เดิมพันเสน่หา - ตอนที่ 12 พบเจอกันอีกครั้งในรอบสิบปี (1)
คืนนี้ เหลิ่งรั่วปิงรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเรือลำเล็กที่ร่องหาท่าเรือไม่เจอ เธอคือเรือที่ลอยอย่างไม่มีจุดหมาย ถูกคลื่นซัดครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างยอมรับในโชคชะตา
ตอนเช้าตรู่ ในที่สุดเธอก็หลุดพ้นจากการถูกบ่อนทำลายด้วยความบ้าคลั่ง จากนั้นเธอก็ผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า ถึงแม้ว่าเธอจะหลับสนิท ทว่าคิ้วของเธอกลับยังขมวดเป็นปมแน่น คล้ายกับว่ายังมีสิ่งที่กังวล
เธอนอนหลับได้ไม่ดีมากเท่าไหร่นัก ความคิดของเธอหวนย้อนกลับไปในคืนที่น่ากลัวเมื่อสิบปีก่อน กลับไปยังไฟที่ลุกโชนนั้น
เมื่อสิบปีก่อน เธอเป็นเจ้าหญิงตัวน้อยที่มีความสุข ถึงแม้ว่าแม่ของเธอจะตายจากไปในวันที่คลอดเธอ แต่ว่าพ่อของเธอรักเธอมาก ท่านรักและปกป้องเธอเหมือนแก้วตาดวงใจ
พ่อของเธอเป็นผู้ดูแลบริษัทรับเหมาก่อสร้างชื่อดัง ได้สร้างอาคารมากมายที่มีชื่อเสียง ถึงแม้ว่าความร่ำรวยของครอบครัวเธอนั้นจะไม่สามารถเทียบกับพวกคนรวยอันดับต้นๆ ของเมืองหลงได้ แต่ว่าครอบครัวของเธอก็ถือว่าดีกว่าคนทั่วไปหลายสิบเท่า
เมื่อสิบปีก่อน ชื่อของเธอไม่ใช่เหลิ่งรั่วปิง แต่เป็นชื่อที่อบอุ่นและสุดแสนจะอ่อนหวาน เธอชื่อเจียงหน่วนซิน
ตอนที่เธออายุสิบขวบ พ่อของเธอได้แต่งงานกับแม่เลี้ยง เธอมีชื่อว่าเจี่ยนชิว คนที่เข้ามาในตระกูลเจียงพร้อมกับเจี่ยนชิวก็คือลูกสาวของแม่เลี้ยง เธออายุสิบสองปีชื่อว่าเจี่ยนชูเยียน เหลิ่งรั่วปิงไม่รู้ว่าส่วนไหนของเจี่ยนชิวที่ไปดึงดูดพ่อของเธอได้ จนถึงขั้นทำให้พ่อต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่มีลูกติด แต่เพราะว่าเธอคือเด็กที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ เธอจึงยอมรับในการตัดสินใจของพ่อ พร้อมทั้งอวยพรขอให้ท่านมีความสุขจากใจจริง ตลอดสิบปีที่ผ่านมานี้ เพื่อเธอพ่อจึงไม่เคยแต่งงานใหม่ ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เธอควรจะสนับสนุนให้พ่อหาความสุขของตัวเองอีกครั้ง
ทว่ากลับไม่มีใครคาดคิด การที่ต้อนรับสองแม่ลูกเจี่ยนชิวเข้ามานั้น จะกลายเป็นการต้อนรับงูพิษเข้าบ้าน
พวกเธอลอบวางยาพิษให้กับพ่อของเหลิ่งรั่วปิงมาเป็นเวลานาน ทำให้สุขภาพร่างกายของพ่อยิ่งอยู่ก็ยิ่งแย่ จึงจำต้องยกงานส่วนใหญ่ของบริษัทให้ผู้ช่วยลั่วเฮิ่งเป็นคนดูแล พอนานวันเข้า ลั่วเฮิ่งก็แทบจะยึดอำนาจทั้งหมดของบริษัท
