เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 90 จัดการตัวท็อปคนที่สามเรียบร้อย
บทที่ 90 จัดการตัวท็อปคนที่สามเรียบร้อย
“เป็นศิษย์ของผู้อำนวยการ? เธอรับประกันได้เหรอ”
พ่อแม่ของเซ่หยั่นได้ฟังดังนั้นก็ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที
ยุคนี้อะไรเป็นจุดแข็งที่สุด
แน่นอนว่าต้องเป็นเส้นสาย!
หากรู้จักกับผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีน เรื่องการศึกษาของเซ่หยั่นหลังจากนี้ก็ไม่มีอะไรให้กังวล อนาคตในแวดวงแพทย์แผนจีนก็ไม่มีอะไรต้องกังวลเช่นกัน!
“ผมรับประกันได้ครับ ผมเป็นศิษย์น้องของเขา เมื่อก่อนเป็นนักเรียนของเขาด้วยครับ และข้อนี้ก็เซ็นลงในสัญญาได้เช่นกัน” ซูเย่บอก
พูดขอโทษในใจ ‘ศิษย์พี่ ผมขายศิษย์พี่ซะแล้ว หวังว่าจะไม่โกรธผมนะครับ’
ศิษย์น้อง?
พ่อเซ่หันไปมองแม่เซ่แบบอึ้ง ๆ ไม่รู้เลยว่าซูเย่มีเส้นสายขนาดนี้
“ขอเวลาพวกเราสักห้านาที”
พ่อเซ่ลุกขึ้น แม่เซ่ก็ลากเซ่หยั่นให้ลุกตามมาที่ห้องนอน
“คุณคิดว่ายังไง”
เข้ามาถึงห้องนอน แม่เซ่หันมองพ่อเซ่
พ่อเซ่รีบเข้าไปค้นหาข้อมูลของซูเย่ในเน็ต และเมื่อเห็นข่าวเกี่ยวกับการขายสมุนไพรของบริษัทมากมายมหาศาลก็ตะลึงไป
เมื่อก่อนไม่ค่อยได้สนใจแวดวงแพทย์แผนจีน
คิดไม่ถึงว่าพอค้นดู เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกจะยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้
“ถ้าเธอรับประกันทุกอย่างตามที่พูดได้ ก็ใช่ว่าเราจะไม่รับไว้พิจารณา ไม่ใช่ว่าตัวท็อปทุกคนที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยชิงหวาและจิงเป่ยจะได้รับการศึกษาและมีอนาคตที่ดี หลายวันก่อนก็ ็มีตัวท็อปคนหนึ่งพอเรียนจบก็ไปขายหมูไม่ใช่เหรอ?”
พ่อเซ่พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
จบการศึกษาปุ๊บก็มีรายได้หนึ่งล้านต่อปี ติดต่อกันเป็นสิบปี แล้วยังฝากตัวเป็นศิษย์ของผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนได้อีกด้วย สำหรับครอบครัวเล็ก ๆ ไม่ได้ร่ำรวยอย่างพวกเขา ข้อเสนอเหล่านี้น่าสนใจมากทีเดียว!
