เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1092: ทำลายหอยามะ (3)
ตอนที่ 1092: ทำลายหอยามะ (3)
“ไป๋เต๋า เจ้าหนู เจ้ากล้าที่จะทำให้ข้าตกอยู่ในอันตรายและเกือบทำให้ข้าตายไปแล้วได้อย่างไร ตอนที่ข้าออกไปได้ ข้าจะให้เจ้าได้รับกรรมอย่างสาสม อย่าว่าข้าที่ไม่ปราณีล่ะ ในเมื่อเจ้าทำอะไรที่ไม่มีหัวใจเอง” ดาบพิษที่เคารพพูดออกมาอย่างดุร้าย
“ดาบพิษที่เคารพ เจ้าจะไม่รักษาสัญญาระหว่างเราอย่างนั้นหรือ?” ไป๋เต๋าถามออกไปอย่างเย็นชา เสียงของเขาแหบแห้ง
“ช่างมันปะไร เจ้าทำให้ข้าลำบากมาก ข้าเกือบต้องตายที่หอยามะ ช่างสัญญาบ้าบออะไรของเจ้าเถอะ” ดาบพิษที่เคารพพูดไปอย่างไม่กลัว หลังจากที่ควบคุมร่างของไป๋เต๋ามานาน วิญญาณของเขาก็คุ้นเคยกับร่างมากขึ้นแล้ว เขามั่นใจมากว่าเขาสามารถเอาชนะการต้านทานจากไป๋เต๋าและควบคุมร่างกายของเขาอย่างสมบูรณ์ได้
“ในตอนที่ข้าออกไปจากที่นี่ได้ สิ่งแรกที่ข้าจะทำคือกลืนกินวิญญาณของเจ้าและให้มันมาเติมเต็มวิญญาณของข้า” ดาบพิษที่เคารพพูด ทั้งสองสื่อสารกันในสติสัมปะชัญญะ ดังนั้นคนนอกจึงไม่ได้ยินมัน
ในตอนนี้ โถงศักดิ์สิทธิ์ก็เหวี่ยงไปมาอีกครั้งและสั่นไหวอย่างรุนแรง มันเกือบจะทำให้ดาบพิษที่เคารพเสียการทรงตัว
ส่วนบนของโถงศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลายไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้ด้านในมีแสงแดดส่องเข้าไป เฮยยู่เหมือนไม่ต้องการที่จะฟันโถงศักดิ์สิทธิ์ให้กลายเป็นสองส่วน ดังนั้น เขาจึงกำลังค่อย ๆ เลาะมันออกไปเรื่อย ๆ
รุยจินและหงเหลียนไม่ได้ทำอะไร เขายืนอยู่อย่างเย็นชาข้าง ๆ เจี้ยนเฉิน พวกเขาจ้องอย่างเย็นชาไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกทำลาย
ในตอนนี้ ตาของรุยจินและหงเหลียนก็หรี่เล็กลง ในตอนที่พวกเขากำลังจะเคลื่อนไหว เจี้ยนเฉินก็เข้ามาทันทีและเอายุทธภัณฑ์จักรพรรดิออกมาในเวลาเดียวกันแล้วแทงออกไปด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ
เสียงระเบิดดังขึ้นมา ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของเจี้ยนเฉินปะทะเข้ากับกริชดำที่จู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาจากที่ไหนไม่รู้ หลังจากนั้น ยามะในชุดดำก็ปรากฏขึ้นที่นั่น และเขาก็ถอยกลับไปอย่างรวดเร็วพร้อมกริชในมือของเขา เลือดสีแดงสดกระอักออกมาจากปากของเขา และกระจายอยู่ในอากาศเหมือนหมอก
“ทักษะการอำพรางกายของเจ้านั้นยอดเยี่ยมมาก แต่วิธีแบบนี้ใช้กับข้าไม่ได้ผลหรอก” เจี้ยนเฉินจับยุทธภัณฑ์จักรพรรดิเอาไว้ในขณะที่เขาเหยียดยามะ
ทันทีที่เขาพูดจบ อาวุธเซียนสิบชิ้นก็ปรากฏขึ้นมา และแทงไปที่เจี้ยนเฉินเหมือนแสงสีดำอย่างเงียบ ๆ
องครักษ์ราชาทั้งสิบของหอยามะโจมตีออกไปพร้อม ๆ กัน
