เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 97 ซูเย่ได้เป็นตัวแทนการฝังเข็ม!
บทที่ 97 ซูเย่ได้เป็นตัวแทนการฝังเข็ม!
“หือ?”
หลี่เคอหมิงที่นั่งอยู่หัวแถว หันขวับมามองซูเย่ด้วยสีหน้าตื่นตกใจ
จะแข่งอาคม??
เขาไม่เคยคาดคิดว่าซูเย่จะออกปากขอเข้าแข่งในศาสตร์แขนงอาคมมาก่อน
ความชำนาญของซูเย่คือการฝังเข็ม!
ชายหนุ่มสามารถทำให้เกิดการได้ชี่ตลอด หากเข้าแข่งในการฝังเข็ม แม้ผู้สืบทอดของตระกูลพื้นบ้านจะมากพรสวรรค์เพียงไหน ก็ไม่มีทางสู้ได้!
แต่เขาจะแข่งอาคม?
ผู้คนในหอประชุมเองก็ตกตะลึง
ทุกสายตาจับจ้องไปยังซูเย่
แม้แต่หลิวเจิ้นเฉียงที่อยู่บนเวทีเอง ก็มองซูเย่อย่างเต็มไปด้วยความแปลกใจ
ในเมื่อเธอเป็นลูกศิษย์ของปรมาจารย์ฮัว ไม่ใช่ว่าเธอควรจะลงแข่งการฝังเข็มหรอกหรือ?
“เธอจะแข่งอาคม??” หลิวเจิ้นเฉียงเอ่ยถามออกมาอย่างสับสน
“ครับ” ซูเย่พยักหน้ายืนยัน
เมื่อได้ยินเช่นนั้น นักศึกษาและผู้นำจากทั้ง 33 สถาบันในหอประชุมก็ไม่อาจละสายตาจากเขาได้
“นี่มัน…”
หลิวเจิ้นเฉียงแสดงความประหลาดใจออกมาอย่างชัดเจน หลังจากที่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงจ้องไปยังซูเย่และเอ่ยขอ
“ช่วยทำให้ดูหน่อยได้ไหม?”
“ได้ครับ” ซูเย่พยักหน้า
โห!
เสียงพูดคุยดังขึ้นในหอประชุม
เหมือนว่าจะได้ดูแสดงการรักษาด้วยอาคมของจริงเข้าแล้ว!
ไม่ใช่ว่าเป็นแค่ไสยศาสตร์หรือจิตวิทยาหรอกเหรอ?
“มีใครในนี้อาสาไหม?” หลิวเจิ้นเฉียงมองไปยังผู้คนในหอ
“ฉันเอง!”
ก่อนที่นักศึกษาจะทันได้ยกมือเสนอตัว ก็ได้มีชายวัยกลางคน ผู้นั่งอยู่ตรงหัวแถวลุกยืนขึ้น จ้องมองซูเย่เขม็งก่อนจะกล่าว “วันนี้ฉันเป็นไมเกรนอยู่พอดี อาการไม่ดีขึ้นเลยและยังคง งปวดอยู่ ทำให้ฉันดูหน่อยว่าสามารถรักษาได้จริงไหม?”
