เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 77 เผชิญหน้า! ถ้าใครมีปัญหา ก็เข้ามาเลย!
บทที่ 77 เผชิญหน้า! ถ้าใครมีปัญหา ก็เข้ามาเลย!
ซูเย่รีบพุ่งไปยังประตูข้างวิหาร
เข้าสู่ทางเดินภายนอกห้องโถงกลาง
ขณะนั้น ในห้องที่มีขนาดใหญ่เท่าสนามบาสเกตบอล เต็มไปด้วยร่างของผู้คน
ซ่งชิวอวี่และลูกรักสวรรค์ทั้ง 34 คนห้อมล้อมจินฟานอยู่
“ปัง!”
จินฟานถูกผลักลอยไปในอากาศและร่วงลงบนพื้นอย่างรุนแรง มีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขา
“บอกมา แกเป็นใคร?”
ซ่งชิวอวี่เอ่ยถามเสียงเรียบ พร้อมกับชี้ดาบไปที่คิ้วของจินฟาน
จินฟานมองกลับไป ไร้คำตอบ
“ไม่บอกเหรอ?”
ซ่งชิวอวี่บิดข้อมือข้างที่ถือดาบ แทงลงไปบนไหล่ของจินฟาน
“เคร้ง!”
ในขณะนั้นเอง ได้มีดาบปราณล่องลอยมาจากในอากาศ กระแทกเข้าที่ดาบของซ่งชิวอวี่ และเบี่ยงวิถีดาบออกไป
ทันใดนั้น
เงาดำปรากฏขึ้น
กระโดดลงมาเบื้องหน้าจินฟาน
ซูเย่จ้องไปยังซ่งชิวอวี่อย่างเย็นชา
“ซูเย่?”
ซ่งชิวอวี่เลิกคิ้วและเอ่ยถาม “รู้จักเขาด้วยเหรอ?”
“พรึ่บ!”
ทุกสายตาจับจ้องไปยังซูเย่ด้วยความสงสัย
ซูเย่เหลือบมองลูกรักสวรรค์ทุกคนในที่แห่งนั้น และกล่าวขึ้น “เขาเป็นพี่น้องของฉัน และเป็นสมาชิกทีมสืบสวนด้วย ฉันพามาเอง ถ้าใครมีปัญหา ก็เข้ามาเลย!”
จากนั้นเขาหันกลับไปมองจินฟานพร้อมเอ่ยถาม “เป็นอะไรไหม?”
“ไม่เป็นไร แผลตื้น ๆ”
เขายืนขึ้นและกล่าวด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด จินฟานไม่อยากเปิดเผยเรื่องของซูเย่เลย แต่ซูเย่ก็ยังต้องมาข้องเกี่ยว
“นายพาเข้ามาเหรอ?” ซ่งชิวอวี่ทำหน้าบึ้งตึง
“พาคนอื่นเข้ามาทำไม?”
“นายบอกเองไม่ใช่เหรอว่าเข้ามาได้เพียง 36 คน?”
“นี่ไม่ใช่บ้านนายสักหน่อย แบบนี้คนอื่นก็พาเข้ามาได้ใช่ไหมถ้าอยาก?”
“พวกเราต่อสู้เพื่อให้ได้ตำแหน่งของเรามา ทำไมนายถึงคิดว่าจะพาคนขั้นสามระดับห้าเข้ามาได้?”
บรรดาลูกรักสวรรค์ทั้ง 35 คนพากันบ่นออกมาอย่างขุ่นเคือง
ไม่คิดเลยว่าซูเย่จะแอบพาคนเข้ามา
แต่ไม่ใช่ว่าเข้ามาได้เพียง 36 คนหรือ?
“ฉันก็แค่อยาก!” ซูเย่สวนกลับอย่างเฉยชา
ทุกสายตาจ้องเขม็ง
ในที่สุดก็มีการเคลื่อนไหวจากอี้เทียนเจียว เขาถามออกมาด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“ไม่จริง! มีเพียงผู้ที่ระดับขั้นสูงกว่าขั้นสี่ และต่ำกว่าขั้นห้าที่จะเข้ามาที่นี่ได้ หมอนี่เป็นเพียงขั้นสามระดับห้า แล้วนายพาเขาเข้ามาได้อย่างไร?”
