เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 92 กวาดล้างพวกคนดังทรยศ!
บทที่ 92 กวาดล้างพวกคนดังทรยศ!
“ฮ่าฮ่า ไอ้พวกโง่ทั้งหลาย นี่ฉันช่วยพวกแกเอาไว้นะเนี่ย!”
“พวกแพทย์แผนจีนกึ่งวิทยาศาสตร์งี่เง่าอะไรพวกนี้น่าจะหายไปได้ตั้งนานแล้วนะ!”
บรรดาคนดังหลากหลายคนนั่งดูกระแสเรื่องที่พวกเขาก่อขึ้นมา ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ เป็นความภูมิใจของการได้เป็นผู้นำกระแส ทำให้พวกเขารู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก
ทว่า
ในระหว่างที่พวกเขานั่งจิบกาแฟ มองดูความร้อนระอุของกระแสบนเวยป๋อ และเตรียมตัวที่จะเหยียบย่ำวงการแพทย์แผนจีนต่อไปนั้น
ประเด็นค้นหาหัวข้อใหม่ปรากฏขึ้นมาอย่างกระทันหันบนเวยป๋อ และเป็นอันดับหนึ่ง!
เมื่อดูดี ๆ แล้ว
พบว่าเป็นตัวหนังสือสีแดง #กองทุนต่างชาติมีเจตนาทำให้แพทย์แผนจีนแปดเปื้อน#
พอได้เห็นประเด็นนี้พุ่งขึ้นเป็นประเด็นร้อน สีหน้าของบรรดาคนดังจึงเปลี่ยนไปในทันที!
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ใครปากสว่าง?”
“กองทุนต่างชาติต้องการระงับการพัฒนาวงการแพทย์แผนจีน แล้วคนในประเทศรู้ได้อย่างไร?”
“ไม่เกี่ยวกับฉันใช่ไหม?”
เหล่าคนดังทั้งหลายกลัวที่จะเปิดข่าวนั้นดู
ผลก็คือ เพียงแค่เปิดเข้าไป หน้าของพวกคนดังที่ก่อกระแสขึ้นมาก็ซีดขาวลงไปทันที!
ภาพประจำตัวเวยป๋อ ชื่อ แม้แต่ภาพถ่ายและข้อมูลส่วนตัว ล้วนกระจายไปทั่วในหัวข้อนี้!
ไม่ใช่แค่ข้อมูลส่วนตัว แต่รวมไปถึงหลักฐานมัดตัวมากมาย ที่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับกองทุนต่างชาติ หลักฐานการรับเงินเพื่อใส่ร้ายป้ายสีวงการแพทย์แผนจีน เพื่อหยุดยั้งความเจริญก้าวหน้า ของวงการ
“มันจบแล้ว!”
“มันจบแล้ว!”
พอได้เห็นหลักฐาน
ใบหน้าของบรรดาคนดังในเวยป๋อก็บิดเบี้ยวน่าเกลียด ทำอะไรไม่ได้นอกจากสั่นไปทั้งร่างด้วยความหวาดกลัว
ส่วนทางชาวเน็ต เมื่อได้เห็นหลักฐานเหล่านี้ พวกเขาก็ระเบิดความโกรธออกมาในทันที
‘เห็นไหม ฉันบอกมาตลอดว่าทำไมคนกลุ่มนี้ถึงได้ออกมาว่าร้ายวงการแพทย์แผนจีน กลับกลายเป็นว่าพวกมันคือพวกทรยศ! ครั้งก่อนเรื่องยาจีน กระแสต่อต้านก็มาจากพวกนี้!’
‘นี่น่าจะผิดกฏหมายและเป็นอาชญากรรมใช่ไหม? ฉันขอสนับสนุนให้มีการประหารชีวิต!’
‘พวกหนอนบ่อนไส้!’
‘มีสายเลือดจีนไหลเวียนอยู่ แต่เลือกที่จะเป็นกบฏ ไอ้ทรยศ!’
‘นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่ายังมีขยะแบบพวกแกอยู่ หน้าไม่อาย!’