เขายังคงจ้องซูเย่อยู่ หลังจากกล่าวถามจบ
ทุกคนในหอประชุมเองก็มองตามด้วยความสงสัย เฝ้ารอคำตอบจากซูเย่
ซูเย่พยักหน้าและกล่าว “รักษาได้ครับ”
หลิวเจิ้นเฉียงนิ่งไปครู่หนึ่ง สุดท้ายแล้วจึงมองไปยังคณบดีผู้ที่ยืนขึ้น จากนั้นกล่าว “ถ้าเช่นนั้น ขอรบกวนท่านคณบดีหวง เป็นคนไข้สำหรับรับการรักษาหน่อยครับ”
ส่งสัญญาณบอกซูเย่ให้เริ่มรักษาได้
ภายใต้สายตาของผู้คนจำนวนมาก ซูเย่เดินตรงเข้าไปยังแถวที่นั่งของผู้นำและเข้าไปหาคณบดีหวง จากนั้นตรวจสอบโดยใช้การวินิจฉัยสี่วิถี
คณบดีท่านอื่นเองก็เดินออกมาจากที่นั่งเพื่อดู สงสัยว่าซูเย่จะรักษาด้วยวิธีการไหน
รวมไปถึงหลี่เคอหมิงเอง
“ฉันสกุลหวง เป็นคณบดีสาขาแพทย์แผนจีน จากมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง ได้ยินชื่อเสียงของเธอมานานแล้ว”
คณบดีหวงกล่าวออกมาขณะที่มองซูเย่พร้อมรอยยิ้ม
“ท่านผิดแล้วครับ คณบดีหวง อาการของท่านรักษาได้ด้วยการฝังเข็ม ไม่จำเป็นต้องใช้อาคม” ซูเย่กล่าวขณะที่ปล่อยมือจากเส้นลมปราณ
“หืม?” คณบดีหวงผงะไป คิ้วขมวดเล็กน้อย จากนั้นกล่าว “ฉันพบผู้เชี่ยวชาญด้านการฝังเข็มจากสถาบันของฉันมาตั้งหลายคน เป็นเวลาร่วมสามปี แต่ก็ไม่เคยหายจากไมเกรน เธอแน่ใจนะว่าสาม มารถรักษาได้ด้วยการฝังเข็ม?”
“รักษาได้ครับ” ซูเย่พยักหน้าและยิ้มออกมา
“ต้องใช้เวลานานแค่ไหน?” ดวงตาของคณบดีหวงเบิกกว้าง รีบเอ่ยถามต่อ
“ฝังเข็มชุดเดียวพอครับ” ซูเย่ตอบกลับ
คณบดีหวงตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น
ทุกคนในหอประชุมเองก็ไม่ต่างกัน
ชุดเดียว?
ไมเกรน เป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ยิ่งไปกว่านั้น คณบดีหวงเข้ารับการฝังเข็มมาร่วมสามปีจากผู้เชี่ยวชาญหลากหลายคน แต่ก็ยังรักษาไม่หาย ซูเย่กลับกล้าพูดออกมาว่ารักษาไ ได้ในครั้งเดียว?
ไม่อวดดีไปหน่อยเหรอ?
คณบดีหวงมองซูเย่ด้วยสายตาจริงจัง ดวงตาที่กว้างอยู่แล้วก็เบิกกว้างยิ่งขึ้น ทันใดนั้นเขาลุกยืนขึ้นและหันไปกล่าวกับหลิวเจิ้นเฉียงว่า “ฉันรับการฝังเข็มมาแล้วกว่าสามปีแต่ไม่ หายเลย ตอนนี้ซูเย่กลับบอกว่าเขารักษาได้ ฉันมีความคิดแล้ว พักเรื่องอาคมเอาไว้ก่อน ใช้ฉันเป็นตัวทดสอบการฝังเข็มได้เลย!”
หืม?
ทุกคนชะงักไป
“อย่างที่ทุกท่านทราบกันดีว่าซูเย่ชำนาญด้านการฝังเข็มเป็นที่สุด และเท่าที่ฉันรู้มา เขาเองก็เข้าสอบหมอรู้แจ้งด้วยการฝังเข็ม ทำให้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะสามารถเป็นตัวแทนที่ เก่งที่สุดของศาสตร์แขนงการฝังเข็มได้”
“ซูเย่กล่าวว่าการฝังเข็มเพียงครั้งเดียวสามารถรักษาโรคเรื้อรังของฉันได้ ดังนั้นฉันจึงขอเสนอให้ตัวแทนการฝังเข็ม ใช้ฉันเป็นตัวทดสอบได้เลย”
“ใครที่คิดว่าสามารถรักษาได้ในครั้งเดียว ก็ออกมาแข่งกับซูเย่ จะได้จบไปหนึ่งเรื่อง”
“คิดว่าอย่างไรล่ะ?”
