เดิมพันเสน่หา - ตอนที่ 263 หลินมั่นหรูเปลี่ยนไปแล้ว
Unknown date
Unknown author
ธัญวลัย
สายลับของวิหาร ล้วนผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก ซือคงอวี้เห็นคุณค่าของสายลับ ไม่ฆ่าใครเรื่อยเปื่อย ไม่อย่างนั้น หลินมั่นหรูตายไปนานแล้ว
แววตาของหลินมั่นหรูเปี่ยมไปด้วยความรัก เธอมองไปที่ซือคงอวี้ รู้สึกเหมือนได้ทำในสิ่งที่ปรารถนามานาน เธอรักเขา แต่กลับไม่กล้าพูด วันนี้ ในที่สุดเธอก็ได้สารภาพรักกับเขาแล้ว ถึงแม้ต้องแลกด้วยความตาย แต่เธอก็รู้สึกคุ้มค่า
“เพราะฉันรักเจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อ ตั้งแต่ฉันเข้ามาอยู่ในวิหารตอนอายุสิบเอ็ด หัวใจของฉันก็ไม่เคยมีใครเลย คุณเติมเต็มช่วงเวลาวัยสาวของฉัน ตอนนี้ฉันอายุยี่สิบสี่แล้ว ไม่ใช่เด็กสาวอีกแล้ว แต่ความรักที่ฉันมีต่อคุณกลับไม่ลดน้อยลงตามวันเวลา ในทางกลับกันฉันรักคุณมากกว่าเดิม ฉันยินดีที่จะเกิดและตายเพื่อเจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อ ความรักของฉันฝังกลบเอาไว้ในส่วนลึกของหัวใจ ไม่กล้าพูดมันออกมา และไม่กล้าเพ้อฝันที่จะครอบครอง”
“แต่ฉันอิจฉา ฉันอิจฉาเหลิ่งรั่วปิง ทำไมเธอถึงทำให้เจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อรักเธอได้มากขนาดนี้ ถึงแม้เธอจะหักหลังคุณ ทอดทิ้งคุณ หรือแม้แต่แต่งงานกับผู้ชายคนอื่น แต่คุณก็ยังรักเธอ แล้วจะไม่ให้ฉันอิจฉาได้ยังไง”
“ดังนั้น ฉันอยากฆ่าเธอ ถ้าเธอตาย เจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อจึงจะตัดใจได้ และฉันก็มีโอกาสที่จะเข้าตาเจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อ”
“แค่นี้เท่านั้น ฉันไม่มีเหตุผลอะไรมากไปกว่านี้”
พูดจบ หลินมั่นหรูหลับตาลง รอคอยความตายที่กำลังคืบคลานเข้ามา
ผู้หญิงคนหนึ่งรักผู้ชายคนหนึ่ง ถึงแม้เธอจะหวาดกลัวและไม่กล้าพูดมากเท่าไร แต่ก็ดูออกได้ ซือคงอวี้ไม่ใช่คนโง่ เขารู้ว่าหลินมั่นหรูชอบเขา แต่เขาไม่เคยเห็นความชอบของหลินมั่นหรูอยู่ในสายตา ทั่วทั้งซีหลิง มีผู้หญิงมากมายชอบเขา ไม่ว่าเขาจะปรากฏตัวที่ไหน ก็จะมีสายตามากมายที่เปี่ยมไปด้วยความหลงใหลจ้องมองมาที่เขา หลินมั่นหรูเป็นแค่หนึ่งในนั้น