“ถ้าอย่างนั้น ก็ไปเถอะ”
แม่เซ่หันมองเซ่หยั่น ก่อนจะเอ่ยขึ้น “เรื่องอาชีพในอนาคตสิบปีของลูกก็ไม่มีปัญหาแล้ว และเรียนหมอก็ไม่เลวด้วย อย่างน้อยก็รับประกันได้ว่าจะมีสุขภาพแข็งแรง”
“เซ่หยั่น ลูกตัดสินใจเอาเองแล้วกัน”
พ่อเซ่พยักหน้า และบอกกับเซ่หยั่น
“ได้เลยครับ”
เซ่หยั่นยิ้มและพยักหน้า พร้อมกล่าว “ได้เรียนที่เดียวกับไอดอลของผมต้องรู้สึกดีแน่ ๆ อีกอย่างมีข้อเสนอสุดยอดขนาดนี้ ครึ่งชีวิตแรกของผมไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้ว”
“พวกเราตกลง!” หลังจากทั้งสามคนออกมา พวกเขาก็ตอบรับข้อตกลงทันที
“มาครับ เซ็นสัญญากัน”
ซูเย่ยิ้มเล็กน้อยและหยิบกระดาษกับปากกาออกมา เพื่อเซ็นสัญญากับเซ่หยั่น
“ครับ ไอดอล”
หลังจากเซ็นสัญญาเสร็จ ตอนที่เซ่หยั่นออกไปส่งซูเย่ที่หน้าประตูก็พลันถามขึ้น “ถ้าผมฝากตัวเป็นศิษย์ปรมาจารย์หลี่เคอหมิงได้ หลังจากนี้คุณก็เป็นอาจารย์อาของผมสินะ”
“สบายใจได้ หลังจากนี้อาจารย์อาจะคุ้มกะลาหัวนายเอง” ซูเย่หัวเราะ
“ที่จริงผมอยากเป็นศิษย์น้องของคุณมากกว่าครับ ผมเป็นตัวท็อประดับมณฑลเลยนะ ขอฝากตัวเป็นศิษย์ปรมาจารย์แพทย์แผนจีนระดับประเทศไม่ได้เหรอครับ?” เซ่หยั่นพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ม
“หืม?”
ซูเย่ผงะ ก่อนจะส่ายหัวและพูดอย่างสะท้อนใจ “นายนี่พอเป็นเด็กใหม่ก็เลยไม่รู้จักเกรงกลัวสินะ น่าเสียดายที่ปรมาจารย์แพทย์แผนจีนระดับประเทศไม่รับศิษย์แล้ว ฉันเป็นศิษย์ก้นกุฏิ ิ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ครับ”
เซ่หยั่นไม่ผิดหวังเลย
“ฉันจะรอนายที่มหาวิทยาลัยนะ” ซูเย่พยักหน้า และหันหลังจากไป
จัดการได้สองคนแล้ว เขาถอนหายใจอย่างโล่งอกทันที เหลือแค่คนสุดท้าย
เขาเลือกคนที่สามไว้แล้ว
หลูชุนฮุย!
ตัวท็อปมณฑลหนานเหอ
เขาอยู่ที่หมู่บ้านตระกูลหลู เมืองโจวโข่ว มณฑลหนานเหอ
ครอบครัวยากจน พิการทางร่างกาย
นี่เป็นจุดที่ซูเย่ชนะใจได้ง่าย
วันรุ่งขึ้น ซูเย่เดินทางมานี่เมืองโจวโข่ว และได้เห็นหลูชุนฮุยที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนรถเข็นเพียงลำพังในป่านอกหมู่บ้านตระกูลหลู
รูปร่างผอมแห้ง เสื้อผ้าเก่าเล็กน้อย แต่สะอาดสะอ้าน
“หลูชุนฮุย?” ซูเย่เรียก
“คุณคือ?” หลูชุนฮุยเงยหน้ามองซูเย่ สายตางุนงงนิดหน่อย
“ฉันชื่อซูเย่ ตั้งใจมาหานาย”
ซูเย่ยิ้มและเดินเข้าไปหา พร้อมถาม “ขออนุญาตถามแบบเสียมารยาทนะ ขาของนาย?”
