เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 52 การแลกเปลี่ยนกับผู้บัญชาการเจียง!
บทที่ 52 การแลกเปลี่ยนกับผู้บัญชาการเจียง!
เขามองซูเย่อย่างพิจารณา หลังจากครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่
“ตามฉันมา”
เกาหรงกวงยืนขึ้น “ในระดับของเธอ แต่เดิมเธอไม่มีสิทธิ์ไปพบผู้บัญชาการ แต่ครั้งนี้ฉันสามารถยกเว้นได้และพาเธอไปพบ! ทางที่ดีเธอควรทำเรื่องที่ดีจริง ๆ มิฉะนั้นเธอจะไม่มีโอกาสครั้งที่สอง!”
“ขอบคุณครับ”
ซูเย่ยิ้มและพยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย
จุดประสงค์ของเขาคือการพูดคุยกับผู้บัญชาการ
เขตมหานครตะวันออก ผู้บัญชาการเจียงซาน เคยพบกันครั้งหนึ่งตอนที่เขาไปสำนักเมฆาคราม วันนี้เป็นเวลาที่จะได้พูดคุยกันดี ๆ แล้ว
“ต้องสวมหมวก VR ไหมครับ?”
ซูเย่เดินตามเกาหรงกวงออกไปและถามด้วยความสงสัย
“ไม่ต้อง”
เกาหรงกวงเอ่ยตอบกลับ
หลังจากออกจากทีมสืบสวนแล้ว ซูเย่ก็ขึ้นรถออฟโรดที่เกาหรงกวงเป็นผู้ขับเอง ไปจนสุดทางนอกเมือง
ไม่นานก็เข้าสู่เขตภูเขา
ถนนสายนี้ ไม่ใช่ทางเข้าดินแดนผูผามหานที
เขานั่งรถไปจนสุดทางขึ้นเขา และมาหยุดอยู่บนยอดเขาสูง
“เธอรอที่นี่ก่อน”
เกาหรงกวงเอ่ยบอกแล้วเดินลงไปตามลำพัง โดยเปิดนาฬิกามัลติฟังก์ชั่นบนข้อมือของเขา
จากนั้นไม่นาน ก็เกิดแผ่นดินไหวกะทันหัน
ครืน——
ซูเย่ตกใจและหันไปตรวจสอบทันที เห็นเพียงเกาหรงกวงเดินมาด้วยสีหน้าราบเรียบ
วินาทีต่อมา
พื้นราบที่ด้านบนของภูเขาเลื่อนลงไปด้านล่างทันทีราวกับลิฟต์ตัวหนึ่ง
หลังจากเลื่อนลงไปประมาณเจ็ดหรือแปดเมตร ทางเดินที่ค่อนข้างกว้างก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของซูเย่
“ขึ้นรถ”
เกาหรงกวงตะโกน จากนั้นก็กระโดดขึ้นนั่งบนที่นั่งคนขับและพาซูเย่ขับรถเข้าไปในส่วนลึก
เมื่อรถเข้าไปในทางกว้าง
พื้นดินที่เลื่อนลงมาก็เลื่อนสูงขึ้นไปเหมือนเดิม
“ทำไมถึงอยู่ในภูเขาล่ะครับ” ซูเย่ถามเอ่ยถาม
“ความลับ!”
เกาหรงกวงตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย
พรึ่บ——
ในทางที่ค่อนข้างมืด จู่ ๆ ก็มีแสงไฟระยิบระยับส่องสว่างขึ้น ทำให้ทุกสิ่งสว่างขึ้นทันที
เมื่อเห็นทุกอย่าง ซูเย่พบว่าที่นี่เป็นส่วนที่ทันสมัยอย่างยิ่ง ทางกว้างทั้งหมดสร้างจากวัสดุไฮเทคที่ดูเหมือนอะลูมิเนียม
รถจอดลงที่ทางเข้า จากภายนอกดูเป็นสถานที่ที่ดูแปลกตา สถานที่ปลายทางเชื่อมนี้ ไม่ใช่ฐานทัพหรือป้อมปราการที่ดูทันสมัย แต่เป็นสถานที่เหมือนบ้านในชนบทที่สร้างเพื่อพักผ่อน
ที่นี่สามารถเห็นแสงตะวันได้อย่างชัดเจน
เปรียบเหมือนดินแดนแห่งความสุขที่ซ่อนอยู่ในหุบเขา มีแดดส่องประกายแผดจ้าจากบนท้องฟ้า ดอกไม้และต้นไม้ผลิบานรอบด้าน และมีป่าไผ่อยู่ไกลออกไป
พื้นที่ที่นี่มีขนาดใหญ่มาก ใหญ่พอที่จะสร้างเป็นเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่ง
มีแม่น้ำกว้างประมาณสองเมตรไหลผ่านทุ่งหญ้าเขียวขจีที่มีเหล่านกน้อยสร้างรังอยู่บนต้นไม้ และดอกไม้ส่งกลิ่นหอมอบอวล
เมื่อมองผ่าน ๆ งดงามราวกับสวนดอกท้อที่บันทึกไว้ในตำราเรียน!