เพราะไม่ชอบ ดังนั้นเขาไม่เคยปรายตามองผู้หญิงพวกนั้นแม้แต่น้อย กับหลินมั่นหรูก็เหมือนกัน
เขาเป็นผู้ชายเลือดเย็น ไม่มีวันที่จะทะนุถนอมผู้หญิงที่บอกชอบตน หลินมั่นหรูทำความผิดมหันต์ เขาปล่อยเธอไปไม่ได้ เรื่องที่เธอมีความจำเป็นต้องไปยุ่งเกี่ยวกับถังเฮ่า เขาเห็นแก่คุณงามความดีที่หลินมั่นหรูทำให้วิหารมาหลายปี ไว้ชีวิตเธอได้ แต่นี่เธอกลับกล้าลอบทำร้ายเหลิ่งรั่วปิง ถ้าอย่างนั้นเขาไม่มีวันใจอ่อน เหลิ่งรั่วปิง เขารักได้ เขาเกลียดเธอได้ ฆ่าเธอได้ แต่ไม่อนุญาตให้ใครหน้าไหนทำร้ายเธอ
ซือคงอวี้ลุกขึ้นช้าๆ ร่างสูงใหญ่เหยียดตัวตรง ก้าวลงบันไดทีละขั้น แรงกดดันที่แข็งแกร่งบีบให้หลินมั่นหรูหดตัวเล็ก ตอนที่เขาเดินไปใกล้หลินมั่นหรู ซือคงอวี้คว้าคอเสื้อหลินมั่นหรู แล้วดึงตัวเธอขึ้นมา
หลินมั่นหรูเงยหน้าขึ้น ดวงตากลมโตเบิกกว้าง นัยน์ตาของเธอสะท้อนภาพของซือคงอวี้ ถึงแม้เธอจะไม่กลัวความตายแล้ว แต่เห็นซือคงอวี้ที่น่ากลัวแบบนี้ ทำให้เธอสั่นเทาอีกครั้ง การรอคอยความตายเป็นรสชาติที่ทรมานยิ่งกว่าดาบบาดคอเสียอีก
ซือคงอวี้แสยะยิ้ม รอยยิ้มของเขาชั่วร้ายราวกับปีศาจ ”หลินมั่นหรู เธอรู้ไหมว่าตนเองทำผิดอะไร”
“ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับถังเฮ่า ไม่ควรปิดบังเจ้าวิหาร”
“ผิด ขอแค่เธอไม่ได้เปิดเผยความลับของวิหาร ฉันไว้ชีวิตเธอได้ แต่ เธอกลับกล้าทำร้ายรั่วปิง ฉันไม่มีวันไว้ชีวิตเธอ!”
ขณะพูด มือใหญ่ของซือคงอวี้บีบคอระหงของหลินมั่นหรู ตัวของเธอลอยอยู่บนอากาศ
ขาดอากาศหายใจกะทันหัน ทำให้หน้าของหลินมั่นหรูแดงก่ำ เธออ้าปากกว้างพยายามหายใจ ถึงแม้เผชิญหน้ากับความตายที่จะมาถึงได้ทุกเมื่อ แต่เธอยังคงพูดด้วยความแข็งกร้าว ”เจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อ เหลิ่งรั่วปิงเป็นผู้หญิงไม่มีหัวใจ คุณรักเธอไม่ลืมหูลืมตาแบบนี้ มันไม่คู่ควรแม้แต่น้อย!”