“หลายปีแล้วครับ”
หลูชุนฮุยมองขาตัวเองก่อนจะยิ้มให้ซูเย่อย่างสดใส และกล่าว “เป็นแบบนี้ตั้งแต่หกขวบแล้วครับ ผมชินแล้ว”
“เกิดจากปัญหาอะไรเหรอ?” ซูเย่นั่งลงบนตอไม้ข้างหลูชุนฮุย
“ตอนหกขวบผมเป็นไข้ ปวดข้อต่อ หมอวินิจฉัยว่าเป็น ‘โรคไขข้ออักเสบ’ หลังจากนั้นโชคไม่ค่อยดี กระดูกข้อต่อเน่าเสียจึงกลายเป็นแบบนี้ครับ”
หลูชุนฮุยคุยเก่งมาก ดูเหมือนไม่ได้อยากหลีกเลี่ยงพูดถึงปัญหาที่ตัวเองร่างกายพิการแม้แต่น้อย
ซูเย่ถาม “นายทำได้ยังไง?”
“อะไรเหรอครับ” หลูชุนฮุยฉงน
“ตัวท็อปการสอบระดับประเทศ” ซูเย่ถาม
“พยายามไงล่ะครับ”
หลูชุนฮุยเอ่ยยิ้ม ๆ “ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว จะนอนรอความตายอย่างเดียวคงไม่ได้ ครอบครัวเราไม่ได้ฐานะดีอยู่แล้วครับ ถ้าผมยังไม่พยายาม ภาระและความกดดันของพ่อแม่มีแต่จะเพิ่มพู ูนขึ้น ถึงแม้ผมจะพิการ แต่ผมอยากเป็นความภาคภูมิใจของพวกเขาครับ บวกกับผมไม่อยากตาย จึงต้องพยายามให้ทวีคูณเท่านั้น”
ซูเย่ชูนิ้วโป้ง พูดจากใจจริง “เก่ง”
“ไม่เก่งเลยครับ คุณคงมารับสมัครใช่ไหม?”
หลูชุนฮุยถามยิ้ม ๆ ก่อนจะบอก “สภาพร่างกายผมเป็นแบบนี้ มหาวิทยาลัยที่อยากจะรับผมมีน้อยมากครับ”
“สนใจเรียนหมอไหม?” ซูเย่ถามทันที
“ไม่ครับ”
หลูชุนฮุยส่ายหัว ก่อนจะเอ่ยขึ้น “คนอย่างผมเรียนหมอไม่ได้หรอกครับ”
“ผมต้องอยู่บนรถเข็นทุกวัน ทัศนียภาพไม่กว้างไกล เพราะฉะนั้นสิ่งเดียวที่ผมทำได้คือยกระดับความคิดความอ่าน ทำตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ไปคาดหวังกับสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้ จะได้ไม่เกะก กะคนอื่นและไม่ทำตัวเองเสียเวลาครับ”
เมื่อได้ยินแบบนี้
ซูเย่ลุกขึ้นทันทีด้วยความเคารพ
แค่ไม่กี่ประโยค เขาก็สัมผัสได้ว่าหลูชุนฮุยผ่านช่วงเวลาหลายปีมานี้ได้ยังไง
อีกฝ่ายเป็นคนที่เจตจำนงแน่วแน่ และคิดในมุมคนอื่นเสมอ
คนแบบนี้ไม่ไปเรียนหมอเสียดายแย่!
ซูเย่มองหลูชุนฮุย เงียบอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ถ้าฉันรักษาขานายหายได้ นายจะยอมเรียนหมอไหม?”
“หืม?”
หลูชุนฮุยผงะ ก่อนจะยิ้มและส่ายหัว “พูดเป็นเล่น เป็นไปไม่ได้หรอกครับ ขาผมเป็นแบบนี้มาสิบสองปีแล้ว ถ้ารักษาหายได้คงหายไปนานแล้วครับ ตอนนี้รักษาไม่หายหรอก”
สิ้นเสียง
ขณะนั้น ก็มีเสียงฝีเท้าของคนกลุ่มหนึ่งดังเข้ามา
เขาหันไปมอง
ผู้ชายคนหนึ่งท่าทางดูเป็นชาวนา หน้าตาดำคล้ำซื่อ ๆ เดินเข้ามา
“ชุนฮุย ได้เวลากลับบ้านกินข้าวแล้ว เอ๋… นี่เพื่อนลูกเหรอ?”