ชาวเน็ตสบถออกมาอย่างบ้าคลั่ง
เพียงไม่กี่นาที คนดังพวกนี้ก็ถูกถล่มโดยชาวเน็ตนับไม่ถ้วน คำดูถูก เหยียดหยาม ก่นด่า สาปแช่งทุกประเภทกระจายอยู่ทั่วทุกที่ที่พวกเขาจะมองเห็นได้
มือแสนสั่นเทาของเหล่าคนดังกดเข้าไปดูความเห็นของชาวเน็ต
ได้เห็นเข้ากับหน้าจอที่เต็มไปด้วยคำด่า
มือของพวกเขาสั่นแรงขึ้นยิ่งกว่าเดิม
ความหยิ่งผยองที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ จางหายไปไม่เหลือชิ้นดี กลับมีความหวาดกลัวปรากฏขึ้นมาแทนที่
พวกเขารู้ดีว่าจะต้องเจอกับอะไรต่อ
“ไม่! ต้องหนีแล้ว! ไปต่างประเทศ!”
“ปฏิเสธก่อน แล้วค่อยหนี!”
ไม่กล้าแม้แต่จะลังเลสักนิด
บรรดาคนดังพากันปลอมรูปหมายศาลลงเวยป๋อ
หลังจากลงรูปไป พวกเขาก็ไม่ได้สนใจความเห็นที่จะเกิดขึ้นจากชาวเน็ต แต่รีบเตรียมตัวเก็บข้าวเก็บของทันที และซื้อตั๋วเครื่องบินเตรียมหนี
ทว่า
เพียงแค่เดินออกจากบ้านมาอย่างตื่นตระหนก
ก็สบตาเข้ากับตำรวจที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูบ้านพวกเขา
“มากับเราหน่อย”
บรรดาคนดังทรุดลงกับพื้นในทันที
ภาพเดียวกัน เกิดขึ้นไปทั่วทั้งประเทศ
……
ในไม่นาน ซูเย่ก็ได้เห็นข่าวที่เหล่าคนดังถูกจับกุม และรวมไปถึงรูปภาพที่ถูกถ่ายเอาไว้ด้วย
เขารู้กระทั่งว่าบางคนได้รับสารภาพเรียบร้อยแล้ว
“สารภาพเร็วจัง ขี้ขลาดชะมัด!”
ซูเย่ส่งข้อมูลที่ได้รับมาไปให้คนดังที่ชื่อ ‘กลางหัวใจดวงสีแดง’
เมื่อกลางหัวใจดวงสีแดงเห็น จึงตัดสินใจปล่อยข่าวออกไปทันที
ในขณะเดียวกัน ฝั่งของ ‘กลางหัวใจ’ เองก็สงสัยว่าบุคคลนิรนามที่ส่งข่าวให้เขาคือใคร
ทั้งหลักฐาน รูปภาพต่าง ๆ มากมายล้วนมีทั้งหมด!
‘ข่าวใหญ่! ผู้ใช้เวยป๋อนำโดย ‘มันเทศหัวเก่า’ ‘เด็กแสงอาทิตย์’ ‘โลกใบใหม่แห่งเสรีภาพและประชาธิปไตย’ และอีกมากมาย ถูกเข้าจับกุมโดยตำรวจ ยอมรับสารภาพถึงอาชญากรรมที่ก่อ’
‘กบฏยุคใหม่ เหล่าคนดังมากมายยอดผู้ติดตามร่วมห้าร้อยล้าน ถูกถล่มยับ!’
‘ขวางความเจริญของชาติ เซเลบเวยป๋อ โด่งดังได้จากการดูหมิ่นชาติเพียงอย่างเดียวหรือ?’
พอสำนักข่าวใหญ่โตเห็นข้อมูลที่เปิดเผย ผนวกกับเรื่องวงในเล็กน้อย ก็เผยแพร่บทความออกมาทันที
ไม่เพียงกล่าวถึงความผิดที่บรรดาคนดังก่อ แต่ยังปล่อยภาพขณะที่ถูกจับกุมลงไปด้วย
เมื่อได้เห็นข่าวและภาพทั้งหลาย
ความโกลาหลจึงบังเกิดขึ้นอีกครั้งบนเวยป๋อ
‘สมควรแล้ว!’
