เดิมพันเสน่หา - ตอนที่ 49 สุญญตาอวี้
ณ ประเทศหนึ่งที่อยู่ห่างไกลจากเมืองหลง และเป็นประเทศที่ต้องข้ามหาสมุทรไป นั่นก็คือประเทศซีหลิง
สถานที่ศักดิ์ศรีที่คอยสืบทอดจิตวิญญาณและความเชื่อของชาวซีหลิง นั่นก็คือวิหารซีหลิง ซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างที่สร้างด้วยกำแพงทองคำอันหรูหรา เป็นสิ่งปลูกสร้างที่สร้างขึ้นอย่างประณีตและสวยงาม
วิหารซีหลิงมีพื้นที่ครอบคลุมทั้งหมดสามร้อยกว่าไร่ ซึ่งตั้งอยู่ตรงมุมทิศตะวันตกของเมืองหลวงพร้อมด้วยแท่นบูชา ตรงหน้าห้องโถงใหญ่ได้เปิดให้ผู้ศรัทธาเข้าไปสักการะ นอกจากนี้ก็ยังมีทหารที่คอยรักษาความปลอดภัยคอยเฝ้าอยู่อย่างหนาแน่น
ตรงกลางสุดของห้องโถง มีชายหนุ่มคนหนึ่งสวมใส่ชุดคลุมสีดำยาวนั่งอยู่บนบัลลังก์มือข้างหนึ่งจับราวที่นั่งไว้ แล้วกำลังหลับตานั่งสมาธิอยู่
ห้องโถงแห่งนี้มีชื่อเรียกว่าห้องโถงพระอาจารย์ ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับสอนหลักศาสนาตามชื่อเรียกของห้องโถง หลายปีมานี้ เจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อสุญญตาจวิ้นได้วางมือจากงานทุกอย่าง และไปอาศัยอยู่กลางหุบเขาลึกลับ งานต่างๆ ในวิหารจึงได้มอบหมายให้กับสุญญตาอวี้ที่เป็นลูกชายคนโตของเขา
และชายที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ก็คือเจ้าแห่งวิหารซีหลิง สุญญตาอวี้
ข้างนอกต่างก็ล่ำลือกันว่า รูปลักษณ์หน้าตาของสุญญตาอวี้นั้นหล่อเหลาจนไม่สามารถมีใครเทียบได้ และถ้าได้เจอหน้าเขาจริงๆ ถึงจะรู้ว่าเขาหล่อเหลามากขนาดไหน
ความหล่อที่ถูกสรรสร้างขึ้นมาของเขา เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์คือความเลือดเย็น และเปอร์เซ็นต์สามสิบคือความร้ายกาจเหมือนปีศาจ
ใบหน้างดงามราวกับประติมากรรมชิ้นเอกที่แกะสลักโดยมีดของอาจารย์ใหญ่ และผิวพรรณที่ขาวเนียนอย่างไร้ที่ติ รูปร่างสูงโปร่งและเฉียดคม บุคคลคนนี้สามารถมีพลังที่ทำให้คนทั้งโลกรู้สึกตกตะลึง เขาทั้งอันตรายและชั่วร้าย
เมื่อเทียบกับความเลือดเย็นและแข็งกระด้างของหนานกงเยี่ย ความหล่อของเขาจะอ่อนโยนแต่กลับร้ายกาจมากกว่าเล็กน้อย เหมือนดั่งราชาที่แสนเลือดเย็นที่หลุดออกมาจากโลกนวนิยาย
ในห้องโถงใหญ่ที่แสนกว้างเคล้าไปด้วยบรรยากาศที่เงียบกริบไร้เสียงใดๆ แสงอาทิตย์ในยามเช้าสอดส่องบนหินที่ทะลุผ่านกระจก ทำให้เกิดแสงสะท้อน
สุญญตาอวี้ค่อยๆ ลืมตาขึ้น นัยน์ตาดั่งหงส์ที่เรียวยาวนั้นเปล่งประกายฉายแสงออกมาราวกับดาวเคราะห์
น้ำเสียงของเขาเหมือนเสียงแห่งธรรมชาติ และค่อยๆ ดังไปทั่วห้องโถง “หมาป่าสีเทา นางฟ้าพระอาทิตย์ตกดินจากไปนานแค่ไหนแล้ว”
บอร์ดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆ จึงงอตัวน้อมคำนับอย่างเคารพ “เรียนเจ้าน้อย ราวๆ ครึ่งเดือนแล้วครับ”
จู่ๆ สุญญตาอวี้ก็ยืดตัวตรง แล้วขมวดคิ้วมองไปนอกหน้าต่าง เหมือนกำลังมองทะลุผ่านกาลเวลา และมองเห็นคนๆ นั้นที่เขาคิดถึงอยู่ตลอดเวลา นี่พึ่งจะออกไปแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าได้จากกันนานมาก เธอบอกว่าเมื่อครบหนึ่งปี เธอจะแก้แค้นให้สำเร็จ แล้วจะกลับมาเป็นคนของวิหารซีหลิงตลอดไป เขายอมเชื่อใจเธอ ทว่าในใจกลับรู้สึกไม่สงบสุข
ถ้าเธอไปแล้วไปลับ แล้วเขาควรจะทำยังไง
ถ้าเธอไม่หวนกลับมา ต่อให้ต้องขึ้นสวรรค์หรือลงนรก เขาก็จะจับเธอกลับมา!
