เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1043: กับดักสังหารเซียนราชา (3)
ตอนที่ 1043: กับดักสังหารเซียนราชา (3)
พลังงานที่น่ากลัวพุ่งพวยอยู่จัตุรัสที่อยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์ พลังงานจากเซียนราชาทั้งหมดขดรวมกันและเปลี่ยนเป็นเป็นแรงมหาศาลที่เต็มไปทั่วรอบ ๆ มันกระแทกให้เซียนผู้คุมกฎและคนที่ระดับต่ำกว่านั้นกระเด็นไปไกล โดยเฉพาะเซียนสวรรค์และเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 นั้นได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง พวกเขาทั้งหมดกระอักเลือดออกมา พวกเขาได้รับบาดเจ็บหนัก ในขณะที่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 ที่อ่อนแอกว่ายังก็ได้รับบาดเจ็บมากกว่า
เจี้ยนเฉิน, เฮยยู่, หงเหลียน, คารา ลอท, คาซด้า เจียนฉง และผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลผู้พิทักษ์เจียงหยางรวมตัวอยู่ด้วยกัน พวกเขารู้ความสัมพันธ์ระหว่างเจี้ยนเฉินและโหยวเยว่ ดังนั้นพวกเขาจึงร่วมมือกันโดยที่ไม่ต้องบอกเพื่อที่จะสร้างม่านพลังขึ้นมารอบโหยวเยว่และคารา ลี่เว่ยเอาไว้ ซึ่งทำให้ทั้งสองไม่ได้รับบาดเจ็บ
“นี่น่าจะเป็นสิ่งที่นางฟ้าเฮายู่ทิ้งเอาไว้เพื่อจัดการกับเซียนราชาโดยเฉพาะ ให้ทั้งสองคนนี้อยู่ห่างจากพวกเราไปก่อน พวกเราถึงจะเคลื่อนไปได้อย่างไม่ต้องกังวล ไม่เช่นนั้น มันจะยากมากสำหรับพวกเราที่ดูแลทั้งสองคนนี้เมื่อพวกเราไปเจอกับอันตรายเข้า” ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลเจียงหยางพูดออกมา
“น้องเจี้ยนเฉิน เจ้าคิดว่ายังไง ? ” คารา ลอทมองไปที่เจี้ยนเฉิน
“แน่นอน” เจี้ยนเฉินลังเลเล็กน้อย ก่อนที่จะโจมตีไปที่ม่านพลังป้องกันที่อยู่รอบโหยวเยว่และคารา ลี่เว่ย เขากระแทกสองคนนั้นออกไปไกล
“จิตสังหารที่นี่แข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ถ้ายังเป็นต่อไปแบบนี้ แม้แต่เซียนราชาในขั้นสูงสุดก็ยังยากที่จะต้านมันได้…”
“จิตสังหารนี้แปลก ๆ มันไม่ใช่จิตสังหารบริสุทธิ์ มันดูเหมือนจะมีบางอย่างอยู่ในมันด้วย เมื่อมันเข้ามาในร่างของพวกเราแล้ว มันจะทำลายล้างเหมือนหนอนชอนไชเข้าไปในกระดูก”
“พวกเรารีบผ่านเขตนี้ไปให้เร็วเถอะ…”
ทุกคนตะโกนออกมา หลังจากนั้น พวกเขาทั้งหมดก็ใช้พลังเซียนที่อยู่รอบ ๆ เพื่อต่อต้านการรุกเข้ามาของจิตสังหาร พวกเขาเดินลึกเข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์ทีละก้าวทีละก้าว อย่างไรก็ตาม ยิ่งพวกเขาเข้าไปลึกมากเท่าไร จิตสังหารก็หนาแน่นขึ้นมากเท่านั้น เซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 1 หลายคนยังยากที่จะต้านทานจิตสังหารได้