เจี้ยนเฉินยิ้มอย่างเย้ยหยัน เขากระตุกแขนและแทงออกไปสิบครั้งทันที และมันก็ยากที่จะแยกออกว่าอะไรเป็นของจริงของปลอมจากภาพติดตา ทุก ๆ การโจมตีตัดผ่านมิติไปทำให้เห็นไปรอยแยกเล็ก ๆ พวกมันแม่นยำมาก และโจมตีไปที่อาวุธเซียนทั้งสิบอย่างแม่นยำที่สุด
อาวุธเซียนในมือขององครักษ์ราชาทั้งสิบแตกกระจายออกทันที พวกมันถูกยุทธภัณฑ์จักรพรรดิทำลายเหมือนค้อนทุบไปที่ถั่ว ในขณะที่มีรอยเลือดบาง ๆ ปรากฎขึ้นที่คอของพวกเขา ก่อนที่รอยจะขยายขึ้น
ไม่เพียงแต่การโจมตีของเจี้ยนเฉินจะทำลายอาวุธเซียนของพวกเขาไปเท่านั้น มันยังตัดผ่านคอของพวกเขาไปด้วย สายของพลังบรรพกาลที่ดุร้ายเข้าไปในหัวของพวกเขาผ่านทางคอ และกำจัดวิญญาณของพวกเขาไป
องครักษ์ราชาถูกฆ่าจากการโจมตีเพียงครั้งเดียวของเจี้ยนเฉิน เซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 9 ก็อ่อนแอเหมือนมดเมื่ออยู่ต่อหน้าเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 7 พวกเขาไม่สามารถแม้จะต่อต้านได้
บู้ม !
เฮยยู่ไม่สนใจที่จะหยอกล้ออีกต่อไป เสียงระเบิดดังสนั่น เขาเหวี่ยงอาวุธออกไปแรงที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้และแยกโถงศักดิ์สิทธิ์ที่พังทลายออกเป็นสองส่วน อาคมทุกอย่างพังทลายลงจากการโจมตีครั้งนี้
โถงศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลายจนสิ้น เมื่อสูญเสียที่ป้องกันที่ดีที่สุด นักฆ่าทั้งหมดที่ซ่อนอยู่ในนั้นก็บินออกมาทุกทิศทุกทาง
“ฮ่าฮ่าฮ่า ใช่จริงจริงด้วย มีจอมยุทธที่สุดยอดมาหาเรื่องหอยามะ แม้แต่โถงศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแรงที่สุดยังถูกทำลาย พระเจ้าอยู่ข้างข้าแล้ว ข้าเป็นอิสระแล้ว ! ” ดาบพิษที่เคารพหัวเราะออกมาดัง ในขณะที่เขาพุ่งออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์ เขาไม่ได้รีรอและหนีไปทิศทางกันที่กลุ่มนักฆ่าหนีไปอย่างเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
“ผู้อาวุโสรุยจิน อย่าให้พวกมันหนีไปได้ ไม่อย่างนั้นมันจะเป็นปัญหาในอนาคตอย่างไม่รู้จบ” เจี้ยนเฉินพูดอย่างเย็นชาก่อนที่จะพุ่งไปที่ยามะที่เพิ่งซุ่มโจมตีเขา
“อย่ากังวลไปเลย ปล่อยข้าเอง” รุยจินตอบกลับอย่างเฉยเมยก่อนที่จะทำผนึกที่มือของเขา เขาตะโกนออกมา “ทักษะลับตระกูลมังกร เขตแดนมังกร”
พื้นที่รอบ ๆ สว่างขึ้นมาทันที ท้องฟ้าสีครามหายไป ทั่วทั้งบริเวณกลายเป็นชั้นแสงสีทองหนาที่ขยายออกไปทุกทิศทางเป็นระยะทางหลายกิโลเมตรโดยที่มีรุยจินเป็นศูนย์กลาง มันเหมือนเป็นโลกที่แยกตัวออกมาและตัดขาดจากโลกภายนอก และขังพวกนักฆ่าทั้งหมดเอาไว้ข้างใน
อีกทั้งยังมีพลังลึกลับที่อยู่ในโลกสีทองนี้ ซึ่งกักพวกเขาทั้งหมดเอาไว้แน่นไม่ให้เคลื่อนไหวได้เลย
