เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 8 กวาดล้างบ่อนทั้งห้าในรวดเดียว
บทที่ 8 กวาดล้างบ่อนทั้งห้าในรวดเดียว
“นื่คือโลกแห่งความเป็นจริง! หรือว่าจะพึ่งการหาเงินจากที่นั่นไปตลอดชีวิต?”
ไป๋ผู้พ่อไม่ได้สนใจไป๋จือหราน แล้วหันหน้าไปหาซูเย่โดยตรง
ซูเย่ยิ้มขึ้นมา เขาเดินตรงเข้าไปหาแล้วหยิบปากกาจากมือของเลขา เซ็นชื่อลงไป
แล้วยังขีดฆ่าเลขบนสัญญา จาก 200 เป็น 250 ล้าน
“เป็นเกียรติมากครับ” หลังจากเซ็นชื่อลงไป ซูเย่ได้ยื่นหนังสือสัญญากลับคืนให้ไป๋ผู้พ่อพร้อมกล่าว “ผมเพิ่มให้อีก 50 ล้านนะครับ! เป็นค่าน้ำชา!”
ไป๋ผู้พ่อก้มลงอ่าน
สุดยอดไปเลย
250 ล้านใน 1 ปี?
หลังจากได้เห็นซูเย่เซ็นสัญญา ก็เกิดความประหลาดใจขึ้นในสายตาไป๋ผู้พ่อ
เด็กคนนี้ ดูมั่นใจมาก
เขาเริ่มมองดูซูเย่อีกครั้งอย่างละเอียด
แต่ไม่ว่าจะดูละเอียดแค่ไหน ตั้งแต่หัวจรดเท้า อีกฝ่ายก็ไม่ได้ดูมีอะไรพิเศษเลย
หรือจะเป็นเพราะว่ายังมีข้อมูลบางอย่างที่เขาตรวจสอบไม่พบ
เป็นไปไม่ได้!
“ไปกันเถอะ!” ไป๋จือหรานคว้าข้อมือซูเย่แล้วรีบตรงออกจากบริเวณบ้านพัก
“นายเซ็นสัญญาทำไม?” ไป๋จือหรานถามทั้งที่ยังโกรธ “นี่เป็นเรื่องระหว่างพวกเราและไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาเลย ฉันไม่ต้องการสัญญาหรือเงื่อนไขอะไรทั้งนั้น ของพวกนี้มันไร้สาระสำหรับฉัน”
“หืม?”
พอได้เห็นไป๋จือหรานหน้าบูดบึ้ง ซูเย่จึงเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม “ไม่คิดเลย ว่าขนาดตอนเธอโกรธก็ยังสวย”
เมื่อไป๋จือหรานได้ยินเช่นนั้น ความโกรธที่มีอยู่ก็หายไป
ความรู้สึกอายจากการถูกเชยชมเกิดขึ้นในใจ
“ไม่ต้องห่วง” ซูเย่กล่าวขณะยังคงยิ้มอยู่ “ที่ฉันเซ็นสัญญาไปเพราะฉันจะทำได้อย่างแน่นอน และฉันจะพิสูจน์ตัวเองว่าฉันคู่ควรที่จะเป็นแฟนของเธอ”
“แต่เงื่อนไขมันมากเกินไป” ไป๋จือหรานขมวดคิ้ว
“มากก็ไม่เป็นไร พ่อของเธอจะได้ไม่มีข้ออ้าง” ซูเย่กล่าว
“ยังไงมันก็มากเกินไป อีกอย่าง ทำไมนายถึงเปลี่ยนจาก 100 เป็น 250 ล้าน?” ไป๋จือหรานบ่นอย่างไม่พอใจ
“250 ล้านมันไม่เท่าไรหรอก เชื่อฉัน” ซูเย่ยิ้มตอบ
ไป๋จือหรานมองซูเย่ด้วยใบหน้าเคร่งเครียด “ฉันเชื่อก็ได้ แต่ฉันจะช่วยนาย! ถ้ามันยังไม่พอ ฉันจะไปร้องเพลงหาเงินเพิ่ม! หรือแม้แต่ไปงานประกวดความสามารถ!”
“ไม่จำเป็นหรอก” ซูเย่ยิ้ม “ฉันจะทำเอง”
เขาจับมือไป๋จือหรานและเขย่ามันเพื่อสร้างกำลังใจให้เธอ
ไป๋จือหรานที่หน้าแดงได้เอ่ยขึ้นอย่างจริงจัง “ถึงแม้ท่านพ่อจะไม่ยอมรับ แต่สำหรับฉัน นายเป็นแฟนฉันแล้วนะ!”
