เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 42 แฟนฉันคือไป๋จือหราน
บทที่ 42 แฟนฉันคือไป๋จือหราน
#ซูเย่และหลานเข่อยีเข้ากันชะมัด#
#คู่จิ้นเย่ยีจะหวานเกินไปแล้วมั้ง#
#คู่จิ้นเย่ยีชายหล่อหญิงสวย ฉันขึ้นเรือแน่#
ภายใต้การปั่นกระแสของบริษัทประชาสัมพันธ์
อยู่ ๆ การค้นหาติดเทรนด์ก็มีหัวข้อประเภทนี้โผล่ขึ้นมาหลายอัน
จากนั้น บอทก็ถาโถมเข้ามากลุ่มใหญ่และพากันปั่น
ขณะเดียวกัน ตัวหลานเข่อยีเองก็ติดเทรนด์การค้นหาด้วยการจัดการครั้งนี้
‘จะว่าไป พวกเขาเข้ากันมากเลยนะ’
‘ซูเย่หล่อจังเลย’
‘ในฐานะแฟนพันธุ์แท้ของซูเย่ ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองพลาดรูปโฉมของซูเย่ไป เพิ่งจะมารู้ตัวตอนนี้ยังทันไหม?’
‘หลานเข่อยีสวยมาก อยู่กับซูเย่แล้วดูเข้าคู่กันมาก’
ภายใต้การสร้างกระแสของบริษัทประชาสัมพันธ์ ชาวเน็ตที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ก็เริ่มรู้สึกว่าทั้งคู่เข้ากัน
คนหนึ่งเยือกเย็นสุขุมหล่อเหลามีการศึกษา อีกคนหน้าตาสวยเป็นดาราสาว
ทั้งคู่อายุห่างกันไม่มากด้วย
ช่างเป็นคู่จิ้นที่ยอดเยี่ยมที่สุดเลย!
ชาวเน็ตมากมายเริ่มจิ้นคู่เย่ยีอย่างออกรส
คนเราก็แบบนี้แหละ ปล่อยให้สิ่งที่ได้เห็นมาชักนำความคิดเพื่อให้ตัวเองหลอมรวมเข้ากันสังคมกว้าง และเป็นการง่ายนักที่จะปล่อยให้ตัวเองซึมซับอิทธิพลจากสิ่งรอบข้างโดยไม่รู้ตัวและคิดตามทุกคนว่าสองคนนี้เข้ากัน มิหนำซ้ำยิ่งดูก็ยิ่งเข้ากัน
ไม่นานนักแขกรับเชิญประจำรายการคนอื่น ๆ ก็เห็นการค้นหาที่ติดเทรนด์
พวกเขาต่างหัวเราะเหอะ ๆ
ฝีมือดี!
แต่พวกเขาก็ทำเพียงรอดูอย่างมีความสุข
ในฐานะผู้กำกับรายการ หลี่เว่ยกั๋วเองก็ยินดีกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ยังไงซะการที่เรื่องนี้โผล่มาก็เป็นการโปรโมทรายการอย่างมาก
พูดแบบไม่น่าฟัง คนที่เสียเงินโปรโมทคือหลานเข่อยี คนที่ได้รับผลประโยชน์ก่อนกลับเป็นหลี่เว่ยกั๋ว
พอสร้างกระแสคู่จิ้น ก็ติดเทรนด์การค้นหาได้ง่าย
แค่หนึ่งชั่วโมงสั้น ๆ
#คู่จิ้นเย่ยี# ก็พุ่งถึงอันดับสามของเทรนด์การค้นหาในเวยป๋อ
ชั่วขณะนั้นกลายเป็นคู่จิ้นที่ฮอตที่สุดในตอนนี้
อีกอย่าง
การค้นหาก็ยังคงมีแต่จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเรื่อย ๆ
บนพื้นฐานแฟนคลับมหาศาลของซูเย่ รวมถึงการพยายามของบริษัทประชาสัมพันธ์ที่ร่วมมือกับหลานเข่อยี เชื่อว่าอีกไม่นานคงจะพุ่งไปถึงการค้นหาติดเทรนด์อันดับหนึ่ง
“เสี่ยวเย่ นายทำอะไรของนาย จับปลาสองมือเหรอ ไป๋จือหรานเพิ่งไปนายก็ทำแบบนี้เลย อย่าหาว่าเพื่อนพี่น้องไม่ยอมรับนายแล้วกัน”
จินฟานส่งข้อความเสียงมาขู่
ซูเย่ที่เพิ่งถึงก็ได้แต่มองข้อความนั้นด้วยความสงสัย
หมายความว่ายังไง?
