เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1000: เปิดตัว
ตอนที่ 1000: เปิดตัว
เสียงคำรามที่โกรธเกรี้ยวของเสือขาวทำให้ทั่วทั้งเทือกเขาตกใจ ผลกระทบของมันเหมือนแผ่นดินไหวอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่เพียงแต่ท่าทีของสัตว์อสูรระดับ 7 ทั้งหมดจะเปลี่ยนไปอย่างมาก แม้แต่ราชาทั้งสองคนยังตกใจ
ท่าทางของสัตว์อสูรระดับ 7 ที่ต้องการจะจัดการรัมกุยเนสก็เปลี่ยนไปอย่างมาก พวกเขาจ้องมองไปที่เสือขาวที่สง่างามซึ่งคลี่ปีกของมันออก ในขณะที่ความตกใจและความเหลือเชื่อฉายอยู่ในดวงตาของพวกเขา
“นะ นะ นี่คือพยัคฆ์ปีกเทวะ” ผู้อาวุโสสัตว์อสูรระดับ 7 ที่อยู่ในร่างมนุษย์คำรามออกมา ความกดดันจากพยัคฆ์ปีกเทวะทำให้วิญญาณของเขาสั่นไหว และปีกทั้งสองที่อยู่ที่หลังของเสือขาวก็ทำให้พวกเขาตระหนักได้ถึงตัวตนของมันทันที
พวกเขาทั้งหมดเป็นสัตว์อสูรและเป็นระดับ 7 ซึ่งเป็นระดับสูง มนุษย์อาจจะไม่รู้ถึงตัวตนของเสือขาวในการมองครั้งแรก แต่ตัวตนของมันก็ไม่ใช่ความลับใดต่อหน้าสัตว์อสูรระดับ 7 เว้นเสียแต่ว่าเสือขาวจะลบพลังแห่งการมีอยู่ของตัวเอง
“เป็นไปได้อย่างไร ? มันเป็นไปได้ยังไง ? สัตว์เทวะที่ยิ่งใหญ่ปรากฏขึ้นมาอีกครั้งแล้วจริง ๆ ” สัตว์อสูรระดับ 7 ร้องออกมา
“ปีกคู่นั้นที่อยู่ที่หลังของมันทำให้วิญญาณของข้าสั่นไหว มันไม่ผิดแน่ ไม่ผิดแน่ มันคือพยัคฆ์ปีกเทวะที่ปรากฎขึ้นมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาลจริง ๆ “
“สัตว์เทวะที่ยิ่งใหญ่ของพวกเราปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งแล้ว”
..
สัตว์อสูรระดับ 7 ทั้งหมดร้องออกมาอย่างตื้นตัน สถานะที่สุดยอดของพยัคฆ์ปีกเทวะไม่สามารถทดแทนได้ในระหว่างสัตว์อสูรจนถึงจุดที่ว่าแม้แต่จอมยุทธที่สุดยอดของทวีปสัตว์เทวะยังไม่ใกล้เคียงที่จะทดแทนได้เลย นี่เป็นเพราะมันเป็นเหมือนเทพเจ้าที่ปฏิเสธไม่ได้ของทวีปสัตว์เทวะ และเป็นเหมือนเทพเจ้าในสายตาของสัตว์อสูรทุกตัว แม้จะผ่านมาแสนนาน เกียรติของมันก็ไม่ได้จางหายไปเลยแม้แต่น้อย
ดังนั้น สัตว์อสูรระดับ 7 จึงตื้นตันและตื่นเต้นหลังจากที่พวกเขายืนยันถึงตัวตนของเสือขาวได้แล้ว พวกเขาหยุดการคุกคามก่อนหน้านี้
“พวกเราขอคารวะสัตว์เทวะ” สัตว์อสูรทั้งหมดคุกเข่าลงและคารวะเสือขาว น้ำเสียงของพวกเขาเต็มไปด้วยความเคารพ
“ผู้อาวุโส ได้โปรยืนขึ้น” คนที่พูดคือรัมกุยเนส คนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เสือขาว