เมื่อได้ฟังเช่นนั้น หลิวเจิ้นเฉียงที่อยู่บนเวทีก็ขมวดคิ้ว ทว่าไม่นานดวงตาของเขาก็เป็นประกาย
เป็นความคิดที่ดี!
ซูเย่ถือได้ว่าเป็นตัวแทนการฝังเข็มมาตั้งแต่ต้น และในเมื่อเขากล้าพูดออกมาว่ารักษาได้ภายในครั้งเดียว ก็ให้คนอื่นได้ออกมาพิสูจน์กันเลย
เพื่อเป็นการประหยัดเวลาที่ต้องใช้สำหรับการคัดเลือกตัวแทนการฝังเข็ม และได้เวลาอันล้ำค่าเพิ่มขึ้นมา!
“ท่านผู้นำจากสถาบันอื่นคิดว่าอย่างไรกันบ้าง?”
หลิวเจิ้นเฉียงไม่กล่าวอะไรต่อ เอ่ยถามบรรดาผู้นำออกมาโดยตรง
ทั้ง 31 คนมองหน้ากัน
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
“ดี!” หลิวเจิ้นเฉียงไม่ลังเล กล่าวออกมาต่อ “ตัวแทนฝังเข็มลุกขึ้นยืน ใครที่มั่นใจว่าจะสามารถรักษาโรคของคณบดีหวงได้ภายในการฝังเข็มชุดเดียว ให้ออกมาแข่งกับซูเย่!”
ตัวแทนทั้ง 33 คนลุกขึ้นและเดินตรงไปบนเวที
สายตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
แม้ว่าซูเย่จะเป็นหมอรู้แจ้งที่ชำนาญด้านการฝังเข็ม แต่พวกเขาก็ต้องการวัดว่าใครกันแน่ที่เก่งกว่า!
คณบดีหวงนั่งลงกับโต๊ะอีกตัวหนึ่งเพื่อรอคอยการรักษา ในฐานะคนไข้ที่จะวัดความสามารถของตัวแทน
ในขณะนี้ สายตาของผู้คนในหอประชุมจดจ่อไปยังร่างของคณบดีหวง
ท่ามกลางความสนใจของของทุกคน
นักศึกษาตัวแทนแข่งการฝังเข็มจากสถาบันการแพทย์ 33 แห่งทั่วประเทศ ก้าวเดินเข้าไปวินิจฉัยอาการของคณบดีหวงทีละคน
ตัวแทนคนแรก
ผ่านไปห้านาที
“ไม่ได้ครับ”
หลังการวินิจฉัย นักศึกษาแสดงสีหน้าเคร่งเครียดและส่ายหัว “อาการของคณบดีหวงไม่ได้ร้ายแรง แต่เรื้อรังมากเลยครับ เป็นไปไม่ได้ที่จะรักษาด้วยการฝังเข็มเพียงครั้งเดียว”
กล่าวจบ เขามองซูเย่อย่างประหลาดใจ ก่อนจะเดินออกไป
ตัวแทนคนอื่นเองก็ชะงัก
จากนั้นตัวแทนคนที่สองได้ตรงเข้าไปวินิจฉัย
“หากให้รักษาภายในครั้งเดียว ผมทำไม่ได้ครับ”
ผ่านไปอีกห้านาที ตัวแทนคนที่สองก็ส่ายหัวและเดินกลับออกมา
รายที่สามก็ยังคงส่ายหัวอยู่
……
ท่ามกลางสายตาของฝูงชนในหอประชุม
ตัวแทนทั้ง 32 ล้วนส่ายหัวหลังจากวินิจฉัยคณบดีหวง คนแล้วคนเล่า
ไม่มีผู้ใดที่รู้สึกว่าสามารถรักษาได้ภายในการฝังเข็มเพียงชุดเดียวเลย
“เอ่อ?”