“จับปลาสองมืออะไรกัน?”
“เรื่องที่นายก่อไว้เองก็ไปดูการค้นหาติดเทรนด์ในเวยป๋อเอาเองแล้วกัน”
ซูเย่ได้รับข้อความแล้วก็เปิดเวยป๋อด้วยความงุนงง
ทันใดนั้นเขาก็ขมวดคิ้ว
นี่มันการค้นหาติดเทรนด์ที่ซื้อมาชัด ๆ
เขาพยายามข่มตัวเองอย่างมากในรายการแล้วนะ เพราะไม่อยากมีความเชื่อมโยงใด ๆ กับหลานเข่อยีทั้งนั้น คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะมาด้วยจุดประสงค์นี้!
“เหอะ ๆ”
ซูเย่หัวเราะเย็น ๆ
ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เขาคงไม่สนใจและปล่อยให้ชาวบ้านพูดกันไป ด้วยชายหนุ่มเป็นตัวของตัวเองและไม่จำเป็นต้องสนใคร
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน
เขาเป็นคนที่มีแฟนแล้ว
หนังสือเลือดที่จะไม่แต่งงานกับใครอื่นยังเหมือนอยู่ตรงหน้า
เพราะฉะนั้นเรื่องปั่นกระแสคู่จิ้นแบบนี้เขาไม่ยอมให้เกิดขึ้นเด็ดขาด
โดยไม่ลังเล
ซูเย่สมัครเวยป๋อทันที
ชื่อก็คือซูเย่
หลังจากสมัครเรียบร้อย ก็โพสต์ออกไปหนึ่งข้อความ ‘ผมคือซูเย่ กำลังรอการยืนยันตัวตนอยู่ครับ’
พอโพสต์เสร็จ
ก็เริ่มการยืนยันตัวตนทันที
ตอนแรกไม่มีคนติดตามซูเย่ แต่เพราะมีคนที่ค้นหาคำว่า ‘ซูเย่’ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกคนจึงเห็นบัญชีนี้กันหมด
ซูเย่เปิดบัญชีเวยป๋อแล้วเหรอ?
ไม่ว่าจะจริงหรือเท็จ ทุกคนก็กดติดตามไว้ก่อน
ส่วนข่าวที่ซูเย่สมัครเวยป๋อก็แพร่กระจายท่ามกลางหัวข้อที่ติดเทรนด์การค้นหาในตอนนี้อย่างรวดเร็ว แฟนคลับของซูเย่เพิ่มพูนทวีคูณ
หลานเข่อยีที่เพิ่งซื้อการค้นหาติดเทรนด์เพื่อสร้างกระแสคู่จิ้นของซูเย่ก็ติดตามเวยป๋อของซูเย่ในทันที
ไม่นานนักซูเย่ก็ยืนยันตัวตนสำเร็จ มีตัว v สีเหลือขึ้นมา
ดังนั้นชายหนุ่มจึงไม่รอช้า ซูเย่รีบโพสต์ข้อความที่สองในเวยป๋อทันที
“สวัสดีครับทุกคน ผมคือซูเย่ ผมมีแฟนแล้ว แฟนผมคือไป๋จือหราน ขอปฏิเสธการปั่นกระแสคู่จิ้นนะครับ ขอบคุณครับ”
เขาโพสต์โดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
หลังจากเวยป๋อนี้ถูกโพสต์ออกไป ก็เรียกได้ว่าหินก้อนเดียวกลับกระทบจนเกิดคลื่นยักษ์ซัดสาด ชาวเน็ตชุลมุนกันหมด
อะไรนะ ซูเย่มีแฟนแล้วเหรอ?
