เดิมพันเสน่หา - ตอนที่ 315 ซือคงอวี้เดินทางมาเมืองหลง
ในฐานะทหาร ซย่าอี่มั่วรู้ดี คนที่ยิ่งถูกบีบให้ชีวิตถึงทางตัน ก็ยิ่งมีค่าในการใช้ประโยชน์มากยิ่งขึ้น เพราะพวกเธอได้หมดความหวังไปแล้ว
ด้วยเหตุนี้ ขณะที่ทุกคนหันหลังให้เฉินลู่เหยา ไม่มีใครเข้าไปข้องเกี่ยวกับเธอ ซย่าอี่มั่วดูจริงใจอย่างเห็นได้ชัด มีแค่เธอเท่านั้น ที่เดินเข้าไปในวิลล่าของเฉินลู่เหยาท่ามกลางแสงแฟลชของนักข่าว
เฉินลู่เหยานั่งอยู่บนเตียง เธอยังคงนั่งท่าเดิมมาโดยตลอด แววตาเหม่อลอย นัยน์ตาว่างเปล่า เธอนั่งกอดเข่าตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้า จากเช้าจนเย็น ไม่กินข้าวกินปลาแม้แต่น้อย
เธอเสียใจไหม เสียใจมาก เธอพอใจรึเปล่า ไม่พอใจอย่างมาก
ซย่าอี่มั่วแต่งตัวทะมัดทะแมง ตั้งแต่แตกหักกับมู่เฉิงซี เธอกลับมาแข็งแกร่งเหมือนทหารอีกครั้ง ถึงแม้จะไม่ได้สวมเครื่องแบบทหาร แต่เธอมีบุคลิกของทหาร แววตาของเธอไม่มีความเย้ายวนของหญิงสาวแม้แต่น้อย แต่เต็มไปด้วยแรงสังหาร
เธอที่มีการแก้แค้นเป็นเป้าหมาย ทุกย่างก้าวก่อให้เกิดเสียงลม ออร่าสังหารรายล้อมทั้งสี่ทิศ
เฉินลู่เหยาเงยหน้าขึ้นมองซย่าอี่มั่ว แล้วก้มหน้าลง ริมฝีปากแห้งและซีดเผือดของเธอเอ่ยพูดเสียงเรียบ “แกมาที่นี่ทำไม”
ซย่าอี่มั่วมองเฉินลู่เหยาที่ไม่ได้ดั่งใจตนเอง น้ำเสียงของเธอไม่อ่อนโยนเหมือนที่ผ่านมา “ฉันมาดูว่าแกแพ้ถึงขั้นไหน!”
เฉินลู่เหยายิ้มด้วยใบหน้าที่ซีดขาว “ตอนนี้แกก็เห็นแล้ว ฉันไม่เหลืออะไรแล้ว กำลังตายทั้งเป็น แกกลับไปได้แล้ว”
แววตาเหี้ยมโหดของซย่าอี่มั่วกวาดมองไปที่หน้าของเฉินลู่เหยา จากนั้นนั่งลงบนเตียง “เป็นอะไรไป เฉินลู่เหยาผู้ล้มลุกคลุกคลานในวงการบันเทิงอย่างไม่เคยยอมแพ้ ตอนนี้ถึงกับล้มแล้วลุกขึ้นมาไม่ได้เลยเหรอ”
เฉินลู่เหยาหัวเราะเยาะตัวเอง “ใช่ ฉันเป็นคนไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ เมื่อก่อนที่หน้าฉันอยู่ในวงการบันเทิงได้อย่างราบรื่น เพราะมีคุณหนานกงคอยดูแล แต่ตอนนี้เขาทิ้งฉันไปแล้ว ชื่อเสียงป่นปี้ ไม่มีหน้าจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว”
ถูกต้อง เธออยากตาย การมีลมหายใจคือความอัปยศอย่างหนึ่ง แล้วทำไมจึงต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปด้วย
ซย่าอี่มั่วมองเฉินลู่เหยาด้วยความรังเกียจ “ในเมื่อแกไม่กลัวแม้แต่ความตาย แล้วจะยังบื้ออยู่ทำไม ไม่สู้ลุกขึ้นมาฮึดสู้ก่อนตายอีกสักตั้งไม่ดีกว่าเหรอ”
เฉินลู่เหยาเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ มองใบหน้าที่เต็มไปด้วยแรงอาฆาตของซย่าอี่มั่ว “แกหมายความว่าอะไร”