คนผู้นั้นหันมามองซูเย่อย่างแปลกใจ
“พวกคุณคือพ่อแม่ของหลูชุนฮุยใช่ไหมครับ?”
ซูเย่ลุกขึ้น ยื่นมือไปหาชายวัยกลางคน “สวัสดีครับ ผมชื่อซูเย่ เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยางครับ”
“เธอจริง ๆ เหรอ?”
พ่อของหลูชุนฮุยจ้องซูเย่อย่างพิจารณาอยู่พักใหญ่ ก่อนจะพูดขึ้นอึ้ง ๆ “ฉันก็ว่าทำไมคุ้นหน้าจัง เหมือนคนที่อยู่ในทีวีเลย”
“พ่อครับ แม่ครับ รู้จักกันเหรอครับ?” หลูชุนฮุยตะลึง
“เคยเห็นในทีวี”
พ่อของหลูชุนฮุยจับมือซูเย่ด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเอ่ยขึ้น “เขาคือผู้ชนะเลิศในรายการอนาคตแพทย์แผนจีน เป็นคนที่ฝีมือแพทย์เก่งกาจมาก หลายปีมานี้พ่อหาสูตรแพทย์แผนจีนเพื่อรักษ ษาขาให้ลูก จึงค่อย ๆ รู้จักแพทย์แผนจีน”
“คิดไม่ถึงว่าคุณเคยออกทีวีด้วยนะครับ” หลูชุนฮุยมองซูเย่อึ้ง ๆ ก่อนจะยิ้มและกล่าว
“เรื่องที่นายคิดไม่ถึงมีแต่จะเยอะกว่านี้ อีกไม่นานนายก็จะได้เห็นเอง” ซูเย่กล่าวด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะมองพ่อของหลูชุนฮุยด้วยสีหน้าจริงจัง “แม้ว่าจะฉวยโอกาสไปหน่อย แต่ผมก็ต้อ องพูดครับ ถ้าผมรักษาขาของชุนฮุยให้หายได้ คุณจะต้องยอมให้เขาสอบเข้ามหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยางครับ”
“หา?!” พ่อหลูคิดว่าตัวเองหูฝาดไปชั่วขณะ
ซูเย่พูดซ้ำอีกรอบ พ่อหลูถึงมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ฟังผิดไป
“เธอรักษาขาของเสี่ยวฮุยได้จริง ๆ เหรอ?”
พ่อหลูตื้นตันขึ้นมาในบัดดล เขาคว้ามือของซูเย่มาจับและถาม
ซูเย่พยักหน้า หันมองหลูชุนฮุย “นายล่ะยอมไหม?”
“ผมยอมครับ”
หลูชุนฮุยกัดปากเบา ๆ พูดด้วยท่าทีจริงจัง “ขอเพียงรักษาขาของผมได้ ให้ผมยืนขึ้นได้อีกครั้งและเดินได้ใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติ ผมยอมสอบเข้ามหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง และยินดีเรียนแพทย์แผนจีน ผมจะเป็นหมอครับ”
“ใช่”
พ่อแม่ของหลูชุนฮุยก็พยักหน้าตามพร้อมกล่าว “ขอแค่เธอรักษาขาของลูกฉันหายได้ เธอจะให้ทำอะไรก็ได้ พวกเราจะทำตามที่บอก!”
