เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 95 แถลงการณ์ข่มจาก 33 สถาบัน!
บทที่ 95 แถลงการณ์ข่มจาก 33 สถาบัน!
ประโยคตอบรับแสนเรียบง่าย
ปัง!
สะเทือนไปทั้งโลกอินเทอร์เน็ต!
ผู้คนในวงการแพทย์แผนจีนเองก็ไม่ต่างกัน!
ปรมาจารย์แห่งแพทย์แผนจีนยอมรับคำท้า?
ไม่มีใครคิดว่า ฮัวเหรินเฟิงปรมาจารย์แพทย์แผนจีน จะตกลงยอมรับคำท้าของพวกแพทย์พื้นบ้านเข้าจริง!
‘ปรมาจารย์ฮัวเหรินเฟิงเอาจริงเหรอ?’
‘เขาเองก็อายุเลขแปดเข้าไปแล้วนะ แต่ยังสู้อยู่ ปรมาจารย์ฮัวช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก!’
‘ในวงการแพทย์แผนจีนพื้นบ้านเอง ก็มีหมอที่เก่งอยู่เยอะแยะเลยนะ แค่รัฐไม่เคยสังเกตเห็นก็เลยไม่มีชื่อเสียง ครั้งนี้ที่พวกเขากล้าออกมาท้าปรมาจารย์ฮัว หมายความว่าพวกเขาต้องมั่ นใจเป็นอย่างมาก ปรมาจารย์ฮัวเองก็กล้าตอบรับคำท้าทั้งที่เขาอายุมากแล้ว แข็งแกร่งจริง ๆ’
‘สำหรับวงการแพทย์แผนจีน ครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการประลองของยอดฝีมือเลย!’
ต่างจากบรรดาชาวเน็ตทั่วไป
ผู้คนในวงการแพทย์แผนจีนออกจะสับสนมากกว่า เมื่อได้เห็นข่าวนี้เข้า
‘ปรมาจารย์ฮัวยอมรับคำท้าจริงเหรอ???’
‘ไม่คาดคิดเลยว่า ปรมาจารย์แห่งแพทย์แผนจีนเองก็จะออกมา!’
‘ความสามารถทางการแพทย์ของหมอพื้นบ้านเอง ก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรดูถูกเลยนะ ทุกคนรู้ว่าถึงมันจะต่างจากแพทย์แผนจีนวิชาการ แต่ผู้คนจากตระกูลแพทย์แผนจีนพื้นบ้าน เริ่มต้นเรียนรู้ตั้ งแต่จำความได้ ประสบการณ์ที่สั่งสมมา ถูกถ่ายทอดสืบต่อมารุ่นสู่รุ่น เป็นมรดกที่ผ่านมากว่านับร้อยนับพันปี ความเก่งกาจและประสบการณ์ที่สั่งสมมา ไม่ใช่อะไรที่แพทย์แผนจีนทั่วไปจะเปร รียบเทียบด้วยได้เลย ปรมาจารย์ฮัวเองก็ลงทุนอยู่เหมือนกัน เดิมพันด้วยชื่อเสียงของปรมาจารย์แห่งแพทย์แผนจีน!’
‘สรุปได้ในประโยคเดียว การต่อสู้ระดับพระเจ้า!’
……
เมื่อทั้งวงการแพทย์แผนจีนและชาวเน็ตที่ติดตามเรื่อง กำลังแลกเปลี่ยนความเห็นกันอยู่อย่างดุเดือดนั้นเอง
ซูเย่ก็ได้เข้าเวยป๋อ
‘รับคำท้า!’
พิมพ์ลงไปเพียงเท่านั้น
ตูม!
ซูเย่ก็รับคำท้าเช่นกัน!
ทันทีที่ข้อความนี้ถูกเผยแพร่ลงเวยป๋อ ความเห็นและแรงสนับสนุนมากมายก็ถาโถมเข้ามาอย่างมหาศาล
‘เอาเลย นายน่ะเจ๋งที่สุดแล้ว!’