สายตาของทุกคนเต็มไปด้วยความสงสัย
เป็นเพราะว่าความสามารถในการฝังเข็มของซูเย่เหนือกว่านักศึกษาทั่วไปมาก หรือเป็นเพราะว่าความสามารถของเหล่าตัวแทนนั้นไม่เพียงพอ?
ไม่มีใครทำได้อย่างที่ซูเย่กล่าวเลย
หรือว่า
ซูเย่ก็แค่พูดจาใหญ่โตเกินตัว?
ปัญหาไมเกรนนั้นเป็นอะไรที่รักษาได้ยาก ซูเย่สามารถทำให้หายขาดได้ภายในชุดเดียวจริงเหรอ?
ถึงคราวของตัวแทนคนที่ 33
ทุกสายตาล้วนจ้องมองเขา
หลังจากผ่านไปเพียงสามนาที
ตัวแทนคนนี้ก็เป็นเหมือนรายอื่น ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ส่ายหัว และกล่าวออกมาว่า “ผมทำไม่ได้ และผมก็ไม่เชื่อด้วยว่า จะมีใครรักษาโรคเรื้อรังของคณบดีหวงได้ด้วยการฝังเข็มเพียงคร รั้งเดียว เนื่องจากอาการของท่านนั้นเกี่ยวข้องไปถึงระบบประสาทแล้ว แม้แต่การฝังเข็มเพื่อบรรเทาอาการยังต้องใช้เวลานาน จะรักษาให้หายขาดภายในชุดเดียวมันเป็นไปไม่ได้!”
เมื่อประโยคนี้ถูกกล่าวออกมา
ตัวแทนทั้ง 32 คนที่เหลือก็พยักหน้าเห็นด้วย
พรึ่บ!
ทุกสายตาย้ายไปยังซูเย่
โดยเฉพาะตัวแทนฝังเข็มทั้ง 33 คน สีหน้าของพวกเขาตึงเครียดยิ่งขึ้นกว่าเดิม
พวกเขาล้วนเป็นนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาและดุษฎีบัณฑิต
ระหว่างนักศึกษาในชั้นปีเดียวกันแล้ว ความสามารถการฝังเข็มของพวกเขาล้วนเหนือกว่าใคร และเชื่อมั่นอย่างหนักแน่นว่าอาการของคณบดีหวงนั้น ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ด้วยการฝังเข็มคร รั้งเดียว
พวกเขาต้องการเห็นเหลือเกินว่าซูเย่จะทำได้อย่างไร!
ซูเย่เหลือบมองพวกเขาและเอ่ยออกมา
“ถ้าอย่างนั้นผมทำเลยนะครับ”
กล่าวจบ เขาจึงหยิบเข็มที่ถูกเตรียมไว้แล้วขึ้นมา
ทุกสายตาจับจ้อง
บนเวทีนั้น
หลิวเจิ้นเฉียงมองซูเย่อย่างคาดหวัง
เขาเองก็จับตาดูซูเย่มานานแล้ว ไม่ใช่เพียงหนึ่งหรือสองวัน!
เดิมที ซูเย่ก็เป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยการแพทย์ตี้ตู หากไม่มีเหตุการณ์ในครั้งนั้นเกิดขึ้น ซูเย่อาจจะได้เป็นนักศึกษาของเขาแล้ว
ตั้งแต่จบเรื่องการคัดลอกผลงานในรายการ ‘อนาคตแพทย์แผนจีน’ เขาก็ได้ติดตามซูเย่มาโดยตลอด
ในวันนี้
ในที่สุด เขาก็จะได้เห็นความสามารถของซูเย่กับตาของตัวเอง
ผู้นำจากอีกทั้งสามสิบกว่าสถาบันก็สงสัยไม่แพ้กัน
ชื่อเสียงของซูเย่นั้น
โด่งดังแม้กระทั่งในมหาวิทยาลัยของพวกเขา
อยากเห็นเหมือนกันว่า ซูเย่แกร่งพอที่จะขยี้นักศึกษาในระดับเดียวกันได้หรือไม่!
ท่ามกลางความสนใจของฝูงชน
ซูเย่เริ่มลงมือ
นำเข็มขึ้นมา และฝังลงไป
เข็มแรก
ได้ชี่!
