เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 61 เรื่องเงียบไปหนึ่ง เข้าต่ออีกเรื่อง
บทที่ 61 เรื่องเงียบไปหนึ่ง เข้าต่ออีกเรื่อง
“นี่คือโกดังของพวกคุณเหรอครับ?”
ซูเย่มองดูสถานการณ์รอบ ๆ อย่างละเอียด และพบว่ามาตรการควบคุมของเขตนี้เข้มงวดมาก
“ไม่ใช่”
เกาหรงกวงส่ายหัวและกล่าว “เพิ่งเช่าได้ไม่นาน”
“อืม” ซูเย่พยักหน้าด้วยความเข้าใจ
“วันนี้ฉันจะพานายไปรู้จักใครคนหนึ่ง หลังจากนี้เขาจะเป็นคนรับหน้าที่ติดต่อกับนาย” เกาหรงกวงบอก
“ผมนึกว่าหลังจากนี้คุณจะเป็นคนติดต่อกับผมซะอีก” ซูเย่เอ่ยยิ้ม ๆ
“นายคิดว่าสารวัตรหัวหน้ากองอย่างฉันว่างจนไม่มีอะไรทำเหรอ?” เกาหรงกวงถลึงตาใส่ซูเย่
“พอดีเลยครับ ผมก็ไม่มีเวลา” ซูเย่สบตากับข่งอวี้โจวและยิ้มให้กัน
ประตูโกดังเปิดออก
คนที่เฝ้ายามอยู่เป็นหัวหน้าหน่วยย่อยของกองสืบสวน
“เฉินยี่”
เกาหรงกวงชี้หัวหน้าหน่วยย่อยและแนะนำ “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เขาเป็นคนรับผิดชอบส่งมอบสมุนไพรจีนกับพวกนาย และรับผิดชอบความปลอดภัยของทั้งโกดังไปด้วย”
“สวัสดีครับ” ซูเย่จับมือกับอีกฝ่าย
“สวัสดีครับ ผมชื่อข่งอวี้โจว” ข่งอวี้โจวก็จับมือกับอีกฝ่าย และเป็นฝ่ายเอ่ยปากขึ้นเอง “ตั้งแต่วันนี้ไปผมจะเป็นคนรับมอบสินค้ากับคุณทุกครั้งนะครับ ขอให้เราร่วมงานกันอย่างมีความสุข”
“ขอให้เราร่วมงานกันอย่างมีความสุข” เฉินยี่พูดอย่างสุขุม
ภายใต้การนำทางของเฉินยี่ ข่งอวี้โจวได้เห็นจำนวนสินค้าทั้งหมดในโกดังอย่างละเอียด ก่อนจะโทรติดต่อทีมขนของที่เคยคุยกันก่อนหน้านี้
“ทีมขนของออกเดินทางแล้ว อีกสามสิบนาทีก็ถึง”
หลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จ ข่งอวี้โจวก็หันไปบอกซูเย่
“ดี”
ซูเย่พยักหน้าและถาม “อีกนานแค่ไหนถึงจะเริ่มผลิตได้”
“ทำเรื่องจัดซื้อเสร็จภายในวันนี้ได้เลย และคนงานก็มีอยู่แล้ว”
ข่งอวี้โจวกล่าว “การขนส่งวัตถุดิบและจัดตารางคนงานต้องใช้เวลาหนึ่งวัน อย่างช้าสุดเริ่มผลิตได้พรุ่งนี้บ่าย”
“ดี ที่เหลือนายจัดการเลยนะ”
ซูเย่พยักหน้าก่อนจะเอ่ยขึ้น “ฉันคัดวัตถุดิบบางส่วนแล้วขอเอาไปก่อน มีเรื่องต้องใช้”
เขาไปเลือกสมุนไพรจีนที่เห็นได้บ่อยสุดและใช้บ่อยสุดออกมา และบอกลาข่งอวี้โจวทันที
ระหว่างทางกลับ เขาโทรหาสวี่หมิ่นหมิ่น คิดรบกวนให้อีกฝ่ายช่วยอะไรหน่อย
“มีอะไรแต่เช้า” สวี่หมิ่นหมิ่นรับโทรศัพท์ด้วยเสียงเกียจคร้าน น่าจะยังนอนอยู่
ซูเย่ดูเวลา นี่เก้าโมงแล้วนะ ยังเช้าอีกเหรอ?
