เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1050: การปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของนางฟ้าเฮายู่ (1)
- Home
- เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)
- ตอนที่ 1050: การปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของนางฟ้าเฮายู่ (1)
ตอนที่ 1050: การปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของนางฟ้าเฮายู่ (1)
ในขณะที่หมัดจากทักษะการต่อสู้ระดับเซียนเปลี่ยนเป้าหมาย แรงกดดันจากรอบ ๆ ก็โหมกระหน่ำไปที่ร่างของซี่หวังและโหยวเยว่ด้วย ซี่หวังเคร่งเครียดมาก เพราะว่ามันเป็นทักษะการต่อสู้ระดับเซียนและทุก ๆ หมัดก็อยู่ในระดับเซียนราชา มันคงยากมากที่เขาจะป้องกันมันได้ด้วยความแข็งแกร่งของชั้นสวรรค์ที่ 9
“อ้าก ! ” ซี่หวังคำรามขึ้นใปบนท้องฟ้า แสงสีฟ้าปั่นป่วนได้สาดออกมาอย่างรุนแรงจากร่างของเขา ก่อนที่จะควบแน่นอยู่บนนิ้วของเขาแล้วพุ่งไปทางหมัด
พลังที่ขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือได้ทะลุผ่านมิติในขณะที่มันเปล่งประกายไปด้วยแสงสีฟ้า และพุ่งไปทางหมัดด้วยพลังแห่งการทำลายล้าง
นี่เป็นการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของซี่หวังที่เขาได้เข้าใจมาจากวิธีการฝึกฝนของจักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปด แม้ว่ามันจะยังไม่อยู่ในระดับทักษะการต่อสู้ระดับเซียน แต่มันก็ทรงพลังเท่าทักษะการต่อสู้ระดับเซียนเทียม
เมื่อถูกล็อคเป้าไปด้วยหมัดถึง 2 หมัด แรงกดันที่โหยวเยว่เจอนั้นก็หนักยิ่งกว่า นางไม่สามารถทนได้เลยด้วยความแข็งแกร่งของนางที่ต่ำกว่าเซียนปฐพี ดังนั้นนางจึงหน้าซีดทันที เลือดไหลออกมาจากปากของนาง ก่อนที่การโจมตีจะถึงนาง แค่แรงกดดันธรรมดาก็เพียงพอที่จะทำให้นางบาดเจ็บแล้ว
เสียงระเบิดดังขึ้นมา การโจมตีของซี่หวังกระแทกไปที่หมัดซึ่งลอยมาทางเขา การโจมตีของเขาไม่ได้อยู่ในระดับทักษะการต่อสู้ระดับเซียน ดังนั้นมันจึงกระจายหายไปที่ทันทีที่ปะทะกัน หมัดพุ่งต่อไปที่ซี่หวังอย่างไม่ลดความเร็วลงเลย แต่กำลังของมันก็ลดลงไปบ้าง
ปัง ! หมัดที่อ่อนกำลังลงปะทะเข้ากับร่างของซี่หวังอย่างรุนแรง เขาถูกกระแทกถอยไปเหมือนกระสอบทรายในขณะที่เลือดพุ่งออกมาจากปากของเขา
แสงสีทองแสบตาปรากฏขึ้นเหนือหัวของโหยวเยว่ วัตถุเซียนที่ลอยอยู่บนหัวของโหยวเยว่เสมอก็ได้ขยายขึ้นทันที และกลายเป็นหอคอยสีทองที่สูง 30 เมตร ซึ่งป้องกันด้านหน้าของนางไว้อย่างรวดเร็ว มันช่วยโหยวเยว่ในการต้านการโจมตีนั้นเอาไว้
บู้ม ! บู้ม !
