว้
อีกฝ่ายกัดฟันฝืนทน แล้วหันกลับมาโจมตีจินซานไห่อีกครั้ง! ทว่าช่องว่างระหว่างความแข็งแกร่งนั้นยังห่างไกลกันเกินไป
ก่อนที่หมัดที่สวมถุงมือไว้จะมาถึงตัวเขา จินซานไห่ก็คว้ามันไว้
วินาทีต่อมา
“ผลั่ก!”
จินซานไห่ดึงอีกฝ่ายเข้ามา แล้วโจมตีศีรษะของอีกฝ่ายด้วยฝ่ามืออันทรงพลัง
การโจมตีนี้ ลื่นไหลไม่มีติดขัด!
คู่ต่อสู้เอื้อมมือไปขวางไว้ ทว่า.. เสียงกระดูกหักที่คมชัดแผ่กระจายไปทั่วบริเวณอีกครั้ง
“ผลั่ก!”
ปราณที่น่าสะพรึงกลัวปะทุออกมาจากฝ่ามือของจินซานไห่ ปะทะลงบนแขนของคู่ต่อสู้ ทำให้อีกฝ่ายแขนหักและกระเด็นออกไปไกล
ในช่วงเวลาที่อีกฝ่ายกระเด็นออกไป
“ไม่กล้าสู้หน้าคนรึไง!”
จินซานไห่เอ่ยอย่างเย็นชา เมื่อพูดจบ หน้ากากของชายที่บินกลับหัวกลางอากาศถูกตัดขาดจากพลังปราณอันแข็งแกร่งของเขา
หน้ากากถูกลมพัดปลิวไป มีคราบเลือดปรากฏอยู่ที่มุมปากของอีกฝ่าย และใบหน้าที่สวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ที่ซีดเซียวก็เผยออกมา
ไป๋จือหราน!
ทันทีที่พวกเขาเห็นใบหน้านี้ ทุกคนในที่เกิดเหตุก็ตกตะลึง
มาได้ยังไง?
ทำไมถึงเป็นไป๋จือหราน?
ไม่ใช่ซูเย่เหรอ?
ซูเย่ไปไหน
จินซายไห่ขมวดคิ้ว ทำไมเธอถึงเป็นผู้หญิงล่ะ?
ดวงตาของจินเฉินก็เต็มไปด้วยความงุนงง ทำไมไป๋จือหรานที่เขาตามจีบอยู่ถึงมาที่นี่ได้?
ขณะที่ทุกคนกำลังตะลึงกับฉากตรงหน้า
เสียงคนพุ่งตัวเข้ามาอย่างรวดเร็วดังขึ้น ร่างหนึ่งพลันพุ่งเข้าไปในสนามประลองในทันทีทันใด จับร่างที่กำลังจะตกกระแทกลงกับพื้นไว้ได้อย่างทันท่วงที
“ซูเย่?”
เกาหรงกวงขมวดคิ้วแน่น
“ซูเย่ เขามาแล้ว!”
เซียวจวิ้นเอ่ย
ชั่วขณะหนึ่ง ทุกคนในที่เกิดเหตุมองไปทางสนามประลอง สายตาของพวกเขาจดจ่ออยู่ที่ซูเย่และไป๋จือหราน
“ทำไม?”
ซูเย่อุ้มไป๋จือหรานไว้ในอ้อมแขน เขาขมวดคิ้วแน่นพลางเอ่ยถามคำถามที่ทุกคนอยากรู้มากที่สุด
ทำไมไป๋จือหรานถึงมาปรากฏตัวที่นี่ ทำไมไป๋จือหรานถึงปลอมตัวเป็นซูเย่และต่อสู้กับจินซานไห่?
“ฉันปล่อยให้นายมาเสี่ยงเพราะฉันไม่ได้”
ใบหน้าของไป๋จือหรานซีดขาว แต่เธอยังเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม
ซูเย่มองลึกลงไปที่ใบหน้าซีดเซียวของอีกฝ่าย หัวใจของชายหนุ่มที่ถูกแช่แข็งมานับพันปีถูกคลายออกอย่างเงียบเชียบ ในขณะนี้
“ฉันจะรักษาเธอเอง”
ซูเย่เอื้อมมือออกไปทันทีและเทพลังปราณเข้าไปในร่างกายของไป๋จือหราน ปกป้องอวัยวะภายในและจุดลมปราณเพื่อช่วยประคองอาการ
ในสนามประลอง
“นี่คือลูกรักสวรรค์ขั้นสาม?”