มีเซียนผู้คุมกฎบางคนที่ซ่อนอยู่ในกลุ่มนักฆ่าที่กำลังหนี พวกเขาถูกตรึงไว้ด้วยพลังลึกลับ พวกเขาพยายามดิ้นรนมากที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้ แต่แม้แต่กำลังของเซียนผู้คุมกฎ พวกเขาก็ยังไม่สามารถเป็นอิสระได้ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามมากแค่ไหน
ยามะก็ได้รับผลกระทบไปด้วย แม้ว่ามันจะไม่ได้ทำให้เขาขยับไม่ได้ แต่มันก็เหมือนกับเขาติดอยู่ในทรายดูด ทำให้การเคลื่อนไหวของเขาช้าลง
เจี้ยนเฉินพุ่งไปที่เขาอย่างคุกคามพร้อมกับยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ ประกายแสงสีดำเกิดขึ้น และอาวุธก็แทงไปที่ยามะอย่างไม่ปราณีด้วยพลังแห่งการทำลายล้าง
สายตาของยามะมีประกายของความตระหนก แม้ว่าเขาจะอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เขาก็ไม่ใช่คู่มือของเจี้ยนเฉิน แถนในตอนนี้ร่างของเขานั้นถูกจำกัดการเคลื่อนไหวให้ช้าลงอีก มันทำให้ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะป้องกันการโจมตีจากเจี้ยนเฉินเลย
“เจี้ยนเฉิน เจ้าจะฆ่าพวกเราทั้งหมดจริง ๆ หรือ ? มีนักฆ่าของหลายคนของยามะที่อยู่ด้านนอก เจ้าไม่กลัวว่าพวกเขาจะล่ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนีด้วยทักษะลอบสังหารของพวกเขาอย่างนั้นหรือ?” ยามะร้องออกไปอย่างตระหนก เพื่อต้องการให้ความต้องการที่จะฆ่าของเจี้ยนเฉินหายไป
อย่างไรก็ตาม คำของยามะไม่ได้เป็นการข่มขู่อะไรเลย ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของเจี้ยนเฉินแทงทะลุอย่างไม่ปราณีไปที่หน้าอกของเขา สายพลังบรรพกาลที่ทำลายล้างเข้าไปในร่างของยามะผ่านทางยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ และทำลายสิ่งที่มีชีวิตทุกอย่างที่อยู่ในร่างของเขาเหมือนงูที่กำลังตรงไปที่วิญญาณของเขา
ร่างของยามะแหลกเหลวต่อหน้าพลังบรรพกาล ความเจ็บปวดรุนแรงทำให้เขาสั่น และส่วนบนของหัวของเขาก็แตกกระจายออก วิญญาณของเขาหนีออกจากร่างไปไกล
สายตาของเจี้ยนเฉินเป็นประกาย เขาควบคุมมิติรอบ ๆ ด้วยความคิดของเขา และขังวิญญาณของยามะเอาไว้ไม่ให้หนี
ยามะเป็นเซียนราชา แต่เขาก็อ่อนแอมากในรูปวิญญาณ เขาไม่สามารถหนีไปจากมิติพันธนาการของเจี้ยนเฉินที่มีความเข้าใจในระดับแค่เซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 9 ได้
ร่างของยามะร่วงลงมาจากท้องฟ้า ด้วยสายตาที่แหลมคมและมือที่รวดเร็วของเขา เจี้ยนเฉินก็เอาแหวนมิติออกมาจากนิ้วของยามะก่อนที่จะตรวจดูด้านในอย่างรวดเร็ว
สักพักต่อมา ใบหน้าของเจี้ยนเฉินก็เต็มไปด้วยความยินดี เขาดึงเอาหินที่มีรัศมีครึ่งเมตรออกมาจากแหวนมิติและยิ้มออกมาอย่างหุบไม่ได้โดยไม่รู้ตัว “ฮ่าฮ่าฮ่า มาครั้งนี้ไม่เสียเที่ยวจริง ๆ ! ข้าพบหินวิญญาณจากสวรรค์แล้วในที่สุด ! ” เจี้ยนเฉินรู้สึกตื่นเต้นมากหลังจากที่ได้หินมา เขารู้สึกตื่นเต้นมากกว่าการที่เขากำจัดหอยามะได้หลายร้อยเท่า เพราะเขาจะได้หาวัตถุดิบในการทำกระบี่ม่วงฟ้าน้อยลง
