เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 111 : ในที่สุดก็สงบสุข
ตอน 111: ในที่สุดก็สงบสุข
ขณะที่เจี้ยนเฉินเข้ามาในบ้านเขาก็เห็นหัวหน้าเคนดัลนั่งอยู่กับสมาชิกคนอื่น ๆ กำลังกินอาหารเช้า บนโต๊ะมีเนื้อตุ๋นขนาดใหญ่
เจี้ยนเฉิน มากินด้วยกันสิ ! วันนี้เราล่ามาได้เยอะ เจ้าต้องกินอาหารบ้างไม่งั้นเจ้าจะไม่มีแรงพอที่จะสู้กับสัตว์อสูร เคนดัลเรียกให้เจี้ยนเฉินมากินอาหารด้วยกันที่โต๊ะยาว
หูป๋อฉีกเนื้อออกมาชิ้นหนึ่งและเริ่มเคี้ยวมัน ใช่แล้ว วันนี้เราต้องกินให้อิ่ม หากเราเจอสัตว์อสูร ถ้าเราฆ่ามันไม่ได้ เราก็ยังมีแรงวิ่งหนีมันได้
เคนดัลมองไปที่หูป๋อด้วยท่าทางไม่เห็นด้วย หูป๋อ เจ้าต้องการให้เราเจอสัตว์อสูรที่เราไม่อาจเอาชนะได้งั้นหรือ? หากเราเจอสัตว์อสูรระดับ 4 ที่เด่นในด้านความเร็ว ชีวิตของกลุ่มเราจะถูกทำให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาสัตว์อสูร
เคนดัล ข้าไม่ได้บ้าเพราะอากาศร้อน เราต้องทำสิ่งพวกนี้จริง ๆ ข้ารู้ สัตว์อสูรระดับ 4 ทำให้ข้ากลัว แต่เราไม่ได้เข้าไปลึกในเทือกเขา เพราะงั้นเราก็ไม่ต้องกลัวที่จะได้เจอกับสัตว์อสูรระดับ 4 หูป๋อพูด
เจี้ยนเฉินนั่งร่วมโต๊ะและคีบเนื้อตุ๋นเข้าปาก ลุงเคนดัล สิ่งที่หูป๋อพูดไม่ผิด สัตว์อสูรระดับ 4 มักจะอยู่ลึกเข้าไปในภูเขา ตราบใดที่เราไม่เข้าไปไกลเกินไป เราก็จะไม่เป็นอะไร เจี้ยนเฉินต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะคุ้นเคยกับคนเหล่านี้และสภาพแวดล้อมที่นี่
บางอย่างก็ไม่อาจรับประกันได้ ใบหน้าของเคนดัลเริ่มจริงจังขณะมองไปรอบ ๆ โต๊ะ แม้ว่าเราจะอยู่รอบนอกภูเขา ไม่มีใครรู้ว่าสัตว์อสูรระดับ 4 ที่อยู่ในภูเขาจะออกมาเพราะความเบื่อเมื่อไหร่ แต่ก็ยังมีข้อยกเว้นบางข้อซึ่งทำให้สัตว์อสูรระดับ 4 ไล่ล่าเหยื่อของมันจนไปถึงชายป่าได้ สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ในทวีปเทียนหยวน นี่ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยาก มันเคยเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว
เจี้ยนเฉินพยักหน้า เขาเห็นด้วยกับคำพูดของหัวหน้าเคนดัลเพราะเขาได้อ่านหนังสือหลายครั้งว่าสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งกว่าปกติจะออกมารอบนอกเป็นครั้งคราวเพราะว่าพวกมันเบื่อ อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้เกิดบ่อยครั้ง ในช่วงเวลานี้เจี้ยนเฉินอยู่ในเทือกเขาสัตว์อสูร เขาไม่ได้เจอสัตว์อสูรระดับ 4 เลยในขณะที่อยู่รอบนอกของภูเขา เต็มที่คือสัตว์อสูรระดับ 3 และมันก็เกิดขึ้นยากเช่นกัน
