เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 98 สาธิตพลังของศาสตร์แห่งอาคม!
บทที่ 98 สาธิตพลังของศาสตร์แห่งอาคม!
“ทำให้ดูอย่างไร?”
ทุกคนในหอประชุมมองไปยังซูเย่อย่างฉงน
“ลองดูกันเองเลยครับ”
ซูเย่พยักหน้า หันไปเหลือบมองยังที่นั่งแถวแรกของบรรดาผู้นำ และรีบเดินไปหยิบขวดน้ำแร่มา
จากนั้น
ภายใต้สายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยจากผู้คน
ซูเย่เจาะรูบนขวดน้ำ ใช้แรงบีบขวดเพื่อให้น้ำพุ่งออกมาจากรูนั้น
เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย
กลั้นหายใจ ตั้งสมาธิให้จิตเป็นหนึ่งเดียวกัน ไร้ซึ่งความคิดรบกวน
ใช้น้ำแร่เป็นดั่งพู่กัน วาดยันต์ขนาดใหญ่ยักษ์ขึ้นมาบนพื้น!
เสร็จในรวดเดียว ไร้การหยุดพัก
ยันต์นี้มีความกว้างและยาวสามเมตร
ถูกวาดลงบนพื้นที่ว่างระหว่างเวทีและแถวที่นั่งหน้าสุด
“เจ๋งไปเลย!”
“ความสามารถเหมือนกับในรายการอนาคตแพทย์แผนจีนเลย เก่งมาก!”
“นี่คือยันต์เหรอ?”
เหล่านักศึกษาตัวแทนในหอประชุมกระซิบกระซาบกัน
นักศึกษาที่เป็นตัวแทนของศาสตร์แขนงอาคมหลายคนมองซูเย่อย่างประหลาดใจ ด้วยเพียงการใช้มือของชายหนุ่มก็นับว่าทำได้ดีกว่าเหล่านักศึกษาที่เรียนวิชาอาคมมาทั้งนั้น!
อีกทางหนึ่ง ผู้นำจากทั้ง 33 สถาบันลุกยืนขึ้นล้อมดูซูเย่โดยไม่พูดอะไร
เดิมทีนั้น อาคมถูกเรียกว่าเวทมนตร์ในอดีตกาล ถือว่าเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่มีเกียรติเป็นอย่างมาก ได้รับการแต่งตั้งชื่ออย่างเป็นทางการโดยจักพรรดิเหลือง
ในบันทึกที่สืบสานมานับพันปีนั้น วิชาอาคมจะมีการใช้ยาจีน และใช้ยันต์เพื่อเป็นตัวช่วยในการรักษา
พอได้เห็นซูเย่วาดยันต์ขึ้นมาด้วยน้ำอย่างปราณีต
ทุกคนก็รู้สึกสะพรึงกลัว
“สายลมและฝนของฤดูใบไม้ผลิ จงขับไล่โรคร้ายให้หายไป……”
หลังจากวาดยันต์ ซูเย่ก็เริ่มร่ายคาถาออกมาอย่างแผ่วเบา
แม้จะลองตั้งใจฟังเท่าไร ก็ไม่อาจได้ยินสิ่งที่ซูเย่พูดอยู่ได้
ระหว่างที่ทุกคนกำลังสงสัยอยู่
ทันใดนั้น ในหอประชุมที่ไร้หน้าต่างและเครื่องปรับอากาศ ก็ได้เกิดสายลมพัดผ่านขึ้น!
กระแสลมทำให้ทุกคนรู้สึกเย็นและผ่อนคลาย เป็นความรู้สึกสบายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน รู้สึกได้จากภายในร่างกายสู่ภายนอก
อย่างกับโรคร้ายในร่างกายถูกกำจัดไปจนหมดสิ้น
ขณะนั้นเอง
ทุกคนต่างตกตะลึง รู้สึกอย่างกับว่ามีอภินิหารเกิดขึ้น สายตาจับจ้องไปยังซูเย่โดยอัตโนมัติ!
“นี่น่ะเหรออาคม? สุดยอดไปเลยว่าไหม?”
“รู้สึกได้เลย รู้สึกได้จริง ๆ”
“ลมแรงจัง? มาจากข้างนอกเหรอ?”
พวกเขาอุทานกันออกมาเบา ๆ
อาคมมีอยู่จริง?
นักศึกษาตัวแทนและคณาจารย์ในวิชาอาคมตกตะลึงยิ่งกว่าใคร กลับกลายเป็นว่าอาคมมีอยู่จริง ไม่ใช่ไสยศาสตร์!