จินซานไห่เหลือบมองที่ซูเย่อย่างหยามเหยียดและพูดเสียดสี “ให้คนอื่นมาสวมรอยแทน เธอยังมีศักดิ์ศรีที่ผู้ฝึกยุทธ์ควรมีอยู่ไหม”
“น่าเสียดายเด็กสาวคนนั้น หน้าตาก็พอคู่ควรกับหลานชายของฉันจริง ๆ”
ซูเย่ได้ยินแต่ไม่สนใจคำพูดของอีกฝ่าย และหลังจากระงับอาการบาดเจ็บของไป๋จือหราน เขาก็ลุกขึ้นยืนด้วยสายตาที่เย็นชา
เขาอุ้มไป๋จือหราน เดินไปที่ด้านข้างของเซียวจวิ้น
ซูชือ จินฟาน และคนอื่น ๆ รีบมารวมตัวกันทันที
“ช่วยฉันดูแลเธอด้วย”
ซูเย่พูดอย่างว่างเปล่า “อีกเดี๋ยวฉันจะพาเธอไปรักษาเอง”
“สบายใจได้”
เซียวจวิ้นพยักหน้ารับทันที “เธอก็เป็นสมาชิกของทีมสืบสวนของเรา สารวัตรเกาก็อยู่ที่นี่ ไม่มีใครสามารถทำร้ายเธอได้อีก”
ซูชือและคนอื่น ๆ พยักหน้าอย่างหนักแน่นเช่นกัน มีพวกเขาอยู่ที่นี่ ไม่ว่ายังไงก็จะคอยคุ้มครองเธอให้ดีที่สุด
ซูเย่พยักหน้ารับ พลางส่งไป๋จือหรานให้เซียวจวิ้น เขาหันไปพยักหน้าทำความเคารพเกาหรงกวง จากนั้นหันหลังเดินไปที่สนามประลอง
ร่างกายของเขาแผ่ไอเย็นเฉียบที่แฝงไปด้วยความกดดันออกมา พลางจ้องไปที่จินซานไห่ด้วยสายตาเรียบเฉย ราวมองร่างไร้วิญญาณ
“ทีมสืบสวนมีแต่คนไร้หัวใจจริง ๆ สินะ?”
จินซานไห่เหลือบมองซูเย่อย่างดูถูก จากนั้นมองไปที่เกาหรงกวงพลางเอ่ยถาม “ซูเย่ ฉันมองเธอผิดไปจริง ๆ เธอไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอที่เห็นคนมาตายแทนน่ะ สีหน้าของเธอราวกับว่ามันคือเรื่องปกติทั่วไป?”
“เพราะคุณจะอาการหนักกว่าเธอไง!”
ซูเย่จ้องไปที่จินซานไห่ ฝีเท้าของเขาสาวเข้าไปใกล้เรื่อย ๆ และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ผมจะให้คุณลิ้มรสความเจ็บปวดที่เธอรู้สึกสิบเท่า ร้อยเท่า!”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า……”
จินซานไห่หัวเราะราวกับได้ยินเรื่องที่ตลกที่สุดในโลก ทว่าแม้เสียงหัวเราะของเขาจะแฝงแววดูถูกเหยียดหยาม แต่ในดวงตาคู่นั้นจับจ้องไปที่ซูเย่ตลอดเวลา
“เจ้าหนู อวดเก่งได้ไม่เบาเลย แต่จะบอกให้ตอนหนุ่มฉันอวดเก่งกว่าเธอเสียอีก! ดูเหมือนว่าถ้าไม่ลงมือหนัก เธอคงไม่รู้ว่าโลกนี้โหดร้ายแค่ไหน”
พูดจบประโยค จินซานไห่ก็เริ่มลงมือทันที ทว่า ก่อนที่เขาจะขยับตัว
“สวบ——”
เสียงลมพัดมาพร้อมกับร่างของซูเย่ที่ทะยานเข้ามาที่ด้านข้างของจินซานไห่ก่อน หมัดที่แข็งแกร่งกำลังจะปะทะเข้าที่ใบหน้าของจินซานไห่
สีหน้าของจินซานไห่เคร่งขรึมลง เขาไม่คิดว่าซูเย่ที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามระดับสามจะเป็นฝ่ายออกกระบวนท่าก่อน และยังมีความเร็วมากอีกด้วย!