คณบดีหวงรู้สึกได้ถึงอาการชาบนบริเวณที่มีการฝังเข็ม จากนั้นมองซูเย่ด้วยสายตาประหลาดใจ
นักศึกษาที่อายุเพียงเท่านี้ สามารถทำให้ได้ชี่ในเข็มเดียว!
เหลือเชื่อ!
แม้ว่าจะตกตะลึงไปถึงจิตใจ แต่คณบดีหวงก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา รอคอยเข็มต่อไปจากซูเย่
เข็มที่สอง
ร่างของคณบดีหวงสั่นเล็กน้อย และเขาได้ชี่อีกครั้ง!
จากนั้นเป็นเข็มที่สาม เข็มที่สี่…
น่าประหลาดใจ แต่ล้วนได้ชี่ทุกเข็ม!
ความรู้สึกตกตะลึงในใจของเขายิ่งมากและมากขึ้น สีหน้าเองก็แสดงออกมาอย่างชัดเจน
ฝั่งของซูเย่ ก็ยังคงดำเนินการฝังเข็มต่อไปโดยไร้ความเร่งรีบ
ในระหว่างขั้นตอนของการฝังเข็ม ซูเย่ได้เปลี่ยนวิชาการฝังไปเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนจุด
ทุกคนที่ได้รับชมการฝังเข็มของเขาล้วนตะลึง ตัวแทนทั้ง 33 คนที่อยู่ข้างเขาพากันมองหน้าด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
ไม่คิดเลยว่าซูเย่จะรู้วิชาการฝังเข็มมากถึงเพียงนี้
และในทุกเข็มที่ฝังลงไปนั้นเต็มไปด้วยความพิถีพิถัน
ทั้งกระบวนการ ไร้ซึ่งข้อผิดพลาด อย่างกับเป็นการฝังเข็มระดับเดียวกับที่อยู่ในตำรา!
เมื่อทุกคนกำลังอึ้งจนพูดไม่ออก ซูเย่ก็เริ่มดึงเข็มออกมาจากร่างของคณบดีหวง
หืม?
เสร็จแล้วเหรอ?
ผู้ชมชะงักไปเล็กน้อย
“เรียบร้อยแล้วครับ”
ซูเย่กล่าวออกมาเมื่อดึงเข็มออกจนหมด
คณบดีหวงลุกยืนขึ้นในทันที สูดหายใจเข้าอย่างสดชื่น บิดคอไปมา และนำมือไปลูบหัวของเขา จากนั้นมองไปยังซูเย่ด้วยสายตาที่ไม่อยากเชื่อ กล่าวออกมาว่า “รู้สึกดีมากเลย! อาการปวด ดที่ยังมีเมื่อสักครู่นี้ หายไปจนหมดแล้ว”
“แต่เดี๋ยวก่อน”
เขากล่าวออกมาต่อหน้าทุกคน ทันใดนั้นก็ลงไปนอนลงบนโต๊ะอยู่ในท่าสำหรับนอนหลับ บิดคอไปมาอีกครั้ง
เขาหลับตาลงเพื่อจดจ่อกับความรู้สึกที่เกิดขึ้น
ไม่นานก็ลืมตาและลุกขึ้นนั่ง
มองไปยังซูเย่อีกครั้งด้วยสายตาตื่นตกใจและกล่าว “หายแล้วจริงด้วย! เพราะว่าในท่านอนเมื่อสักครู่ ฉันมักจะปวดอยู่ตลอด ตอนนี้ไม่ปวดแล้ว!”
เมื่อประโยคนี้ดังออกมา
ทำให้ทุกคนต้องตกตะลึงไปอีกครั้ง
รักษาให้หายขาดได้ภายในการฝังเข็มชุดเดียวจริงเหรอ?
