เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 104 : เข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้าง
ตอนที่ 104: เข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้าง
เมื่อเห็นว่าเจี้ยนเฉินยังคงนิ่งเงียบอยู่ ชายผู้นั้นก็ลองอีกครั้ง “น้องเจี้ยนเฉิน หากเกี่ยวข้องกับเรื่องของการกระจายผลประโยชน์เจ้าไม่ต้องกังวล กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีของเราเพิ่งก่อตั้งเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็จริง แต่พี่น้องในกลุ่มเห็นมิตรภาพสำคัญกว่าเงินทอง ในกรณีที่กลุ่มของเรามีผลกำไรไม่ว่าเจ้าจะทำงานหนักหรือไม่ก็ตาม,กลุ่มของเราจะไม่ปฏิบัติกับเจ้าอย่างอยุติธรรม”
หลังจากนั้นชายวัยกลางคนก็หยุดพูด เขาได้พูดทุกสิ่งที่เขาต้องการแล้ว สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ก็คือดูว่าเจี้ยนเฉินจะเลือกอะไร
เจี้ยนเฉินขมวดคิ้วเป็นปม เขากำลังครุ่นคิดขณะที่เขาพิจารณาถึงประโยชน์ภายในหัวของเขา ในที่สุดเขาก็กัดริมฝีปาก ดวงตาของเขาส่องประกายด้วยการตัดสินใจที่แน่วแน่ “เอาล่ะ ข้าจะเข้าร่วมกลุ่มด้วย อย่างไรก็ตามข้ามีเงื่อนไขบางอย่าง ไม่มีใครควบคุมข้าได้ และข้าจะไม่เชื่อฟังใครเลย นอกจากนี้หากข้าต้องการออกจากกลุ่มในอนาคต กลุ่มจะต้องไม่พยายามหยุดข้าในทางใดทางหนึ่ง”
ชายวัยกลางคนมองเจี้ยนเฉินด้วยความสงสัย “น้องเจี้ยนเฉิน เจ้าจะไม่ถามเลยหรือว่ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนีแข็งแกร่งแค่ไหน หรือมีศัตรูพวกไหนหมายหัวเราบ้าง ? เจ้าต้องตระหนักว่าหากกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีของเรามีศัตรูที่แข็งแกร่งและเจ้าเข้าร่วมกับเรา มันจะทำให้เจ้าเดือดร้อนอย่างแน่นอนและอาจเป็นเรื่องที่น่ากังวลสำหรับชีวิตของเจ้า”
เจี้ยนเฉินหัวเราะเบา ๆ ขณะที่เขาพูดว่า “ถ้าสิ่งนี้น่ากลัวเกินไป ทำไมข้าต้องออกจากบ้านไปสำรวจโลก ถ้าข้าตัดสินใจเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างของท่านแล้ว ปัจจัยเช่นนี้ก็ไม่ได้อยู่ในสมองของข้าเลย
ชายวัยกลางคนเริ่มหัวเราะเสียงดัง ” ดี, ดี, ดี ! น้องเจี้ยนเฉิน ข้าไม่อยากเชื่อเรื่องอายุของเจ้าเลย เจ้าเป็นคนที่กล้าหาญมาก เงื่อนไขที่เจ้าขอจะไม่เป็นปัญหาใด ๆ เนื่องจากกลุ่มของเราเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ที่มีเป้าหมายเพียงอย่างเดียวคือหารายได้ กลุ่มทหารรับจ้างของเราจะไม่พยายามควบคุมเจ้าเช่นกัน หากเจ้าต้องการออกจากกลุ่ม เจ้าก็มีอิสระที่จะทำเช่นนั้นได้ตลอดเวลา”
” คงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว ! ” เจี้ยนเฉินพยักหน้า
ชายวัยกลางคนพยักหน้าเช่นกัน “อ๊า เราได้พูดคุยกันมาสักพักแล้ว ข้ายังไม่ได้แนะนำตัวเองเลย. ข้าชื่อเคนดัล หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนี น้องเจี้ยนเฉิน ถ้าเจ้าไม่รังเกียจก็เรียกข้าว่าลุงเคนดัล ไม่ว่าผู้คนจะตั้งชื่ออะไรให้กับหัวหน้า ข้าก็ไม่สนใจหรอก” เคนดัลหัวเราะ
