เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1083: ความอดทนต่ำ
ตอนที่ 1083: ความอดทนต่ำ
ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ เข้าใจเจี้ยนเฉินมากขึ้นทันทีและสายตาที่พวกเขาทั้งหมดมองไปที่เจี้ยนเฉินก็เปลี่ยนไป
“ข้าไม่คิดมาก่อนเลยว่าเจียงหยาง เซียงเทียนจะเป็นคนเช่นนี้ เขาไม่เคารพแม้แต่ผู้อาวุโสของเขา…”
“เขากล้าดียังไงที่ไม่เคารพผู้อาวุโสของเขา ? เขายังกล้าที่ไล่ผู้อาวุโสสูงสุดจูริอีก ยกโทษให้เขาไม่ได้…”
“ข้าสงสัยจริงจริงว่าคนที่ไร้ความเคารพและไร้ศีลธรรมแบบนี้เข้ามาตระกูลผู้พิทักษ์ได้อย่างไร เขายังได้รับการต้อนรับจากผู้อาวุโสสูงสุดด้วยตนเองและยังได้รับเสียงระฆังแห่งความชัดแจ้งถึง 9 ครั้งอีก…”
“ในความเห็นของข้า เจียงหยาง เซียงเทียนอาจจะมีคนที่ทรงพลังคอยหนุนอยู่ นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงได้ทำตัวเช่นนี้ เสียงระฆังเก้าครั้งนี้อาจจะไม่ใช่เพื่อเจียงหยาง เซียงเทียน แต่เป็นคนที่หนุนหลังเขาอยู่ก็เป็นได้ในความเห็นของข้า…”
เสียงหารือเบา ๆ ปรากฏขึ้นรอบ ๆ คนในตระกูลทั้งหมดชี้ไปที่เจี้ยนเฉินหลังจากที่ได้ยินคำอธิบายของหญิงวัยกลางคนและพวกเขาก็แสดงความไม่ต้อนรับออกมาเลย ยังมีบางคนที่มองเจี้ยนเฉินเหมือนเป็นศัตรูอีกด้วย
เจียงหยาง ซู อวี้หยวนหลุดออกมาทันทีหลังจากที่นางได้ยินเสียงหารือเกี่ยวกับเรื่องเจี้ยนเฉิน นางตะโกนออกมา “พวกเจ้าทั้งหมดหุบปาก ! ไม่เพียงแต่เจียงหยาง เซียงเทียนจะเป็นอัจฉริยะที่สุดยอดของตระกูลของพวกเราเท่านั้นในประวัติศาสตร์ แต่เขาก็ยังเป็นแขกที่มีค่าในเวลาเดียวกันด้วย! คนที่ถูกต้อนรับจากระฆังแห่งความชัดแจ้งถึง 9 ครั้ง ไม่ใช่ใครที่พวกเจ้าจะมาตัดสินกันได้ง่าย ๆ ! “
“อวี้หยวน ข้ารู้ว่าเจียงหยาง เซียงเทียนเป็นลูกหลานของลูกของเจ้า หยุนคง นี่เป็นเหตุผลที่เจ้าปกป้องเขา เอาจริง ๆ แล้ว ถ้าเจียงหยาง เซียงเทียน คนที่ไม่มีความเคารพ เย่อหยิ่งต้องการที่จะอยู่ในตระกูลผู้พิทักษ์ ข้าจะเป็นคนแรกที่ไม่เห็นด้วย” หญิงวัยกลางคนตอบกลับ นางดูเหมือนจะคิดบางอย่างได้และถอนหายใจออกมาเบาเบา “ข้าอยากรู้ว่าผู้อาวุโสสูงสุดที่เคารพสับสนอะไรบางอย่างหรือเปล่าในวันนี้ ถึงได้ใช้ระฆังถึง 9 ครั้งเพื่อที่จะต้อนรับผู้เยาว์ที่กล้าแม้แต่ไล่ผู้อาวุโสสูงสุดไป”