นั่นเป็นถึงโรคเรื้อรังที่รักษาไม่หาย แม้จะผ่านมือผู้เชี่ยวชาญด้านการฝังเข็มมาเป็นเวลานานถึงสามปี
ยิ่งไปกว่านั้น นักศึกษาตัวแทนที่เก่งที่สุดจากสถาบันการแพทย์ 33 แห่งเองยังคิดว่าไม่มีทางรักษาได้ในครั้งเดียว!
ช่วงเวลานี้ทำให้ทุกคนได้ตระหนักว่า วิชาการฝังเข็มของซูเย่ เหนือกว่าทุกคนในที่แห่งนี้!
“เยี่ยมไปเลย!” คณบดีหวงชูนิ้วชื่นชมซูเย่ จากนั้นหันไปหาผู้นำคนอื่นและกล่าวขึ้นทันที “ฉันขอแนะนำให้ซูเย่เป็นตัวแทนในการฝังเข็ม ฉันเชื่อมั่นว่าความสามารถของเขา จะนำชัยชนะมา าให้กับพวกเราได้ สมแล้วที่เป็นหมอรู้แจ้งที่อายุน้อยที่สุด!”
“ดีจริงเหรอ หายขาดเลยเหรอ?” สายตาของหลิวเจิ้นเฉียงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เอ่ยถามออกมาอีกครั้งเพื่อยืนยัน
“ฉันคิดว่าอย่างนั้น ฉันรู้จักอาการของฉันดี” คณบดีหวงพยักหน้าและกล่าวต่ออย่างจริงจัง “ถ้าเรื่องแค่นี้ยังไม่รู้ แล้วฉันจะเป็นคณบดีสาขาแพทย์แผนจีนได้อย่างไร?”
“ทุกท่านคิดว่าอย่างไรกันบ้าง?” หลิวเจิ้นเฉียงมองไปยังเหล่าผู้นำทันที
คณบดีทุกท่านมองหน้ากัน จากนั้นพยักหน้าเห็นด้วย
นักศึกษาทุกคนในหอประชุมเองก็เริ่มซุบซิบพูดคุยกัน
ผลงานของซูเย่นั้นสุดยอดมาก จนทำให้นักศึกษาอันดับต้น ๆ ต้องตะลึง
พอเห็นเช่นนั้นแล้ว หลิวเจิ้นเฉียงจึงครุ่นคิด และเอ่ยออกมาว่า “การจะให้ซูเย่เป็นตัวแทนของการฝังเข็มนั้นไม่มีปัญหา แต่ว่าจะทำอย่างไรกับอาคม?”
ผู้คนในหอประชุมผงะไป
จริงด้วย!
หากซูเย่เป็นตัวแทนฝังเข็ม แล้วใครล่ะจะลงแข่งอาคม
“อย่างน้อยก็รับรองชัยชนะของการฝังเข็มได้ ส่วนอาคม…”
คณบดีหวงกล่าวสิ่งที่อยู่ในใจของเขาออกมาเพียงครึ่งเดียว แต่ความหมายนั้นชัดเจน เขาต้องการยอมแพ้ด้านอาคม มอบชัยชนะให้กลุ่มพื้นบ้านไป
“เธอจะแข่งอาคมจริงใช่ไหม?” หลิวเจิ้นเฉียงยังไม่ยอมแพ้ มองไปยังซูเย่และเอ่ยถามออกมาอีกครั้ง
“ครับ” ซูเย่พยักหน้า
“ความสามารถพิเศษเหรอ?” หลิวเจิ้นเฉียงถามต่อ
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ” ซูเย่พยักหน้ายืนยันอีกครั้ง
“ถ้าฉันขอให้เป็นตัวแทนแข่งอาคม เธอคิดว่าจะเอาชนะได้ไหม?” หลิวเจิ้นเฉียงยังคงถามต่อไป
“คำถามนี้…” ซูเย่ครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง จากนั้นเอ่ยออกมาว่า “เอาแบบนี้ดีกว่าครับ”
“เดี๋ยวผมจะทำให้ท่านดู”
“มันจะได้ผลหรือไม่ ให้ทุกท่านได้ตัดสินกันเอง”