‘สู้ให้เต็มที่!’
‘ไปเลยมหาเทพ พวกเราจะสนับสนุนตลอดไป’
‘แม้ว่าจะเป็นเรื่องภายในของวงการแพทย์แผนจีน ทว่าในฐานะคนที่คอยติดตาม ฉันก็หวังว่าเธอจะชนะได้นะ!’
‘เชื่อมั่นในตัวเอง ต้องชนะได้อย่างแน่นอน’
‘ทำให้พวกนั้นได้เห็นถึงพลังของผู้ชนะรายการอนาคตแพทย์แผนจีน!’
โทรศัพท์ของซูเย่เองก็ได้รับข้อความเชียร์เป็นจำนวนมาก
ข้อความแรกส่งมาจากผู้กำกับรายการ ‘อนาคตแพทย์แผนจีน’ จ้าวเหมียน
จากนั้นก็เป็นข้อความจากผู้กำกับรายการ ‘ชุมนุมวิชาการ’ เฉินหลี่ซ่าง
ต่อมาก็คือผู้กำกับรายการ ‘ท้าทายขีดจำกัด’ หลี่เว่ยกั๋ว
ผู้กำกับทั้งสามส่งข้อความมาแทบจะพร้อมกัน จนทำให้ซูเย่ต้องประหลาดใจ
เนื้อหาของข้อความเองก็เรียบง่าย เพียงแค่ให้กำลังใจเขา
นอกเหนือจากผู้กำกับทั้งสามแล้ว
ก็ยังมีคนรู้จักอีกมากมาย
หวังโป๋ หวังหงฮวา เซียวจวิ้น จูหยื่อ และเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน ก็ล้วนส่งข้อความมาให้กำลังใจเขา
หลังจากตอบกลับข้อความทั้งหมดแล้ว
ซูเย่จึงเปิดเวยป๋อขึ้นมาอีกครั้ง และพบว่าข้อความรับคำท้าของเขาได้โด่งดังไปแล้ว
ดาราหลายคนเองก็รีโพสต์ข้อความนี้ไปยังเวยป๋อของพวกเขา
ในนั้นก็มีเหล่าดาราที่เคยออกรายการเดียวกันกับซูเย่ ไม่ว่าจะสนิทกันหรือไม่ พวกเขาเองก็ช่วยเผยแพร่ข้อความนี้
สิ่งที่ทำให้ซูเย่พูดไม่ออกก็คือ หลานเข่อยีเองก็มาช่วยโพสต์ให้เช่นกัน
“จะอะไรก็ช่างเถอะ แต่ขอบคุณทุกคนมากเลยนะ”
ซูเย่กล่าวออกมาจากใจจริง
หลังจากเปิดดูเวยป๋อของดาราทีละคนแล้ว ซูเย่จึงยิ้มออกมา
ในข้อความที่ดาราเหล่านั้นช่วยรีโพสต์ ก็ได้มีผู้ติดตามของซูเย่จำนวนมากหลั่งไหลเข้าไป
‘ขอบคุณนะที่ช่วยสนับสนุน’
‘ขอบคุณที่เชียร์เทพซูเย่ของพวกเราจากใจจริง’
‘ใช่แล้ว ซูเย่เจ๋งที่สุด มาร่วมเชียร์ซูเย่ไปด้วยกันนะ’
ความกระตืนรือร้นของบรรดาแฟน ๆ ทำให้เหล่าดาราประหลาดใจเป็นอย่างมาก
ซูเย่มีแฟนตัวยงเยอะมาก!
เยอะยิ่งกว่าดาราเสียอีก!
สุดยอดไปเลย!
……
“รีบเข้ามาที่ปักกิ่งเพื่อประชุม!”
ประกาศถูกแจ้งออกไป
อธิการบดีแห่งมหาวิทยาลัยแพทย์ตี้ตู ถือโอกาสให้มหาวิทยาลัยการแพทย์ 33 แห่งทั่วประเทศ
ส่งคณบดีแห่งสาขาการแพทย์มาเข้าร่วมประชุมที่ปักกิ่งในทันที!