คำพูดเพียงประโยคเดียว แทงใจดำซือคงอวี้ เขาเพิ่มแรงอย่างห้ามไม่ได้ หลินมั่นหรูกำลังจะขาดอากาศหายใจ
หมาป่าสีเทาและอาเธอร์ต่างตกใจ ถึงแม้จะฆ่าคนที่ทำความผิด แต่เจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อก็ไม่มีความจำเป็นต้องลงมือด้วยตนเอง ดูท่าคงจะโมโหเป็นอย่างมาก เพียงแต่ หลินมั่นหรูคือคนที่เชี่ยวชาญในการใช้ยาพิษเพียงคนเดียวของวิหาร กำจัดเธอทิ้งแบบนี้ น่าเสียดายจริงๆ
ดังนั้น หมาป่าสีเท่าจึงเดินไปด้านหน้าหนึ่งก้าว ”เจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อใจเย็นก่อนครับ ให้โอกาสเธอในการกลับตัวดีไหมครับ”
ซือคงอวี้ไม่สั่นครอนแม้แต่น้อย แววตาของเขาเหี้ยมโหดมากกว่าเดิม ”ให้โอกาสผู้หญิงคนนี้ในการทำร้ายรั่วปิงอีกครั้งหรือไง”
หมาป่าสีเทาพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่กล้าพูดออกไป เรื่องของเหลิ่งรั่วปิง ซือคงอวี้ไม่อาจควบคุมอารมณ์ของตนเองได้
อาเธอร์ครุ่นคิด แล้วคุกเข่าลงกับพื้น เอ่ยพูดเสียงเรียบ ”เจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อครับ เมื่อหลายวันก่อนผมติดต่อกับรั่วปิง เธอบอกว่า…”
แววตาของซือคงอวี้หวั่นไหว ปล่อยมือจากหลินมั่นหรู โยนเธอลงไปบนพื้น แล้วหันไปมองอาเธอร์ ”เธอพูดว่าอะไร”
น้ำเสียงของอาเธอร์ยังคงนิ่งสงบ ”รั่วปิงบอกว่า เธออยากให้เจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อมีความสุข และอย่าถือสาเอาผิดใครเพราะเธอ เธอไม่อยากสร้างบาปกรรมให้ลูกในท้องครรภ์ครับ”
ซือคงอวี้เงียบอยู่นาน สุดท้ายถอนหายใจเฮือกใหญ่ ”หลินมั่นหรู ฉันจะไว้ชีวิตเธอสักครั้ง”
หลินมั่นหรูคุกเข่างลงบนพื้น ความหวาดกลัวยังไม่ลดน้อยลง ”ขอบคุณเจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อค่ะ”
หมาป่าสีเทาและอาเธอร์โล่งใจ
ซือคงอวี้รู้สึกโดดเดี่ยวขึ้นมากะทันหัน เขามองไปที่หน้าต่าง สายตามองออกไปไกล ราวกับมองไปถึงเมืองหลง เขากำลังคิดภาพลูกในท้องของเหลิ่งรั่วปิง ถ้าเด็กในท้องเป็นลูกของเขา คงจะเป็นอะไรที่วิเศษมาก เขาจะรักและตามใจเหลิ่งรั่วปิงกับลูกทุกอย่าง
“ออกไปให้หมด” หลังจากผ่านไปนานพักใหญ่ ซือคงอวี้พูดขึ้น
ทั้งสามออกไปจากห้องโถงพร้อมกัน หมาป่าสีเทาหันไปมองหลินมั่นหรู ”หลินมั่นหรู ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนแล้วกัน คราวหน้าคงไม่โชคดีแบบนี้อีกแล้ว”
อาเธอร์เองก็พูดเสียงเบา ”พวกเราทั้งสองคนไม่ถูกลงโทษ ล้วนเป็นเพราะรั่วปิง หลินมั่นหรู ไม่ว่าเมื่อก่อนจะเป็นยังไง แต่อย่างน้อยพวกเราก็เติบโตมาด้วยกัน ฉันไม่อยากเห็นเธอทำผิดซ้ำซ้อน ถึงแม้ไม่มีรั่วปิง เจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อก็ไม่มีวันเป็นของเธอ เธอเกลียดผิดคนแล้ว”
หลินมั่นหรูหรี่ตาลง ใบหน้าของเธอราวกับน้ำที่เหือดหายไปแล้ว ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น เมื่อกี้ ผู้ชายที่เธอรักมากที่สุดเกือบจะฆ่าเธอ เขาไม่สงสารเธอแม้แต่น้อย ความรักกว่าสิบปีที่เธอมีให้เขา กลับถูกเขาทำลายลง หัวใจของเธอนิ่งสงบราวกับน้ำ
โลกของเธอกลับไปเป็นเหมือนตอนแรกเริ่ม ไม่มีความรัก มีแค่ความโดดเดี่ยวและเงียบเหงา
ไม่สิ บนโลกใบนี้ยังมีคนที่รกัเธอ
ถังเฮ่า?