“เธอก็เป็นแฟนฉันเหมือนกัน!”
ทั้งสองจับมือกันตลอดเวลาที่คุยและนั่งแท็กซี่กลับเขตมหาวิทยาลัย
เมื่อกลับมายังมหาวิทยาลัย ซูเย่เริ่มคิดหาหนทางเพื่อหาเงิน
ถึงแม้การหาเงินจะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับซูเย่ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาจุดเริ่มต้นที่ดี
รับตรวจสอบโบราณวัตถุ?
ประกวดความสามารถ?
วิชาแพทย์แผนจีน?
หรือวิธีอื่น ๆ
ทุกสิ่งล้วนทำเงินได้จำนวนมาก แต่การที่จะหาได้ถึง 250 ล้านใน 1 ปี คงจะต้องวางแผนดี ๆ
ซูเย่คิดระหว่างเดิน
คิดแล้วคิดอีก
“กริ๊งกริ๊งกริ๊ง…”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดู เป็นสวีหมินหมินจากทีมสืบสวน
“ฉันส่งข้อมูลที่คุณขอไปให้ทางข้อความแล้วนะ”
หลังจากพูดจบสวีหมินหมินก็ตัดสายไป
ซูเย่เปิดข้อความในโทรศัพท์ขึ้นมาดู
สวีหมินหมินส่งข้อมูลเกี่ยวกับบ่อนพนัน 5 แห่งมาให้เขาจริง ๆ
บ่อนทั้ง 5 เป็นแหล่งที่หวังเหวินมักจะไปเล่นพนัน
ซูเย่สูดให้ใจเข้าลึก
“ต้องจัดการเรื่องนี้ก่อน ให้สมกับที่หวังห่าวมอบความไว้วางใจให้”
ซูเย่หันหลังกลับและออกจากมหาวิทยาลัย
มาสู่บ่อนพนันใต้ดินแห่งแรก
“แกจะทำอะไร?” ยามเฝ้าประตูตะโกนเสียงดัง
ซูเย่ถีบประตูออก และรีบวิ่งเข้ามาข้างใน
ทุกสายตาจับจ้องมายังซูเย่ ทั้งนักพนัน พนักงาน และยาม
หลังจากนั้น ซูเย่ก็เรียกตำรวจ
เมื่อได้ยินเสียงรถตำรวจมา เขาก็ออกจากบ่อนนี้ มุ่งหน้าไปที่ต่อไป
บ่อนที่สอง บ่อนที่สาม……
ห้าที่ในรวดเดียว
การกวาดล้างเสร็จสิ้น!
หลังจากมองไปรอบ ๆ บ่อนที่ห้า ซูเย่ก็เรียกตำรวจอีกครั้ง
ในครั้งนี้ เป็นผู้กำกับสถานีเองที่พาตำรวจมา
เมื่อเขาเห็นซูเย่ เขาถึงกับผงะ
“คุณอีกแล้วเหรอ?”
เขายังคงจำได้แม่นว่าเมื่อครั้งก่อนชายคนนี้นำคนไปจัดการกลุ่มใต้ดินที่ภัตตาคารที่ทะเลสาบหมิงหมิง
ในครั้งนั้นเขามาจากทีมสืบสวนของหวังห่าว
ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้เจอกันอีกครั้ง
เคยสงสัยอยู่ว่าใครกันที่เก่งขนาดนั้น แต่เป็นเขานี่เอง
“คุยกันสักหน่อยไหมครับ?” ซูเย่เอ่ยถามพร้อมกับยิ้ม
“ได้สิ” ผู้กำกับคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตกลงและเข้าไปหาซูเย่
“คิดอะไรอยู่ ถึงจัดการด้วยวิธีนี้?” ผู้กำกับถามขึ้นมา “ไม่ใช่ว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของคุณเหรอ?”
ซูเย่ที่ยังคงยิ้มตอบกลับอย่างใจเย็น “ตำรวจมีหน้าที่กวาดล้างการพนัน ผมในฐานะพลเมืองดีก็แค่คอยให้เบาะแส”
“ก็ดี” ทันใดนั้นผู้กำกับกล่าวพร้อมกับยกนิ้วชื่นชม “เดี๋ยวกลับไปแล้วส่งธงไปให้”
“ไม่ต้องก็ได้ครับ แค่ช่วยเหลืออะไรหน่อย”
“ช่วยอะไรเหรอ?” ผู้กำกับถาม “ถ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรก็ช่วยได้อยู่แล้ว”
ซูเย่ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะกล่าว “ผมอยากให้ช่วยบรรจุคนเข้าตำรวจให้หน่อย”
“ไม่ได้!”