แม้ว่าจะพ่ายให้กับซูเย่ในการแข่งขันทางการแพทย์แผนจีน ทว่ามหาวิทยาลัยแพทย์ตี้ตู ก็ยังถือเป็นอันดับหนึ่งในสถาบันการแพทย์แผนจีน
ในด้านของอำนาจโดยรวม มหาวิทยาลัยแพทย์ตี้ตูยังมีข้อได้เปรียบเหนือกว่า
ด้วยฐานะของคณบดีแห่งมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง หลี่เคอหมิงก็ได้รับคำเชิญ และรีบมุ่งหน้าไปเมืองหลวงในทันที
ผู้นำจากมหาวิทยาลัยการแพทย์ทั่วประเทศได้มารวมตัวกัน ในหอประชุมของมหาวิทยาลัยแพทย์ตี้ตู
ทั้ง 33 คน นั่งล้อมโต๊ะประชุมขนาดใหญ่
บรรยากาศตึงเครียดเป็นอย่างมาก
“ไม่ต้องอ้อมค้อม ขอบคุณทุกท่านที่มาเข้าร่วม เริ่มกันเลย!”
คณบดีแพทย์แผนจีนแห่งมหาวิทยาลัยแพทย์ตี้ตู เอ่ยออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ทุกคนพยักหน้าตอบรับ
จากนั้นเขาได้กล่าวขึ้นมาต่อ “ในครั้งนี้ กลุ่มแพทย์แผนจีนพื้นบ้านได้ลุกขึ้นยืนกรานอย่างชัดเจน ทุกท่านน่าจะรู้สึกได้ถึงปฏิปักษ์ที่พวกเขามีต่อเรา!”
“เป็นเรื่องจริงที่พวกเรามีความขุ่นเคืองกับพวกเขามาเป็นเวลาอย่างเนิ่นนาน”
“ทางเราปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขาเคยถูกเพิกเฉยใส่มาก่อน เป็นต้นกำเนิดแห่งความคับแค้น”
“ทว่าพวกเราจะเห็นใจพวกเขาเพียงเพราะเรื่องเท่านี้ไม่ได้ เราเองก็เป็นส่วนหนึ่งของวงการแพทย์แผนจีน สิ่งที่พวกเราต้องทำ ก็แค่ดึงความสามารถออกมาอย่างเต็มที่ ให้มองพวกเขาเป็นค คู่ต่อสู้ที่คู่ควรกับการที่พวกเราจะต่อสู้อย่างสุดความสามารถ”
“การต่อสู้ครั้งนี้มีผลต่อหน้าตาของสถาบันการแพทย์แผนจีนทั้งหมด ดังนั้นเราจะต้องชนะ!”
ทุกคนในห้องประชุม พยักหน้าตอบรับอย่างจริงจัง
พวกเขาทั้งหมดมีความคิดเช่นเดียวกัน
สำหรับเหล่าผู้นำสถาบันแล้ว แม้ว่ากลุ่มแพทย์แผนจีนพื้นบ้านจะถูกปฏิบัติไม่ดีจริง แต่พวกเขาก็ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังอะไร
ส่วนการที่สถาบันการแพทย์ได้รับความสนใจ เนื่องจากพวกเขาเองก็ลงทุนไปมหาศาล
ไม่ใช่ว่าพวกเขาฉวยโอกาสปิดกั้นแพทย์แผนจีนพื้นบ้าน
ในเมื่อมีการท้าทายเข้ามาก็ต้องจัดการ
เรื่องนี้จะมีผลกับชื่อเสียงของสถาบันการแพทย์แผนจีน ทำได้เพียงชนะเท่านั้น จะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด!
และต้องชนะแบบใสสะอาด!