เจี้ยนเฉินไม่ได้ปล่อยพลังออกมาเหมือนคนอื่น ๆ เขาสร้างม่านพลังที่ผิวของเขาเพื่อที่จะต่อต้านจิตสังหาร และเขาขยายพลังบรรพกาลไปทุกส่วนของร่างกาย เขาใช้ความได้เปรียบของร่างบรรพกาลซึ่งทำให้เขาต้านทานได้ง่ายขึ้น จิตสังหารแปลก ๆ ที่แผ่กระจายไปทั่วโถงไม่สามารถผ่านการป้องกันของเขาได้เลย
เจี้ยนเฉินกวาดสายตามองไปรอบ ๆ และความสงสัยก็ปรากฏขึ้นที่ใบหน้าของเขา แม้แต่เซียนราชายังพบว่ามันยากที่จะต่อต้านจิตสังหารนี้ อย่าว่าแต่เซียนผู้คุมกฎเลย ถ้าเซียนผู้คุมกฎเข้ามาในบริเวณนี้ พวกเขาน่าจะต้านการรุกรานของจิตสังหารไม่ได้และตายไป พวกเขาคงไม่สามารถผ่านบริเวณนี้ไปได้ ถ้างั้น ทำไมนางฟ้าเฮายู่ถึงได้ทิ้งคำเตือนนั้นไว้ที่ศิลาล่ะ
“บางทีนางฟ้าเฮายู่อาจะไม่ต้องการให้โถงศักดิ์สิทธิ์ที่นางใช้ความพยายามสร้างมาไปตกอยู่ในมือของคนอื่น ซึ่งเป็นเหตุผลที่นางร่ายกับดักสังหารเพื่อป้องกันการเข้ามาของเซียนราชาและเซียนจักรพรรดิ ? และมันก็ไม่ใช่ว่าคนที่ระดับต่ำกว่าเซียนราชาจะเข้ามาในโถงศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างปลอดภัย ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นด้อยไป ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ถึงความตั้งใจของนางฟ้าเฮายู่ ? บางทีนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่นางไม่อธิบายไว้ที่ศิลางั้นหรือ ? ” เจี้ยนเฉินวิเคราะห์ในใจ เขาเริ่มสงสัยว่าทุกคนตีความศิลาผิดไปหรือเปล่า ถ้ากับดักสังหารไม่มีผลกับคนที่ต่ำกว่าระดับเซียนราชา ทำไมเขาถึงได้เผชิญหน้ากับจิตสังหารที่ทรงพลังนี้ด้วย ? เพราะว่า ระดับความเข้าใจของเขายังอยู่ในระดับเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 7 มีเพียงพลังในการต่อสู้ของเขาเท่านั้นที่อยู่ในระดับเซียนราชา
ในตอนนี้เอง ม่านพลังก็ปรากฏขึ้นมาเงียบ ๆ มันใหญ่มากและไม่ใช่สีขาวธรรมดา กลับกัน มันเป็นแสงจันทร์สีเงินที่ควบแน่นมาจากพลังแสงจันทร์ มันเต็มไปทั่วทั้งโถงและปกคลุมกลุ่มของเจี้ยนเฉินเอาไว้ เช่นเดียวกันกับเซียนผู้คุมกฎและเซียนสวรรค์ด้านหลังด้วย
พลังแสงจันทร์เริ่มพุ่งพวยขึ้นในม่านพลัง มันควบแน่นไปเป็นปราณดาบนับไม่ถ้วนที่ตกลงมาเหมือนฝน ไปหาผู้คนทั้งหมดที่อยู่ในบริเวณด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ นี่รวมถึงเซียนผู้คุมกฎ เซียนสวรรค์ และเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 ด้วย
ท่าทางของโหยวเยว่ คารา ลี่เว่ยและจอมยุทธคนอื่น ๆ ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ความสิ้นหวังฉายอยู่ในแววตาของหลายคน นี่เป็นความสามารถจากกับดักที่เซียนจักรพรรดิร่ายเอาไว้ ดังนั้นจึงบอกถึงความแข็งแกร่งของมันได้ พวกเขาจะต่อต้านได้อย่างไร ?