อย่างไรก็ตาม ผู้อาวุโสไม่สนใจนาง หนึ่งในนั้นมองไปที่รัมกุยเนสอย่างโกรธเกรี้ยวและร้องออกมาอย่างมีน้ำโห “เจ้ายังมีสิทธิ์ที่จะพูดกับพวกเราอีกหรือในฐานะที่เป็นคนทรยศของสัตว์อสูร รัมกุยเนส ? เทพเจ้าของพวกเราอยู่ที่นี่ รอจนกว่าเจ้าจะได้รับการพิพากษาจากสัตว์เทวะเถอะ”
สายตาของรัมกุยเนสเต็มไปด้วยความปวดร้าว นางเดินไปข้างเสือขาวช้า ๆ และลูบไปที่หัวของมันเบา ๆ เพื่อที่จะทำให้โทสะของเสือขาวสงบลง
เสือขาวไม่ได้ต่อต้าน พลังแห่งการมีอยู่ที่ยิ่งใหญ่ของมันหายไปอย่างช้า ๆ และมันก็หลับตาลงอย่างสบาย
สัตว์อสูรทั้งหมดดูสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปด้วยความตกตะลึงในขณะที่พวกเขาคุกเข่าอยู่กลางอากาศ พวกเขาทั้งหมดเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อและความตกใจ ด้วยเกียรติและสถานะสัตว์เทวะ พยัคฆ์ปีกเทวะยอมให้ใครแตะต้องแบบนั้นได้อย่างไร ? แถมมันยังไม่แสดงท่าทีต่อต้านอีกด้วย มันยังหลับตาอย่างสบายใจอีก สัตว์อสูรที่คุกเข่าอยู่เริ่มฉายแววสงสัยในดวงตาหลังจากที่พวกเขาเห็นแบบนี้
“รัมกุยเนสมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพยัคฆ์ปีกเทวะ นี่เป็นเรื่องดีหรือไม่นะ ? พวกเราจะจัดการกับคนทรยศเช่นรัมกุยเนสอย่างไร ? ” ความกังวลแบบเดียวกันปรากฏขึ้นในใจของกลุ่มผู้อาวุโส
“ผู้อาวุโส พวกเจ้าเชื่อจริง ๆ หรือว่าข้า รัมกุยเนส ได้ทรยศต่อสัตว์อสูร ? พวกเจ้าไม่เคยสงสัยในคำพูดของราชาเสือเลยหรือ ? ” รัมกุยเนสพูดอย่างเจ็บปวด
สัตว์อสูรเริ่มจ้องตาไม่กระพริบหลังจากที่พวกเขาได้ยินคำพูดแบบนั้น พวกเขามองหน้ากันและกัน และหนึ่งในนั้นก็ถามออกมา ” รัมกุยเนส หมายความว่ามันยังมีเบื้องหลังเกี่ยวกับการทรยศของเจ้ากับตระกูลกิลลิกันอีกอย่างนั้นหรือ ? “
ทั้งหมดเพ่งมองไปที่รัมกุยเนสและรอคำตอบ
นางพยักหน้าแล้วพูดออกมา “มีเบื้องหลังในเรื่องนี้จริง ๆ การทรยศของสามีข้าและข้า การทรยศของพวกเราต่อตระกูลกิลลิกัน เป็นเรื่องโกหกที่สร้างมาโดยราชาเสือ ราชาเสือต้องการที่จะกำจัดครอบครัวของพวกเรา พวกเจ้าทั้งหมดถูกราชาเสือหลอกลวง”
ผู้อาวุโสสัตว์อสูรทั้งหมดประหลาดใจกับสิ่งที่รัมกุยเนสพูด “อะไรนะ ? เรื่องโกหกที่ราชาเสือสร้างขึ้นมา ? ราชาเสือต้องการที่จะกำจัดเจ้า ? รัมกุยเนส เจ้าแน่ใจนะว่าเจ้าไม่ได้พยายามที่จะหลอกพวกเรา ? “
“รัมกุยเนส ? ข้าขอถามได้ไหมว่าเจ้ามีหลักฐานในเรื่องนี้หรือเปล่า ? ราชาเสือไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อครอบครัวของเจ้า นี่ยังไม่พูดถึงว่าสามีของเจ้าเป็นพี่น้องของราชาเสืออีก ทำไมเขาถึงได้ต้องการที่จะกำจัดครอบครัวของเจ้า ? “