“ฉันมีข้อเสนอ” คณบดีแพทย์แผนจีนแห่งมหาวิทยาลัยแพทย์ตี้ตูเริ่มกล่าวต่อ “นอกจากซูเย่ที่ถูกเรียกให้มาเข้าร่วมจากอีกฝ่ายโดยตรง แต่ละมหาวิทยาลัยควรจะส่งบัณฑิตแพทย์แผนจีนที่เก ก่งที่สุด หรือนักศึกษาดุษฎีบัณฑิตที่อายุไม่ถึง 30 ปี มาเข้าร่วม”
“เห็นด้วย!”
ผู้นำจากมหาวิทยาลัยทั้ง 32 แห่ง พยักหน้าตกลงกันอย่างพร้อมเพรียง
“การแข่งขันที่อีกฝ่ายเสนอมาเป็นการแข่งหนึ่งคนต่อศาสตร์หนึ่งแขนง พวกเรามีทั้งหมด 33 สถาบัน ไม่ทราบว่าจะทำการเลือกอย่างไรหรือครับ?”
หลี่เคอหมิงเอ่ยถาม
“จากศาสตร์แพทย์แผนจีนทั้ง 13 แขนง ให้แต่ละสถาบันเสนอหนึ่งคนในแต่ละแขนงมา และให้ทุกคนแข่งขันกันเอง เลือกคนที่เก่งที่สุด และจากนั้นก็ให้พวกเขาไปเจอกับกลุ่มแพทย์พื้นบ้าน! !”
คณบดีแพทย์แผนจีนแห่งมหาวิทยาลัยแพทย์ตี้ตูยังคงกล่าวต่อ “นี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด หากใครมีทางเลือกที่ดีกว่าให้เสนอออกมาได้เลย พวกเราจะได้พูดคุยและร่วมกันตัดสิน”
กล่าวจบเขาก็หันไปมองทุกคน
พวกเขาครุ่นคิดกันอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็พบว่านี่คือหนทางที่ดีที่สุดแล้ว
ทุกคนยกมือขึ้นเห็นด้วย
“วิธีการที่ท่านเสนอมาเป็นทางที่ดีที่สุดแล้วที่เราจะทำได้ในตอนนี้ครับ”
หลังจากตกลงกันแล้ว ก็ได้มีบุคคลหนึ่งเอ่ยถามออกมา “ทว่า แทนที่จะตั้งหน้าตั้งตาไปกับการท้าทายของกลุ่มแพทย์แผนจีนพื้นบ้าน ผมเชื่อว่ามีหลายคนเป็นเหมือนผมที่อยากรู้ความรู้สึกข ของเบื้องบนต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้”
สิ้นสุดคำพูด
พรึ่บ
ทุกคนในห้อง ก็จ้องไปยังคณบดีแพทย์แผนจีนแห่งมหาวิทยาลัยแพทย์ตี้ตู
ไม่ต้องสงสัยเลย
ความสัมพันธ์ระหว่างมหาวิทยาลัยแพทย์ตี้ตูและเบื้องบน ถือได้ว่าใกล้ชิดที่สุดในบรรดาสถาบันการแพทย์แผนจีนทั้งหมด
หากจะมีใครรู้ทัศนคติของเบื้องบน ก็คงจะหนีไม่พ้นมหาวิทยาลัยแพทย์ตี้ตู
“เรารู้” คณบดีแพทย์แผนจีนแห่งมหาวิทยาลัยแพทย์ตี้ตูกล่าวออกมาพร้อมถอนใจ “แต่พวกเขาไม่ได้กล่าวอะไรออกมามากนักเกี่ยวกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ มีเพียงแค่บอกว่าการลงมือปฏิบัติเท่ านั้นที่จะสามารถวัดข้อเท็จจริงได้”
ทุกคนในที่ประชุมตกตะลึงไป
สีหน้าของพวกเขาแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด
พวกเขารู้ดีว่ามันหมายถึงอะไร
จะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ได้รับชัยชนะ!
การต่อสู้ในครั้งนี้ หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วตั้งแต่แรก!