ข้อมูลเหล่านี้เป็นสิ่งที่พวกเรารู้กันทุกคนและในตอนนี้เราก็ยังไม่เจอเหตุการณ์ดังกล่าวที่คนอื่นเคยเจอ เอาล่ะ เคนดัลเองก็หยุดพูด มันจะทำให้ขวัญและกำลังใจของกลุ่มเราลดลง หากเราเจอเหตุการณ์อย่างนั้นจริง ๆ ก็ถือว่าเราโชคร้ายมาก มากินกันก่อนที่เราจะออกเดินทาง คนที่พูดต่อมาคือคนที่อายุน้อยกว่าหัวหน้าเคนดัลแต่เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม-ดีรี่ ด้วยความแข็งแกร่งที่อยู่ในขอบเขตเซียนระดับสูงขั้นสุดยอดแต่มีพลังเท่ากับเซียนผู้เชี่ยวชาญ
ช่วงเวลาที่ดีรี่พูดทุกคนก็สงบลงอีกครั้งและกลับมากินเนื้อตุ๋นในจานต่อ แทบจะพริบตาเนื้อในจานก็หมดและเหลือเพียงเศษเล็ก ๆ เท่านั้น
หลังจากกินอาหารเสร็จทุกคนก็ออกเดินทางทันที ภายในกลุ่มทั้ง 10 มีเพียงเจี้ยนเฉินเท่านั้นที่ขี่ม้า ขณะที่ทุกคนเดินเท้าเปล่า
เจี้ยนเฉิน เมื่อเราไปถึงเทือกเขาสัตว์อสูร เจ้าจะทำอย่างไรกับม้าของเจ้า? เจ้าไม่อาจนำม้าเข้าป่าได้ เคนดัลถามเจี้ยนเฉิน
เมื่อได้ยินสิ่งที่เคนดัลบอก เจี้ยนเฉินก็หัวเราะขณะที่ตบเบา ๆ ไปที่แผงคอม้าว่า ยังเหลืออีก 20 กิโลเมตรจนกว่าเราจะถึงภูเขา เมื่อเราไปถึงที่นั่น ข้าจะปล่อยมันไป
เสี่ยวเต๋าเดินเข้ามาด้านหน้าทันทีเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่เจี้ยนเฉินพูดและตะโกนออกมาว่า “เจ้าจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร เจี้ยนเฉิน ! ถ้าเจ้าปล่อยม้าออกไปฟรี ๆ ? เจ้าจะต้องสูญเงินจำนวนมากแน่ ๆ
เจี้ยนเฉินทำได้แค่หัวเราะและพูดว่า ถ้าข้าปล่อยมันไปได้ ทำไมข้าถึงไม่ยอมให้มันเป็นอิสระ? ในทวีปที่ใหญ่อย่างนี้ไม่ว่ามันจะสามารถอยู่รอดได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับโชคของมันเอง ม้าเป็นสัตว์ที่พบได้บ่อยที่สุดในทวีปนี้ รวมถึงการขนส่งขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ สัตว์ป่าเหล่านี้ยังสามารถดูดซับพลังงานโลกและกินสมบัติบางอย่างได้เหมือนกับสัตว์อสูร แม้ว่าม้าเหล่านี้จะมีความสามารถเพียงอย่างเดียว เจี้ยนเฉินก็เคยอ่านเจอว่าเมื่อ 100 ปีก่อนมีม้าที่แข็งแกร่งเท่ากับสัตว์อสูรระดับ 5 อย่างไรก็ตามศักยภาพของมันก็มีขีดจำกัดและขาดความสามารถตามธรรมชาติ ความก้าวหน้าของมันในส่วนของความแข็งแกร่งสำหรับพวกมันแล้วเป็นสิ่งที่ยากลำบากอย่างมากและมันก็ต้องใช้เวลานาน