แถมยังเป็นหนึ่งในนางฟ้าชวนฝันอย่างไป๋จือหรานด้วย
เวรเอ๊ย ผม/ฉันอกหักซะแล้ว!
‘นางฟ้าของฉันเป็นแฟนของนายเหรอ ถุย หน้าไม่อาย คืนนางฟ้าของฉันมานะ’
‘นายพูดเหลวไหล ไป๋จือหรานเป็นแฟนของฉันต่างหาก ไป๋จือเหยียนก็ด้วย’
‘สรุปแล้ว รักมันมีวันหายไปใช่ไหม?’
‘แค้นแย่งเมียนี้ไม่อาจอยู่ร่วมผืนฟ้าเดียวกันได้’
‘พวกผู้ชาย พวกนายแย่งไป๋จือหรานกัน ส่วนฉันจะแย่งซูเย่ ฉันเป็นสาวน้อยแสนสวยที่ยังไม่ทันได้มีความรักก็อกหักซะแล้วเหรอ? ฮือ ๆๆ~’
ส่วนหลานเข่อยีที่กำลังฮึกเหิมอยากจะมีปฏิกิริยาตอบโต้ที่แลดูมีสัมพันธ์แฝงกับซูเย่ พลันไปเห็นโพสต์ที่สองในเวยป๋อของซูเย่เข้าพอดิบพอดี
ชั่วขณะนั้นเธอรู้สึกเหมือนโดนสายฟ้าฟาดใส่ทั้งตัว …อึ้งไปหมด!
นาทีต่อมา เธอบันดาลโทสะ
จนแทบจะโยนมือถือทิ้ง
“ไอ้ซูเย่!”
“นายบังอาจยอกย้อนฉันเหรอ!”
หลานเข่อยีโมโหจนแทบระเบิด เธอพูดด้วยใบหน้ากราดเกรี้ยว “เรื่องที่ดีกับทั้งนายทั้งฉัน ทำไมถึงไม่ให้ความร่วมมือ”
พูดจบ สีหน้าก็อึมครึมลง และกัดฟันเค้นเสียงออกมา
“มีฉันอยู่ หลังจากนี้นายอย่าหวังว่าจะได้อยู่ในวงการบันเทิงอีกเลย”
“เฮอะ นายคิดว่าทำแบบนี้แล้วจะไม่โดนฉันหลอกใช้เหรอ? ดูถูกฉันเกินไปแล้ว!”
หลานเข่อยีแชร์เวยป๋อโพสต์นี้ของซูเย่อย่างรวดเร็ว และใส่คอมเมนต์
‘ยินดีด้วย’
ขณะเดียวกัน เธอซื้อการค้นหาติดเทรนด์ว่า #ซูเย่หลานเข่อยีพากันบอกปัดข่าวคู่จิ้น# อีกครั้ง
…….
เมืองจี้หยาง มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง
ข่าวจากเวยป๋อซูเย่ถูกขนมาในเว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยางในทันที
ทุกคนถึงได้รู้ว่าซูเย่คบกับไป๋จือหราน
‘นั่นนางฟ้าที่ฉันใฝ่ฝันเลยนะ กลับโดนซูเย่ลวงไปซะได้ เสียดายนักที่ลงมือช้าไป’
‘ฉันสิลงมือเร็วไป เขียนจดหมายรักมาครึ่งเทอม เธอไม่สนใจฉันเลย ทำไมล่ะ ทำไมถึงเป็นเขาแต่ไม่ใช่ฉัน?’