หมัดทั้งคู่ปะทะเข้ากับวัตถุเซียนทำให้เกิดเสียงระเบิดรุนแรง หมัดไม่ได้ทำให้มันแม้แต่จะสั่นไหว ความแข็งแรงของมันไม่ใช่อะไรที่ทักษะการต่อสู้ระดับเซียนจะเอาชนะได้
แม้ว่าโหยวเยว่จะได้รับการป้องกันจากทักษะการต่อสู้ระดับเซียน แต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะหยุดความต้องการคทาของทุกคนได้ เซียนผู้คุมกฎหลายสิบคนเริ่มพุ่งเข้าไปอย่างคุกคามนางจากทุกทิศทาง ถ้าเป็นวันอื่น ๆ พวกเขาก็คงไม่กล้าที่จะทำร้ายโหยวเยว่ เนื่องจากพวกเขากลัวเจี้ยนเฉิน แต่ต่อหน้าความเย้ายวนรุนแรงที่อยู่ตรงหน้า หลายคนก็ลืมความเป็นความตายไป
“นายหญิง โยนคทาทิ้งไปแล้วเข้ามาในมิติวัตถุเซียน นั้นเป็นทางเดียวที่ข้าจะมั่นใจได้ว่าท่านจะปลอดภัย” เสียงของวัตถุวิญญาณดังขึ้นในหัวของโหยวเยว่ แม้ว่าวัตถุวิญญาณจะเป็นเซียนจักรพรรดิในมิติวัตถุเซียน แต่มันก็มีข้อห้ามโดยธรรมชาติ ดังนั้นความสามารถของมันจึงถูกจำกัดอย่างมาก พลังที่มันสามารถใช้ได้ข้างนอกนั้นอ่อนแอมาก ดังนั้นการปกป้องนางที่อยู่ด้านนอกจากศัตรูที่กำลังเข้ามาทุกทิศทางจึงเป็นอะไรที่ยากมาก
โหยวเยว่มองไปที่คทาอย่างลังเลในขณะที่ความไม่ยอมปรากฏขึ้นในตาของนาง นางไม่ได้โลภอยากได้คทา แต่มันเป็นทางเดียวที่จะช่วยเจี้ยนเฉินได้
“นายหญิง ล้มเลิกเรื่องคทาไปก่อนแล้วเข้ามาในมิติวัตถุเซียน อย่ากังวลเกี่ยวกับโถงศักดิ์สิทธิ์ไป รุยจินยังมีไพ่ตายที่ทรงพลังที่สุดอยู่” วัตถุจิตวิญญาณร้องบอกออกมาอย่างกระวนกระวาย
หลังจากนั้น โหยวเยว่ก็ตัดสินใจได้ในที่สุด นางกัดฟันและเริ่มที่จะเหวี่ยงแขนออกไป นางกำลังจะโยนคทาออกไป
“ถ้าเจ้าโยนคทาเทพเจ้าจันทราทิ้งไป เจ้าจะไม่มีวันช่วยคนที่เจ้าต้องการจะช่วยได้ คิดดีดี” ในตอนนี้ เสียงของหญิงที่น่าฟังก็ดังขึ้นมาในหัวของโหยวเยว่
เสียงที่ปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหันทำให้โหยวเยว่ประหลาดใจ ซึ่งทำให้นางจับคทาแน่นทันที นางจับมันแน่นและมองไปรอบ ๆ ด้วยความประหลาดใจ เหมือนว่านางต้องการที่จะหาว่าคนพูดเป็นใคร
“เข้าไม่ได้โยนคทาเทพจันทราไป เจ้าได้เลือกแล้ว อย่ากังวลไป เจ้าจะปลอดภัย” เสียงเดิมดังขึ้นมาในหัวของโหยวเยว่ มันชัดเจนมาก และมีเพียงโหยวเยว่คนเดียวเท่านั้นที่ได้ยินมัน อย่างไรตาม นางไม่สามารถบอกได้ว่ามันมาจากที่ไหน