เมื่อประโยคนี้ถูกกล่าวออกมา
บรรดาลูกรักสวรรค์ทั้งหมดก็แสดงสีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ
จริงด้วย!
ที่แห่งนี้ในแดนลับ มีเพียงผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ขึ้นไปจนถึงขั้นห้าลงมาเท่านั้นที่สามารถเข้าได้ แล้วซูเย่พาผู้ที่ไม่ตรงเงื่อนไขเข้ามาได้ด้วยวิธีใด?
เกิดอะไรขึ้น?
“ซูเย่”
อันดับสองแห่งลูกรักสวรรค์ขั้นสี่ เล่อเทียน ก้าวเดินออกมา เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มที่ไม่เคยแปรเปลี่ยน “ฉันไม่สนใจว่านายพาหมอนี่เข้ามาด้วยวิธีไหน ฉันสงสัยเพียงสิ่งเดียว การท ที่นายไม่อยู่ที่นี่ แต่เขาอยู่ หมายความว่ามรดกในแดนลับแห่งนี้ถูกเขาเอาไปแล้วหรือเปล่า?”
พร้อมชี้นิ้วไปยังจินฟาน
“พรึ่บ!”
ทุกสายตาย้ายไปยังจินฟาน
นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขากังวลมากที่สุด มันจะทำให้พวกเขาต้องพลาดมรดกไป!
ซูเย่เองก็สงสัย เขาจึงหันไปหาจินฟาน
จินฟานพยักหน้า
ซูเย่ยิ้มออกมา
ผลลัพธ์เป็นไปตามที่เขาคาดไว้
“ส่งมา!”
เมื่อเห็นว่าจินฟานพยักหน้า เหล่าลูกรักสวรรค์ก็เดือดดาลขึ้นในทันใด พากันชี้นิ้วไปยังจินฟานและตะโกน “ส่งมรดกมาให้ฉัน!”
“มันไม่ใช่ของแก แกจะเอาไปไม่ได้”
“ส่งมรดกมา!”
“ทำไมต้องให้ด้วย?”
ซูเย่หันหลังกลับ มองกวาดไปยังเหล่าลูกรักสวรรค์ทั้ง 35 คนด้วยสายตาเย็นชา และถามด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “ไม่ต้องพูดถึงเรื่องให้หรือไม่หรอก แม้ว่าจะอยากส่งให้ แต่ให้ใคร?”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา
บรรดาลูกรักสวรรค์นิ่งเงียบไป
ให้ใคร?
พวกเขาทุกคนต่างต้องการได้รับมรดกที่ว่า!
“ครืน……”
ในเวลานั้นเอง ค่ายกลรอบข้างเริ่มสลายไปดุจดั่งม่านน้ำตก
ด้วยการสลายไปของค่ายกล ทำให้มีประตูสูงปรากฏขึ้นบนกำแพงยักษ์ที่เดิมทีนั้นว่างเปล่า
“หืม?” ซูเย่รู้สึกสับสน
เขารีบตรวจสอบและพบว่าการเชื่อมต่อระหว่างเขากับค่ายกลนั้นยังคงอยู่ และค่ายกลยักษ์ยังสามารถควบคุมเมืองทั้งเมืองได้
เนื่องจากการปกป้องมรดกได้จบสิ้นลงแล้ว ทำให้ค่ายกลที่จำกัดการเข้าออกของผู้คนนั้นสลายไป
ผู้บัญชาการทั้งหกที่รออยู่ภายนอกเมืองในแดนลับ สังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ พวกเขาจึงรีบวิ่งผ่านประตูเข้าเมืองไป
และตรงไปยังวิหารตะวันออก
เห็นทั้ง 36 คนอยู่รวมตัวกัน
เมื่อเห็นอีกคนหนึ่งอยู่ด้านหลังซูเย่ ทั้งหกได้แต่ขมวดคิ้ว
37 คน?
ขั้นสามระดับห้า?