นัยน์ตาของซย่าอี่มั่วฉายแสงเหี้ยมโหด “เหลิ่งรั่วปิงทำให้แกเสื่อมเสียชื่อเสียง แกไม่อยากแก้แค้นหรือไง”
เฉินลู่เหยาเงียบ แน่นอนว่าเธอไม่พอใจ เธออยากแก้แค้นเหลิ่งรั่วปิง เมื่อก่อนเธอใจกล้า นั่นเป็นเพราะมีหนานกงเยี่ยคอยให้ท้าย เธอรู้สึกว่ามีคนคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง แต่ตอนนี้เธอไม่เหลืออะไรแล้ว ทุกคนทอดทิ้งเธอกันหมด “ฉันจะเอาอะไรไปแก้แค้นเหลิ่งรั่วปิง” หนานกงเยี่ยดูแลเหลิ่งรั่วปิงราวกับหัวใจของตนเอง เธอเข้าใกล้เหลิ่งรั่วปิงไม่ได้ด้วยซ้ำไป
ซย่าอี่มั่วยิ้มชั่วร้าย ดวงตาคู่สวยหรี่เล็กลงเป็นเส้นตรง “ฉันจะคอยเปิดโอกาสให้แกเอง” เป้าหมายของเธอคือทำให้เหลิ่งรั่วปิงตาย ทำให้เวินอี๋ตาย ทำให้มู่เฉิงซีทุกข์ทรมานไปทั้งชีวิต
*****
ระยะหลังที่ผ่านมานี้ คนในเมืองหลงกำลังให้ความสนใจกับเรื่องหนึ่งอย่างมาก ซึ่งก็คืองานแต่งงานแห่งศตวรรษของคุณชายหนานกง
แต่ว่าวันนี้ คนในเมืองหลงก็ให้ความสนใจกับอีกเรื่องหนึ่ง เจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปีของประเทศซีหลิง ซือคงอวี้ เขามาเมืองหลงเป็นการส่วนตัว ทั้งยังได้ยินว่าจะมาเยี่ยชมวิหารศาสนาฉังเซิง แลกเปลี่ยนหลักคำสอนและวัฒนธรรมทางศาสนา
เจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อของวิหารซีหลิงคนนี้เป็นตำนานมากแค่ไหน ผู้คนทำความรู้จักเขาได้เพียงจากในหนังสือ โลกอินเทอร์เน็ตและในโทรทัศน์เท่านั้น ลือกันว่าเขามีใบหน้าที่งดงาม มีวิสัยทัศน์ ทั้งยังมีความสามารถในการเรียนรู้ ศิลปะการต่อสู้ยอดเยี่ยม เป็นผู้ชายที่หน้าตาดีที่สุดในซีหลิง ไม่รู้ว่ามีผู้หญิงมากมายแค่ไหนที่หลงใหลไปกับใบหน้าของเขา การมาเมืองหลงของเขาในครั้งนี้ คนในเมืองหลงต่างให้การต้อนรับอย่างดี อยากจะเห็นหน้าเจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อผู้นี้
ถึงแม้การเดินทางของซือคงอวี้ในครั้งนี้จะเรียบง่าย มีวัตถุประสงค์ในการมาเพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมทางศาสนาเท่านั้น แต่เพราะเขาเป็นคนที่มีชื่อเสียง ทั้งยังมีความเป็นมาที่ไม่ธรรมดา ดังนั้นรัฐบาลของเมืองหลงจึงให้ความสำคัญกับเขาอย่างมาก ผู้ว่าเมืองหลงไปต้อนรับเขาที่สนามบินด้วยตนเอง ทั้งยังจัดพิธีต้อนรับให้อย่างเป็นทางการ
ซือคงอวี้สวมเสื้อคลุมตัวยาวสีดำของเจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อ เดินลงจากบันไดเครื่องบินทีละก้าว ผมสีนิลที่หยักศกเล็กน้อย ใบหน้าพระเจ้าประทาน ร่างกำยำสูงใหญ่ บุคลิกน่าเกรงขามดั่งราชา ทุกอย่างของเขาทำให้คนเมืองหลงกระจ่างชัดถึงความน่าหลงใหลของเจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อ