‘กบฏต้องตาย!’
‘กบฏไร้ยางอาย ถ้าไม่ถูกประหารก็ต้องถูกจำคุกตลอดชีวิต’
‘กบฏพวกนี้มันมาเป็นเซเลบบนอินเทอร์เน็ตได้ไงวะ โลกนี้เพี้ยนไปแล้วเหรอ?’
‘ไม่แปลกใจเลยที่เห็นพวกนี้ออกมาว่าร้ายแพทย์แผนจีนตลอด ที่แท้ก็เป็นกบฏทั้งฝูง ตอนถูกจับนี่ฉี่ราดป่ะ? สมควรแล้ว!’
‘กองทุนต่างชาติทำให้แพทย์แผนจีนแปดเปื้อน ดังนั้นนี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมวงการแพทย์แผนจีนถึงหยุดนิ่ง! แม่งเอ๊ย สนับสนุนแพทย์แผนจีนสิวะ!’
ชาวเน็ตพากันก่นด่าออกมาด้วยความเกลียดชังที่มีร่วมกัน และพวกเขาก็สนับสนุนการขับเคลื่อนวงการแพทย์แผนจีน
ขณะเดียวกัน
ข่าวร้อนเรื่องใหม่ก็ปรากฏขึ้น
‘ตามข้อมูลจากสำนักข่าวชิงหวาแล้ว นักเรียนคะแนนสอบเข้าอันดับหนึ่งแห่งมณฑลเจียงซู เซ่หยั่น ตัดสินใจเลือกเข้าเรียนแพทย์แผนจีน!’
เมื่อข่าวนี้ปรากฏขึ้นก็ถูกส่งพุ่งไปเป็นประเด็นร้อนในทันที
‘ไม่จริงใช่ไหม? อันดับหนึ่งอีกคนแล้ว!’
‘ทำไมจู่ ๆ ก็หันไปเรียนแพทย์แผนจีนกันหมดเลย?’
‘แพทย์แผนจีนดีอย่างไรกัน ถึงได้มีตัวท็อปถึงสองคนเลือก? มีข้อมูลวงในอะไรหรือเปล่า? ขอบ้างสิ!’
แต่ก่อนที่ทุกคนจะทันได้ตั้งตัวจากข่าวนักเรียนคนที่สองเข้าเรียนแพทย์แผนจีน ก็ได้มีอีกข้อความปรากฏขึ้นมา ทำให้ผู้เข้าสอบทั่วประเทศถึงกับตกตะลึงไป
‘นักเรียนอันดับหนึ่งคะแนนสอบเข้าจากมณฑลหนานเหอ หลูชุนฮุย เลือกเรียนต่อแพทย์แผนจีน!’
การปรากฏขึ้นของข่าวนี้
ยิ่งทำให้ทุกคนตื่นตกใจกันไปใหญ่!
ในข่าวนั้น ไม่เพียงเขียนประวัติทางครอบครัวของหลูชุนฮุยแล้ว แต่ยังเขียนเหตุผลที่เขาเลือกเข้าเรียนต่อแพทย์แผนจีนอีกว่า เนื่องมาจากโรคร้ายที่ทำให้เขาต้องนั่งบนวีลแชร์มาต ตลอดสิบสองปี ถูกรักษาโดยแพทย์จีนที่มาจากมหาวิทยาลัยจี้หยาง ทำให้เขามีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง!
พอได้เห็นข่าว
ชาวเน็ตก็นิ่งเงียบกันไปครู่หนึ่ง
อีกคนแล้ว!
แม้จะมีปัญหา แต่ก็มีจิตแรงกล้า!
หมอที่รักษาขาให้เขา และมาจากมหาวิทยาลัยจี้หยางเป็นใคร? นี่มันสุดยอดมากเลยไม่ใช่เหรอ?
‘พวกกันหรือเปล่าเนี่ย? ทำไมพวกเขายกย่องแพทย์แผนจีนกันสูงส่งอย่างนี้?’