แม้ว่าคนส่วนใหญ่กำลังเดินเท้า แต่การเดินทางก็เป็นไปอย่างรวดเร็ว หลังจากการเดินทาง 1 ชั่วยามในที่สุดทุกคนก็มาถึงเทือกเขาสัตว์อสูร
เมื่อเห็นพืชพรรณที่เชียวชอุ่มด้านหน้า เจี้ยนเฉินก็ลงจากม้าของเขาและเดินเท้าเข้าไปในป่าพร้อมกับคนในกลุ่ม ม้าขาวอยู่ด้านหลัง แต่เจี้ยนเฉินรู้ว่าหลังจากนี้ไม่นานมันก็จะจากไปด้วยตัวมันเอง
จากนี้ไปทุกคนต้องระวัง แม้ว่าป่าที่นี่จะมีสัตว์ป่ามากกว่าสัตว์อสูร แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะวางใจได้ หัวหน้าเคนดัลมองไปที่ทุกคนอย่างจริงจังก่อนที่จะพูดต่อ ดีรี่, หูป๋อและข้าจะเดินอยู่ด้านหน้า จ้าวต้าไค,จ้าวเสี่ยวไคและฉางหนิงเฟยจะเดินอยู่หลังกลุ่ม ส่วนที่เหลือจะอยู่ตรงกลางของพวกเราทั้ง 6 คน
หลังจากนั้นในกลุ่มก็เข้าประจำตำแหน่งตามคำสั่งจากเคนดัลและเดินหน้าต่อไป บนถนนแม้ว่าจะมีสัตว์ป่าจำนวนมากเข้ามาโจมตี แต่ความแข็งแกร่งของพวกมันก็ไม่ได้เท่ากับสัตว์อสูรระดับ 1 มันไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อกลุ่มของพวกเขาเลย
หลังจากผ่านไป 3 ชั่วยาม ทหารรับจ้างเปลวเพลิงก็มาถึงอีกด้านหนึ่งของป่าและเข้าไปในเขตรอบนอกของเทือกเขาสัตว์อสูรที่มีสัตว์อสูรระดับ 1 อยู่
หัวหน้าเคนดัลผู้ซึ่งกำลังเดินอยู่ด้านหน้ากลุ่มก็กลับมาและพูดกับทุกคนว่า ทุกคนเตรียมตัว ! จากนี้ไปเข้าสู่บริเวณที่สัตว์อสูรระดับ 1 และ 2 อาศัยอยู่
อย่างไรก็ตามก่อนที่หัวหน้าเคนดัลจะได้เตือน ทุกคนก็เตรียมตัวไว้แล้วยกเว้นเจี้ยนเฉิน ตอนนี้ทั้งกลุ่มต่างก็สอดส่องมองไปรอบ ๆ อย่างจริงจังมากขึ้น
ทั้งกลุ่มยังเดินเข้าในเทือกเขาสัตว์อสูร แต่หลังจากเดินเข้ามาได้ 2 ชั่วยาม พวกเขาก็ยังไม่เห็นสัตว์อสูรเลย
ภายในกลุ่ม เจี้ยนเฉินยังคงเดินเข้าไปต่อพร้อมกับหรี่ตามองด้วยความนิ่งเฉย ในระหว่างนั้นเขารู้ว่ามีสัตว์อสูรบางตัวทำอะไรบางอย่างแถว ๆ นี้ อย่างไรก็ตามมีสัตว์อสูรตัวนั้นได้ซุ่มตัวอยู่ห่างจากพวกเขาเพียง 10 เมตร พวกมันไม่ได้เข้ามาโจมตี ทำให้เจี้ยนเฉินงุนงงอย่างไม่เชื่อว่าทำไมพวกมันถึงทำอย่างนั้น
เป็นไปได้ไหมว่าสัตว์อสูรตัวนี้จะตระหนักถึงความแข็งแกร่งของกลุ่มของเราและไม่ต้องการตาย ? เจี้ยนเฉินขมวดคิ้วเมื่อเขาคิดกับตัวเอง เมื่อก่อนที่เขาเคยอยู่ในเทือกเขาสัตว์อสูร เขาก็ไม่เคยเจอพวกมันทำท่าทีอย่างนี้
เจี้ยนเฉินทนไม่ไหวอีกต่อไปเขาจึงถามขึ้นว่า ลุงเคนดัล ท่านไม่รู้หรือว่ามันมีบางอย่างผิดปกติ ?