วิญญาณของยามะเข้าใจทันทีว่าหินนั้นสำคัญกับเจี้ยนเฉินมากในตอนที่เขาเห็นเจี้ยนเฉินยินดีหลังจากที่เขาได้มันไป เขาใช้ทักษะสื่อสารกับเจี้ยนเฉินทันที “หัวหน้าเจี้ยนเฉิน ข้าจะบอกว่าหินนั่นมันมาจากไหนถ้าเจ้าปล่อยข้าไป”
เจี้ยนเฉินจ้องตาไม่กระพริบในขณะที่เขาชี้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิที่เปล่งแสงไปที่วิญญาณของยามะ ตาของเขามีจิตสังหารที่เข้มข้นแล้วเขาก็พูดออกมาอย่างเย็นชา “พูดมา หินนี่มาจากไหน ? “
“ข้าจะบอกถ้าเจ้าตกลงที่จะปล่อยข้าไป ไม่อย่างนั้น ข้าจะไม่พูดอะไรแม้ว่าเจ้าจะฆ่าข้า” ยามะตอบกลับโดยไม่ให้ต่อรอง
“ถ้าเจ้าไม่พูด ข้าจะกำจัดวิญญาณของเจ้าไปตอนนี้เลย และข้าจะไปสืบเรื่องนี้จากคนอื่นเอา” จิตสังหารในตาของเจี้ยนเฉินหนักหน่วงขึ้น ในขณะที่พลังงานที่น่ากลัวจากยุทธภัณฑ์จักรพรรดิก็ฉีกผ่านมิติ มันดูเหมือนพยายามที่จะดูดวิญญาณของยามะเข้าไปในช่องมิติ
เมื่อสัมผัสได้ถึงจิตสังหารของเจี้ยนเฉิน ยามะก็รู้ว่าเจี้ยนเฉินไม่ได้ล้อเล่น เขาตัดสินใจว่าเขาจะบอกเจี้ยนเฉินแล้วเขาก็พูดออกไป “หินนี้มาจากทวีปแห่งความสูญเปล่า”
“ทวีปแห่งความสูญเปล่า ? นั่นเป็นที่ซึ่งพวกร้อยเผ่าพันธุ์อาศัยอยู่หรือเปล่า ? ” เจี้ยนเฉินพูดในใจก่อนที่จะเหวี่ยงมือของเขา ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิตัดผ่านวิญญาณของยามะและทำลายวิญญาณของเขาไป
หัวหน้าของหอยามะหายไปจากโลกด้วยความแข็งแกร่งของเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 4
เจี้ยนเฉินเข้าไปร่วมกับเฮยยู่ รุยจินและคนอื่น ๆ พร้อมกับยุทธภัณฑ์จักรพรรดิที่มีเลือดของเซียนราชาหยดอยู่ เขาจ้องไปที่นักฆ่าของหอยามะที่ติดอยู่ในเขตแดนมังกรด้วยสายตาที่เย็นชา จากนั้นเขาก็หันไปหาเซียนผู้คุมกฎทั้งห้าคนที่ตามเขามา “ฆ่าพวกนี้ทั้งหมด ไม่ต้องปราณี ! “
“ขอรับหัวหน้า” เซียนผู้คุมกฎทั้งห้าตอบกลับพร้อมกัน พวกเขานอบน้อมมาก พวกเขาพุ่งไปที่คนที่ใส่ผ้าคลุมทันที และฆ่านักฆ่าที่มีระดับต่ำกว่าเซียนผู้คุมกฎอย่างสบายใจ
ด้านล่างนั้น ดาบพิษที่เคารพที่อยู่ในร่างของไป๋เต๋าก็ขยับไม่ได้จากพลังลึกลับที่ภายในเขตแดงมังกร เขาเริ่มตกตะลึงเมื่อเห็นกลุ่มจอมยุทธที่ทำลายโถงศักดิ์สิทธิ์เริ่มที่จะฆ่านักฆ่า เขาร้องออกมา “ผู้อาวุโส ข้าไม่ใช่คนของหอยามะ ข้าติดอยู่ในนั้นจนกระทั่งพวกท่านมาทำลายหอยามะ นั่นเป็นเหตุที่ข้าหลุดออกมาได้ โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย ผู้อาวุโส”
ดาบพิษที่เคารพร้องขอชีวิตอย่างอ่อนโยนกับคนที่ทำลายโถงศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างง่ายดาย แม้แต่ด้วยความแข็งแกร่งแต่ก่อนของเขา เขายังไม่กล้าที่จะไปหาเรื่องพวกนี้ อย่าว่าแต่ตอนนี้เลย