“ที่นี่คือที่ไหนเหรอครับ?”
ซูเย่มองไปที่สถานที่เบื้องหน้าเขาด้วยความประหลาดใจ
“ลงมาสิ”
เกาหรงกวงเอ่ยบอก “ที่นี่ห้ามมีรถเข้าไป”
เมื่อลงจากรถ ซูเย่เดินตามเกาหรงกวงไปยังสวนดอกท้อเบื้องหน้า
ตามเส้นทางที่ปูด้วยแผ่นหิน เดินข้ามสะพานไม้เหนือแม่น้ำ และผ่านป่าดอกท้อที่เบ่งบานไปด้วยกลีบดอกไม้สีชมพู ในที่สุดก็มาถึงสถานที่ที่ดูทันสมัยมากแห่งหนึ่ง
นั่นก็คือฐานทัพ ยังคงทำจากวัสดุที่ดูทันสมัย
มองจากระยะไกลดูเหมือนกระดองเต่าที่ทำจากเหล็ก นอกจากนี้ยังมีอาคารรูปเหลี่ยมล้อมอยู่รอบ ๆ
เมื่อรู้ว่าเกาหรงกวงไม่ต้องการตอบคำถามของตัวเอง ซูเย่ก็ไม่ได้รบเร้า แต่เดินตามเกาหรงกวงไปเงียบ ๆ จนเข้าไปในตัวอาคารที่เหมือนกระดองเต่านั่น
ตามทางเดินที่ค่อนข้างกว้าง ในไม่ช้าเขาก็มาถึงประตูที่มีป้ายติดไว้ว่า ‘ห้องพัก’
“รายงาน!”
เกาหรงกวงอยู่อยู่หน้าห้องพลางตะโกนบอก “ซูเย่มาถึงแล้วครับ”
“เข้ามาได้”
ในห้องพัก มีน้ำเสียงคุ้นเคยลอดออกมา
เจียงซาน…
เกาหรงกวงบอกให้ซูเย่เดินเข้าไป ส่วนตัวเองหันหลังเดินจากไป
“สวัสดีครับ ผู้บัญชาการเจียง”
เมื่อเห็นเจียงซาน ซูเย่ก็ทักทายเขาพร้อมรอยยิ้ม
เจียงซาน ผู้บัญชาการมหานครตะวันออกยังคงสวมชุดกีฬาที่ดูสบายตา เปล่งประกายอันสง่างามและเคร่งขรึมไปทั่วร่างกายของเขา
“คุณเป็นคนแรกที่มาที่นี่เพื่อพบฉันและยังมีท่าทีที่ดูเป็นตัวของตัวเอง”
เจียงซานนั่งอยู่บนโซฟา เขายิ้มพลางโบกมือให้ซูเย่นั่งลง
“งั้นผมควรจะประหม่าหน่อยไหมครับ?”
ซูเย่นั่งลงพลางเอ่ยถามทีเล่นทีจริง
“ฉันชอบคนมีความมั่นใจ”
เจียงซานเอ่ยตอบ
“งั้นผมเข้าประเด็นเลยนะครับ”
ซูเย่กล่าวต่อทันที
“สารวัตรเกาคงจะรายงานคุณแล้ว ว่าผมมาที่นี่เพื่อหารือเกี่ยวกับธุรกิจ”
“นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนมาคุยกับฉันเกี่ยวกับธุรกิจ และนี่ยังเป็นครั้งแรกที่ทีมสืบสวนได้เจอเรื่องแบบนี้ ฉันอยากรู้มาก ว่ามาสิ”
เจียงซานใช้สายตาเฉียบคมมองไปที่ซูเย่
“ผมต้องการพืชในดินแดนภูผามหานที”
ซูเย่เอ่ยบอกจุดประสงค์ทันที
“แค่พืช?”