ทุกคนได้ยินคำถามของเจี้ยนเฉิน ทั้งกลุ่มหันมามองที่เขา เคนดัลก็ถามว่า เจี้ยนเฉิน มันมีอะไรผิดปกติรึ ?
เจี้ยนเฉินลังเลก่อนที่จะพูดว่า ที่นี่เป็นที่ที่สัตว์อสูรระดับ 1 อยู่ แล้วทำไมเรายังไม่เจอมันแม้แต่ตัวเดียวล่ะ ?
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ทุกคนก็ถอนหายใจออกมา พวกเขาคิดว่าเจี้ยนเฉินเคยเจอเหตุการณ์ที่โชคร้ายบางอย่าง
เคนดัลหัวเราะและพูดว่า เจี้ยนเฉินนี่เป็นเรื่องธรรมดามาก ถึงแม้ว่านี่จะเป็นพื้นที่ที่สัตว์อสูรระดับ 1 อยู่ แต่เทือกเขาสัตว์อสูรนั้นกว้างใหญ่อย่างมากและนี่ก็เป็นเพียงหนึ่งในเส้นทางในหลาย ๆ เส้นทางของสัตว์อสูร การเจอสัตว์อสูรนั้นยากมากและไม่ได้เกิดขึ้นทุกครั้งที่เราเข้ามา แต่ก่อนก็เป็นอย่างนี้
คิ้วของเจี้ยนเฉินขมวดเข้าหากันมากขึ้น ในใจของเขาเขารู้ว่านี่ไม่ใช่อย่างที่ควรจะเป็น
หัวหน้าเคนดัล เป็นไปได้ไหมที่ท่านจะไม่เจอสัตว์อสูรระดับ 1 เลย ? เจี้ยนเฉินถาม
ไม่ใช่อย่างนั้น เราแค่ไม่เห็นมันบ่อยนัก สัตว์อสูรส่วนใหญ่ที่ปรากฏก็เป็นระดับ 2 หรือ 3 แน่นอนว่าบางครั้งที่เราไม่เห็นสัตว์อสูรระดับ 1 เลยแม้แต่น้อย เขาตอบคำถามของเจี้ยนเฉินอย่างอดทน
หัวหน้าเคนดัลโดยปกติแล้วท่านจะได้แกนสัตว์อสูรกี่อัน ? เจี้ยนเฉินถาม
ไม่มากไม่น้อยเกินไป หัวหน้าเคนดัลคิดก่อนที่จะพูดว่า โดยปกติเราจะได้แกนสัตว์อสูรระดับ 2 มาประมาณ 4-5 อันในวันเดียว บางวันอาจจะได้ถึง 6-7 ถ้าโชคดี แกนสัตว์อสูรระดับ 3 ก็จะน้อยลงไปอีกเพราะสัตว์อสูรระดับ 3 นั้นก็ยากที่จะฆ่าได้เช่นกัน สำหรับเราที่มักจะเลี่ยงอาการบาดเจ็บ ด้วยเหตุนี้หากเราเจอสัตว์อสูรระดับ 3 ตัวไหนก็ตามเราก็พยายามที่จะไม่ไปยั่วยุมัน
เคนดัลหยุดพูดอยู่พักหนึ่งและพูดต่อว่า เมื่อดีรี่ได้ทะลวงไปเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญ ด้วยความแข็งแกร่งของเขา มันก็เป็นเรื่องง่ายที่จะฆ่าสัตว์อสูรระดับ 3 อย่างไรก็ตามกว่าดีรี่จะได้กลายมาเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญ พวกเราต่างก็พยายามที่จะหลบเลี่ยงสัตว์อสูรระดับ 3 แม้ว่าแกนของมันจะขายได้ราคาดีกว่าสัตว์อสูรระดับ 2 แต่ข้าก็ไม่ต้องการให้ใครบาดเจ็บ หากเราได้เงินเพิ่มขึ้นมาเพียงเล็กน้อยแลกกับชีวิตของเรา เราจะยอมอย่างนั้นรึ?