“บ้าเอ้ย ! ” ท่าทางของเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาใช้ทักษะมายาพริบตาและพุ่งไปทางโหยวเยว่อย่างเร็วที่สุด ในเวลาเดียวกัน วัตถุเซียนก็พุ่งออกมาจากหว่างคิ้วของเขาและเปลี่ยนไปเป็นหอคอยใหญ่สีทองในพริบตา มันพุ่งไปทางโหยวเยว่และต้องการที่จะเข้าไปใกล้นางเพื่อที่จะดูดนางเข้าไปได้
ถ้าวัตถุเซียนต้องการที่จะดูดบางคนเข้าไป มันต้องอยู่ในระยะที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ปราณดาบพลังแสงจันทร์นั้นก็เร็วเกินไป เร็วกว่าเจี้ยนเฉินและวัตถุเซียน ก่อนที่พวกเขาจะเข้าใกล้โหยวเยว่ ปราณดาบก็เข้าปะทะแล้ว
“เยว่เอ๋อ ! ” เจี้ยนเฉินตะโกนออกมา เขาโกรธจัดและเสียใจ ถ้าเขารู้ก่อนหน้านี้ เขาก็คงดูดโหยวเยว่เข้าไปในมิติของวัตถุเซียนไปนานแล้ว
ในเวลาเดียวกัน เจี้ยนเฉินก็กระตุกอย่างแรง ปราณดาบมากกว่าสิบเล่มโจมตีมาที่เขาพร้อม ๆ กัน แต่พวกมันก็มีความแข็งแกร่งเท่ากับการโจมตีของเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 1 เท่านั้น มันไม่สามารถผ่านการป้องกันของร่างบรรพกาลของเขาได้ ดังนั้นมันจึงกระจายออกไปทันทีที่ปะทะกับเขา พวกมันกลับกลายไปเป็นพลังแสงจันทร์และไม่ได้หายไปไหน
เจี้ยนเฉินมาถึงที่ข้างข้างโหยวเยว่ อย่างไรก็ตาม ในตอนที่เขากำลังจะส่งนางเข้าไปในมิติวัตถุเซียน เขาก็นิ่งอึ้งทันที เขาจ้องแบบงุนงงไปที่โหยวเยว่ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
โหยวเยว่ยืนอยู่ด้วยสายตาที่ตระหนก แต่นางไม่เป็นอะไรเลย
“โหยวเยว่ เจ้าสบายดีหรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินถามอย่างประหลาดใจ เขาได้รับการโจมตีจากปราณดาบมาก่อนหน้านี้และทุก ๆ การโจมตีนั้นเทียบเท่ากับการโจมตีของเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 1 การโจมตีแบบนั้นเป็นอันตรายถึงชีวิตด้วยความแข็งแกร่งของโหยวเยว่ในตอนนี้ได้
คารา ลี่เว่ยยืนอยู่ตรงนั้นและตัวสั่นมาก นางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเมื่อนางเห็นว่าเจี้ยนเฉินเป็นห่วงโหยวเยว่เพียงใด นางลูบอกของนางแล้วพูด “หยางยู่เทียน ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะห่วงใยคู่หมั้นของเจ้าขนาดนี้ อย่างกังวลไป พวกเราปลอดภัยดี”
โหยวเยว่อบอุ่นใจเมื่อนางเห็นท่าทางของเจี้ยนเฉิน นางยิ้มหวานแล้วพูดออกมา “เจี้ยนเฉิน อย่ากังวลไป ข้าสบายดี ปราณดาบก่อนหน้านี้เหมือนจะไม่สามารถทำร้ายพวกเราได้ จำคำเตือนที่อยู่ที่ศิลาได้หรือไม่ ? การโจมตีนี้ไม่มีผลกับคนที่ต่ำกว่าเซียนราชา”