อาจารย์ท่านหนึ่งในสายอาคมมองไปยังหลี่เคอหมิง และกระซิบถามเขาว่า “คณบดีหลี่ ท่านเป็นคนสอนอาคมให้ซูเย่หรือ?”
“ผมเปล่าครับ” หลี่เคอหมิงตอบกลับพร้อมยิ้มเจื่อนและส่ายหัว “ผมทำไม่เป็นด้วยซ้ำ”
หลายคนที่อยู่รอบนั้นล้วนสับสน
ปรมาจารย์แพทย์แผนจีนฮัวเหรินเฟิง ไม่รู้เกี่ยวกับศาสตร์แขนงอาคม และไม่ได้สอนโดยหลี่เคอหมิง แล้วเขาเรียนมาจากใคร?
“เธอทำได้อย่างไร?” อาจารย์ท่านนั้นมองไปยังซูเย่ และเอ่ยถามออกมาเสียงดังอย่างควบคุมไม่ได้
“ระหว่างวาดยันต์ ให้กลั้นหายใจ ตั้งสมาธิ จดจ่อจิตไปยังจุดเดียว แล้วสื่อสารกับสวรรค์ครับ ถ้าทำตามทุกอย่าง จะสามารถทำให้ยันต์แสดงพลังที่แท้จริงออกมาได้”
ซูเย่อธิบายและเสริมต่อว่า “อย่างไรก็ตาม มีข้อกำหนดว่า ห้ามมีสิ่งใดอยู่ในความคิดและรบกวนจิตใจครับ”
เหล่านักศึกษาจากสาขาวิชาศาสตร์แห่งอาคมนิ่งไปเมื่อได้ยินคำพูดของซูเย่ พวกเขาจมอยู่กับความคิดในหัว
ส่วนตัวแทนจากแขนงอื่นก็ทำเหมือนเข้าใจในสิ่งที่ซูเย่พูด แต่พวกเขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อดี
“อันที่จริงการฝังเข็มก็ทำได้นะครับ” ซูเย่กล่าวขึ้นมา “ด้วยวิธีการนี้จะทำให้ผลลัพธ์ดีเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการได้ชี่ ไม่จำเป็นจำต้องอาศัยวิชาการฝังเข็มใด ๆ”
สิ้นสุดคำพูด
หลี่เคอหมิงตกตะลึงไปในทันใด
กลับกลายเป็นว่าซูเย่ไม่ได้ถนัดการได้ชี่ แต่เป็นเพราะกระบวนการของอาคมจึงทำให้เกิดการได้ชี่ทุกเข็ม
หากคิดเช่นนี้แล้ว ทุกอย่างก็เริ่มสมเหตุสมผล
ไม่ใช่สิ!
ดูเหมือนการที่จะทำให้ได้ชี่ทุกเข็มนั้น ไม่ได้มาจากการใช้วิชาหรือศาสตร์อะไร แต่มาจากการที่ไร้สิ่งรบกวนในจิตใจ
พอคิดเช่นนี้ หลี่เคอหมิงก็เข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันที
ในฝูงชนนั้น นักศึกษาตัวแทนการฝังเข็มทั้ง 33 คนเกิดกระวนกระวายขึ้นมา เมื่อได้ยินสิ่งที่ซูเย่พูด
หนึ่งในนั้นเองก็ทำท่าเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง
หลังจากฟังซูเย่ เขาก็หยิบเข็มเงินขึ้นมาทันที ละทิ้งทุกอย่างในจิตใจ เข้าสู่สภาวะไร้สิ่งรบกวน
จากนั้น เขาก็ใช้เข็มแทงตัวเอง!
“หือ?”
เมื่อเข็มฝังลงไป นักศึกษาคนนั้นก็อุทานออกมาอย่างตื่นตกใจ
หากไร้สิ่งรบกวนใจ ก็จะสามารถทำให้เกิดการได้ชี่ขึ้นมาได้จริง!
ผู้คนรอบข้างก็ถูกเบนความสนใจไปด้วยเสียงของเขา
มองตามไป
พอเห็นเข็มเงินปักอยู่บนแขนของเขา
ทุกคนก็เข้าใจได้ในทันที
เขาได้ชี่แล้ว!
จากนั้นเขามองไปหาซูเย่ ดวงตาทั้งสองเบิกกว้าง
แน่นอนว่าเป็นเพราะสิ่งที่ซูเย่พูด พอเขาทำตามแล้ว ก็เกิดการได้ชี่ขึ้นมา!