แววตาของเขาเป็นประกาย จับมือกับผู้นำเมืองหลงด้วยความจริงใจ แต่มีตัวเขาเองเท่านั้นที่รู้ว่า การมาเมืองหลงของเขาในครั้งนี้เพราะเรื่องส่วนตัว เขาอยากจะฉวยโอกาสนี้พารั่วปิงกลับซีหลิง
ซือคงอวี้ไม่อยากให้การมาเยือนเมืองหลงในครั้งนี้เป็นเรื่องใหญ่ เขาทำทุกอย่างด้วยความเรียบง่าย ดังนั้นหลังจากได้รับการต้อนรับจากท่านผู้ว่า เขาจึงขอเข้าพักในสถานกงสุลของซีหลิงที่อยู่ในเมืองหลง ไม่ได้ไปพบปะกับตัวแทนธุรกิจของซีหลิงที่ทำงานอยู่ในเมืองหลง และไม่ได้ไปพบปะกับนักเรียนที่มาเรียนที่นี่ กล่าวโดยสรุป เขาดำเนินการทุกอย่างด้วยความเรียบง่าย วันนี้พักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ค่อยไปเยี่ยมวิหารศาสนาฉังเซิงอย่างเป็นทางการ ร่วมกับแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมทางศาสนา
ตอนเย็น เหลิ่งรั่วปิงนั่งอยู่ในห้อง เธอดูโทรทัศน์ที่เวลานี้กำลังฉายภาพท่านผู้ว่าให้การต้อนรับซือคงอวี้ในสนามบิน เหลิ่งรั่วปิงเหม่อลอยเล็กน้อย ซือคงอวี้ เขายังคงมีใบหน้าพระเจ้าประทานเหมือนเดิมไม่แปรเปลี่ยน ยังคงเป็นราชาที่ยิ่งใหญ่ และยังคงเป็นคนสำคัญในใจเธอ ดังนั้นการปรากฏตัวของเขาจึงทำให้เธอรู้สึกปวดใจ
ขณะที่หนานกงเยี่ยเปิดประตูเข้ามาในห้องนอน เขาเห็นภรรยาของตนกำลังจับจ้องไปที่หน้าจอโทรทัศน์อย่างเหม่อลอย ในนั้นกำลังฉายภาพที่ทำให้เขารู้สึกปวดใจ
เขาคือหนานกงเยี่ย ผู้ชายที่ฉลาดและมีไหวพริบ เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าการที่ซือคงอวี้มาเมืองหลงกะทันหันแบบนี้มีเป้าหมายอะไร ดูเหมือนว่าเขาต้องเผชิญหน้ากับการต่อสู้อีกครั้ง สงครามแย่งชิงภรรยาที่ดุเดือด ซือคงอวี้ ศัตรูหัวใจที่ไม่ช้าก็เร็วต้องเผชิญหน้ากัน
เขาไม่กลัว ขอแค่หัวใจของเหลิ่งรั่วปิงอยู่ที่เขา เขาก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น เขาได้แต่งงานกับผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลก แน่นอนว่าต้องมีศัตรูหัวใจที่แข็งแกร่ง เขาไม่เคยกลัวที่จะแย่งชิงเหลิ่งรั่วปิงกับใครทั้งนั้น
แต่ว่า ความรู้สึกที่เหลิ่งรั่วปิงมีต่อซือคงอวี้ทำให้เขารู้สึกหึงหวงอย่างมาก
หนานกงเยี่ยเดินไปข้างๆ เหลิ่งรั่วปิงอย่างไม่สบอารมณ์ หยิบรีโมทขึ้นมา จากนั้นหันไปมองหน้าเหลิ่งรั่วปิงด้วยแววตาไม่พอใจ “ต่อหน้าสามี คุณกลับดูข่าวของศัตรูหัวใจจนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว คุณเคยคิดถึงความรู้สึกของสามีตัวเองบ้างไหม”