“ดีครับ”
ซูเย่ยิ้มกว้างและเอ่ยขึ้น “กลับบ้านพวกคุณกันเถอะครับ เดี๋ยวผมรักษาให้”
พ่อหลูได้ยินดังนั้นก็รีบเข็นหลูชุนฮุยพาซูเย่กลับบ้าน
“พวกคุณรอข้างนอกนะครับ ไม่ว่าจะได้ยินอะไรก็ห้ามเข้ามารบกวน” ซูเย่เข็นหลูชุนฮุยเข้าไปในห้องนอนของอีกฝ่าย
พ่อแม่ของหลูชุนฮุยลนลานนิดหน่อย
แต่รู้ว่าซูเย่เป็นคนที่เคยออกทีวี และรู้ว่าซูเย่เป็นศิษย์ของปรมาจารย์แพทย์แผนจีน จึงได้แต่พยายามข่มความแตกตื่นและความฉงนในใจลง และพยักหน้าตกลง
“ขาของผม รักษาหายได้จริง ๆ เหรอครับ?”
เพิ่งเข้ามาในห้องนอน หลูชุนฮุยก็ปริปากถาม เขากลัวว่ายิ่งหวังสูงจะยิ่งผิดหวัง
“ได้สิ!” ซูเย่ฟันหลังมือไปที่หลังหัวเขาจนสลบ
ล็อกประตู
แกร่กแกร่ก……
ซูเย่มั่นใจในอาการของขาหลูชุนฮุยแล้วก็รีบลงมือหักกระดูกเพื่อรักษาทันที
ก่อนจะใช้พลังปราณบำรุงข้อกระดูกที่เน่าเสียให้ฟื้นกลับมาใหม่
ขณะเดียวกันก็บำรุงรักษากล้ามเนื้อขาของเขาที่หดตัวไปแล้วด้วย
ในระหว่างที่รักษาก็บริกรรมคาถา ไม่สนการเผาผลาญพลังปราณที่เกิดขึ้น เร่งเวลาอย่างบ้าคลั่ง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
หายขาดอย่างสมบูรณ์!
ซูเย่ถอนหายใจ การเร่งเวลาเป็นการผลาญพลังปราณมากเกินไปจริง ๆ ถ้าไม่ใช่ว่าตอนนี้เขาอยู่ขั้นสี่ระดับสาม คงทนรับการเผาผลาญขนาดนี้ไม่ได้แน่
“รู้สึกยังไงบ้าง”
ซูเย่ปลุกหลูชุนฮุยจากการสลบ และเอ่ยถาม
“หืม?”
หลูชุนฮุยยืดตัวตรง มองซ้ายมองขวา ก็ยังไม่มีความรู้สึกอะไรเหมือนเมื่อก่อน เขามองซูเย่ด้วยสีหน้างุนงงพลางถาม “เมื่อกี้คุณทำอะไรกับผมครับ”
เวลานั้น ซูเย่เปิดประตูที่ล็อกไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
พ่อแม่ของหลูชุนฮุยที่รออย่างร้อนใจพุ่งเข้ามา และมองหลูชุนฮุยอย่างเฝ้ารอ
“ตอนนี้นายลงจากเตียงได้แล้ว”
ซูเย่พูดกับหลูชุนฮุยยิ้ม ๆ “ไม่ได้ใช้ขามาสิบกว่าปีอาจจะไม่ชินอยู่บ้าง เดินเยอะ ๆ ก็จะหมดปัญหาเอง ฉันจะไปรอนายที่ห้องรับแขก”
พูดจบเขาก็เดินออกไป
มาถึงห้องรับแขก เพิ่งจะนั่งลง
ภายในห้องนอนของหลูชุนฮุยก็มีเสียงไชโยที่ตื่นเต้นดีใจสุด ๆ ดังเข้ามา
เสียงร้องของสามคนพ่อแม่ลูกดังระเบิดขึ้นมาพร้อมกัน!
ด้วยการพยุงของพ่อแม่
หลูชุนฮุยเดินออกมาจากห้องนอน น้ำตาไหลนองหน้า
“ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ!”