“ทำได้จริงเหรอ??”
“วิธีการมันวิเศษถึงขนาดนี้เลยเหรอ?”
“ฉันอยากลองบ้างเลย”
ทุกคนพูดคุยกันว่าอยากลองอยู่เป็นช่วงเวลาหนึ่ง
แต่เมื่อมีความอยากเกิดขึ้นมา อย่าว่าแต่ไร้สิ่งรบกวนในใจเลย แค่จะอยู่อย่างสงบนิ่งยังทำไม่ได้ พวกเขาพากันเกาแก้มและหู
“เอาล่ะ!”
หลังจากเห็นว่าเริ่มมีเสียงดังเกิดขึ้นในหอประชุม หลิวเจิ้นเฉียง คณบดีการแพทย์แผนจีนแห่งมหาวิทยาลัยการแพทย์ตี้ตูจึงเปิดปากและเอ่ยออกมาอย่างสุขสันต์ว่า “ไม่มีความจำเป็นจะต้องลอ อง ขอแค่เพียงจำคำพูดของซูเย่ไว้ กลับไปเมื่อไรทุกคนก็ค่อยลองดู สิ่งที่พวกเราได้เจอในตอนนี้ก็ดีพอแล้ว หากนับทั้งอาคมและการฝังเข็ม ดูเหมือนว่าเราจะวางใจไปได้ถึงสองแขนง!”
“ถ้าเช่นนั้น ซูเย่จะเป็นตัวแทนทั้งการฝังเข็มและอาคม เพราะอย่างไรก็ตาม กฏไม่ได้มีการห้ามไม่ให้หนึ่งคนเข้าแข่งในสองแขนง มีใครจะคัดค้านอะไรไหม?”
ผู้นำจากทุกสถาบันพยักหน้า
ความสามารถที่ซูเย่แสดงให้ดูนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
ไม่มีคนรุ่นเดียวกันที่สามารถเทียบเคียงได้เลย
แม้แต่อัจฉริยะจากตระกูลแพทย์แผนจีนเอง ก็อาจจะสู้ซูเย่ไม่ได้!
ในขณะนี้ ก็รับประกันชัยชนะได้อย่างน้อยหนึ่งหรือสองแขนง
ทุกคนถอนใจออกมาด้วยความโล่ง ขอแค่ชนะอีกเพียงห้าหรือหกศาสตร์ พวกเขาก็จะชนะศึกนี้!
“วันแรกจบเพียงเท่านี้แล้วกัน” หลิวเจิ้นเฉียงเอ่ยขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม “ตัวแทนแข่งขันสำหรับศาสตร์อื่นจะทำการคัดเลือกในวันพรุ่งนี้”
ทุกคนพยักหน้าตอบรับและเตรียมตัวออกจากหอประชุม
ในตอนนั้นเอง ซูเย่ยกมือขึ้นและกล่าวว่า
“ผมอยากแข่งศาสตร์แขนงอื่นด้วยครับ!”
สิ้นสุดคำพูดนี้ ผู้คนที่พร้อมออกจากหอประชุมแล้ว หันขวับกลับมา และจดจ้องไปยังซูเย่อีกครั้ง
เขาพูดว่าอะไรนะ?
อยากเป็นตัวแทนแข่งในศาสตร์อื่นด้วย?
ตัวแทนจากหลากหลายแขนงทำหน้านิ่วคิ้วหมวด
“หมอนี่หมายความไง?”
“คนเดียวแข่งสองอย่างก็พอแล้วมั้ง จะลงแข่งหมดทุกอย่างเลยเหรอ?”
“อวดดีเกินไปหน่อยรึเปล่า?”
“สองอย่างแล้วนะ เอาจริงแข่งสามอย่างก็ไม่น่าไหวไหม?”
ผู้นำจากหลากสถาบันเองก็ทำหน้าเครียด
แม้ว่าความสามารถของซูเย่จะแกร่งจริง แต่คงแกร่งไม่เท่าความอวดดีของเขา
ศึกยังไม่เริ่มต้นขึ้นเลย เด็กคนนี้พูดจาใหญ่โตเกินไปไหม?
ในขณะนั้นเอง หลี่เคอหมิงลุกยืนขึ้นและกล่าว
“ผมสนับสนุนให้ซูเย่เข้าแข่งด้านกระดูก ศาสตร์จากหนึ่งในสิบสามแขนงด้วยครับ”
“หืม?”
“กระดูก?”
“ทำไมล่ะ? เขาเคยศึกษาด้านศัลยกรรมกระดูกด้วยหรือ?”