ไม่!
ไม่ใช่ขั้นสามระดับสาม แต่เป็นขั้นสามระดับห้า!
ในเวลาเพียงสองสามวัน เขาเลื่อนขั้นถึงสองระดับ นี่เป็นระดับความเร็วในการฝึกฝนที่น่าทึ่ง!
มีความประหลาดใจแวบผ่านในแววตาของอีกฝ่าย จากนั้นพลันแปรเปลี่ยนเป็นความเยาะเย้ย ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม อะไรคือความแตกต่างระหว่างระดับสี่หรือห้า?
จินซานไห่เหวี่ยงหมัดใส่ซูเย่
“ผลั่ก!”
หมัดของทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรง
พลังปราณที่รุนแรงระเบิดออกมาพร้อมกัน กระแทกเข้าหากันอย่างดุเดือด
ในขณะนี้ ทั้งสองก้าวถอยหลังออกจากกัน
ฉากที่ปรากฏเบื้องหน้าทำให้ทุกคนในที่เกิดเหตุรู้สึกประหลาดใจ การจู่โจมครั้งนี้ เห็นได้ชัดว่าจินซานไห่ใช้กำลังทั้งหมดที่มี แต่ผลเสมอกับซูเย่งั้นเหรอ?
นี่มันอะไรกันอีก?
ต่อให้ซูเย่เลื่อนจากระดับสามมาเป็นห้า แต่ซูเย่กับจินซานไห่ยังห่างชั้นกันมากอยู่ดี ทำไมถึงเสมอกันได้?
แววตาของเกาหรงกวงเป็นประกาย น่าสนใจ!
……
ในสนาม
“นี่มันอะไรกัน”
เดิมทีจินซานไห่วางแผนที่จะโจมตีด้วยกำลังทั้งหมดของเขาเพื่อทำลายซูเย่โดยตรง และเป็นการยุติการต่อสู้อย่างสมบูรณ์ แต่ใครจะไปคิดว่าเมื่อกี้เขาเกือบรับหมัดของซูเย่ไม่ได้ด้วยซ้ำ
ในเวลาเพียงชั่วพริบตา แววตาของจินซานไห่ที่มองไปยังซูเย่เปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมา ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามระดับห้า สามารถปะทะหมัดกับเขาได้ เรื่องนี้เป็นปัญหาแน่นอน!
ซูชือและคนอื่น ๆ ตกใจยิ่งกว่า ลูกพี่ซูแข็งแกร่งขนาดนี้เลยเหรอ?
หลังจากที่ไป๋จือหรานหายจากอาการตกใจ รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเธอเล็กน้อย
จินเฉินมองการต่อสู้จากระยะไกลด้วยความตกใจ ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าตนเองไปหาเรื่องผิดคนแล้ว
ลุงของเขาเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งไม่แพ้ใคร แต่ซูเย่กลับรับมือได้… นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?!
ระหว่างที่ทุกคนกำลังตกใจ ซูเย่ออกกกระบวนท่าโจมตีอีกครั้ง
“ยังกล้าโจมตีต่อเหรอ?”
สีหน้าของจินซานไห่เคร่งขรึมลง เขาใช้ฐานะของผู้ฝึกยุทธ์ที่สูงกว่าท้าทายอีกฝ่าย แต่กลับถูกอีกฝ่ายแย่งโอกาสโจมตีก่อน ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เขาก็ขายหน้าหมดน่ะสิ!
ต่อไปจะมีหน้าอยู่ในยุทธภพนี้ได้ยังไง!
จินซานไห่รับหมัดซูเย่ไว้
ซูเย่มองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา แม้ว่าใบหน้าของเขาจะยังไม่แสดงสีหน้าออกมา แต่ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงความโกรธจากการแสดงออกของเขา
“ผลั่กผลั่ก——”
เสียงหมัดกระแทกเนื้อดังขึ้นติดต่อกัน ซูเย่โจมตีจินซานไห่อย่างบ้าคลั่ง บีบให้จินซานไห่เป็นฝ่ายรับการโจมตี
และผลลัพธ์คือ ภายใต้สถานการณ์ที่เขาใช้กำลังทั้งหมดของเขา แต่จินซานไห่ในขั้นสี่ระดับห้า กลับไม่สามารถหาช่องโจมตีกลับได้เลย!