“เอาล่ะ จากนี้ไปข้าขอเรียกท่านว่าลุงเคนดัล” ในสายตาของเจี้ยนเฉิน เคนดัลเป็นคนที่เขาประทับใจและดูเหมือนจะค่อนข้างซื่อสัตย์และไว้วางใจได้ในตอนนี้
หลังจากนั้นไม่นานเคนดัลและเจี้ยนเฉินก็กินอาหารเสร็จแล้วออกจากร้านไปด้วยกันเพื่อไปที่สมาคมทหารรับจ้างเพื่อจัดการขั้นตอนเบื้องต้น
การเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างนั้นค่อนข้างง่าย ดังนั้นในเวลาอันรวดเร็ว เจี้ยนเฉินก็เสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมดและกลายเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี
“เจี้ยนเฉิน ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปที่จุดนัดพบชั่วคราวและแนะนำเจ้ากับสมาชิกคนอื่น ๆ ” เคนดัลเริ่มเดินไปบนถนนในขณะที่ทั้งคู่ออกจากสมาคมทหารรับจ้าง
ระหว่างทางเคนดัลเริ่มอธิบายบางสิ่งเกี่ยวกับกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี ทำให้เจียนเฉินเข้าใจมากขึ้น
กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีถูกจัดตั้งขึ้นเมื่อ 5 ปีก่อนในฐานะกลุ่มรับจ้างขนาดเล็ก ไม่นานหลังจากที่พวกเขาก่อตั้งขึ้น สมาชิกได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ในเทือกเขาสัตว์อสูร พวกเขาล่าสัตว์แลกกับเงิน พวกเขาทำภารกิจสำเร็จน้อยมาก ดังนั้นด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงยังคงเป็นกลุ่มระดับ D โดยไม่มีโอกาสพิสูจน์ความแข็งแกร่งของตัวเอง
มีสมาชิกคนอื่น ๆ อีก 9 คนในกลุ่มรวมทั้งเคนดัล ดังนั้นเมื่อรวมเจี้ยนเฉินไปด้วย ทำให้ตอนนี้มีสมาชิกทั้งหมด 10 คน
จากข้อมูลของเคนดัล ในสมาชิกทั้ง 8 คน นอกเหนือจากตัวเขาเองที่เป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญขั้นต้น สมาชิก 5 คนเป็นเซียนระดับสูง ส่วนที่เหลืออีก 3 คนเป็นแค่เซียน
หลังจากที่เคนดัลพูดจบ เขาก็ตบหน้าผากของตัวเองในขณะที่เขาหันไปหาเจี้ยนเฉินด้วยรอยยิ้ม “อ้า ใช่ น้องเจี้ยนเฉิน ข้ายังไม่ทราบว่าเจ้ามีความแข็งแกร่งแบบไหนในตอนนี้” แม้ว่าหัวใจของเคนดัลจะเดาได้ว่าเจี้ยนเฉินเป็นเพียงแค่ระดับเซียนเนื่องจากอายุยังน้อย แต่นี่เป็นเพียงการเดา จนกว่าเขาจะได้รับคำตอบโดยตรงจากเจี้ยนเฉิน เขาก็ไม่กล้าที่จะสรุปด้วยตัวเอง
เจี้ยนเฉินหัวเราะและหยิบตราสัญลักษณ์ของทหารรับจ้างจากเข็มขัดมิติขึ้นมา ตราสัญลักษณ์ทหารรับจ้างนี้ถูกมอบให้แก่เจี้ยนเฉินตอนที่เขาสมัครเป็นทหารรับจ้าง พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเป็นทหารรับจ้างระดับ D
เมื่อเห็นตราสัญลักษณ์ใบหน้าของเคนดัลก็ไม่ได้เปลี่ยนเลย ” กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีของเรามีเซียนเพิ่มเข้ามาอีกคน ความแข็งแกร่งของเราก็เพิ่มขึ้น สิ่งนี้จะทำให้การล่าสัตว์อสูรง่ายกว่าเดิมมาก”
……..