เจียงหยาง ซู อวี้หยวนโกรธจัดจนเริ่มสั่น ใบหน้าของนางเย็นชาในขณะที่นางจ้องไปที่เจียงหยาง ฉิง เลิงฉวน นางพูดออกมาอย่างเย็นชา ” เลิ่งชวง สิ่งเดียวที่เป็นที่เคารพบนทวีปเทียนหยวนคือความแข็งแกร่ง เจียงหยาง เซียงเทียนมีความสามารถที่จะไล่ใครในตระกูลผู้พิทักษ์ก็ได้ และด้วยความสามารถในตอนนี้ของเขา เขาควรจะได้รับการต้อนรับจากระฆัง 9 ครั้ง”
“อวี้หยวน อย่าเอาเรื่องทวีปเทียนหยวนมาพูด ทำไมเจ้าไม่ลืมตาดูว่าพวกเราอยู่ที่ไหนตอนนี้กัน นี่คือตระกูลผู้พิทักษ์เจียงหยาง ไม่ใช่ทวีปเทียนหยวน” เจียงหยาง ชิง เลิ่งชวงตอบกลับไปอย่างเยือกเย็น นางคิดในใจ “เจียงหยาง เซียงเทียน อย่าคิดว่าเพราะเจ้ามีความสามารถ เจ้าจะสามารถมองข้ามพวกเราผู้อาวุโสไปได้ ข้าได้แสดงความเคารพต่อเจ้ามากพอแล้วที่เมืองลอร์ แต่เจ้าก็ยังไม่พอใจและไม่แสดงความเคารพพวกเราผู้อาวุโสอีก มันไม่ใช่ความผิดของข้า หืม ข้ารู้ว่าเจ้าแข็งแกร่ง แต่ตระกูลผู้พิทักษ์ไม่ใช่ที่ที่เจ้าจะทำอะไรโดยไม่ยับยั้งชั่งใจได้”
เจี้ยนเฉินยืนกอดอกอยู่อย่างสงบ เขาจ้องอย่างเฉยชาไปที่เจียงหยาง ชิง เลิ่งชวงแล้วพูดออกมา “เจ้าคือเจียงหยาง ชิง เลิ่งชวง ใช่หรือไม่ ? ” เสียงของเจี้ยนเฉินค่อนข้างเย็นชาและก็ไร้อารมณ์
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นการยั่วยุอย่างดีและไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นคำถากถางในหูของเจียงหยาง ชิง เลิ่งชวง นางโกรธจัดทันทีและกรีดร้องออกมา “เจียงหยาง เซียงเทียน เจ้ามันลูกหลานที่ไร้ความเคารพ เจ้ากล้าเรียกชื่อข้าได้อย่างไร ? ผู้อาวุโสทั้งหมดของตระกูลไม่มีค่าในสายตาของเจ้าหรือไง?” เจียงหยาง ชิง เลิ่งชวงมองไปที่ที่ฝูงชนรอบ ๆ ในขณะที่ความโกรธปรากฎอยู่บนใบหน้าของนาง นางพูดต่อ “ดู ทุกคน กฏของตระกูลข้อไหนที่เจียงหยาง เซียงเทียนแหกไปแล้ว…”
ทันทีที่เจียงหยาง ชิง เลิ่งชวงพูดจบ นางก็ประหลาดใจ ในตอนนี้เอง นางรู้สึกเหมือนอุณหภูมิรอบ ๆ ดิ่งลดลง เหมือนว่านางถูกโยนไปในถ้ำน้ำแข็ง เท้าและมือของนางเย็นเฉียบทันที ต่อมา ความรู้สึกหายใจไม่ออกก็ปรากฏขึ้นมาทันที คอของนางถูกมือเจี้ยนเฉินบีบไว้แน่นทำให้นางหายใจไม่ได้