หลินมั่นหรูเงยหน้าขึ้น มองไปทางเมืองหลง อย่างใช้ความคิด
*****
เมืองหลง มีงานแต่งงานยิ่งใหญ่ในรอบศตวรรษเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ตระกูลทหารใหญ่สองตระกูลแต่งงานกัน พาดหัวข่าวทุกสำนัก
งานแต่งงานจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ โรงแรมอิมพีเรียลซึ่งเป็นโรงแรมในเครือหนานกง ชนชั้นสูงและดารามากมายทั่วทั้งเมืองหลงต่างมาร่วมงาน แสดงความยินดี
โรงแรมอิมพีเรียลคือผลงานออกแบบของเหลิ่งรั่วปิง ห้องจัดเลี้ยงใหญ่มาก ทั้งยังตกแต่งอย่างสวยงาม สำหรับการแต่งงานในครั้งนี้ได้มีการบริการระดับไฮคลาส
เหลิ่งรั่วปิงมาร่วมงานแต่งตามที่พูดเอาไว้ เธอมีความคิดชั่วร้ายบางอย่าง
ระหว่างทาง หนานกงเยี่ยรู้สึกเป็นกังวล เขารู้จักภรรยาของตนเป็นอย่างดี เธอเป็นผู้หญิงที่มีความแค้นแล้วต้องชำระ เวินอี๋ถูกรังแกถึงขั้นนั้น อีกทั้งซย่าอี่มั่วยังโอ้อวดไม่เกรงกลัวใคร งานแต่งงานในวันนี้ เหลิ่งรั่วปิงต้องทำให้ชุลมุนวุ่นวายแน่
ไม่ว่าอย่างไรมู่เฉิงซีก็เป็นเพื่อนสนิทของเขา ไม่ว่าเขาจะอยากแต่งหรือไม่ แต่งานแต่งงานในวันนี้ถือเป็นหน้าเป็นตาของตระกูลมู่ เขาปล่อยให้ภรรยาของตนเองทำลายมันไม่ได้
ดังนั้น หนานกงเยี่ยจึงยิ้มแล้วพูดโน้มน้าว ”ที่รักครับ ไม่ว่ายังไง ท่านผู้เฒ่ามู่ก็เป็นถึงทหารที่บุกเบิกประเทศ อายุร้อยกว่าปีแล้ว ไม่ระวังนิดหน่อยอาจจะความดันขึ้นแล้วตายได้ วันนี้พวกเราอยู่เงียบๆ ดีไหมครับ”
เหลิ่งรั่วปิงปรายตามองหนานกงเยี่ย ”เวินอี๋ของฉันควรจะเป็นฝ่ายอดทนเหรอคะ ไม่ควรเอาคืนตบพวกนั้นที่เธอโดนเหรอคะ”
หนานกงเยี่ยยังคงพูดโน้มน้าว ”คุณเองก็ตบเฉิงซีไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ”
“หึ !” เหลิ่งรั่วปิงก้มหน้าลงด้วยความไม่พอใจ
เวลานี้ เสียงโทรศัพท์เธอดังขึ้น เวิอี๋เป็นคนโทรมา ”พี่รั่วปิง วันนี้…เป็นวันแต่งงานของเขาเหรอคะ” เสียงของเวินอี๋ราวกับเมฆบางๆ ที่เพียงลมพัดผ่านก็ปลิดปลิว มีความเสียใจปะปนอยู่ด้วย
เหลิ่งรั่วปิงลังเลพักหนึ่ง แล้วพยักหน้า ”อื้ม”
งานแต่งงานของมู่เฉิงซีขึ้นหน้าหนึ่งของเมืองหลงแล้ว เวินอี๋จะไม่รู้เรื่องได้อย่างไร
เงียบอยู่นาน เวินอี๋พูดอีกครั้ง ”พี่รั่วปิง อย่าทำลายงานแต่งของเขาเลยนะคะ”
เวินอี๋เป็นคนดีมาโดยตลาด ถึงแม้มู่เฉิงซีจะทำให้เธอเจ็บปวด แต่เธอก็ยังอยากให้เขามีความสุข
เหลิ่งรั่วปิงถอนหายใจ ”เวินอี๋ ทำไมต้องเป็นคนดีขนาดนี้ด้วย ไม่แปลกที่ถูกคนอื่นรังแก”
เสียงของเวินอี๋เคล้าไปด้วยความเสียใจ ”พี่รั่วปิง อวยพรให้เขามีความสุขแทนฉันด้วยนะคะ”
พูดจบ เวินอี๋วางสาย เหลิ่งรั่วปิงถอนหายใจกับโทรศัพท์ เธอแทบจะนึกภาพของเวินอี๋หลังจากตัดสายได้ เวลานี้เวินอี๋คงต้องร้องไห้อย่างแน่นอน
หนานกงเยี่ยตบมือเธอเบาๆ ”พอแล้วครับ อย่าเสียใจไปเลย หืม?”