จินซานไห่เริ่มตกใจมากขึ้นเรื่อย ๆ และโกรธมากขึ้นเรื่อย ๆ!
“รนหาที่ตาย!”
ทันทีที่เขาส่งเสียงคำราม จินซานไห่ก็แลกหมัดกับซูเย่ และดึงร่างกายของตนถอยกลับ มือขวาของเขาสัมผัสที่เอว และดึงกริชเหล็กเย็นเฉียบออกมาอย่างเงียบ ๆ
“ชิ้ง——!”
แสงเย็นส่องประกายแวววาว อาบย้อมไปด้วยพลังปราณที่น่ากลัว ราวกับพร้อมจะฉีกทุกสิ่งรอบตัวมัน
“เชี่ย หน้าไม่อาย!”
“ต่ำช้า! มันใช้อาวุธ!”’
“แม่งเอ้ย โคตรหน้าไม่อาย ระดับสูงกว่าแล้วยังใช้อาวุธอีก!”
ซูชือและคนอื่น ๆ ส่งเสียงด่าอีกฝ่ายทันที
เกาหรงกวงเตรียมขยับร่างกายของเขา แต่จินซานไห่ลงมือก่อน ราวกับอสรพิษร้ายที่พุ่งเข้าจู่โจมไปทางซูเย่
การโจมตีนี้รวดเร็วเกินไป
สีหน้าของซูชือ จินฟาน และคนอื่น ๆ เปลี่ยนไปอย่างมาก
อีกฝ่ายแข็งแกร่งเกินไป พลังที่ปะทุจากจินซานไห่นั้นแข็งแกร่งเกินไป แม้ว่าจะไม่ได้อยู่กลางสนามประลอง แต่ว่าพลังปราณที่ปะทุออกมาก็สัมผัสได้จากระยะไกล ทำให้พวกเขารู้สึกถึงพลังที่ไม่อาจต้านทานได้
แสงที่เย็นเยียบนั้น เหมือนกับเคียวของเทพเจ้าแห่งความตายที่มาเก็บเกี่ยวชีวิตของเขา ดึงแสงอันเจิดจรัสออกมาจากในสนามประลอง แทงผ่านจากทางด้านหน้าของซูเย่
เมื่อมองไป ดูเหมือนว่าซูเย่ถูกแทงทะลุแล้ว!!
ซูเย่กำลังตกอยู่ในอันตราย!
ทุกคนเริ่มเป็นกังวลอีกครั้ง ไป๋จือหรานที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสพยายามลุกขึ้น
เซียวจวิ้นเบิกตากว้างอย่างตื่นตระหนก
สีหน้าของเกาหรงกวงปลี่ยนไป เขากระตุ้นพลังปราณทั้งหมดในร่างเตรียมจะก้าวไปข้างหน้า
“ฮ่า ๆๆๆ……”
เสียงหัวเราะที่ฟังเสียดหูดังขึ้น
จินเฉินที่ยืนดูการต่อสู้อยู่ไม่ไกล ดูฉากนี้ในสนาม และชี้ไปที่ซูเย่อย่างอดไม่ได้ เปิดปากหัวเราะพลางตะโกนขึ้น “สมควรแล้ว แกต้องชดใช้ด้วยชีวิต ฉันบอกแล้วไงว่าอย่ายุ่งให้มาก!”
ทว่า อีกฝ่ายพูดยังไม่ทันขาดคำ ในสนาม แสงสว่างอันเจิดจ้าส่องประกายอย่างกะทันหัน
เมื่อมองลงไป
ซูเย่ยังคงยืนอยู่บนสนาม
ในมือของเขา เขาถือดาบยาวที่ใสและส่องประกายราวคริสตัล
และดาบนี้เองที่รับการจู่โจมของจินซานไห่ไว้!
“นี่คือ… ดาบที่หลอมจากพลังปราณ?”
เกาหรงกวงที่กำลังจะเข้าไปช่วยซูเย่ต้องตกตะลึงเมื่อเห็นฉากนี้!!