ใบหน้าของนางค่อนข้างซีด เสียงกระอึกกระอักดังออกมาจากคอของนาง นางพูดไม่ได้ในตอนนี้เพราะนางถูกบีบคอแน่น
นางตกตะลึงในใจในขณะที่นางมองไปเจี้ยนเฉินอย่างอาฆาตด้วยตาที่เบิกกว้าง นางยากที่จะเชื่อว่าเจี้ยนเฉินจะทำอุกอาจแบบนี้ โจมตีนางทั้งทั้งที่อยู่ในตระกูลผู้พิทักษ์
เจี้ยนเฉินบีบคอนางไว้แน่นในขณะที่มือขวาที่ทรงพลังบีบไปที่คอของนางอย่างแรง เขาไม่แสดงความปราณีเพราะนางเป็นผู้หญิง เขาพูดออกมา “เจียงหยาง ชิง เลิ่งชวง เจ้าคิดจริง ๆ หรือว่าข้าจะไม่ทำอะไรเจ้าเพราะว่าพวกเราอยู่ในตระกูลผู้พิทักษ์ในตอนนี้ ? ข้าฆ่าเจ้าได้แม้แต่จะอยู่ที่นี่”
ทุก ๆ คนเงียบไปในตอนนี้ พวกเขาทั้งหมดจ้องไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความตกใจในขณะที่ใบหน้าของพวกเขาปรากฎความเหลือเชื่อออกมา ไม่มีใครคิดว่าเจี้ยนเฉินจะบุ่มบ่ามแบบนี้ เขาทำตัวอกตัญญูต่อหน้าทุกคนในฐานะที่เป็นผู้เยาว์
“ปล่อยท่านป้าเลิ่งชวงนะ ! ” ในตอนนี้เอง หญิงทั้งสองที่ตามเจียงหยาง ชิง เลิ่งชวงอยู่เสมอก็ได้สติในที่สุด พวกนางไม่กลัวและชักเอาอาวุธเซียนออกมาและแทงไปที่เจี้ยนเฉินแรงที่สุดที่พวกนางจะทำได้
สายตาของเจี้ยนเฉินเป็นประกายแหลมคม และมิติรอบ ๆ ก็หยุดทันที เขาใช้ความสามารถของเซียนผู้คุมกฎในการหยุดหญิงทั้งสองเอาไว้
ปัง ! ต่อมา มิติพันธนาการก็สั่นไหวออกก่อนที่จะแตกกระจายไปในทันที หญิงทั้งสองลอยกระเด็นไปพร้อมกระอักเลือด พวกนางทั้งสองบาดเจ็บสาหัสและชายชราทั้งสองก็รับพวกนางไว้ในตอนท้าย
ชายชราทั้งสองเป็นเซียนผู้คุมกฎ หลังจากที่ดูอาการของหญิงทั้งสองอย่างรวดเร็ว ท่าทางของพวกเขาก็เปลี่ยนไป และพวกเขาก็ตะคอกไปที่เจี้ยนเฉินอย่างโกรธเกรี้ยว “เจียงหยาง เซียงเทียน เจ้ากล้าดียังไง ! เจ้ากล้าทำตัววู่วามและทำให้คนของตระกูลผู้พิทักษ์บาดเจ็บอีก ! ทุกคน จับเจ้าชั่วจอมหยิ่งนี้ซะ ! ” ชายชราทั้งสองพุ่งไปที่เจี้ยนเฉิน พลังแห่งการมีอยู่ที่ทรงพลังเปล่งรัศมีออกมาจากทุกทุกส่วนของพวกเขา พวกเขาไม่มีความคิดที่จะออมมือ
เซียนผู้คุมกฎคนอื่นหลายคนในฝูงชนก็โกรธเกรี้ยวและพุ่งเข้าไปที่เจี้ยนเฉิน
ในตอนที่ชายชราผิวเหี่ยวย่นกำลังจะพุ่งเข้าไปเพื่อสั่งสอนเจี้ยนเฉิน จู่ ๆ เขาก็ถูกชายวัยกลางหยุดเอาไว้ ชายชราอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว “เจ้าหยุดข้าทำไม ? ไป ข้าจะไปสั่งสอนบทเรียนให้กับผู้เยาว์ที่ไร้ความเคารพนั่น”