ปีที่เธออายุสิบสามปี ในที่สุดความจริงก็เปิดเผย แท้ที่จริงแล้วเจี่ยนชิวและเจี่ยนชูเยียนเป็นภรรยาและลูกสาวของลั่วเฮิ่ง การที่เจี่ยนชิวแต่งงานกับพ่อของเธอนั้นเป็นแผนการของลั่วเฮิ่ง โดยเป้าหมายของพวกเขาก็คือต้องการที่จะฮุบสมบัติของตระกูลเจียง ไม่แปลกเลยที่พ่อจะรักเจี่ยนชิวเป็นอย่างมาก เพราะแท้จริงแล้วนั้นลั่วเฮิ่งเป็นคนบอกความชอบทั้งหมดของพ่อให้กับเจี่ยนชิว เจี่ยนชิวที่เตรียมความพร้อมมาอย่างดี จึงทำทุกอย่างในสิ่งที่พ่อชอบ
แต่น่าเสียดายที่ทุกอย่างมันกลับสายไปเสียแล้ว คุณพ่อของเธอป่วยหนัก จนไม่สามารถที่จะกลับมสู้กับพวกเขาได้อีก ช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต พ่อของเธอถูกขังเอาไว้ในสวนด้านหลังของวิลล่าตระกูลเจียง มองไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน มองไม่เห็นคนที่จะสามารถเชื่อใจได้
ช่วงวาระสุดท้ายก่อนที่จะป่วยจนล้มตายนั้น คุณพ่อก็ได้แอบบอกกับเธอ บอกให้เธอว่าต้องหนีออกไปจากตระกูลเจียง เพื่อหนีเอาชีวิตรอด แต่เธอที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีเหมือนกับเจ้าหญิงตั้งแต่เล็กนั้น กลับไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเรื่องนี้ยังไง เธอทำได้เพียงร้องไห้ ภายในใจของเธอรู้สึกเหมือนมีมีดนับพันเล่มกำลังกระหน่ำแทง
หลังจากที่คุณพ่อเสียชีวิต ครอบครัวของลั่วเฮิ่งก็ได้ปลอมพินัยกรรมขึ้นมา แล้วฮุบขโมยเอาสมบัติของตระกูลเจียงไปอย่างราบรื่น ส่วนตัวเธอนั้นก็ถูกคนในตระกูลลั่วทรมานและกลั่นแกล้ง
ในสายตาของลั่วเฮิ่งและเจี่ยนชิว เธอเป็นคนที่ขวางหูขวางตาพวกเขา ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นแค่เด็กน้อย แต่ก็จำเป็นต้องถอนลากถอนโคน ด้วยเหตุนี้ หลังจากที่คุณพ่อเสียชีวิตไปเพียงสองเดือน ในค่ำคืนที่มืดสนิทครึ้มไปด้วยเมฆฝน พวกเขาที่แทบจะอดใจทนรอไม่ไหวก็ได้จุดไฟ แล้วเผาวิลล่าตระกูลเจียง เพื่อจงใจจะสร้างสถานการณ์ว่าเธอถูกไฟครอกตาย
พวกเขาที่มองดูเธอร้องขอความความช่วยเหลือในกองไฟนั้น ทว่าพวกเขากลับหัวเราะเสียงดัง เหมือนซาตานสามตัว
พวกเขาคิดว่าเด็กอายุสิบสามปีนั้น ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีวันหนีรอดไปจากไฟไหม้ในครั้งนี้ได้ ด้วยเหตุนี้จึงขับรถหนีไปโดยไม่ทันรอให้ไฟมอดดับ
อาจจะเป็นเพราะสวรรค์ยังมีตา พ่อบ้านเวินจี๋ไห่และลูกสาวของเขาอายุสิบสองขวบ ได้แอบสุ่มอยู่รอบๆ วิลล่า เมื่อเห็นทั้งครอบครัวลั่วเฮิ่งขับรถออกไปแล้วนั้น เขาก็พุ่งตัวเข้ามาช่วยเธอออกไปจากไฟไหม้ในครั้งนั้นโดยไม่คิดชีวิต
เธอไม่มีวันลืมบุญคุณของสองพ่อลูกตระกูลเวินที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ เธอยังคงจำได้ดี เพราะการมาช่วยชีวิตเธอนั้น ทำให้แผ่นหลังของเวินจี๋ไห่ได้รับบาดเจ็บเพราะเสาที่ถูกไฟไหม้ล้มลงมาทับ ส่วนลูกสาวของเขาเวินอี๋ก็ถูกไฟลวกที่คอ
ดังนั้น การกลับมาเมืองหลงในครั้งนี้ นอกจากเธอจะกลับมาแก้แค้นแล้วนั้น ก็ยังกลับมาตามหาผู้มีพระคุณของเธอด้วย