‘ปวดใจนัก นางฟ้าของฉัน’
‘ฉันจะทำอะไรได้ ซูเย่เป็นชายในฝันของฉัน ไป๋จือหรานเป็นนางฟ้าของฉัน ชายในฝันของฉันคบกับนางฟ้าของฉัน ทิ้งฉันไว้เพียงคนเดียว ฉันนี่ช่างน่าสงสารจริง ๆ’
‘ถ้าเป็นซูเย่ฉันยอมรับว่าเขาเหมาะสมกับไป๋จือหรานมากกว่าฉัน ฉันขออวยพรให้พวกนาย เพราะฉันยังมีไป๋จือเหยียน’
‘ถุย ไป๋จือเหยียนเป็นของฉันแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะปกป้องนางฟ้าเพียงคนเดียวของฉัน ไป๋จือเหยียน’
‘เพื่อน ๆ ทั้งหลาย อย่าเสียใจไป อย่าสิ้นหวังไป พวกเรายังมีไป๋จือเหยียน!’
ทุกคนด่าซูเย่เสร็จก็รีบผลัดกันปลอบประโลมในเว็บบอร์ดมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง
อยู่ ๆ ซูชือก็โผล่ออกมาในเวลานี้
‘ตั้งแต่วันนี้ไป พันธมิตรปกป้องนางฟ้าคนสุดท้ายไป๋จือเหยียนก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ พวกเรามีเจตจำนงในการปกป้องนางฟ้าไป๋จือเหยียนไม่ให้มีสิ่งใดมาแผ้วพาน เธอจะเป็นนางฟ้าของเราตลอดไป’
จินฟานตอบรับทันใด ‘ฉันคือรองหัวหน้าพันธมิตรปกป้องไป๋จือเหยียน ตั้งแต่วันนี้ไปฉันจะให้การปกป้องไป๋จือเหยียนเป็นความรับผิดชอบชั่วชีวิตของฉัน จะไม่ยอมให้ใครรังแกเธอ และไม่ยอมให้ใครริอาจครอบครองเธอ หากมีผู้ที่มีเจตจำนงเดียวกัน เชิญเข้ากรุ๊ปแชทในเว็บบอร์ดได้เลย’
‘ฉันเข้าร่วม’
‘ฉันก็เข้าร่วม’
‘เพื่อนางฟ้าคนสุดท้ายของพวกเรา เพื่อนพี่น้องเอ๋ย ลุย!’
ชั่วขณะนั้น
มีคนเข้าร่วมพันธมิตรกันจำนวนนับไม่ถ้วน
“ทำไมมีพวกนายอยู่ทุกที่เลยเนี่ย”
ซูเย่อ่านข้อความในเว็บบอร์ดที่หอแล้วหัวเราะเหอะ ๆ ในใจ
น้องเมียฉันต้องให้พวกนายปกป้องเหรอ?
เก็บความคิดนั้นไปเถอะ
…..
เช้าวันรุ่งขึ้น
ซูเย่ออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อกลับไปเยี่ยมหมู่บ้านฉีเจี๋ยซุน เพราะเดี๋ยวอีกสามสี่วันนี้ก็เก็บเกี่ยวผักกาดขาวพลังวิญญาณได้แล้ว
ปรากฏว่าเพิ่งเดินออกจากประตูมหาวิทยาลัย ก็โดนรถตู้สีขาวที่ซิ่งมาอยู่ตรงหน้าขวางเอาไว้
“ขึ้นรถ” ประตูรถเปิดออก ชายฉกรรจ์สามสี่คนพุ่งลงมา จับซูเย่ขึ้นรถโดยไม่อธิบายใด ๆ
ซูเย่ไม่ได้ตอบโต้อะไร เขาเพียงแสยะยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย
หลังจากโดนยัดขึ้นรถและนั่งดี ๆ แล้ว
เขามองชายฉกรรจ์รอบ ๆ และถาม
“หมายความว่ายังไง?”
เพิ่งถามจบ มีดสั้นคมกริบเล่มหนึ่งก็ตั้งท่าปาดอยู่บนคอของซูเย่
“พวกเราไม่น่าจะมีความแค้นต่อกันนะ?”
ซูเย่เอียงคอหนีมีดสั้นนิดหน่อย
นี่ตัวเองโดนคนธรรมดาไม่กี่คนจับตัวไว้เหรอ? น่าสนใจ!!
“อยู่เฉย ๆ ห้ามพูดอะไร”
ชายฉกรรจ์ที่นั่งอยู่ด้านข้างและตั้งท่ามีดสั้นปาดคอซูเย่ถลึงตาใส่ชายหนุ่มอย่างดุดัน เขาเอ่ย “อยู่นิ่ง ๆ เฉย ๆ ไว้ ไม่อย่างนั้นฉันจะจับนายมัด”
พูดจบเขาก็สั่งคนขับรถให้ออกตัวอย่างรวดเร็ว
รถคันนั้นแล่นออกจากตัวเมือง มาอยู่รอบนอกเขตพื้นที่พลุกพล่าน ในตึกแห่งหนึ่งที่กำลังจะทุบทิ้ง
เขาเดินเข้ามาในตึกร้างแห่งหนึ่งท่ามกลางชายฉกรรจ์สี่คนที่ล้อมรอบ
ขณะนั้น
ในห้องมีชายวัยกลางคนที่ไม่ค่อยใส่ใจเรื่องการแต่งตัวเท่าไหร่นั่งอยู่ เขากำลังชงชาอย่างเป็นงานเป็นการ
“ผู้เชี่ยวชาญมาแล้วเหรอ”
ชายวัยกลางคนลุกขึ้นทันทีที่เห็นซูเย่ เขายื่นมือไปหาซูเย่พร้อมกล่าว “ได้เจอผู้เชี่ยวชาญที่โด่งดังที่สุดในตอนนี้ช่างเป็นเกียรติยิ่งนัก”
ซูเย่ไม่จับมือกับอีกฝ่าย กลับมองอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม
“ฮ่า ๆ” อีกฝ่ายไม่ใส่ใจเลยสักนิด เขาชี้เก้าอี้ที่เตรียมไว้อยู่แล้วก่อนจะเอ่ยขึ้น “คุณวางใจได้ ตอนนี้คุณเป็นบุคคลสาธารณะ เราไม่ทำร้ายคุณหรอก”
“จุดประสงค์ที่เชิญคุณมาวันนี้ ก็เพื่อขอร่วมมือกับคุณในการหาเงินด้วยกัน”
“ร่วมมือหาเงิน?”
ซูเย่นั่งลงโดยไม่เกรงใจและถามด้วยความสงสัย
“ใช่”
ชายวัยกลางคนยิ้มและพยักหน้า พร้อมกล่าว “ผมไม่ได้มีความสามารถเท่าไหร่ เป็นแค่คนขุดค้นที่ชอบหาเงินทองเข้ากระเป๋าเท่านั้น”
“หืม?” ซูเย่สายตานิ่งงันไป
โจรปล้นสุสาน?
“นายคิดจะทำอะไร” ซูเย่ถาม
“ไม่ทำอะไร ผมเป็นแฟนคลับของคุณเลยนะ”
โจรปล้นสุสานพูดกลั้วหัวเราะ “รายการ ‘อนาคตแพทย์แผนจีน’ ของคุณผมได้ดูแล้ว ผมรู้ว่าคุณดูวัตถุโบราณเป็นและรู้เรื่องฮวงจุ้ยด้วย เมื่อวานคุณช่วยให้หน่วยขุดค้นให้ได้ตำแหน่งที่เรืออับปางใช่ไหม”
“ที่ผมเชิญคุณมาก็เพราะอยากร่วมงานกับคุณ”
“คุณรับผิดชอบเรื่องระบุตำแหน่ง เรื่องอื่นปล่อยให้เป็นหน้าที่พวกผม คุณมีความรู้ ผมมีบุคลากร สุสานใหญ่ในใต้หล้าก็ง่ายเหมือนหยิบมือ”
“ยังไง?”