ผู้กำกับส่ายหน้าและว่ากลับอย่างจริงจัง “คำขอแบบนี้ทำไม่ได้ ตำแหน่งตำรวจไม่ใช่ของที่จะให้กันได้ ต้องมีการไปสอบคัดเลือกมากมาย ฉันไม่มีสิทธิ์ให้ ไม่มีใครทำได้”
“ถ้าผมขอบรรจุล่ะครับ?”
“ได้สิ!”
“ฮ่าฮ่า” ซูเย่หัวเราะทันที
“ก็เธอเก่งและมากความสามารถ ถ้าลาออกจากทีมสืบสวนก็ย้ายเข้าตำรวจได้เลย ไม่ผิดกฏ” ผู้กำกับตอบโดยไม่รู้สึกอะไร
“แต่ผมไม่เอาหรอก ผมรับตำแหน่งแบบเป็นทางการไม่ได้”
ซูเย่ส่ายหัวก่อนจะถามขึ้น “ถ้าตำแหน่งตำรวจผู้ช่วยล่ะครับ?”
“นั่นก็……”
ผู้กำกับลังเลอย่างเห็นได้ชัดเจน จากนั้นก็ส่ายหน้าเช่นเดิม “แม้แต่ตำรวจผู้ช่วยก็มีการคัดเลือกและตรวจสอบ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เข้มงวดมาก แต่ก็ยังต้องผ่านกระบวนการแบบเป็นทางการอยู่ดี แต่…”
“อะไรนะ?” ซูเย่ถาม
เมื่ออีกฝ่ายเอ่ยคำว่า ‘แต่’ ออกมา นั่นหมายถึงยังมีโอกาส
“มันก็เป็นไปได้อยู่ถ้าเธออยากช่วยคนให้ได้เป็นตำรวจผู้ช่วย อย่างไรก็ตามตำแหน่งนี้ไม่ใช่ตำแหน่งหลัก ถ้ามีความสามารถเหมาะสมก็เข้ามาเป็นได้อยู่” ผู้กำกับหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ “แต่ เธอต้องช่วยฉันเหมือนกัน”
“ให้ช่วยอะไรครับ?” ซูเย่รีบถามทันที
“ออกไปข้างนอกกันก่อน”
ผู้กำกับพาซูเย่ออกมาข้างนอกบ่อน เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีคนอยู่รอบ ๆ ก็ได้กระซิบ “พรุ่งนี้จะมีการกวาดล้างขบวนการค้ายา แต่ตามข้อมูลที่ได้รับแจ้งมา ในกลุ่มพ่อค้ายามีนักสู้ฝีมือดี กองกำลังตำรวจของเราอาจจะสู้ไม่ได้ …และถ้าทางฝั่งนั้นขัดขืนจนเกิดการต่อสู้ พวกเราอาจจะได้รับความเสียหาย”
“ต้องรีบกำจัดเขาโดยด่วน”
“และเธอก็เป็นดาวรุ่งแห่งทีมสืบสวน”
“ดังนั้น……” ผู้กำกับจ้องมองซูเย่และรอคอยคำตอบ
“เรื่องที่ขอมามันใหญ่หน่อยนะ”
“แต่ถ้าช่วยพวกเราได้ ฉันก็จะช่วยเธอกลับ” ผู้กำกับกล่าว
ซูเย่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยว่า “ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ผมชื่อหวังเหวิน ผมจะช่วยคุณ”
“ได้เลย สวัสดีหวังเหวิน”
…
ในคืนนั้นเอง
เมื่อมีบ่อนถึงห้าแห่งถูกกวาดล้าง ข่าวจึงได้แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็วในกลุ่มใต้ดินเมืองจี้หยาง
“ว่ากันว่าหัวหน้ากลุ่มนักศึกษาที่ไล่กำจัดกลุ่มใต้ดินในครั้งก่อน มันกลับมาแล้ว!”
“นักเรียน?”
“ขี้โม้สิไม่ว่า ไอ้พวกกรมตำรวจเมืองจี้หยางมันคงแต่งเรื่องเพื่อขู่เรา”
“น่าจะใช่ กลุ่มนักศึกษาจะทำลายกลุ่มใต้ดินได้อย่างไร?”
“เมื่อวานเกิดเป็นเรื่องใหญ่เลย บ่อนถูกกวาดล้างห้าแห่ง ข่าวจากนักพนันที่ถูกปล่อยตัวบ่ายวันนี้บอกว่าเห็นเป็นเด็กหนุ่มที่เหมือนนักศึกษา”
“พวกมันว่าอย่างไร?”