“ติ๊ดติ๊ดติ๊ด……”
ขณะนั้นเอง นาฬิกาอัจฉริยะบนข้อมือของเจียงซานได้ดังขึ้น
เป็นสายจากเกาหรงกวง
เจียงซานคาดเดาได้เลยว่า ภาพตรงนั้นต้องเกิดจากการกระทำแผลง ๆ ของซูเย่อีกเช่นเคย เขาจึงเหลือบมองซูเย่ครั้งหนึ่ง ก่อนจะรับสายจากเกาหรงกวง
“มีอะไร?”
“มีรายงานให้ท่านผู้บัญชาการทราบครับ เราจับกุมผู้คนในภูเขานอกแดนลับได้ทั้งหมด 69 คน ทุกคนล้วนมาจากทีมสืบสวนเมืองจี้หยางครับ” เกาหรงกวงกล่าวเสียงเข้ม
“หือ?”
เจียงซานเลิกคิ้ว มองไปหาซูเย่ที่ยังคงทำหน้านิ่งอยู่อีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาเสียงแข็ง “พาพวกเขาเข้ามา!”
จินฟานหน้าเสียทันที เหล่าพี่น้องถูกพบตัวเข้าแล้ว เขามองไปยังซูเย่อย่างวิตกกังวล
สีหน้าของซูเย่ยังคงเดิม ส่ายหัวกลับหาจินฟาน เป็นสัญญาณบอกว่าให้ไม่ต้องห่วง
“ครับ!” เกาหรงกวงตอบรับและรีบนำทุกคนเข้ามายังวิหารตะวันออก
“ท่านผู้บัญชาการครับ ผมไม่ทราบว่าทำไมคนเหล่านี้ถึงอยู่ที่นี่ ถามอย่างไรก็ไม่ตอบ ช่วยแสดงให้ผมดูหน่อยครับว่าจะจัดการอย่างไร”
เสียงของเกาหรงกวงเต็มไปด้วยความกังวล เนื่องจากคนพวกนี้ก็คือเด็ก ๆ จากเมืองจี้หยาง เขาหวังว่าจะไม่ต้องถึงขั้นลงโทษร้ายแรง
สายตาของเจียงซานกวาดมองทั้ง 69 คน จากนั้นเขาจึงเลิกคิ้ว
เขาจำได้หลายคนเลยทีเดียว
เมื่อตอนที่เขาสืบเรื่องของซูเย่ เขาได้สืบเรื่องคนสนิทของซูเย่โดยบังเอิญ รวมไปถึงซูชือและจินฟาน
“คนเหล่านี้เป็นใคร?” เจียงซานเอ่ยถามซูเย่โดยตรง
ซูเย่ออกปากยอมรับ “ผมพามาเองครับ!”
ยอมรับออกมาตามตรง!
บรรดาลูกรักสวรรค์ก็ต้องตกตะลึง จ้องมองซูเย่เขม็ง
เขาไม่ได้แอบพาคนเข้ามาเพียงคนเดียว แต่เป็น 70 คน!
“เธอทำเหรอ?” เจียงซานเอ่ยถามต่อขณะที่มองซูเย่
เฉกเช่นเดียวกับผู้บัญชาการอีก 5 คน
พวกเขาเคยได้ทดลองแล้ว เมืองแห่งนี้อนุญาตให้มีคนเข้าไปได้เพียง 36 คน ไม่มีทางที่จะมีบุคคลที่ 37 หลุดเข้าไปได้ ทว่าซูเย่กลับนำคนจากข้างนอกเข้ามา มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ?
“เขาทำทั้งหมด ไม่ใช่เพียงพาคนเหล่านั้นเข้ามา แต่ยังพาอีกคนมาแย่งมรดกไป” ซ่งชิวอวี่ชี้ไปยังซูเย่
อะไรนะ?
ผู้บัญชาการทั้งหกผงะไป
เจียงซานเอ่ยถามขึ้นทันที “ใครได้มรดกไปนะ?”
“ผมครับ”
จินฟานลุกยืนขึ้น
“ขั้นสามระดับห้า?”