เจี้ยนเฉินมองไปรอบ ๆ และเห็นว่าทุกคนที่อ่อนแอกว่าเซียนราชานั้นไม่ได้รับอันตราย นอกเหนือจากบางคนที่ได้รับบาดเจ็บจากการปล่อยพลังออกมาจากเซียนราชา
เจี้ยนเฉินรู้ตัวทันทีเมื่อเขาได้เห็นแบบนี้ คำเตือนที่อยู่ที่ศิลานั้นจริง กับดักภายในโถงจันทร์แจ่มไม่สามารถทำร้ายคนที่ต่ำกว่าเซียนราชาได้ แม้ว่าจริง ๆ แล้วเขาจะยังเป็นเซียนผู้คุมกฎ แต่เขาสามารถแสดงความแข็งแกร่งของเซียนราชาได้ ซึ่งทำให้กับดักคิดว่าเขาเป็นเซียนราชา
“เจี้ยนเฉิน ระวัง ปราณดาบควบแน่นอีกแล้ว” โหยวเยว่เตือน
เจี้ยนเฉินไม่สนดาบฉี วัตถุเซียนสูง 30 เมตรลอยอยู่เหนือเขา จากกนั้นเขาก็พูดกับทั้งสอง “พวกเจ้าทั้งสองต้องการที่จะเจ้าไปในวัตถุเซียนหรือไม่ ? “
“เจี้ยนเฉิน ไม่ใช่ว่าพวกเราจะบาดเจ็บถ้าพวกเราอยู่ที่นี่ ถ้างั้นทำไมพวกเราไม่อยู่ด้านนอกล่ะ? ข้าไม่เคยเห็นเรื่องใหญ่แบบนี้มาก่อนเลย” โหยวเยว่ปฏิเสธข้อแนะนำของเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินลังเลเล็กน้อย แต่เขาก็ตกลงตามโหยวเยว่ในที่สุด เขาไม่ได้บังคับโหยวเยว่เข้าไปในวัตถุเซียน แต่เขาส่งวัตถุเซียนให้โหยวเยว่แทน เขาสั่งวัตถุจิตวิญญาณไว้อย่างลับ ๆ ให้ดูดทั้งสองเข้าไปเมื่อพวกเขาเจอกับอันตราย
ปราณดาบที่ควบแน่นมาจากพลังแสงจันทร์อีกครั้งได้พุ่งเข้าไปที่ทุกคนเหมือนผ้าห่ม เซียนราชาทั้งหมดใช้ความสามารถต่าง ๆ เพื่อที่จะต้านการโจมตี
ในขณะที่เจี้ยนเฉินมีร่างบรรพกาล เขาสามารถต้านการโจมตีของเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 3 ได้ ถ้าไม่ใช่การโจมตีที่เหนือกว่านั้น มันก็จะไม่สามารถผ่านร่างของเขาไปได้เลย ซึ่งนี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาต่อต้านการโจมตีได้ง่ายกว่าทุกคน
อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉินก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าการโจมตีในครั้งนี้นั้นทรงพลังกว่ากว่าก่อนหน้านี้มาก หลังจากที่ปราณดาบหนาแน่นปะทะเข้าที่เขา
“อ้าก ! ” ทันใดนั้นเอง เสียงร้องโหยหวยก็ดังออกมา ปราณดาบได้โจมตีไปที่เซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 1 และพลังงานที่มหาศาลก็ลอยออกมาไม่หยุดจากร่างของเขา พลังกระจายเข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์ในตอนท้าย
“บ้าเอ้ย พลังแสงจันทร์บ้านี้กำลังดูดกินพลังงานของข้า” คนผู้นี้ร้องออกมาอย่างน่ากลัว เขาเริ่มตระหนก
ท่าทีของเซียนราชาทั้งหมดในที่นี่เปลี่ยนไป และหวาดกลัวมาก