คณบดีแพทย์แผนจีนแห่งมหาวิทยาลัยแพทย์ตี้ตู กล่าวออกมาเสียงเข้มว่า “ดังนั้นมาพยายามด้วยกัน”
“รีบลงมือคัดตัวแทนอย่างเร่งด่วน เราจะได้นำมาเลือกให้ได้รวดเร็วที่สุด การต่อสู้เพื่อแย่งชิงตำแหน่งเจ้าแห่งวงการแพทย์แผนจีน พวกเราจะยอมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด!”
……
อีกฝั่งหนึ่ง
เมื่อได้รับข่าวว่าฮัวเหรินเฟิงและซูเย่ยอมรับคำท้าแล้ว
ตระกูลแพทย์แผนจีนพื้นบ้านทั้ง 13 เอง ก็นัดหมายรวมตัวประชุมกันเป็นครั้งแรก
ผู้นำของตระกูล ฉิน หลี่ ซ่ง หลัว เจิ้ง ฉวี่ หลี่ เฉิ่น หม่า เกา หยู เว่ย หย่วน รวมเป็น 13 ตระกูล ได้อยู่ด้วยกันในขณะนี้
โดยมีผู้นำสูงสุดเป็นตระกูลฉิน
บรรยากาศนั้นตึงเครียดมาก
“แผนการดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ความเป็นความตายของวงการแพทย์แผนจีนพื้นบ้านของพวกเรา ขึ้นอยู่กับการต่อสู้ครั้งนี้”
ผู้นำตระกูลฉินมองไปยังผู้นำตระกูลอื่นทั้งสิบสอง และกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม “ในครั้งนี้จุดประสงค์ของพวกเรา ก็เพื่อกดดันเบื้องบน และขจัดความขัดแย้งโดยสมบูรณ์”
“ทว่ามันไม่สำคัญหรอก เพราะพวกเราต้องต่อสู้เพื่อพิสูจน์ตัวตนของพวกเราเอง!”
“มันไม่สำคัญว่าพวกเราที่แก่เฒ่านั้นจะอยู่หรือตาย แต่เราต้องปูหนทางสำหรับอนาคตให้กับคนรุ่นใหม่ จะให้พวกเขาร่ำเรียนการแพทย์แผนจีนร่วม 20 ปี แล้วยังถูกตัดสินว่าผิดกฎหมายอยู่ ไม่ได้เป็นอันขาด!”
ผู้นำทั้งสิบสองตระกูลพยักหน้าเห็นด้วย
พวกเขาอดทนอดกลั้นมานานมากพอแล้ว
การที่ประเทศชาติไม่ยอมรับในตัวตนของพวกเขา ก็เหมือนกับการทำลายชีวิตของพวกเขา
ไร้ซึ่งแม้แต่เอกสารรับรองความเป็นแพทย์ ในทุกครั้งที่มีการรายงานข่าวด้านลบ ก็จะทำให้มีปัญหาใหญ่หลวงตามมา ส่งผลให้พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะรักษาผู้ป่วยนอกเหนือจากคนรู้จัก
ไร้การสนับสนุนจากภาครัฐ และยังไม่สามารถพึ่งความสามารถของตนในการทำมาหากินได้
ถ้าหากไม่ลุกยืนขึ้นต่อต้าน ก็เกรงว่ามรดกที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษจะสูญหายไป!
แล้วในอนาคตจะเอาหน้าที่ไหนไปพบกับบรรพบุรุษได้!
พวกเขาจะปล่อยให้คนรุ่นใหม่ต้องมาประสบพบเจอสถานการณ์แบบนี้ไม่ได้!