‘หลูชุนฮุย เซ่หยั่น และไช่เสี่ยวฉี ตัวท็อปสอบเข้าทั้งสามคนเลือกเรียนแพทย์แผนจีนหมดเลย? คงไม่ได้เข้ามหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยางกันหมดใช่ไหม? หรือว่าจี้หยางจะมีอะไรดึงด ดูดคนเก่ง? เป็นไปได้ไหมว่าแพทย์แผนจีนกำลังมาแรง สำหรับการพัฒนาอนาคตของชาติ?’
ผู้สมัครสอบและผู้ปกครองนับไม่ถ้วนล้วนตกใจไปกับข่าวทั้งสอง
นักเรียนตัวท็อปสามคน!
ทว่ามันยังไม่จบเพียงเท่านี้ เมื่อพวกเขาหันกลับไปสนใจอินเทอร์เน็ตอีกครั้ง
ก็ต้องพบว่า ในขณะนี้ มีข่าวแพทย์แผนจีนกระจายและปกคลุมอยู่ทั่วทุกหนแห่ง
ไม่ใช่แค่ข่าวของนักเรียนทั้งสามที่เลือกเข้าเรียนแพทย์แผนจีน แต่รวมไปถึงนโยบายระดับชาติมากมาย โครงการฝึกแพทย์ รวมถึงบรรดาผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการเรียนแพทย์แผนจีน และอื่น ๆ อีกมากมาย!
ไม่ว่าจะเป็นสื่อออนไลน์หรือสื่อโทรทัศน์ ก็ล้วนนำเสนอข่าวตรงกันว่า วงการแพทย์แผนจีน จะกลายเป็นอุตสาหกรรมที่เจริญเติบโตอย่างรุ่งเรือง และไร้ขีดจำกัด!
นักเรียนมัธยมและผู้ปกครองส่วนมาก เมื่อได้เห็นข่าวเหล่านี้ จึงก่อเกิดเป็นแรงบันดาลใจขึ้นมา
แรงใจที่มอดลงไปได้ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง!
ยิ่งคิดเท่าไร ก็ยิ่งรู้สึกว่าแพทย์แผนจีนนั้นดี
เหล่านักเรียนและผู้ปกครองที่ไม่เคยเลือกแพทย์แผนจีนมาก่อน ก็เริ่มปรึกษาหารือกันว่าจะไปลงเรียนแพทย์แผนจีนหรือไม่
นักเรียนในชนบทเอง ที่เดิมทีกังวลและไม่กล้าเซ็นสัญญา หลังจากเห็นข่าวเข้า พวกเขาทั้งหมดจึงตัดสินใจเซ็นเข้าโครงการอบรมแพทย์ทันที
……
ศูนย์บัญชาการมหานครตะวันออก ในสวนดอกบ๊วย
“นี่น่ะหรือขั้นตอนที่สาม? เยี่ยมไปเลย!”
เมื่อมองเห็นข่าวสารมากมายและประเด็นร้อนบนเวยป๋อ เจียงซานจึงกล่าวออกมาพร้อมแสดงสีหน้าตื่นเต้นดีใจ “ซูเย่เขามีสมองแบบไหนกัน ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาคิดแผนแบบนี้ได้โดยที่เพิ่ง งอายุเลขสอง แผนแล้วแผนเล่า เก่งจริง ๆ!”
“ขั้นแรกก็ให้รัฐประกาศนโยบาย จากนั้นให้นักเรียนอันดับหนึ่งมาเข้าเรียนแพทย์”
“เพียงแค่นี้ ก็เรียกความสนใจจากผู้คนได้อย่างสมบูรณ์ กระตุ้นความคิดบวกที่พวกเขามีต่อแพทย์แผนจีน ถ้าหากมีเพียงมาตรการจากรัฐออกมา ผู้คนคงจะยังใส่ร้ายแพทย์แผนจีนอยู่ดี แต่พ พอมีข่าวเรื่องอันดับหนึ่งออกมา กระแสลมก็เปลี่ยนทิศไปในทันที!”
“การที่ลากคอบรรดาคนดังออกมาประจานพร้อมหลักฐานการรับเงินจากต่างชาติเอง ก็ช่วยจุดความสามัคคีของประชาชนได้ด้วย ทำให้ทุกคนมีความเกลียดชังร่วม และจับมือปกป้องวงการแพทย์แผนจีน! !”