เหลิ่งรั่วปิงอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่ เธอกำลังนึกถึงคำพูดที่อาเธอร์บอกเอาไว้เมื่อหลายวันก่อน เขาบอกว่าชีวิตของซือคงอวี้ในตอนนี้ย่ำแย่มาก เมื่อกี้ตอนดูข่าว เธอสังเกตเห็นว่าเขาซูบผอมไปมาก ดังนั้นเธอจึงปวดใจ เมื่อเห็นหนานกงเยี่ยหึงหวง เธอหันไปมองเขาอย่างหมดเรี่ยวแรง “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อยที่คุณรู้ถึงการมีตัวตนของเขา หึงฉันแบบนี้มีประโยชน์อะไรคะ”
หนานกงเยี่ยรับรู้ได้ถึงความไม่พอใจของเหลิ่งรั่วปิง เขานั่งลงข้างเธอด้วยความหึงหวงและจนปัญญาในเวลาเดียวกัน “คุณอยากเจอเขาไหมครับ” เขารู้มาโดยตลอด เขาไม่มีวันกำจัดซือคงอวี้ออกไปจากใจเธอได้ เธอเจอซือคงอวี้ก่อนที่จะเจอเขา ซือคงอวี้ฝังรากลึกอยู่ในใจของเหลิ่งรั่วปิงไปนานแล้ว
เหลิ่งรั่วปิงส่ายหน้า “เจอสู้ไม่เจอยังดีกว่า ฉันขอให้เขามีความสุขก็พอแล้วค่ะ”
หนานกงเยี่ยมองใบหน้านิ่งเฉยของเหลิ่งรั่วปิง ถึงแม้เขาจะรู้สึกหึงหวง แต่ก็รู้สึกสงสารเธอ เขารู้ว่าเธอรู้สึกผิดต่อซือคงอวี้ ดังนั้นจึงไม่สบายใจ หลังจากผ่านไปพักใหญ่ เขาถอนหายใจเบาๆ “ครับ อย่าคิดมากเลยนะ คุณคิดถึงสามีตัวเองให้มากๆ ได้ไหมครับ”
เหลิ่งรั่วปิงชายตาขึ้นมองแววตาที่อดกลั้นความหึงหวงเอาไว้ของหนานกงเยี่ย อดหัวเราะไม่ได้ “คุณอย่าขี้น้อยใจแบบนี้สิคะ สำหรับฉันแล้ว เขาเป็นผู้มีพระคุณสำหรับฉันตลอดไป มีบุญคุณกับฉันมาก ฉันไม่มีวันตัดขาดกับเขาได้ ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับซือคงอวี้คุณเองก็รู้ดี ตอนนี้ยังจะมาหึงหวงน้อยอกน้อยใจอะไรอีก ทำตัวเป็นเด็กไปได้”
หนานกงเยี่ยเข้าใจดี เขาห้ามเธอไม่ให้เป็นห่วงซือคงอวี้ไม่ได้ เหมือนอย่างในอดีต ที่เขาใจร้ายกับอวี้หลานซีเพื่อเหลิ่งรั่วปิงไม่ได้ มนุษย์ต้องการความรัก และต้องการญาติมิตร ซือคงอวี้เป็นเหมือนญาติคนหนึ่งของเธอ เขาทำตัวเผด็จการเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้ เพราะถ้าทำแบบนั้นเหลิ่งรั่วปิงจะโมโห
หนานกงเยี่ยคลี่ยิ้มบางๆ นิ้วมืออบอุ่นของเขาลูบจับแก้มของเธอ “ครับ เรื่องอื่นผมไม่ยุ่ง ขอแค่คุณเป็นภรรยาของผมก็พอแล้ว” เขายิ้มให้เธออย่างรักใคร่ “เหลือเวลาอีกห้าวันก็ถึงวันแต่งงานของเราแล้ว คุณลองดูสิครับว่ามีตรงไหนที่ยังไม่พอใจรึเปล่า หรือว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง”
เหลิ่งรั่วปิงหันไปมองหนานกงเยี่ยด้วยความลำบากใจ “ช่วยเลื่อนวันแต่งงานหน่อยได้ไหมคะ”
หนานกงเยี่ยขมวดคิ้วด้วยความไม่สบอารมณ์ “เพราะอะไรครับ” เขารู้ดีว่าเพราะอะไร เพราะรู้นั่นแหละ จึงทำให้เขาไม่พอใจ