เจียงซานมองดูจินฟานอย่างถี่ถ้วน คิ้วขมวดปมแน่น และเขาจึงเปลี่ยนใจ
ผู้บัญชาการทั้งห้าคนที่เหลือ มองหน้ากันด้วยสายตาหดหู่
“ส่งมรดกมา” เยี่ยนตี้กล่าวกับจินฟาน “เธอไม่ควรขโมยสิ่งที่ไม่ใช่ของเธอไป”
ผู้บัญชาการอีกสี่พยักหน้าเห็นด้วย
สีหน้าของเจียงซานเคร่งขรึมขึ้นมาทันที
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ลูกรักสวรรค์ทั้ง 35 คนหันไปทำเสียงเย้ยหยันใส่ซูเย่และจินฟาน
ในเมื่อผู้บัญชาการออกคำสั่งแล้ว มีหรือเขาจะกล้าขัด?
จินฟานกัดฟันแน่น มองไปหาซูเย่ด้วยสายตาอันลังเล
ซูเย่ตบบ่าจินฟาน จากนั้นหันหลังและเดินออกไป จ้องมองผู้บัญชาการทั้งหก และเอ่ยถามขึ้นเสียงแข็ง “ผมอยากถามว่าทำไมต้องให้ครับ?”
“โอกาส เป็นสิ่งที่อยู่ในมือของใครของมัน พวกลูกรักสวรรค์ขั้นสี่ทั้งหมด ไม่สามารถทำในสิ่งที่ขั้นสามระดับห้าทำได้ ต้องมารุมรังแกและบีบบังคับเขา”
“ผมอยากถามอีกรอบนะครับ ถ้าหากจินฟานไม่มา แล้วใครจะสามารถรับมรดกนี้ไปได้?”
“ไม่ใช่ว่าจินฟานมาขโมยมรดกไปสักหน่อย แต่มรดกนี้มันเป็นของจินฟานมาตั้งแต่เริ่มแล้ว!”
สิ้นสุดคำพูด
ลูกรักสวรรค์ทั้ง 35 คนมองเขาอย่างสะพรึง
รนหาที่ตาย!
กล้าพูดอย่างนั้นกับผู้บัญชาการทั้งหกได้อย่างไร
แต่ที่น่าแปลกคือ ทั้งหกดูไร้ท่าทีโกรธ
“ไหนบอกฉันมา” หลานหลานชี้ไปยังจินฟานพร้อมเอ่ยถาม “ทำไมมรดกจึงควรเป็นของเขา?”
“เพราะว่าเขาถูกเรียกมาโดยมรดกเอง!”
ซูเย่เริ่มทำการอธิบาย “ชายคลั่งนครจือเป็นฤๅษี จินฟานเองก็เป็นคนประเภทเงียบ ๆ ไม่แสดงออก ภาวะจิตใจและลักษณะนิสัยค่อนข้างตรงกับชายคลั่งนครจือ ยิ่งไปกว่านั้น เขามีจิตใจด ดี ไม่สนโลก ไม่ยกย่องการมีชื่อเสียง และซื่อสัตย์ ดังนั้น ทันทีที่เขาก้าวเข้ามาในแดนลับ เขาจึงถูกนำทางจากมรดก ไม่เช่นนั้น พวกท่านคิดว่าเพราะอะไร เขาจึงหามรดกพบก่อนบรรดา ลูกรักสวรรค์ครับ?”
ผู้บัญชาการทั้งหกได้ฟัง จึงทำได้เพียงขมวดคิ้ว
สิ่งที่ซูเย่กล่าวนั้นช่างไร้เหตุผล
“แม้ว่านั่นจะเป็นเรื่องจริง แต่แม้จะไม่มีใครได้รับมรดกมา ก็ไม่สามารถมอบให้เขาได้อยู่ดี โลกนี้มีกฎระเบียบ ในเมื่อตั้งกฎขึ้นมาแล้ว ก็ต้องปฏิบัติตาม”
ผู้บัญชาการอู๋เสี้ยนห่าวแห่งมหานครใต้กล่าวพร้อมส่ายหัว
“ใครเป็นคนตั้งกฎครับ?” ซูเย่ยิ้มเยาะ จากนั้นกล่าว “แม้ว่าจินฟานจะยอมมอบให้ แต่จะให้ใครครับ? ผมเป็นอันดับหนึ่งในลูกรักสวรรค์ระดับสี่ ให้ผมเหรอครับ?”