เจียงซานมองไปที่ซูเย่ ทันใดนั้นก็หัวเราะ “ฉันพอจะรู้จักเธออยู่บ้าง เธอเป็นคนฉลาดมาก บอกจุดประสงค์ที่แท้จริงมาเถอะ อย่าเสียเวลา”
“ครับ”
ซูเย่ยิ้มแผ่วเบา เขารู้ว่าคงจะไม่สามารถหลอกอีกฝ่ายได้อย่างแน่นอน และพูดอย่างตรงไปตรงมา “งั้นผมจะไม่พูดมากอีก เกี่ยวกับสถานการณ์ของแพทย์แผนจีนในตอนนี้ และเหตุใดถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น คุณคงทราบดี สิ่งที่ผมต้องการทำก็คือ การรักษาชื่อเสียงของวงการแพทย์แผนจีน”
“ฉันรู้ว่าเรื่องนี้มีคนตั้งใจสร้างสถานการณ์อยู่เบื้องหลัง”
เจียงซานเอ่ยถามกลับทันที “แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่เธอต้องการจะคุยกับฉันยังไง”
“แม้ว่าพืชที่ผมต้องการจะอยู่ในดินแดนภูผามหานที แต่พวกมันก็คือส่วนผสมของยาจีนในโลกความเป็นจริง และผลมันดีกว่ายาสมุนไพรจีนในโลกความจริงมาก เรียกได้ว่าสรรพคุณทางยานั้นยอดเยี่ยมมาก!”
ซูเย่กล่าวตอบ
“จริงหรือ?” เจียงซานรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“นี่เป็นผลจากการทดลองของผมเอง คุณน่าจะทราบแล้วจากการให้คนไปสืบเรื่องของผมในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้”
ซูเย่กล่าวพร้อมรอยยิ้มมุมปาก
เมื่อได้ยิน แววตาของเจียงซานสั่นไหวเล็กน้อย
เขาให้คนไปตรวจสอบซูเย่จริง ๆ
ไม่ใช่ว่าเขาสงสัยในตัวซูเย่ แต่หลังจากได้รับข่าวว่าซูเย่ต้องการคุยธุรกิจกับเขา เขาจึงส่งคนไปตรวจสอบว่าซูเย่ทำอะไรที่ไหนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
พบว่าซูเย่ได้ไปดินแดนภูผามหานที และยังไปตรวจโรคฟรีที่หมู่บ้านฉีเจี๋ยซุน
ในตอนแรก เขารู้สึกว่าตรวจโรคฟรีเป็นเรื่องปกติที่ซูเย่ทำในฐานะแพทย์แผนจีน และเขาไม่ได้มีข้อสงสัยใด ๆ
ตอนนี้เมื่อคิดเกี่ยวกับมันแล้ว ซูเย่ไปที่ตรวจโรคฟรีหลังจากที่เขาออกมาจากดินแดนภูผามหานที เพื่อทำการทดสอบยาสมุนไพร?
เมื่อคิดเช่นนี้ ใบหน้าของเจียงซานเริ่มขุ่นมัวเล็กน้อย เขารู้สึกว่าซูเย่เกินความคาดหมายของเขาไปมาก แล้วยังเรื่องสมุนไพรในดินแดนภูผามหานทีที่ทำให้เขายอมรับไม่ได้เล็กน้อย!
พวกเขาสำรวจดินแดนภูผามหานทีมานานหลายทศวรรษแล้ว แต่พวกเขาไม่เคยคิดที่จะใช้สมุนไพรในดินแดนภูผามหานทีเลย!
นี่เป็นความผิดพลาด!
ตอนรักษาอาการบาดเจ็บภายในให้เพื่อนร่วมทีม พวกเขาทั้งหมดได้รับการรักษาในโลกความจริง นอกจากหญ้าปราณแล้ว อย่างอื่นพวกเขาใช้สมุนไพรในโลกความเป็นจริงทั้งหมด
แต่ตอนนี้ซูเย่กลับบอกเขาเกี่ยวกับสรรพคุณของพืชในดินแดนภูผามหานที…