“ฮัวเหรินเฟิงและซูเย่ได้ตอบรับคำท้าเรียบร้อยแล้ว” ผู้นำตระกูลเฉิ่นเอ่ยขึ้นมา “ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับบรรดาสถาบันการแพทย์แห่งอื่น แม้แต่ซูเย่ยังกล้าก้าวออกมา พวกนั้นคงไม่กล้า าปฏิเสธ เพราะท้ายที่สุดแล้วพวกเขาเองก็ต้องรักษาหน้าเอาไว้”
“ใช่แล้ว!” ผู้นำตระกูลฉินพยักหน้าและกล่าว “พวกเราเองก็จะอยู่เฉยไม่ได้ ให้แต่ละตระกูลคัดตัวแทนออกมาให้เร็วที่สุด”
ทุกคนพยักหน้า
“พี่เจิ้ง” ผู้นำตระกูลฉินมองไปยังผู้นำตระกูลเจิ้ง จากนั้นจึงกล่าว “ฉันอยากรบกวนให้พี่เอ่ยขอผู้อาวุโสหน่อยว่าให้ท่านทำอย่างสุดความสามารถ เพื่อเอาชนะฮัวเหรินเฟิง!”
“วางใจได้” ผู้นำตระกูลเจิ้งพยักหน้าและกล่าวออกมาเสียงแข็ง “ท่านผู้อาวุโสเองก็รอคอยการต่อสู้เช่นนี้มาเนิ่นนานแล้ว!”
ผู้นำตระกูลฉินพยักหน้า
ติ๊ด!
เสียงแจ้งเตือนข้อความดังขึ้น
มาจากโทรศัพท์ของผู้นำตระกูลฉิน เขาจึงเปิดขึ้นมาดู จากนั้นจ้องเขม็ง
“สถาบันการแพทย์ประกาศแล้ว!”
กล่าวจบ เขาจึงรีบเปิดอ่านแถลงการณ์จากสถาบันการแพทย์แผนจีนด้วยโทรศัพท์
ผู้นำตระกูลอื่นต่างตกใจ และเปิดดูในทันทีเช่นกัน
สถาบันการแพทย์แผนจีนทั้ง 33 แห่งทั่วประเทศ ประกาศแถลงการณ์ร่วมกันว่า
‘ในฐานะสถาบันอุดมศึกษาด้านการแพทย์แผนจีนร่วมสมัย ทางเราเคารพและให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อวงการแพทย์แผนจีนพื้นบ้าน หลังจากปรึกษาหารือโดยผู้นำของสถาบันการแพทย์แผนจีนทั้ง 33 แห่ งทั่วประเทศแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ให้รับคำท้าจากตระกูลแพทย์แผนจีนพื้นบ้าน’
‘แต่เวลาเตรียมการหนึ่งเดือนนั้นนานเกินไป’
‘ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เวลานานเช่นนั้น การแข่งขันจะจัดขึ้นในอีกสิบห้าวัน!’
แถลงการณ์นี้
ได้จุดชนวนระเบิดขึ้นอีกครั้งแล้ว!
ชาวเน็ตที่ได้อ่านข้อความนี้ ล้วนตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
‘ข่มด้วย!’
‘ไม่หนีด้วยแฮะ แต่ออกมาข่มด้วยเหรอ? ฮ่าฮ่า หนึ่งเดือนนานไป ขอครึ่งเดียวพอ! เอาให้เห็นเลยว่าใครเหนือกว่าใคร! ยิ่งน่าสนุกขึ้นเรื่อย ๆ เลย!’
‘พวกสถาบันการแพทย์เป็นคนในระบบของชาติทั้งหมด จะปล่อยให้พวกหมอพื้นบ้านมาดูถูกได้ยังไง ใช่ไหม? แต่ฉันคิดไม่ออกเลยว่าการแข่งจะออกมาเป็นแบบไหน ตั้งหน้าตั้งตารอดู!’
……
“การต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว”
หลังจากอ่านแถลงการณ์แล้ว สายตาของผู้นำตระกูลฉินลุกโชน กล่าวในฐานะผู้นำแพทย์แผนจีนพื้นบ้านอย่างสง่าผ่าเผยว่า
“จงจำไว้ แม้อาจจะแพ้การแข่งขันกับฮัวเหรินเฟิง แต่คนรุ่นใหม่ของเราจะต้องชนะ!”