เหลิ่งรั่วปิงรู้ดีว่าสิ่งที่ตนขอนั้นไม่มีเหตุผล “ช่วงนี้ซือคงอวี้อยู่เมืองหลง ฉันไม่อยากเจอเขาค่ะ”
แววตาของหนานกงเยี่ยมีน้ำแข็งก่อตัวขึ้น “ที่รัก งานแต่งงานของเรากำหนดวันเวลาเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ แต่เขากลับมาเมืองหลงเวลานี้ คุณไม่รู้สึกว่าการมาครั้งนี้ของเขามีจุดประสงค์เหรอครับ” แววตาไม่พอใจจับจ้องไปที่ใบหน้าของเธอ “ตอนนี้คุณท้องได้สามเดือนแล้ว ถ้าเลื่อนงานแต่งงานไปอีก ถึงเวลานั้นคุณจะใส่ชุดเจ้าสาวทั้งที่ท้องโตเหรอครับ”
น้ำเสียงของหนานกงเยี่ยไม่รุนแรงเท่าไหร่นัก แต่คำพูดของเขาไม่อนุญาตให้ปฏิเสธได้ เหลิ่งรั่วปิงเองก็ยืนกรานในความคิดของตนเองต่อไปไม่ได้ เธอรู้ดีว่าซือคงอวี้มาเมืองหลงเพราะอะไร อาเธอร์บอกกับเธออย่างชัดเจนแล้ว ซือคงอวี้มาที่นี่เพราะเธอ ดังนั้นไม่ว่างานแต่งงานของเธอจะเป็นวันไหน ยังไงเขาก็ต้องปรากฏตัวอย่างแน่นอน
เงียบอยู่พักหนึ่ง เหลิ่งรั่วปิงเงยหน้าขึ้น มองหนานกงเยี่ยด้วยความจริงใจ “ที่รัก คุณเป็นผู้ชายที่ฉันรักมากที่สุด เป็นพ่อของลูกในท้อง แน่นอนว่าฉันรักแค่คุณคนเดียวเท่านั้น แต่ซือคงอวี้เป็นผู้ชายที่ฉันเคารพรักมากที่สุด และเป็นผู้ชายที่ฉันติดค้างมากที่สุด คุณช่วยเห็นแก่ฉัน อย่าทำอะไรบุ่มบ่ามได้ไหมคะ”
เธอไม่อยากเห็นพวกเขาต้องทะเลาะกันอีก
หนานกงเยี่ยจับมือเหลิ่งรั่วปิงแน่น ถอนหายใจเบาๆ “ที่รัก เหตุผลในการมาเมืองหลงของซือคงอวี้คืออะไรคุณน่าจะเดาได้ เขามาเพื่อแย่งคุณไปจากผม ถ้าผมไม่ทำอะไรเขา แล้วผมจะยังเป็นหนานกงเยี่ยอยู่เหรอ ซือคงอวี้เป็นคนที่น่ากลัวแค่ไหน คุณรู้ดีกว่าผม ถ้าผมไม่เหี้ยมโหดมากพอ ผมอาจจะตายในกำมือของเขาก็ได้ คุณอยากให้ผมเป็นวิญญาณที่ตายด้วยน้ำมือของเขา แล้วให้เขาพรากคุณไปจากผมเหรอครับ”
“แน่นอนว่าไม่ใช่แบบนั้น” เหลิ่งรั่วปิงรีบเอามือปิดปากหนานกงเยี่ย “ห้ามคุณพูดคำว่า ‘ตาย’ ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับคุณ แต่ฉันก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับเขา ฉันอยากขอร้องคุณ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ อย่าทำร้ายซือคงอวี้ได้ไหมคะ”
หนานกงเยี่ยจับจ้องไปที่ดวงตาของเหลิ่งรั่วปิงด้วยความรักใคร่ เขาเห็นความหวาดกลัว สิ่งนี้ทำให้เขาสงสารเธอจับใจ หลังจากผ่านไปนาน เขาดึงตัวเธอเข้ามาสวมกอด “ครับ ผมรับปากคุณ”
ถึงแม้เขาจะพูดปลอบโยนเธอไปแบบนั้น แต่ในใจของเขารู้ดี ขอเพียงซือคงอวี้มาหาเรื่องเขา เขาจะจัดการซือคงอวี้ขั้นเด็ดขาดอย่างไม่ลังเล ไม่อย่างนั้นเขาจะแพ้ราบคาบ