“ผู้เฒ่า มันจะดีกว่าถ้าท่านไม่ไปยุ่ง ผู้เยาว์คนนั้นอยู่คนละระดับกัน พวกเราไม่น่าไปยั่วยุเขา” ชายวัยกลางคนใช้ทักษะสื่อสารในขณะที่เขาจ้องไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความกลัว
เหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับทุกคน หลายคนที่ต้องการที่จะสั่งสอนบทเรียนให้กับเจี้ยนเฉินก็ถูกห้ามจากสหายรักของพวกเขา ยังมีบางคนที่รู้เรื่องเกี่ยวกับเจี้ยนเฉินในตระกูลผู้พิทักษ์อยู่ ถึงจะมีจำนวนไม่มาก แต่ทุกคนที่เข้าใจในความสามารถของเจี้ยนเฉินก็ช่วยสหายของพวกเขาเอาไว้
แม้ว่าเซียนผู้คุมกฎบางคนจะถูกเพื่อนห้ามเอาไว้ แต่ก็ยังมีเซียนผู้คุมกฎอีก 5 คนที่ไม่เข้าใจชัดแจ้งถึงความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินและพุ่งเข้ามาที่เขาอย่างโกรธเกรี้ยว พวกเขายื่นแขนที่ทรงพลังของพวกเขาเพื่อที่พยายามจะจับเจี้ยนเฉิน ในขณะเดียวกัน ชายชรา 2 คนที่รับหญิงทั้งสองคนเอาไว้ก็เอาอาวุธเซียนของพวกเขาออกมา พลังงานกระเพื่อมออกมาจากอาวุธในขณะที่หนึ่งคนในนั้นแทงออกไปที่เจี้ยนเฉิน อีกคนหนึ่งฟันไปที่แขนของเจี้ยนเฉินที่จับคอของเจี้ยงหยาง ฉิง เลิ่งชวงอย่างโหดร้ายเอาไว้ เขาต้องการที่จะทำให้แขนของเจี้ยนเฉินบาดเจ็บ
แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะเผชิญหน้ากับการโจมตีจากเซียนผู้คุมกฎ 5 คนพร้อม ๆ กัน เขาก็ไม่ตระหนกเลย เขายังคงสงบ ยกเว้นสายตาของเขาที่เย็นชา
“เจ้าต้องการที่จะทำร้ายข้าอย่างนั้นหรือ เซียนผู้คุมกฎที่อ่อนแอ ? เจ้าประเมินตัวสูงไปแล้ว” เจี้ยนเฉินคำรามออกมา ทุกคนได้ยินเสียงของเขาอย่างชัดเจน
หลายคนที่ไม่รู้จักเจี้ยนเฉินรู้สึกประหลาดใจเมื่อพวกเขาได้ยินตำพูดที่เย็นชาและเย่อหยิ่งของเจี้ยนเฉิน พวกเขาทั้งหมดคิดว่าลึก ๆ นั้นเจี้ยนเฉินเป็นคนหยิ่งยโสที่ดูถูกแม้กระทั่งเซียนผู้คุมกฎและยังยั่วยุพวกเขาด้วยการตราหน้าว่าพวกเขาประเมินความสามารถของตัวเองสูงเกินไปอีก
มือของเจี้ยนเฉินยังจับไปที่คอของเจี้ยงหยาง ฉิง เลิ่งชวงแน่น ในขณะที่มือที่ว่างของเขาก็กำหมัดขึ้นมา เขาไม่ได้มองไปแม้แต่ที่เซียนผู้คุมกฎทั้งห้า ก่อนที่จะต่อยไปที่อาวุธเซียนที่ฟันมาที่แขนของเขา