บรรดาผู้นำพากันสงสัย
“ผมเคยเห็นกับตาว่า ซูเย่สามารถรักษาโรคกระดูกที่ไร้หนทางรักษาได้ภายใน 24 ชั่วโมงครับ”
หลี่เคอหมิงกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เคยมีผู้ป่วยที่กระดูกหัก ตั้งแต่ขาหักก็ไม่สามารถออกไปทำงานได้ตลอดสองปี ทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากเดินและยืน”
“สิ่งที่ผมเห็นก็คือ ซูเย่ช่วยต่อกระดูกให้ได้อย่างสมบูรณ์ภายใน 24 ชั่วโมงครับ”
อะไรนะ?
เป็นไปไม่ได้!
ทุกคนในหอประชุมอึ้ง ส่ายหัวกันอย่างมั่นใจ
นั่นมันเป็นไปไม่ได้เลย!
“ถ้าขาหัก ปกติมันพอจะเชื่อมได้ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองปี”
“อันนี้โม้เกินไปแล้ว แค่บาดเจ็บเล็กน้อยยังต้องใช้เวลาตั้งร้อยกว่าวัน ไม่ต้องพูดถึงเชื่อมกระดูกที่หักเลย จะทำภายในวันเดียวได้อย่างไร?”
ฝูงชนทุกคน รวมไปถึงเหล่าผู้นำสถาบัน ตั้งคำถามขึ้นมา คำถามแล้วคำถามเล่า
ตัวแทนสาขากระดูกทั้ง 13 คน เดินหน้าออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน
“เป็นไปไม่ได้!”
“ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน ไม่มีใครต่อกระดูกที่หักได้ภายในวันเดียวหรอก!”
“วีธีการเชื่อมกระดูกมีอยู่ก็จริง ทว่าจะเกิดผลข้างเคียงกับผู้ป่วยค่อนข้างมาก หลังจากทำการเชื่อมกระดูกให้แล้ว ผู้ป่วยจะต้องทำกายภาพบำบัดเป็นเวลาอย่างเนิ่นนาน จะรักษาให้สมบูรณ์ ใน 24 ชั่วโมงน่ะเป็นไปไม่ได้!”
นอกเหนือจากนักศึกษาตัวแทนสาขาศัลยกรรมกระดูกจากมหาวิทยาลัยจี้หยางแล้ว นักศึกษาจากสถาบันอื่นพากันออกมาตั้งคำถามกับหลี่เคอหมิง
จากมุมมองของพวกเขาแล้ว
หลี่เคอหมิงก็แค่โม้เพื่อโอ้อวดสรรพคุณของซูเย่!
“ฉันเองก็เป็นคณบดีนะ ฉันรับผิดชอบคำพูดของฉันได้” หลี่เคอหมิงกล่าวออกมาอย่างแน่วแน่ “สถานที่ที่ซูเย่เคยไปทำการรักษากระดูกให้คือหมู่บ้านฉีเจี๋ยซุน เมืองจี้หยาง ในวันนั นมีชาวบ้านเป็นพยานเกินกว่าครึ่ง”
“ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันพูดนั้นยากเกินกว่าจะเชื่อ แต่ฉันก็เห็นมากับตาตัวเอง เป็นครั้งเดียวในชีวิตที่ฉันเคยได้ประสบพบเจออะไรเช่นนี้ เป็นเหตุผลว่าทำไมฉันจึงอยากให้ซูเย่ เข้าแข่งด้านกระดูกอีกแขนง ถ้าหากให้ซูเย่เป็นตัวแทน ฉันคิดว่าจะสามารถชนะได้อีกหนึ่งอย่างแน่นอน!”
มั่นใจขนาดนั้นเชียว?
ฝูงชนทุกคนหันไปมองยังซูเย่
“ถูกต้องแล้วครับ” ซูเย่พยักหน้าและลุกยืนขึ้นกล่าว “สิ่งที่คณบดีกล่าวมานั้นเป็นเรื่องจริง ผมรักษาผู้ป่วยกระดูกหักและรักษาได้อย่างสมบูรณ์ภายใน 24 ชั่วโมง”
ทุกคนต่างนิ่วหน้า
พวกเขาก็ยังไม่อยากจะเชื่ออยู่ดี
อย่างไรเสีย ความสัมพันธ์ระหว่างหลี่เคอหมิงกับซูเย่คืออะไร ทุกคนในที่แห่งนั้นก็รู้ดี
“ถ้าอย่างนั้น ก็ให้ทำการคัดเลือกตัวแทนแข่งศัลยกรรมกระดูกเป็นอย่างแรกในวันพรุ่งนี้!”