“ช่วยจับตาดูบัตรเครดิตใบหนึ่งให้ฉันหน่อย”
ซูเว่ยกล่าว “อีกเดี๋ยวฉันจะส่งหมายเลขบัตรเครดิตให้เธอ ฉันต้องการให้เธอตรวจสอบทุกการหมุนเวียนของเงินในบัตรเครดิตใบนี้ เธอสามารถทำได้ไหม”
“เรื่องเล็กน้อย อย่ารบกวนเวลาฉันนอน” สวี่หมิ่นหมิ่นตอบและวางสายทันที
ว่าแล้วซูเย่ก็ส่งหมายเลขและชื่อของบัตรเครดิตของข่งอวี้โจวให้สวี่หมิ่นหมิ่น
เชื่อใจ?
ซูเย่ใจกล้ามากจริง ๆ
หากเป็นคนอื่นใดในโลกใบนี้ ไม่มีทางที่จะโอนเงินหนึ่งร้อยล้านให้กับคนที่เพิ่งรู้จักได้สองวันทันที และปล่อยให้เขาไปจัดการเรื่องต่าง ๆ
ชายหนุ่มรู้ว่าตัวเองกำลังเดิมพันอยู่
หากเดิมพันชนะ บุคคลนี้สามารถเรียกใช้ได้ตลอดชีวิต และตัวเองก็ไม่มีอะไรต้องห่วงอีก แต่ต่อให้เดิมพันแพ้ตัวเองก็สามารถเอาเงินจำนวนนี้คืนได้ทุกบาททุกสตางค์
ไม่ควรไม่เชื่อใจใคร แต่ก็ไม่ควรไม่ระแวงอะไรเลย
หลังจากส่งข้อความเสร็จ
ซูเย่กำลังจะปิดเครื่อง
ข้อความเวยป๋อข้อความหนึ่งพลันเด้งขึ้นมา ‘สถานีตำรวจเมืองจี้หยางประกาศผลการสอบสวนคดีอย่างเป็นทางการ คดีคนไข้ตายเพราะสมุนไพรจีนความจริงปรากฏแล้ว’
เมื่อเห็นข้อความนี้
ซูเย่ผงะ
ปิดคดีแล้วเหรอ?
แน่นอนว่าเรื่องผู้ฝึกยุทธ์นั้นพูดไม่ได้ แล้วจะประกาศว่าอะไร?
เขารีบจิ้มเข้าไปดู
‘หลังจากที่สืบสวนกันมาหลายวัน ขอประกาศผลคดีตามนี้’
‘จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์นี้เกิดจากพ่อค้าสมุนไพรจงใจวางยาพิษ จากการตรวจสอบพบว่าพ่อค้าสมุนไพรและผู้ตายมีเรื่องบาดหมางกันส่วนตัว หลังทราบว่าแพทย์แผนจีนที่รักษาผู้ตาย (นักศึกษามหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยางปีห้า) มักจะแนะนำคนไข้ไปซื้อยาที่ร้านขายยาผู่เสียง ผู้ต้องสงสัยจึงวางยาพิษด้วยการผสมผงสารตะกั่วผสมเคมีเข้าไปในสมุนไพรจีนโดยเจตนา และขายสมุนไพรจีนที่ผสมพิษให้กับเจ้าของร้านขายยาผู่เสียงในราคาถูก เจ้าของร้านขายยาซื้อยาปลอมมา และท้ายที่สุดแนะนำให้กับคนไข้ทั้งสอง จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต 1 กำลังรักษาตัว 1’
แม้ว่าข่าวจะเพิ่งออกมา
แต่
เวลานี้ใต้ช่องคอมเมนต์ของข่าวนี้มีคนมาคอมเมนต์จำนวนมากแล้ว
‘ฉันบอกแล้วว่าไม่เกี่ยวกับสมุนไพรจีน นี่เป็นการวางยาพิษโดยเจตนา’
‘นี่เป็นการฆาตกรรมโดยเจตนาใช่ไหม?’
‘โอ้โห โคตรน่ากลัวเลย สารตะกั่วถอนพิษไม่ได้นะ’
‘ในที่สุดก็คืนความบริสุทธิ์ให้กับการแพทย์แผนจีนและสมุนไพรจีนของฉันแล้ว คนที่วางยาสมควรตาย!’
…..
อีกด้าน
อาจารย์และนักศึกษาทุกคนของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยางต่างโล่งอกหลังได้เห็นข่าวนี้
นักศึกษาที่โดนขังในสถานีตำรวจก็ถูกปล่อยตัวทันที จากนั้นพ่อแม่ก็พามาที่มหาวิทยาลัย ภายในห้องประชุมอาจารย์ พวกเขาขอบคุณหลี่เคอหมิงและผู้ใหญ่คนอื่นของมหาวิทยาลัยไม่หยุด และซาบซึ้งจนแทบจะลงไปกราบคำนับหลี่เคอหมิง
หลี่เคอหมิงตาไวมือไว รีบห้ามไว้
“เขาเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเรา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอเพียงทำในสิ่งที่ถูกต้อง มหาวิทยาลัยจะเป็นโล่ให้กับนักศึกษาทุกคน”
หลี่เคอหมิงพูดกับพ่อแม่ของนักศึกษาด้วยรอยยิ้ม “นักศึกษาของมหาวิทยาลัยเสมือนเป็นลูกของมหาวิทยาลัย การปกป้องลูกเป็นหน้าที่ของอาจารย์อย่างเรา”
ในใจกลับอุทานออกมา ‘ทั้งหมดนี้โชคดีที่มีซูเย่’ !
ถ้าไม่ใช่ว่าเขาอาสาช่วยไปสืบให้ เรื่องคงไม่จบเร็วขนาดนี้
ในขณะที่เขาโล่งอก
ข่าวที่ไม่ดีต่อการแพทย์จีนและสมุนไพรจีนยิ่งกว่าถูกปล่อยออกมาในเวยป๋อ
บัญชีสื่อที่เสนอข่าวต่างประเทศโดยเฉพาะที่ได้รับการยืนยันตัวตนจากเวยป๋อโพสต์ ‘ข่าวต่างประเทศ’ ล่าสุด
‘เวลาตีสองของเมืองตี้ตูเมื่อวาน คนไข้คนหนึ่งในประเทศอังกฤษเสียชีวิตจากการทานสมุนไพรจีน แพทย์จีนในโรงยาจีนที่ประเทศอังกฤษถูกจับกุมทันที’
หลังจากข่าวนี้โผล่มา ก็เป็นที่ฮือฮาไปทั้งเน็ตอีกครั้ง
สมุนไพรจีนและแพทย์จีนรักษาคนต่างประเทศจนถึงแก่ชีวิตเหรอ?
สื่อใหญ่ต่าง ๆ ในประเทศล้วนแชร์ตั้งแต่วินาทีแรก
ในเวลาสั้น ๆ แค่ครึ่งชั่วโมง
ข่าวนี้ก็กระหน่ำไปทั่วอินเทอร์เน็ตประหนึ่งพายุ
ไม่ว่าจะในเวยป๋อ เทียปา ติ๊กต่อก หรือในเว็บบอร์ดที่เป็นที่นิยมอยู่ในตอนนี้ ต่างเป็นหัวข้อข่าวฮอต
ชั่วขณะนั้น
เป็นที่ฮือฮาไปทั่วประเทศ
‘เรื่องในประเทศเพิ่งจะกระจ่าง ต่างประเทศก็รักษาจนเสียชีวิตอีก?’
‘กรมอนามัยต่างประเทศประกาศแล้วไม่ใช่เหรอว่าห้ามนำเข้าสมุนไพรจีน ทำไมถึงยังเกิดเรื่องแบบนี้?’