เจียงซานยืนมองอยู่ด้านข้าง
ทั้งห้าคอตกลงเล็กน้อย เจ้าหนู ความเห็นของเธอมันก็มากเกินไปหน่อย
“ส่งมาเถอะ เดี๋ยวเราจะมอบให้ผู้ที่เหมาะสมเอง”
จ้าวตงหลินแห่งมหานครตะวันออกเฉียงเหนือรีบกล่าวออกมา
“ผู้ที่เหมาะสมก็คือจินฟานนี่แหละครับ!” ซูเย่สวนกลับในทันที “ผมบอกไปแล้วว่ามรดกนั้นออกมานำทางจินฟานด้วยตัวเอง หมายความว่าเจ้าของสถานที่แห่งนี้ตั้งใจจะมอบมรดกให้กับจิ นฟานตั้งแต่แรก นอกจากจินฟานแล้ว ใครจะสมควรได้รับมันไปมากกว่าเขาครับ?”
“เจ้าหนู เลิกทำตัวยุ่งยากน่ารำคาญได้แล้ว!”
ปาปู้เต๋อตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว
อีกสี่คนเองก็จ้องมองซูเย่ด้วยสายตาที่เย็นชายิ่งกว่าเดิม
“ยุ่งยากน่ารำคาญ?” ซูเย่ใช้น้ำเสียงเย้ยหยัน “หากจินฟานไม่เข้ามา คนที่มีโอกาสจะพบมรดกมากที่สุดก็คงเป็นผม ไม่ใช่เพียงเพราะว่าผมเป็นอันดับหนึ่งในขั้นสี่”
“แต่เพราะผมเป็นคนกระตุ้นแดนลับแห่งนี้ให้เกิดขึ้นมา!”
“ประตูแดนลับผมก็เป็นคนเปิด!”
“ด้วยเหตุนี้แล้ว สิ่งของทุกอย่างในนี้ควรจะเป็นของผม ผมจะมอบให้ใครก็ได้ เพียงพอไหมครับ?”
ผู้บัญชาการทั้งหกต่างตกตะลึง
“เธอเป็นคนกระตุ้นหรือ?” เจียงซานเอ่ยถามอย่างตื่นตกใจ
“ใช่แล้วครับ!” ซูเย่พยักหน้า “ตอนที่ผมได้รับตราคำสั่งสร้างนครมาจากแดนลับในดินแดนภูผามหานที พลังปราณได้พวยพุ่งออกมา เป็นวันเดียวกับที่ปรากฏภาพลวงตาบนแดนลับแห่งนี้! !”
ข้อมูลเหล่านี้เป็นสิ่งที่เขาค้นพบในภายหลัง
แดนลับถูกกระตุ้นออกมาและเปิดด้วยตัวเขาเอง?
ไม่แปลกใจเลย ทำไมเขาจึงเปิดประตูได้!
เหล่าลูกรักสวรรค์ทำได้เพียงยืนนิ่งค้างจากความตกใจ
ผู้บัญชาการทั้งหกมองหน้ากัน ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าแดนลับแห่งนี้จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับซูเย่ด้วย
เมื่อคิดเช่นนั้นแล้ว ทั้งตราคำสั่งสร้างนครและการปรากฏขึ้นของแดนลับ ก็มีเหตุผลรองรับแล้ว
ทว่าพวกเขาก็ยังคงทำหน้าตาไม่น่ามอง
หากไม่ใช่เพราะกฎระเบียบ พวกเขาคงลงโทษซูเย่ไปแล้ว
ซูเย่เป็นคนจากมหานครตะวันออก
ที่นี่เป็นเขตของมหานครตะวันออก เขตของเจียงซาน!
ผู้บัญชาการทั้งห้ามองไปยังเจียงซาน
เขาจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร?