เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 60 การค้าขายสูตรหลอมโอสถถูกเปิดเผย!
บทที่ 60 การค้าขายสูตรหลอมโอสถถูกเปิดเผย!
“ตุบ ตุบ ตุบ!”
ร่างของทั้งสามร่วงไปกองอยู่บนพื้น
“จบแล้วเหรอ?”
หลังจากล้มทั้งสามได้ ซูเย่ก็เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์
การพุ่งตัวของเขาเป็นการเข้าไปกดจุดของอีกฝั่ง ทำให้สูญเสียความสามารถในการต่อต้าน
เขาถอดหน้ากากของทั้งสามออกทันที
“เอ๋?”
“ชาวต่างชาติ?”
สายตาของซูเย่แสดงออกถึงความประหลาดใจ เมื่อพบว่าผู้คนตรงหน้าของเขาไม่ใช่ชาวจีน ทว่าเป็นใบหน้าของชาวตะวันตก!
ทำไมเขาถึงได้เจอชาวต่างชาติที่ใช้พลังได้ที่นี่?
เดิมที เขาคิดว่าผู้ที่ติดตามเขาหลังงานประมูลเป็นคนของสำนักต่าง ๆ หรือผู้ฝึกยุทธ์พเนจร
“ใช้พลังได้เหรอ?”
ซูเย่ย้อนนึกถึงผู้ที่แอบตามเขาก่อนหน้านี้ น่าจะเป็นผู้ที่ใช้พลังลม และเมื่อสักครู่ก็เพิ่งมีผู้ใช้พลังสายฟ้า
แม้ว่าเขาจะมีชีวิตมากว่าสองพันปี และเคยได้ยินว่ามีชาวต่างชาติผู้ใช้พลังเหนือธรรมชาติมาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบเองกับตัว
“นี่มันน่าสนใจมาก” ซูเย่ถอนใจ “แค่อ่อนแอเกินไป”
กำลังของทั้งสามเทียบเท่าได้กับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่
“พวกแกเป็นใคร?” ซูเย่เอ่ยถามอย่างเรียบเฉย
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทั้งสามมองหน้ากันโดยยังปิดปากเงียบ
ซูเย่เลิกคิ้วขึ้น ก่อนที่เขาจะเริ่มถามคำถามต่อไป เขากลับได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวาย
มีคนกำลังมา!
ซูเย่ลากคอทั้งสามและออกจากไปพื้นที่อย่างว่องไว
แม้ว่าจะเป็นเวลากลางคืน แต่ยังคงมีผู้คนเดินถนนอยู่บ้างบริเวณนั้น
ซูเย่ไม่แม้แต่จะเค้นข้อมูลด้วยตัวเอง ลากทั้งสามมุ่งตรงไปยังทีมสืบสวน และโยนพวกเขาลงตรงหน้าของเกาหรงกวง
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?” เกาหรงกวงเอ่ยถามใบหน้าคร่ำเครียด เมื่อเห็นว่าซูเย่จับตัวชาวต่างชาติมาสามคน
“พวกเขาเป็นผู้ใช้พลังเหนือธรรมชาติ และพวกเขาเพิ่งรุมปล้นผมเมื่อครู่นี้” ซูเย่ผายมือทั้งสองออก
“เหนือธรรมชาติ?”
คิ้วของเกาหรงกวงขมวดยิ่งขึ้นมากกว่าเดิมเมื่อได้ยินเช่นนั้น โดยมองทั้งสามที่นอนนิ่งแสร้งตายไปด้วย
“ข่าวรั่วออกไปเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ข่าวอะไรครับ?” ซูเย่เอ่ยถามด้วยความสงสัยเมื่อได้ยิน
“ไม่มีอะไร” เกาหรงกวงรีบตอบปัด โบกมือเรียกคนเข้ามาพาตัวชาวต่างชาติทั้งสามออกไป เขาจะสอบสวนด้วยตัวเองในภายหลัง
หลังจากนั้น เขายิ้มและจ้องมองไปยังซูเย่ ก่อนจะกล่าว “มา ตามฉันไปสำนักงานหน่อย คุยเรื่องธุรกิจกัน”
“ธุรกิจ?” ซูเย่สับสน
เกาหรงกวงไม่พูดอะไร และนำเขาเข้าไปในห้อง
เพียงก้าวเข้าไป ใบหน้าของเกาหรงกวงก็เปลี่ยนไปเป็นเคร่งขรึม โดยมีรอยยิ้มแฝง “บอกมา”
ซูเย่เอ่ยถามต่อโดยที่ยังคงงุนงง “บอกอะไร?”
“สูตรหลอมโอสถ!”
เกาหรงกวงเดินไปที่โต๊ะและเปิดแล็ปท็อปขึ้นมาทันที กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “สูตรโอสถสองชนิดถูกประมูลไปที่งานประมูลหวังเป่า โดยใช้บัตรธนาคารจากทีมสืบสวนของเรา!”
“คิดว่าตัวเองเป็นใคร? ถ้านายไม่เอาบัตรออกมาใช้ ฉันก็คงไม่รู้เรื่องในคราวนี้!”
“ตกลงกันไว้ว่าอย่างไรในตอนแรก? ว่าถ้ามีอะไรดี ๆ ให้แจ้งทีมสืบสวนก่อน แต่นายก็ลืมที่ตกลงกันไว้ ให้ตายสิ!”
“หือ?”
ซูเย่ที่ตกใจในตอนแรก กลับหัวเราะออกมาก่อนจะกล่าว “ผมก็ว่า ทำไมคนที่แลกเปลี่ยนด้วยถึงมีท่าทางแปลก ๆ กะแล้วว่าเป็นคุณ! บังเอิญจริง ๆ”
“ไม่ต้องพูดเลย!” เกาหรงกวงจ้องซูเย่เขม็ง
เขากดแป้นพิมพ์เพื่อที่จะฉายจอไปบนกำแพง
จากนั้นหันไปยังจอภาพด้านหลังซูเย่ ทำความเคารพแล็ปท็อปด้วยใบหน้าจริงจัง “รายงานท่านผู้บัญชาการ เขามาถึงแล้วครับ พร้อมให้พูดคุยทันที”
หลังจากนั้น เขาส่งสัญญาณบอกซูเย่ให้หันหลังกลับ
ซูเย่ได้หันไป และพบว่าผู้ที่อยู่บนภาพฉายคือผู้บัญชาการมหานครตะวันออก เจียงซาน
เขาถือกระดาษบางอย่างอยู่ในมือ
เป็นสูตรหลอมโอสถที่ซูเย่เพิ่งขายไป
ขณะที่โบกสูตรโอสถเล่นไปมา เจียงซานมองซูเย่ด้วยสายตาเย้าหยอก ก่อนจะกล่าวขึ้นมา “เขียนได้ไม่เลว มีของดีอยู่เต็มไปหมด แต่ไม่มีสมองไว้จดจำหรืออย่างไร ถึงได้ไม่แจ้งก่อน นี่มันเป็นสิ่งที่ควรจะรายงาน!”
“แต่ว่า” ซูเย่ยิ้มออกมาพร้อมตอบอย่างใจเย็น “สุดท้ายแล้ว มันก็เป็นของทีมสืบสวนของเราอยู่ดี ต่างกันตรงไหนเหรอครับ?”
“ของเรา? มันต่างกันมาก!” เจียงซานส่ายหัว “เจ้าเด็กนี่คิดว่าทีมสืบสวนของเราไม่มีเงินใช่ไหม กลัวราคาจะต่ำเกินไปหรือ?”
“ไม่ต้องห่วง ทีมสืบสวนของเราใจกว้างกับคนในเป็นอย่างมาก!”
“ฉันให้ราคาเดียวกันก็ได้ ตรงเข้ากระเป๋าเลย นี่เธอต้องไปเสียค่านายหน้าจากการประมูลอีก ไม่เสียดายหรืออย่างไร?”
“แน่นอนครับว่าผมเสียดาย!” ซูเย่กล่าวออกมาด้วยใบหน้าอมทุกข์ “มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ครับ ในขณะนั้นผมรู้สึกว่านอกจากการประมูลแล้ว คงไม่มีที่ไหนเสนอราคาให้ได้มากเท่านี้”
“ดูถูกทีมสืบสวนเหรอ? หรือว่าดูถูกฉัน?” เจียงซานเกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
“ผมดูถูกสูตรโอสถต่างหาก!” ซูเย่สวนออกมาเสียงดัง “ผมคิดว่ามันไม่ใช่ของดีอะไร ทีมสืบสวนอาจจะไม่ต้องการมัน ผมจึงนำไปประมูล! หากผมทราบว่าทีมสืบสวนต้องการ ผมก็มอบให้สุดกายสุดใจไปแล้ว! แม้ว่าตอนนี้ผมจะยังทำให้ไม่ได้ จัดการกับความสัมพันธ์ของตัวเองยังไม่ได้เลย แต่ว่าผมจะตั้งใจให้ดีที่สุดในอนาคต!”
“……”
“……”
เจียงซานและเกาหรงกวงถึงกับพูดไม่ออก
นี่มันไร้สาระชะมัด!
ผู้ที่ต้องการสูตรโอสถทั้งสองมากที่สุดบนโลกก็คือทีมสืบสวน!
หากเกาหรงกวงไม่ไปงานประมูลโดยบังเอิญ ทีมสืบสวนก็คงพลาดสูตรโอสถทั้งสองไปแล้ว!
เจียงซานยังคงจ้องมองซูเย่ด้วยสายตาดังเดิม
ตราคำสั่งสร้างนครเองก็เช่นกัน ทำเอาทีมสืบสวนวุ่นวายไปหมดเพื่อที่จะเอามาจากสำนักเมฆาคราม และจะได้ใช้เตรียมการสร้างเมืองในพื้นที่ระดับสี่
หากเขานำมาขายแลกเปลี่ยนให้โดยตรง ก็คงไม่ต้องวุ่นวายเช่นนี้!
เจียงซานเคาะโต๊ะและกล่าวกับซูเย่ด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ “ดูเหมือนว่าเธอจะยังรู้จักทีมสืบสวนไม่ดีพอ! และทีมสืบสวนเองก็ไม่ได้พอใจในตัวเธอด้วย!”
ซูเย่รีบกล่าวขัด “พอแล้วครับ พอแล้ว”
เจียงซานเมินเขา มองไปยังเกาหรงกวงและกล่าว “เขายังไม่ได้รับภารกิจระดับเร้นลับ จัดเตรียมให้เขาหน่อย”
เกาหรงกวงตอบกลับ “รับทราบครับ!”
เจียงซานหันกลับไปมองซูเย่
“หากมีของดีอะไรอีกในอนาคต รายงานก่อน ทีมสืบสวนจะให้ราคาที่ต้องการ”
“รับทราบครับ” ซูเย่พยักหน้าทันที จากนั้นกล่าว “คำพูดของท่านเพียงพอแล้วครับ”
“เช่นนั้นก็จ่ายเงินมา”
เจียงซานกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “สมุนไพรชุดแรกกำลังจะมาแล้ว วันมะรืนนี้ ตอนนี้เธอก็รวยแล้วด้วย”
“……”
ซูเย่นิ่งไป
……
วันถัดมา
เวลาหกโมงเช้า
ซูเย่โทรหาข่งอวี้โจว
“ฮัลโหล?”
ข่งอวี้โจวรับสายทันที เสียงของเขาชัดเจนมาก ดูเหมือนว่าเขาจะตื่นเช้ากว่าซูเย่
“อยู่ไหนครับ?” ซูเย่เอ่ยถามตรงไปตรงมา
“แถวย่านการค้าของมหาวิทยาลัย ฉันจะหาที่กินอาหารเช้า” ข่งอวี้โจวตอบ
“รอผมก่อน” ซูเย่เอ่ยพร้อมยิ้ม จากนั้นออกจากมหาวิทยาลัยทันทีและมุ่งหน้าไปย่านการค้า
เมื่อพบข่งอวี้โจว ซูเย่พาเขาไปยังร้านอาหารเช้าเก่าแก่แห่งหนึ่ง และพูดคุยกันขณะรับประทานอาหาร
“เป็นอย่างไรบ้างครับ?”
เมื่อสั่งอาหารเรียบร้อย ซูเย่ก็เข้าเรื่องทันที
“ได้โรงงานแล้ว”
ข่งอวี้โจวพยักหน้าและกล่าว “ฉันเพิ่งเจรจาข้อเสนอไปเมื่อคืน เลยมาบอกเช้านี้ แล้วฉันก็นัดหมายทีมตรวจสอบการผลิตมืออาชีพแล้วด้วย หากผ่านการตรวจสอบแล้วก็สามารถลงทุนได้ทันที”
“มีโรงงานเดียวเหรอครับ? กำลังผลิตเป็นอย่างไรบ้าง?” ซูเย่เอ่ยถาม
“ใช่” ข่งอวี้โจวตอบ “เป็นโรงงานเภสัชกรรมขนาดใหญ่ ก่อตั้งในเมืองจี้หยางโดยบริษัทใหญ่ด้านอุตสาหกรรมเวชภัณฑ์ กำลังผลิตต่อปีอยู่ที่ 100,000 ตัน”
“ดีเลย” ซูเย่พยักหน้าและยิ้มอย่างพึงพอใจ จากนั้นเอ่ยถาม “บัตรธนาคารพร้อมไหมครับ?”
“เรียบร้อยแล้ว” ข่งอวี้โจวนำบัตรของเขาออกมาวางบนโต๊ะ
ซูเย่เปิดหน้าโอนเงินออนไลน์ขึ้นมาบนโทรศัพท์ กรอกหมายเลขบัตรของข่งอวี้โจวลงไป หลังจากตรวจสอบแล้วว่าข้อมูลถูกต้อง เขาจึงโอน 100 ล้านไปให้
ข่งอวี้โจวมองซูเย่ด้วยสีหน้าแปลกใจ
มีเงินมากขนาดนี้จริงเหรอ?
แล้วโอนให้ทันที แทบไม่ทันได้กะพริบตา?
“นี่เป็นหนังสือสัญญา สภาพแวดล้อมรอบโรงงาน และแผนการผลิตที่ฉันคิด”
ข่งอวี้โจวรีบยื่นโทรศัพท์ให้ซูเย่
เป็นภาพที่ถ่ายโดยโทรศัพท์ สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน เห็นสภาพแวดล้อมรอบโรงงานได้ทั่วถึง รวมไปถึงเครื่องจักรและคุณสมบัติของโรงงาน
และยังมีแผนการที่วางไว้อย่างปราณีต
จากนั้นซูเย่กล่าวออกมา “ผมไม่ต้องดูของพวกนี้หรอก คุณจัดการได้เลย”
ข่งอวี้โจวนิ่งไปสักพัก และเอ่ยถามกลับ “เชื่อใจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ผมแค่คิดว่าคุณต้องการโอกาสเช่นนี้ คุณจะคว้ามันไว้อย่างดีแน่นอน”
ซูเย่ยิ้มเล็กน้อยและกล่าวต่อ “ผมขอเพียงอย่างเดียว คือรีบเซ็นสัญญากับโรงงานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะได้ และพร้อมเริ่มกระบวนการทันที ที่เหลือคุณก็จัดการได้เลย วัตถุดิบสำหรับทำยาจะมาถึงเร็ว ๆ นี้ ถึงเวลาเมื่อไรก็ไปรับด้วยกัน”
ในขณะนั้น ข้อความที่แจ้งว่ายอดเงินเข้าในบัญชีแล้วปรากฏขึ้นบนโทรศัพท์ของข่งอวี้โจว
เมื่อได้เห็นข้อความ
ข่งอวี้โจวชะงักไปเล็กน้อย จ้องมองไปยังซูเย่ และยกกำปั้นขึ้นมา “ไม่ต้องเป็นห่วง ให้ฉันจัดการเอง! ซื้อโรงงานภายในวันนี้!”
“ติ๊ดติ๊ดติ๊ด…”
โทรศัพท์ของซูเย่ดังขึ้น
มองดูแล้วพบว่าเป็นเกาหรงกวง
“ของที่ต้องการมาถึงแล้ว พร้อมจะมารับไปเมื่อไร?”
เสียงของเกาหรงกวงดังมาจากปลายสาย
“อยู่ที่ไหนครับ?” ซูเย่เอ่ยถาม
“โกดังหมายเลข 14 ฝั่งตะวันตกของเมือง” เกาหรงกวงตอบ
“โอเค เดี๋ยวผมจะพาคนไปรับของในอีกสักพัก”
ซูเย่กล่าวจบจึงตัดสาย
“กินเสร็จแล้ว ผมจะพาไปรับวัตถุดิบสำหรับทำยา สมุนไพร 1,000 ตันมาถึงแล้ว!” เขากล่าวบอกข่งอวี้โจว
“เร็วจัง?” ข่งอวี้โจวอุทานออกมาและลุกยืนขึ้น “ไม่กินแล้ว ไปเดี๋ยวนี้เลย”
ซูเย่รีบกินอย่างรวดเร็วโดยไม่พูดอะไร ก่อนจะลุกตามไป
ข่งอวี้โจวนำรถมารับซูเย่
“คุณซื้อมาเหรอ?” ซูเย่ประหลาดใจ
“ใช่!” ข่งอวี้โจวยิ้มและพยักหน้า “ซื้อมือสองมาด้วยเงินฝากส่วนตัวน่ะ มันจะได้สะดวกขึ้น”
“แม้ว่าจะยังไม่ได้กำหนดเงินเดือนตายตัว แต่คุณทำเงินได้หลายล้านต่อปีแน่นอนจากความสามารถของคุณ จะเบิกเงินล่วงหน้าจากงบที่โอนไปให้ก่อนก็ได้นะครับ” ซูเย่กล่าวขึ้นขณะนั่งลงบนที่นั่งข้างคนขับ
“ไม่จำเป็นหรอก” ข่งอวี้โจวส่ายหัว “ตอนนี้เพิ่งจะเริ่มต้น ยังมีเรื่องต้องให้ใช้จ่ายอีกมากมาย การจดทะเบียนและดำเนินการควบคุมบริษัทเองก็ต้องการเงินจำนวนมาก แล้วก็ไม่สามารถทำการผลิตได้หากไร้ช่องทางการขาย จากการคำนวณของฉันแล้วการจดทะเบียนบริษัทและการตลาดก็อาจจะต้องใช้ถึง 100 ล้านเป็นขั้นต่ำ”
“อย่างไรก็ตาม เมื่อไรที่โรงงานเริ่มต้นการผลิตแล้ว กระแสของเงินเองก็ค่อย ๆ ขยายตัว”
ซูเย่ยิ้มและพยักหน้า “รอจนถึงวันที่สามารถทำเงินออกมาได้ นั่นก็จะเป็นก้าวแรกของเรา แต่ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการโฆษณาการขายหรอกครับ ผมมีหนทางอยู่ ก่อนอื่นคุณไปตั้งร้านออนไลน์ก่อน”
ข่งอวี้โจวเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “นายมีวิธีการโฆษณาเหรอ?”
ซูเย่พยักหน้าพร้อมกับยิ้มอย่างมีลับลมคมใน
“ได้ ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปเปิดร้านค้าออนไลน์หลังจากซื้อโรงงานในวันนี้!”
ทั้งสองมาถึงโกดังหมายเลข 14 ทางฝั่งตะวันตกของเมืองในไม่ช้า หลังจากพูดคุยกันมาตลอดทาง
เนื่องจากเมืองจี้หยางเน้นการพัฒนาด้านฝั่งตะวันออกมากกว่า ฝั่งตะวันตกจึงถูกจัดให้เป็นพื้นที่โกดังสำหรับเก็บของ ทุกโรงงานใหญ่ของเมืองจี้หยางล้วนสร้างโกดังในบริเวณนี้
ที่แห่งนี้
เกาหรงกวงกำลังยืนรอคอยอยู่ด้านหน้าประตูโกดังหมายเลข 14
เมื่อเห็นซูเย่ เขาจึงโบกมือเรียกทันที