หลูชุนฮุยพูดอย่างซาบซึ้ง
“ผมเตรียมสัญญาไว้ฉบับหนึ่ง เป็นสัญญาเข้าเรียน มาเซ็นได้เลยครับ”
ซูเย่ยิ้มและวางสัญญาที่เตรียมไว้ล่วงหน้าลงบนโต๊ะน้ำชา
ครอบครัวหลูชุนฮุยสามคนชะงัก
หลูชุนฮุยถูกพยุงให้เดินมาอยู่ตรงหน้าโต๊ะน้ำชา
รีบเซ็นชื่อตัวเองลงไปในสัญญา ก่อนจะคืนให้ซูเย่
“นายไม่ดูหน่อยเหรอ?” ซูเย่ถามยิ้ม ๆ
“ไม่ต้องดูครับ”
หลูชุนฮุยสูดหายใจเข้าลึกและพูด “ผมเคยบอกแล้วครับว่าถ้าคุณรักษาขาผมหายได้ คุณให้ผมทำอะไรก็ยอม ขอเพียงไม่ใช่เรื่องที่ผิดกฎหมายครับ”
“ดูก่อนสิแล้วค่อยว่ากัน” ซูเย่บอก
หลูชุนฮุยหยิบสัญญาขึ้นมาดู
“หลังเรียนจบรายได้หนึ่งล้านต่อปี? สิบปี?”
พออ่านสัญญา หลูชุนฮุยก็มีสีหน้าตะลึง
พ่อแม่ของเขาก็มองซูเย่ด้วยความตะลึง
ซูเย่พยักหน้ายิ้ม ๆ
เขาไม่อยากปฏิบัติต่อใครด้วยความไม่เท่าเทียม ทั้งสามคนที่ตัวเองหามา ตัวเองต้องรับผิดชอบ!
“ไม่เพียงแค่นั้น ฉันจะให้ผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนของเรารับนายเป็นศิษย์ สอนนายด้วยตัวเอง”
สามคนพ่อแม่ลูกสั่นสะท้านกันหมด
“วางใจได้เลยครับ ผมจะทำตามที่คุณบอกแน่นอน และผมจะเรียนแพทย์แผนจีนด้วยความพยายามทวีคูณครับ”
หลูชุนฮุยรับประกันด้วยตาแดงก่ำ
ซูเย่ยืนขึ้น ตบไล่หลูชุนฮุยและยิ้มให้ “ค่อย ๆ ทำความคุ้นเคยไปนะ อีกหน่อยมีเรื่องให้ต้องใช้ขาเยอะ ฉันจะรอนายที่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง”
พูดจบก็บอกลาและจากไปท่ามกลางสายตาซาบซึ้งของสามคนครอบครัว
ระหว่างทางกลับจี้หยาง ซูเย่หายใจออกเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก
นักเรียนทั้งสามคนที่อยู่ในแผนเขา เขาจัดการเรียบร้อยหมดแล้ว
หลังจากนี้ก็ต้องดูฝั่งเจียงซาน
สามวันต่อมา คืนก่อนสมัครเข้ามหาวิทยาลัย
องค์การอนามัยและกระทรวงศึกษาออกประกาศร่วมกัน
“มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนมีนโยบายขยายการรับสมัคร จำนวนรับสมัครเพิ่มจากปีก่อนหนึ่งเท่า!”
“แผนกำหนดแนวทางอบรมคนเก่งด้านแพทย์แผนจีน”
หลังจากประกาศนี้ถูกปล่อยออกมา
โรงพยาบาลทุกประเภทในประเทศตื่นเต้นกันหมด
ทุกคนรู้ดีว่าตอนนี้ประเทศจะผลักดันการพัฒนาของแพทย์แผนจีนแล้ว
และข่าวนี้
ก็ถูกแพร่ในโลกออนไลน์ทันที
ทว่า
ไม่รอให้ทุกคนตั้งตัว
อีกข่าวที่กลายเป็นประเด็นร้อนฉ่าก็ถาโถมสู่โลกออนไลน์
“ตัวท็อปสายวิทย์มณฑลฉี ไช่เสี่ยวฉี จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง!!”