โจรปล้นสุสานเอ่ยยิ้ม ๆ
ตอนนี้เขามาไม้อ่อน ถ้าไอ้หนุ่มตรงหน้าปฏิเสธก็ต้องใช้ไม้แข็ง
ลักพาตัวไปเลยก็จบ ยังไงซะการที่พวกเขาเป็นโจรปล้นสุสานก็ผิดกฎหมายอยู่แล้ว จะกลัวการลักพาตัวคนอื่นทำไม
“จะให้ร่วมมือก็ใช่ว่าจะไม่ได้”
ซูเย่ยิ้มบาง ๆ มองผู้คนรอบ ๆ พร้อมกล่าว “ฉันมีความสามารถก็จริง แต่ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าพวกนายไหวหรือเปล่า”
“ความสามารถพวกเราเป็นอันดับหนึ่งในวงการเชียวล่ะ”
โจรปล้นสุสานรีบบอกด้วยความได้ใจ “ผมจะบอกคุณให้ บนโลกนี้ไม่มีสุสานที่พวกเราไม่กล้าลงไป”
“พวกนายเคยลงไปในสุสานเหรอ?” ซูเย่ส่ายหัวยิ้ม ๆ และถาม “รู้วิธีขโมยของในสุสานไหม?”
“พูดมาได้!”
โจรปล้นสุสานมองซูเย่อย่างดูหมิ่น ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ถ้าเราไม่มีความสามารถ ผมจะมาขอร่วมมือกับคุณทำไม ผมจะบอกคุณให้ สุสานที่ผมและเพื่อนพี่น้องเคยลงไปต่อให้ไม่ถึงร้อยก็ถึงสิบแล้ว”
“เอาแค่ในแถบจี้หยาง สุสานโบราณที่หน่วยขุดค้นเจอก่อนหน้านี้มีของสำคัญสองสามชิ้นหายจากข้างในใช่ไหมล่ะ?”
“ผมเป็นคนเอาไปเอง”
โจรปล้นสุสานตบหน้าอกและพูดด้วยหน้าตาเบิกบาน “มิหนำซ้ำ ข่าวของสุสานนั้นก็ผมนี่แหละที่จงใจเผยให้หน่วยขุดค้น ถ้าไม่ใช่ว่าพวกเราจิตใจดี หน่วยขุดค้นคิดเหรอว่าจะเอาอะไรไปจากสุสานได้ พวกเราก็ถือว่าเป็นโจรที่มีคุณธรรมนะ”
“แค่สุสานนี้แห่งเดียวเหรอ?”
ซูเย่กล่าว “จากที่ฉันทราบ นี่เป็นเพียงสุสานเล็ก ๆ เท่านั้น ไม่ได้ต้องใช้ความเป็นมืออาชีพอะไร”
“ต้องมีอีกอยู่แล้ว”
โจรปล้นสุสานได้ฟังดังนั้นก็รีบเสริม “ผมจะบอกคุณให้ แถบนี้ของเรามีสุสานโบราณยุคฮั่นตะวันตกอยู่มาก แต่ในหนังสือได้บันทึกไว้ว่ายังไม่เจอสุสานใหญ่ สุสานใหญ่ที่ได้เปิดเผยสู่สาธารณชนในตอนนี้ผมไปมาเกือบหมดแล้ว เดือนสิงหาคมเมื่อสามปีที่แล้ว ผมพาเพื่อนพี่น้องลงไปยังสุสานรัชทายาทคนหนึ่งที่เพิ่งขุดพบเมื่อปีที่แล้ว เราหยิบของในนั้นออกมาสิบกว่าชิ้น ทุกชิ้นมีมูลค่าหลักสิบล้าน”
“แล้วก็มี…..” โจรปล้นสุสานยิ่งพูดยิ่งมีอารมณ์ ราวกับใจร้อนต้องการแสดงความสามารถของตัวเอง
“เป็นยังไง?”
พูดจบ โจรปล้นสุสานก็พูดด้วยสีหน้าได้ใจ “ความสามารถของเพื่อนพี่น้องของผมไม่เลวใช่มั้ย”
“ไม่เลวจริง ๆ”
ซูเย่พยักหน้าด้วยรอยยิ้มพอใจ เขาเอ่ยขึ้น “พอจะลงโทษจำคุกได้แล้ว!”