เหลิ่งรั่วปิงโยนโทรศัพท์ทิ้ง ”กลับบ้านกันเถอะค่ะ ฉันไม่ไปแล้ว”
“เอ่อ…” หนานกงเยี่ยสังเกตสีหน้าของเหลิ่งรั่วปิงด้วยความระมัดระวัง เมื่อมั่นใจว่าเธอกำลังโมโห เขาจึงยิ้ม ”ไม่ไปจริงๆ เหรอครับ”
ไม่ว่าอย่างไรมู่เฉิงซีก็เป็นเพื่อนสนิทของเขา เขาไม่ไปงานแต่งของมู่เฉิงซีคงไม่ดีเท่าไร
เหลิ่งรั่วปิงมองค้อนหนานกงเยี่ย ”ถ้าจะไปคุณก็ไปเอง ฉันไม่ไป งานแต่งของเราก็ไม่ต้องเชิญเขามาด้วย!”
มองดูคนตัวเล็กทำหน้ามุ่ย หนานกงเยี่ยรีบยอมแพ้ทันที ”ครับๆๆ ที่รักบอกว่าไม่ไปก็ไม่ไปครับ หืม?” เขาหมุนพวงมาลัยรถกลับทันที ”ถึงเวลางานแต่งของเราก็ไม่ให้มันมาร่วมงาน”
โลกที่กว้างใหญ่ ภรรยามีอำนาจที่สุด ภรรยาที่กำลังท้องมีอำนาจยิ่งกว่า
แน่นอนว่าทั้งถังเฮ่าและอวี้ไป่หันต่างไปร่วมงานแต่ง ทั้งสองนั่งดื่มอยู่ในมุมหนึ่ง ไม่ร่วมยินดีแม้แต่น้อย
อวี้ไป่หัน ”มา ในฐานะที่เป็นคนถูกทิ้งเหมือนกัน ชน”
ถังเฮ่าชนแก้วกับอวี้ไป่หัน ”แด่ความโสด”
อวี้ไป่หันดื่มหมดแก้ว ถังเฮ่าเพิ่งยกแก้วขึ้น เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นเสียงข้อความ
หึ บนโลกใบนี้มีคนส่งข้อความมาให้เขาด้วย แปลกจริงๆ!
ถังเฮ่ายิ้มอย่างไม่ยี่หระ วางแก้วลง แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
“ถังเฮ่า ฉันคิดถึงคุณ เสี่ยวหรู”
ถังเฮ่าถือโทรศัพท์แน่น ตัวของเขาแข็งทื่อไปหมด ตาสีขาวและดำแบ่งแยกชัดเจน จ้องมองไปที่ตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์ ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เขาคิดว่าตัวเองตาฝาด
ผู้หญิงที่เขาตามจีบแทบตาย จู่ๆ ก็ส่งข้อความมาบอกคิดถึง
อวี้ไป่หันมองถังเฮ่าที่ตัวแข็งทื่อเป็นก้อนหิน ตบบ่าเขาเบาๆ ”คิดอะไรอยู่”
ถังเฮ่าตื่นจากภวังค์ เด้งตัวขึ้นมาแล้วเดินออกไปทันที
อวี้ไป่หันแปลกใจมาก ”นี่ ไปไหน”
ถังเฮ่าไม่แม้แต่จะหันกลับมา น้ำเสียงเปี่ยมด้วยความสุข ”ไปสละโสด”