“แค่สองขั้นตอนนี้ ก็เปลี่ยนมุมมองภาพลักษณ์ของวงการแพทย์แผนจีนได้ดีเยี่ยม เพิ่มน้ำหนักความเชื่อมั่นในวงการ ลงไปในจิตใจของทุกคน”
“และขั้นตอนสุดท้าย ข่าวนักเรียนอันดับหนึ่งสอบเข้าเรียนแพทย์แผนจีนอีกสองคน ก็ยิ่งทำให้น้ำหนักของเรื่องทั้งหมดเพิ่มขึ้นไปอีก นักเรียนสอบเข้าและผู้ปกครองที่ยังลังเลอยู่ เล ลยเปิดใจเลือกเดินตามรอยนักเรียนตัวท็อป”
พอได้วิเคราะห์แผนการทั้งหมดของซูเย่ เจียงซานทำได้เพียงส่ายหัวและกล่าวออกมา “เด็กคนนี้สุดยอดไปเลย”
“ถึงจะบอกว่าสุดยอดก็เถอะ แต่ฉันยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเขาต้องการทำอะไรต่อ จะมีคนเข้าเรียนแพทย์แผนจีนได้สักกี่คน หวังว่าแผนจะไม่เสียเปล่านะ”
เขารู้ดีว่าการพัฒนาวงการแพทย์แผนจีนนั้นยากแค่ไหน
หลังจากผ่านมาหลายพันปี ยังคงพัฒนามาได้เพียงเท่าปัจจุบัน แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะส่งเสริมการพัฒนาได้ไกลในเวลาอันสั้น
ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าจะมีจำนวนผู้เลือกเข้าเรียนแพทย์แผนจีนเพิ่มขึ้นสูง ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้อยู่ดีว่าผลลัพธ์ที่ตามมาจะดีหรือเป็นอย่างไร
“ฉันยิ่งตั้งหน้าตั้งตารอดูไปใหญ่เลยว่าในอนาคตเด็กคนนี้จะทำอะไรต่อไปเพื่อฟื้นฟูวงการแพทย์แผนจีน”
เจียงซานกล่าวออกมาอย่างเต็มไปด้วยความหวัง
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกของเขาก็เปลี่ยนไปในประโยคถัดมา
เจียงซานพลันนึกถึงนักเรียนทั้งสามที่ทำให้โลกอินเทอร์เน็ตร้อนระอุ นักเรียนสอบเข้าคะแนนอันดับหนึ่งที่เลือกเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง
“ทั้งสามคนเองก็ไม่ธรรมดาเลยนะ ซูเย่ไปหลอกล่อให้มาเข้าเรียนได้อย่างไรกัน?”
“ตอนนี้มหาวิทยาลัยชิงหวาและมหาวิทยาลัยจิงเป่ย คงจะโกรธเกลียดเขาและกัดฟันกำหมัดอยู่ก็ได้ หึหึ”
……
สองวันถัดมา
ภายใต้ความร้อนระอุของการแลกเปลี่ยนความเห็นกันบนอินเทอร์เน็ต เหล่านักเรียนสอบเข้าก็เริ่มกรอกใบสมัครกัน
สองวันที่ผ่านมา ประเด็นร้อนได้สะสมและส่งผลอย่างต่อเนื่อง เหมือนว่าจะยิ่งมีคนอยากเข้าเรียนต่อแพทย์แผนจีนมากและมากขึ้น
เจียงซานที่คอยติดตามแผนของซูเย่ ได้เอ่ยขอสถิติการกรอกข้อมูลเข้าเรียนต่อของนักเรียนในระหว่างสองวันที่ผ่านมา
แม้ว่าจะยังไม่ถึงกำหนดของการกรอกใบสมัคร ทว่าในขณะนี้ จำนวนการกรอกข้อมูลก็มากพอจนเกือบจะครบแล้ว
เมื่อได้สถิติมา
“อะไรกัน?”
เพียงแค่เหลือบมอง เจียงซานก็ลุกยืนขึ้นอย่างตื่นตกใจ