“รัมกุยเนส ถ้าเจ้าไม่ให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลมาล่ะก็ พวกเราจะไม่เชื่อเจ้า”
ผู้อาวุโสทั้งหมดพูดออกมา น้อยคนที่เชื่อคำพูดของรัมกุยเนส เพราะว่าราชาเสือนั้นเป็นหนึ่งในสองราชาของตระกูล เกียรติที่เขามีนั้นยิ่งใหญ่มากในสายตาของผู้อาวุโส
รัมกุยเนสมองไปที่เสือขาวข้าง ๆ นาง และใบหน้าของนางก็เปลี่ยนมาอ่อนโยนทันที นางพูดช้า ๆ “ทั้งหมดเป็นเพราะลูกของข้า เพราะลูกของข้าคือพยัคฆ์ปีกเทวะ”
“อะไรนะ ! พยัคฆ์ปีกเทวะเป็นลูกของเจ้า ! ” ผู้อาวุโสทั้งหมดอุทานออกมาด้วยความตกใจและเหลือเชื่อทันทีที่รัมกุยเนสพูดจบ พวกเขาทั้งหมดมองสลับไปที่พยัคฆ์ปีกเทวะและรัมกุยเนสอีกครั้งด้วยความตกตะลึง
ข้อมูลชิ้นนี้ทำให้พวกเขาตกตะลึงมากเกินไป ความตกใจในหัวใจของผู้อาวุโสพุ่งไปถึงขีดสุดในตอนนี้ พวกเขาทั้งหมดยากที่จะเชื่อว่าพยัคฆ์ปีกเทวะนั้นเป็นลูกของรัมกุยเนสจริง ๆ
ในตอนนี้ พลังแห่งการมีอยู่ที่มหาศาลก็ปรากฏขึ้นมาทุกทิศทาง เสียงคำรามของเสือขาวได้ดังไปทั่วทั้งเทือกเขาและทำให้สัตว์อสูรระดับสูงทั้งหมดที่อยู่ในบริเวณรู้ตัว สัตว์อสูรระดับ 7 ทั้งหมดเคลื่อนมายังที่ซึ่งกลุ่มอยู่
ทันใดนั้นเอง สัตว์อสูรมากกว่าสี่สิบคนที่มีอายุต่างกันก็มารวมกันรอบ ๆ กลุ่มของเจี้ยนเฉิน พวกเขาทั้งหมดเปล่งรัศมีไปด้วยพลังแห่งการมีอยู่ที่ยิ่งใหญ่ ทั้งหมดเป็นสัตว์อสูรระดับ 7 ที่อยู่ในร่างมนุษย์
โหยวเยว่ค่อนข้างกังวลเมื่อนางถูกล้อม อย่างไรก็ตาม นางก็ผ่อนคลายเล็กน้อยหลังจากที่ได้เห็นว่าเจี้ยนเฉินที่อยู่ข้าง ๆ นางนั้นสงบนิ่งเพียงใด นางไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับกลุ่มมนุษย์ในครั้งนี้ แต่เป็นกลุ่มของสัตว์อสูรระดับ 7 ในเทือกเขาครอสที่รู้กันดีว่าเป็นที่ต้องห้ามของมนุษย์
ทันทีที่สัตว์อสูรมารวมตัวกัน พวกเขาทั้งหมดก็มองไปที่พยัคฆ์ปีกเทวะที่สง่างามทุกคนโดยไม่มียกเว้น ความประหลาดใจและความสงสัยฉายอยู่ในแววตาของพวกเขา
“มันเป็นพยัคฆ์ปีกเทวะ มันเป็นพยัคฆ์ปีกเทวะจริง ๆ…”
“นั่นคือพยัคฆ์ปีกเทวะของเผ่าพันธุ์สัตว์อสูรของพวกเรา ข้าไม่คิดมาก่อนเลยว่า สัตว์เทวะของพวกเราจะปรากฎตัวขึ้นอีกในที่สุดหลังจากผ่านมาหลายปีมาก”
..
สัตว์อสูรระดับ 7 บางตัวจำตัวตนของพยัคฆ์ปีกเทวะได้อย่างรวดเร็วและร้องออกมาอย่างตื้นตัน พวกเขาดีใจมาก อย่างไรก็ตาม ยังมีสัตว์อสูรระดับ 7 บางตัวในกลุ่มที่แสดงท่าทางไม่น่าดูออกมาเช่นกัน
เจี้ยนเฉินกวาดสายตามองไปที่สัตว์อสูรระดับ 7 ทุกตัวอย่างเฉยเมยและดูท่าทีของพวกเขาอย่างเงียบ ๆ เขาสนใจคนที่ทำท่าทางไม่น่าดูเมื่อเห็นพยัคฆ์ปีกเทวะ เขาจำพวกนี้ไว้อย่างละเอียด