“ฉันมีพี่ชายที่เพิ่งถูกปล่อยตัวไม่นานมานี้ เป็นสมาชิกกลุ่มใต้ดินที่โดนทำลาย เขาบอกว่าคนที่จับเขาส่งตำรวจเป็นกลุ่มนักศึกษาจริง ๆ!”
“เวรเอ๊ย ข่าวลือเป็นเรื่องจริงเหรอ?”
“เรื่องจริง พวกนักศึกษามันเก่งมาก”
ในไม่นาน ก็มีพยานมากมายออกมาบอกเล่ากันทีละคน ทีละคน
กลุ่มสังคมใต้ดินทั่วทั้งเมืองจี้หยางเริ่มทำการสืบหาชื่อของต้นเหตุที่ว่า ทุกคนต่างให้ความสนใจกับเรื่องนี้
ใช้เวลาเพียงไม่นาน ข่าวใหม่ก็มา
“ดูเหมือนว่าเหตุผลที่มันมาแจ้งความเรื่องบ่อน อันที่จริงเป็นเพราะคนชื่อหวังเหวิน เพราะทั้งห้าเป็นบ่อนที่หวังเหวินมักจะไปเล่นพนัน แล้วมันยังบอกอีกว่าถ้าใครกล้าปล่อยหวังเหวินไปเล่นอีก มันก็จะตามมาพังอีก!”
ทันทีที่ปรากฏข้อความนี้ ทั่วทั้งโลกใต้ดินต่างตกตะลึงและเต็มไปด้วยความสงสัย
ใครวะ หวังเหวิน?
ไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ช่างมันเถอะ!
พวกเขากระจายคำสั่งกันอย่างลับ ๆ ว่าห้ามคนที่ชื่อหวังเหวินเข้าบ่อนอีก
……
เช้าวันถัดมา
ซูเย่เดินทางมายังสถานีตำรวจเขตตะวันออกเมืองจี้หยาง
ภายใต้การจัดการของผู้กำกับ ซูเย่รับประทานอาหารเช้าและพักผ่อน ก่อนที่จะขึ้นรถและออกไปพร้อมกองกำลังตำรวจ
รถตำรวจขับตรงออกนอกชายแดนเขตตะวันออกมายังถนนแห่งหนึ่งและพากันลงจากรถ
“อยู่ตรงไหนครับ?” ซูเย่ถามพร้อมกับสำรวจไปรอบ ๆ สองฝั่งถนน
“ไม่ใช่ตรงนี้” ผู้กำกับส่ายหัว ยกมือชี้ไปยังด้านหลังของตึกฝั่งซ้าย “ตรงนั้น”
“หลังตึกนี้เป็นพื้นที่ปรับปรุง ตรงที่ว่ากำลังเตรียมการและยังไม่เริ่มการก่อสร้าง มีตึกที่สร้างไม่เสร็จอยู่ข้างใน”
“ดูจากข้อมูลแล้ว พวกกลุ่มค้ายาอยู่ในตึกที่สร้างไม่เสร็จ”
“ตึกที่ว่ามีมุมมองที่เห็นได้ดี พวกมันมีคนคอยดูต้นทางเยอะ ถ้าขับรถตำรวจเข้าไปพวกมันจะหนีทัน เราเลยทำได้แค่หลบตรงนี้”
ซูเย่พยักหน้าตอบรับ
“ตรงนั้น” ผู้กำกับชี้ไปยังตึกสูงที่อยู่ไม่ไกล “บนตึกนั้น เราจัดพลซุ่มยิงไว้ จะไม่แจ้งจำนวนแบบชัดเจน แต่เพียงพอที่จะช่วยคุ้มกันได้”
กล่าวเสร็จเขาก็หยิบเสื้อหนังจากรถตำรวจแล้วยื่นให้กับซูเย่ “นี่คือเสื้อเกราะกันกระสุนแบบพิเศษ”
“ไม่ครับ” ซูเย่ส่ายหัว “เนื่องจากมันอันตราย คุณรออยู่ตรงนี้ ผมจะเข้าไปคนเดียว” เขาก้าวออกไปหลังจากกล่าวจบ
“เดี๋ยวสิ! อย่าดื้อด้านมาก! ปลอดภัยไว้ก่อน!” ผู้กำกับรู้สึกกลัวจึงรีบหยุดซูเย่ไว้
คนจากหน่วยสืบสวนนี่ไม่รักตัวกลัวตายกันเลยหรืออย่างไร?
“พวกพ่อค้ายามันอันตรายมาก พวกมันมีปืนกันทุกคน!”