‘ขนาดคนต่างประเทศยังโดนรักษาจนตาย ขายหน้ายันต่างประเทศ ตกลงสมุนไพรจีนปลอดภัยไหม? ใครก็ได้อธิบายให้ฉันฟังที’
……
ทว่า
ในขณะที่ทุกคนโดนเรื่องที่สมุนไพรจีนในต่างประเทศทำคนไข้ตายดึงดูดความสนใจไป
สื่อภายในต่างประเทศจากสามพื้นที่ก็ปล่อยข่าวใหญ่อีกครั้ง
‘เมืองซีหนิงเกิดเหตุสมุนไพรจีนคร่าชีวิต ตอนนี้ทางตำรวจได้เข้าสืบสวนแล้ว’
‘เมืองฉางสุ่ยเกิดเหตุสมุนไพรจีนคุณภาพไม่ดีคร่าชีวิตผู้ป่วย สถานการณ์ตอนนี้ตาย 1 เจ็บ 1 ผู้ป่วยกำลังได้รับการรักษาฉุกเฉินที่โรงพยาบาล’
‘เมืองหนานชงเกิดเหตุสมุนไพรจีนคร่าชีวิตอีกครั้ง ญาติผู้ป่วยวอนขอให้สืบสวนแพทย์จีนและสมุนไพรจีน’
เกิดเหตุคนตายเพราะสมุนไพรจีนสามรายติดกัน
คราวนี้กระแสในเน็ตระเบิดระเบ้อเลยทีเดียว
‘อีกแล้วเหรอ?’
‘โอ้โห ทำไมพริบตาเดียวมีคนกินสมุนไพรจีนแล้วตายเยอะขนาดนี้ล่ะ’
‘ไม่หรอกมั้ง อัตราการตายของสมุนไพรจีนน่ากลัวขนาดนี้เลยเหรอ?’
‘เมื่อก่อนก็มีคนกินสมุนไพรจีนไม่น้อยนะ ทำไมหลายวันมานี้มีแต่คนตายล่ะ’
‘เมื่อก่อนอาจเพราะไม่มีคนจับตาดูสมุนไพรจีน คิดว่าที่คนไข้ตายเพราะป่วยหนัก ตอนนี้จิตสำนึกในการรับรู้อันตรายของผู้คนสูงขึ้น ย่อมรู้ว่าอะไรคือตัวการที่คร่าชีวิตคนไข้ไป’
‘แล้วหลังจากนี้ใครจะกล้ากินสมุนไพรจีน?’
‘น่ากลัวมาก!’
‘ดูท่าสมุนไพรจีนมีพิษจริง ๆ ด้วย นี่แค่กี่วันเอง ก็มีคนตายเพราะพิษมันเยอะขนาดนี้แล้ว’
คอมเมนต์ถล่มทลายปะทุออกมา
ในเน็ตเต็มไปด้วยเสียงที่คลางแคลงและจิกกัดแพทย์แผนจีนกับสมุนไพรจีน
ความยิ่งใหญ่ของปัญหาระลอกนี้เป็นหลายเท่าของหนก่อน
กระทั่ง
ภายในหนึ่งชั่วโมงที่เกิดเรื่อง ซูเย่ก็ได้เห็นข่าวที่เกี่ยวกับคนตายเพราะสมุนไพรจีนถึงสี่ข่าวด้วยกัน
ดูข่าวคนตายเพราะสมุนไพรจีนจบแล้ว
ซูเย่ก็ขมวดคิ้วเป็นปม
“ไม้ตายก้นหีบมาแล้ว”
แต่หลังจากการปะทุของสมุนไพรจีนคร่าชีวิตคนติด ๆ กัน เขาคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะไร้จิตสำนึกขนาดนี้ ไม่เห็นชีวิตคนเป็นชีวิตเลย
“เราต้องเร่งลงมือแล้ว”
ซูเย่คิดในใจ ‘ต้องเปลี่ยนทิศทางคอมเมนต์โดยด่วนที่สุด!’
เขารีบเข้าไปในภูเขาและใช้พลังปราณสกัดสมุนไพรจีนจนเรียบร้อย ก่อนจะนำสมุนไพรกลับไปที่เมืองอย่างรวดเร็ว และมุ่งหน้าไปยังบ้านหลังเล็กที่ฮัวเหรินเชิงอยู่
คิดจะกลับทิศทางคอมเมนต์ เขาต้องมีการสนับสนุนจากหวาเหรนเฟิง
แรงสนับสนุนจากปรมาจารย์ด้านแพทย์แผนจีนระดับประเทศ
เขามาถึงหน้าประตูบ้านหลังเล็ก
“อาจารย์แม่”
ซูเย่เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาจากบ้านแต่ไกล จึงรีบโบกมือและตะโกนเรียก
“ซูเย่มาเหรอ”
พอเห็นซูเย่ อาจารย์แม่ยิ้มทักทายพร้อมบอก “ฉันออกไปเดินเล่นก่อน เดี๋ยวเปิดประตูทิ้งไว้ให้ อย่าลืมปิดนะ”
“ครับ” ซูเย่พยักหน้าตอบ
เมื่อเข้ามาในบ้านหลังเล็กแล้ว
เขาปิดประตู
ซูเย่เห็นอาจารย์ฮัวเหรินเชิงกำลังดูแลเหล่าสมุนไพรจีนที่ตัวเองปลูกในสวน
“มาแล้วเหรอ?”
พอได้ยินเสียง ฮัวเหรินเชิงถามยิ้ม ๆ โดยไม่ต้องหันไปมอง
“ครับอาจารย์” ซูเย่โค้งตัวคำนับฮัวเหรินเชิงอย่างนอบน้อม
“มาวันนี้มีอะไรเหรอ” ฮัวเหรินเชิงถาม
“สิ่งที่เกิดขึ้นในหลายวันนี้ อาจารย์น่าจะพอได้ยินมาบ้างแล้วนะครับ” ซูเย่เดินเข้าไปถาม
“อืม” ฮัวเหรินเชิงพยักหน้า หยุดสิ่งที่ทำอยู่และลุกขึ้นเอ่ยเสียงเข้ม “สมุนไพรจีนเป็นรากฐานของแพทย์แผนจีน สังคมเราพัฒนาไปเร็วมากในหลายร้อยปีมานี้ ซึ่งสร้างผลกระทบต่อการแพทย์จีนและสมุนไพรจีนอย่างมาก ตอนแรกฉันคิดว่าผลกระทบเช่นนี้จะค่อย ๆ หายไปตามการพัฒนาของแพทย์แผนจีน แต่ไม่คิดว่าปัญหาของสมุนไพรจีนจะหนักขึ้นเรื่อย ๆ”
ซูเย่กล่าว “ช่วยไม่ได้ครับ ชอบมีพวกพ่อค้าที่เห็นแก่ผลประโยชน์จนทำผิดกฎหมาย ต่อให้ประเทศจะคุมเข้มขนาดไหนก็ยังมีช่องโหว่อยู่ดี อีกอย่างเรื่องนี้ไม่ธรรมดาครับ มีคนคอยบงการอยู่เบื้องหลัง”
ฮัวเหรินเชิงอุทานเสียงหลง “หืม?”
“อีกฝ่ายพุ่งเป้ามาที่สมุนไพรจีนครับ สิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้ รวมถึงคนที่เสียชีวิตไปต่างไม่ใช่ความผิดของสมุนไพรจีน แต่เกิดจากการปรักปรำครับ”
“พวกเขาตั้งใจเจาะจงทำลายสมุนไพรจีนครับ!”
ฮัวเหรินเชิงขมวดคิ้วเป็นปม ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ถ้าเช่นนั้นก็ยิ่งยุ่งยาก เรื่องเงียบไปหนึ่ง เข้าต่ออีกเรื่อง ในเมื่อครั้งนี้มีคนบงการอยู่เบื้องหลัง และมาแรงขนาดนี้ ดูท่าการแพทย์แผนจีนคงต้องเสียหายหนัก ตอนนี้ทั้งแวดวงแพทย์แผนจีนเครียดกันหมด ไม่มีวิธีรับมือ”
“ผมมีวิธีครับ” ซูเย่กล่าว
“หืม?”
ฮัวเหรินเชิงมองซูเย่อย่างประหลาดใจและถาม “นายมีวิธีรับมือเหรอ”