นับตั้งแต่ตอนที่เธออายุสิบเจ็ดปี เขาไปบังเอิญเจอเธอตรงข้างถนน หัวใจของเขาถูกนัยน์ตาแววใสเหมือนน้ำของเธอดึงดูด และเขาเองก็ไม่สามารถดึงตัวเองกลับมาจากเธอได้อีก ความงดงาม และความดื้อรั้นของเธอ ถึงแม้ในใจของเธอคิดแต่เรื่องแก้แค้น ทว่าเธอกลับบริสุทธิ์เหมือนนางฟ้า สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกว่าตนเองสกปรก
การที่ต้องรักษาและดำรงตำแหน่งเจ้าแห่งวิหาร จึงต้องกำจัดคนที่เป็นก้างขวางคอ มือของเขาแปดเปื้อนไปด้วยเลือดของผู้คนมากมาย ภายในใจของเขาเหมือนมีปีศาจอาศัยอยู่ ดังนั้น เขาต้องผูกมัดเธอไว้ ฝึกฝนเธอ ทำให้สองมือของเธอแปดเปื้อนเลือดไปด้วยกัน นี่จึงจะทำให้เขารู้สึกว่าตนเองคู่ควรกับเธอ
สุญญตาอวี้ลุกขึ้น แล้วสาวเท้าอย่างเชื่องช้าไปยังกลางห้องโถง จู่ๆ เขาก็ใช้เท้าเตะไปที่แท่นบูชา
แท่นบูชาเป็นเอกลักษณ์ของความศรัทธาและปฏิบัติตามหลักธรรมจากเทพเจ้าแห่งสวรรค์ การปฏิบัติของเขาเป็นการดูหมิ่นเจ้าแห่งสวรรค์อย่างรุนแรง
หมาป่าสีเทาจึงรีบคุกเข่าลง “เจ้าน้อยครับ ทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ แท่นบูชาเป็นสิ่งที่ไม่อาจดูหมิ่น”
“หึ!” สุญญตาอวี้แสยะยิ้มอย่างร้ายกาจ “ทำไมฉันถึงต้องเกิดในตระกูลสุญญตา ทำไมฉันต้องถือกำเนิดเป็นบุตรของเทพเจ้า ด้วยฐานันดรศักดิ์นี้ทำให้ฉันมีเกียรติสูงส่ง แต่ในทางเดียวกันกลับทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกจองจำอยู่ในคุกไปชั่วชีวิต!”
เพราะด้วยตำแหน่งที่มี เขาไม่เคยได้เป็นตัวของตัวเอง และไม่เคยมีชีวิตที่อิสระ และไม่สามารถบินไปทั่วโลกทั่วทุกแห่งตามที่ใจเขาปรารถนาจะไป สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเขาไม่สามารถไปแก้แค้นเป็นเพื่อนกับเธอได้ เธอไม่อยู่ในสายตาของเขา เขายากอยู่อย่างสงบสุขได้!
เขาไม่อยู่ ถ้ามีผู้ชายคนอื่นมาอยู่ข้างๆเธอแล้วจะต้องทำยังไง เธอสวยขนาดนี้ ทำให้ผู้ชายทุกคนบนโลกใบนี้พร้อมที่จะบ้าคลั่งเพื่อเธอ!