เจี้ยนเฉินเดินไปกับเคนดัลเป็นระยะเวลาหนึ่ง,ไม่นานพวกเขาก็มาถึงบ้านธรรมดาที่มีบันไดหินกรวดที่แตกหัก บ้านไม่ได้ใหญ่มากและชายคาของบ้านมีใยแมงมุมมากมายอยู่รอบ ๆ แม้แต่กำแพงก็มีริ้วรอยมากมายจากกาลเวลาและธรรมชาติ เห็นได้ชัดว่าบ้านหลังนี้อยู่ในเมืองเวคมาหลายปีแล้ว แต่ไม่มีใครดูแลมัน
เคนดัลเดินไปที่ประตูบ้านแล้วเคาะเบา ๆ หลังจากนั้นไม่นานประตูไม้ก็ถูกเปิดออกเล็กน้อย เผยให้เห็นชายหนุ่มที่มีผิวสีเข้ม เมื่อพิจารณาจากใบหน้าที่ซูบผอมของเขา ชายคนนั้นดูเหมือนจะอายุประมาณ 26 ปีและดูเหมือนว่าบุคคลประเภทนี้จะเป็นนักฉกฉวยวิ่งราวหากอยู่ในฝูงชน
เมื่อเห็นเคนดัล ใบหน้าของชายหนุ่มเผยรอยยิ้มขณะที่เขาพูดว่า “อ่า ลุงเคนดัล ข้าเพิ่งรู้ว่าเป็นท่าน”
หลังจากนั้นไม่นานเจี้ยนเฉินก็ติดตามเคนดัลเข้าไปข้างใน ในขณะที่แสงสว่างภายในบ้านนั้นมืดมน แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการมองเห็นของเจี้ยนเฉินเลย เมื่อเจี้ยนเฉินมองไปรอบ ๆ บ้าน เขาก็เริ่มมองเห็นได้อย่างครบถ้วน
บ้านจากข้างในไม่ใหญ่เกินไปและรูปแบบก็ไม่ซับซ้อนเลย นอกเหนือจากเตียงไม้กระดานสองสามเตียงแล้วยังมีโต๊ะยาวเดี่ยวพร้อมกับเก้าอี้สองสามตัว ในความเป็นจริงเครื่องเรือนของห้องอาจพูดได้ค่อนข้างหยาบ บนเตียงไม้กระดานมีคนไม่กี่คนนอนกอดขวดสุราอย่างเกียจคร้าน อย่างไรก็ตามเมื่อหัวหน้าเคนดัลเดินเข้ามาในห้อง ทุกคนจ้องมองเขาทันทีและรีบมายืนรอบ ๆ ตัวเขา
“ทุกคนมารวมตัวกันรอบ ๆ ข้า ข้าขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักน้องเจี้ยนเฉิน เขาเพิ่งเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีของเราและเป็นน้องเล็กในกลุ่มของเรา เริ่มจากวันนี้ ข้าหวังว่าทุกคนจะดูแลเขา” ทันทีที่เจี้ยนเฉินเข้ามาในห้อง เคนดัลก็ดึงเขาไปแนะนำตัว
ตอนนี้เจี้ยนเฉินรู้ตัวว่าเขาต้องพูดอะไรบางอย่าง เขายืนตรงและป้องมือเข้าด้วยกัน ทักทายทุกคนและพูดด้วยรอยยิ้มว่า ” ข้าเป็นน้องใหม่ที่นี่ ข้าหวังว่าทุกคนจะต้อนรับข้า ! “