หมัดของเจี้ยนเฉินนั้นเร็วอย่างเหลือเชื่อ ในทันทีที่มันเคลื่อนที่ออกไป มันก็เหมือนว่าหายไป หมัดนี้มีความเข้าใจในมิติชั้นสวรรค์ที่ 9 ของเจี้ยนเฉินรวมอยู่ด้วย ดังนั้นมันจึงเต็มไปด้วยพลังมิติ มันกระแทกเข้ากับอาวุธเซียนทันที
ปัง ! เกิดเสียงปะทะอื้ออึง หมัดของเจี้ยนเฉินเหมือนก้อนเพชรแข็ง ๆ หมัดของเขาไร้รอยขีดข่วนหลังจากที่เกิดการปะทะ ในขณะที่เซียนผู้คุมกฎก็ลอยกระเด็นไปพร้อมกับอาวุธเซียนของเขา ที่กลางอากาศ มีเสียงกระดูกหักดังออกมา และแขนขวาของเขาก็ร่วงลงอย่างไร้พลัง กระดูกที่แขนของเขาแตกกระจายจากหมัดของเจี้ยนเฉิน
ร่างของเจี้ยนเฉินนั้นแข็งแกร่งพอที่จะทนการโจมตีเต็มกำลังจากอาวุธเซียนของเซียนผู้คุมกฎได้ และไม่เพียงแต่เขาจะไร้รอยขีดข่วนเท่านั้น เขายังทำให้คู่ต่อสู้กระเด็นออกไปได้เพียงหมัดเดียว
เจี้ยนเฉินไม่ลังเลต่อจากนั้น เขาต่อยออกไปอีกครั้งเพื่อจู่โจมไปที่ชายคนที่สองที่อาวุธเซียนของเขา ชายคนนั้นก็กระเด็นออกไปพร้อมกับอาวุธเซียนของเขาด้วยเช่นกัน และกระดูกแขนของเขาก็แตกกระจายไปเหมือนกับชายคนแรกด้วย
เมื่อเผชิญหน้ากับเซียนผู้คุมกฎธรรมดา เจี้ยนเฉินไม่จำเป็นต้องใช้กระบี่ของเขาเพราะมันจะเป็นการมากเกินไป แค่หมัดเปล่า ๆ ของเขาก็เพียงพอแล้ว และเขาก็สามารถป้องกันตัวได้ด้วยการใช้แค่หมัดของเขา
ในตอนนี้ ชายชราอีก 3 คนก็มาถึงที่ด้านข้างของเจี้ยนเฉิน มือที่ทรงพลังทั้งหกจับที่ข้อต่อแขนขาของเจี้ยนเฉินเอาไว้ทั้งหมด และพวกเขาก็ดึงมันออกพร้อม ๆ กัน ชายชราต้องการที่จะดึงแขนขาของเจี้ยนเฉินออก
แต่ในตอนถัดมา ทั้งหมดสามคนก็ตะลึง สายตาของพวกเขาเป็นประกายตกใจ พวกเขารู้สึกเหมือนพวกเขาคว้าไปที่ชิ้นเหล็กแทน ไม่ว่าพวกเขาจะใช้แรงขนาดไหน พวกเขาก็ขยับมันไม่ได้เลย
ด้วยกำลังของพวกเขา แม้ว่าจะเป็นชิ้นเหล็กกล้า พวกเขาก็ทำให้มันเปลี่ยนรูปได้เพียงแค่คว้า แต่กระดูกของเจี้ยนเฉินนั้นแข็งกว่าเหล็กกล้าหลายเท่า นิ้วของพวกเขาเริ่มเจ็บเล็กน้อยจากการใช้แรง แต่กระดูกของเจี้ยนเฉินก็ไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย
“พระเจ้า ร่างกายนี้มันอะไรกัน ? แม้แต่สัตว์อสูรยังไม่มีร่างกายแข็งแกร่งขนาดนี้เลย” ชายชราทั้งสามประหลาดใจอย่างมาก