นักศึกษาตัวแทนด้านกระดูกคนหนึ่งเสนอออกมา
คนอื่นก็สนับสนุนเห็นด้วย
หลิวเจิ้นเฉียงมองไปยังผู้นำคนอื่น หลังจากแน่ใจแล้วว่าทุกคนเห็นด้วย เขาจึงพยักหน้าและกล่าว “ได้”
“ถ้าเช่นนั้น การคัดเลือกตัวแทนรายการแรกของวันพรุ่งนี้ จะเป็นศาสตร์แขนงการศัลกรรมกระดูก”
เมื่อประโยคนี้ถูกกล่าวออกมา
ตัวแทนสาขากระดูกทุกคน ก็มองไปที่ซูเย่อย่างมุ่งมั่น
แน่นอนว่า พวกเขาไม่เชื่อในสิ่งที่หลี่เคอหมิงและซูเย่พูดเลยแม้แต่น้อย
ทว่าซูเย่เองก็ไม่ได้สนใจที่จะอธิบายแต่อย่างใด
อย่างไรเสีย พรุ่งนี้ก็จะมีการคัดเลือกอยู่แล้ว เมื่อถึงเวลา เดี๋ยวพวกเขาก็จะได้เห็นเอง
……
วันถัดมา
แปดโมงเช้า
ทุกคนได้มารวมตัวกันที่หอประชุม
“วันนี้ เราได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมกระดูกมาทั้งหมด 10 ท่าน จากสถาบันการแพทย์ 30 แห่ง”
หลิวเจิ้นเฉียงขึ้นมายังบนเวทีและกล่าว “อีกสักครู่ ผู้ป่วยที่ต้องการรับการรักษากระดูก และได้รับความยินยอมจากครอบครัวแล้ว จะถูกพามาส่ง โดยมีอาสาทั้งหมด 34 ราย สำหรับให้ซูเย่ ด้วยหนึ่งราย”
กล่าวจบ
ผู้คนในหอประชุมต่างตั้งหน้าตั้งตารอ
นักศึกษาตัวแทนสาขานี้พากันหัวเราะออกมา
จ้องมองไปยังซูเย่โดยเต็มไปด้วยความสงสัย
เมื่อวานนี้
พวกเขาได้ฟังเรื่องตลกที่สุดในชีวิต ต่อกระดูกคนไข้ให้สมบูรณ์ภายใน 24 ชั่วโมง
สำหรับพวกเขา
นั่นไม่ใช่การแพทย์แล้ว แต่คงเป็นพลังศักดิ์สิทธิ์!
แม้แต่อาคมก็ไม่สามารถทำได้!
ซูเย่ไม่ได้สนใจสายตาที่จับจ้องมาจากทุกทิศทางแต่อย่างใด
บทเวที
หลิวเจิ้นเฉียงกล่าวต่อ “คนไข้ทั้ง 34 รายได้ผ่านการเอ็กซ์เรย์มาแล้ว อาการบาดเจ็บกระดูกอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน”
“ก่อนที่คนไข้จะมาถึง เราจะทำการจับฉลากก่อน”
หลิวเจิ้นเฉียงนำกล่องใส่ฉลากออกมา
“นักศึกษาทั้ง 34 คน ที่จะเข้าคัดเลือกเป็นตัวแทนการแข่งศัลยกรรมกระดูก ขึ้นมาบนเวทีเพื่อจับฉลาก”
เมื่อรวมซูเย่ด้วย ทั้ง 34 คนจึงขึ้นไปจับฉลาก
ซูเย่ได้หมายเลข 34
หลังจากการจับฉลาก ทุกคนออกมาจากโรงแรมพร้อมกัน ไปยังตึกที่เช่าเอาไว้ชั่วคราว ซึ่งมีห้องเพียงพอสำหรับทำการรักษาผู้ป่วยทั้งหมด
ไม่นานหลังจากทุกคนมาถึง
มีรถพยาบาล 33 คันมาจอด
เหล่าพยาบาลที่โดยสารมาด้วย รีบนำคนไข้ออกมาจากรถ นำไปยังห้องเพื่อเตรียมรับการรักษา
“อะไรกัน?”
เมื่อคนไข้ทั้ง 33 รายเข้าไปในห้องเรียบร้อยแล้ว หลิวเจิ้นเฉียงหันหน้ามองไปรอบ ๆ และเอ่ยถามออกมาว่า “หายไปไหนหนึ่งคน?”