ทันใดนั้นเอง คทาในมือของโหยวเยว่ก็ระเบิดแสงจ้าออกมา พลังงานที่น่ากลัวพุ่งออกมาจากคทาและกวาดไปรอบ ๆ เหมือนพายุ มันเหวี่ยงเซียนผู้คุมกฎทั้งหมดที่พุ่งเข้ามาแต่ไกลออกไป แม้แต่วัตถุเซียนที่อยู่เหนือหัวของนางก็โดนไปด้วย มันก็ถูกกระแทกไปด้วยแรงที่ทรงพลัง
พลังงานจากคทาไม่ได้แยกแยะระหว่างมิตรและศัตรู นอกเหนือจากโหยวเยว่ ทุกคนรวมทั้งเสือขาว ซี่หวัง และวัตถุเซียนก็ถูกส่งกระเด็นไปไกล
ในพริบตาเดียว ทุก ๆ คนก็หายไปในรัศมีหลายร้อยเมตรจากโหยวเยว่ นางดูเหมือนเป็นคนเดียวที่อยู่ตรงนี้ในขณะที่แสงจันทร์จ้าล้อมอยู่รอบนาง
โหยวเยว่ดูทุก ๆ อย่างที่เกิดขึ้นด้วยท่าทางนิ่งอึ้ง นายากที่จะเชื่อว่าพลังงานที่มหาศาลขนาดนี้จะพุ่งออกมาจากคทาที่ดูธรรมดานี้ มันทำให้นางเหลือเชื่อ
ก่อนที่นางจะได้ทันตั้งตัว นางก็รู้สึกว่าร่างกายนางถูกรัดแน่นขึ้นทันที นางถูกล้อมด้วยพลังลึกลับและนำนางสูงขึ้นไปในอากาศ นางลอยไปทางบัลลังก์ที่ด้านหลังโถงอย่างรวดเร็ว
“เร็วเข้า หยุดนางไว้ เมื่อนางได้โถงศักดิ์สิทธิ์ไป พวกเราจะไม่เหลือโอกาสอีก…” เซียนผู้คุมกฎตะโกนออกมด้วยความตระหนกหลังจากที่ถูกกระแทกถอยไป หลังจากนั้น เขาก็ลุกขึ้นมาทันทีและพุ่งตามโหยวเยว่ไปเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ เขาต้องการที่จะหยุดไม่ให้โหยวเยว่เข้าใกล้บัลลังก์
เซียนผู้คุมกฎคนอื่นทั้งหมดไม่สนใจกับอาการบาดเจ็บเช่นกัน ทั้งหมดต้องการที่จะเอาโถงศักดิ์สิทธิ์มาเป็นของตัวเอง ดังนั้นจึงไม่ต้องการที่จะยอมให้โหยวเยว่เอาสิ่งที่พวกเขาต้องการไป พวกเขาทั้งหมดร่วมมือกันตีวงล้อมและหยุดโหยวเยว่
คลื่นพลังงานที่น่ากลัวที่เหลืออยู่กระจายออกไปและเซียนผู้คุมกฎทั้งหมดก็โจมตีออกไปแรงที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้ พลังโจมตีที่รุนแรงบินมาจากทุกทิศทาง และทั้งหมดพุ่งเป้าไปที่โหยวเยว่
โหยวเยว่ถูกคลุมไปด้วยแสงจันทร์ที่หนาแน่นจากคทาหมดทั้งร่าง เมื่อการโจมตีของเซียนผู้คุมกฎปะทะเข้ากับชั้นแสงจันทร์ มันก็พังทลายลง และไม่สามารถที่จะทำร้ายโหยวเยว่ได้
ภายใต้การปกป้องของแสงจันทร์ โหยวเยว่ก็เข้าไปใกล้บัลลังก์ได้อย่างไม่ติดขัดแม้ว่าจะถูกโจมตีอย่างหนาแน่น หลังจากนั้น นางก็หยุดอยู่ที่บัลลังก์พร้อมกับคทาที่อยู่ในมือ
ทันทีที่นางนั่งลง มิติรอบ ๆ ก็เริ่มบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง ทุกอย่างกลายเป็นภาพพร่ามัวและบดบังสายตาของทุกคนเอาไว้ เมื่มันกลับมาสู่สภาพปกติ โหยวเยว่ก็ได้หายไปจากบัลลังก์แล้ว