เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1114: เข้าไปที่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์
ตอนที่ 1114: เข้าไปที่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์
ทั่วทั้งถนนอยู่ในความเงียบสงัด ทุกคนจ้องไปที่หนวดทั้งสิบแปดเส้นของจูป้าตาโต ในขณะที่จิตใจของพวกเขาปั่นป่วน
ในเขตเมืองศักดิ์สิทธิ์ จูป้าเป็นจอมยุทธที่เป็นที่รู้จักกันดี เขาเป็นที่รู้จักในความไร้เทียมทานกับคนในระดับเดียวกันกับเขาและเขาไม่เคยแพ้ มีเพียงหัวหน้าเผ่าใหญ่ทั้งสามที่ไม่เคยปรากฎตัวเลยมาเป็นร้อยปีแล้วที่สามารถสู้กับเขาได้อย่างสูสี แต่ดันมีบางคนที่ทำให้หนวดทั้งสิบแปดของเขาขาดได้อย่างง่ายดายในเมืองศักดิ์สิทธิ์ โดยที่เขาไม่มีโอกาสสู้คืนเลย ทุกคนยากที่จะเชื่อผลลัพธ์เช่นนี้
“ตาของข้ฝาดไปหรือเปล่า ? มีคนที่ไล่ราชาจูป้าไปได้และทำให้เขาต้องทิ้งหนวดทั้งสิบแปดเส้นเพื่อที่จะหนีไป เขาไม่ได้แม้แต่จะทิ้งคำขู่อะไรเอาไว้ด้วยเลย…”
“จอมยุทธคนนั้นเป็นใครกัน ? แม้แต่ราชาจูป้าที่เป็นที่รู้จักดียังไม่ใช่คู่มือของเขา ความแข็งแกร่งของคนผู้นั้นไม่น่ากลัวไปหน่อยหรือ…”
“คนที่ทำให้หนวดทั้งสิบแปดเส้นขาดได้นั้นต้องเป็นจอมยุทธ 15 ดาวเป็นแน่ มีเพียงจอมยุทธ 15 ดาวเท่านั้นที่จะมีพลังที่จะทำแบบนี้ได้…”
“จอมยุทธ 15 ดาวได้มาที่เมืองของพวกเรา…”
คนบนถนนกลับมาได้สติอีกครั้งหลังจากที่ผ่านไปนานสักพัก เสียงโกลาหลเกิดขึ้นและหลายคนก็เต็มไปด้วยอารมณ์ จอมยุทธ 15 ดาวนั้นไม่ได้พบเห็นได้ทั่วไปในอาณาจักรทะเล เพราะพวกเขาส่วนมากนั้นจะอยู่ในการเก็บตัวฝึกฝน หายากมากที่พวกเขาจะออกมาด้านนอก
โรงเตี้ยมยังคงเงียบอยู่ ทุกคนจ้องไปที่เจี้ยนเฉินที่นั่งอยู่คนเดียวด้วยความกลัวและความเคารพที่ปกปิดเอาไว้ไม่ได้
จอมยุทธทั้งสองที่ถูกนักผจญภัยฟ้าครามรับสมัครมาค่อนข้างหน้าซีด ในตอนที่เจี้ยนเฉินเข้าร่วมกับพวกเขาครั้งแรก พวกเขาทั้งสองพูดจาในเชิงว่าร้ายให้เจี้ยนเฉิน ในตอนนี้เจี้ยนเฉินได้แสดงให้เห็นความแข็งแกร่งที่สุดยอดของเขา พวกเขาก็กลัวขึ้นมาทันที
โดยเฉพาะสัตว์อสูรที่ไปยั่วยุเจี้ยนเฉินในตอนแรกนั้นก็ได้รับผลกระทบอย่างมาก เขาเต็มไปด้วยความเสียใจที่ทำลงไป ถ้าเขารู้ว่าเจี้ยนเฉินแข็งแกร่งขนาดนี้ เขาก็คงไม่พูดจาแบบนั้นเว้นเสียแต่ว่าเขาจะมีความกล้ามากกว่านี้เป็นร้อยเท่า
สัตว์อสูรลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะเดินไปถึงที่ข้าง ๆ เจี้ยนเฉินอย่างไม่สบายใจ เขาพูดเสียงทุ้ม “ผู้อาวุโสหยางยู่เทียนที่เคารพ ข้าอยากจะถอนคำพูดที่ข้าพูดก่อนหน้านี้และขอโทษท่าน ข้าหวังว่าท่านจะใจกว้างและยกโทษให้กับความหยาบคายของข้าก่อนหน้านี้” สัตว์อสูรเต็มไปด้วยความเคารพ คำขอโทษของเขานั้นออกมาจากก้นบึ้งของจิตใจของเขา เขาเข้าใจผลของการที่ไปทำให้จอมยุทธ 15 ดาวโกรธดี
เจี้ยนเฉินมองไปที่เขา “เจ้าก็ฉลาดดี ข้าต้องการที่จะคิดบัญชีเจ้าอยู่เหมือนกันก่อนหน้านี้ แต่เจ้าก็มาขอโทษด้วยตัวเอง ยังไงก็เถอะ เมื่อเจ้ารู้ว่าเจ้าทำอะไรลงไปแล้ว ลงโทษด้วยการตบหน้าตัวเองและจากไปซะเดี๋ยวนี้”
“ข้าขอบในความมีน้ำใจของผู้อาวุโสหยางยู่เทียน” สัตว์อสูรรู้สึกเหมือนได้รับการยกโทษ เขาโค้งอย่างเคารพไปที่เจี้ยนเฉิน ก่อนที่จะตบปากตัวเองอย่างเฉียบขาดไปหลายครั้ง หลังจากนั้น เขาก็จากไปอย่างรวดเร็ว
โชวชูหยุนเดินเข้ามาและยิ้มอย่างบิดเบี้ยว “ข้าไม่คิดมาก่อนเลยว่าเจ้าจะเป็นจอมยุทธ 15 ดาว ข้าช่างเพิกเฉยและไม่รู้ว่าท่านเป็นคนที่เยี่ยมขนาดนี้ก่อนหน้านี้ ได้โปรดอภัยให้ข้าด้วย”
“โอ้ หยางยู่เทียน เจ้าเป็นจอมยุทธ 15 ดาวจริง ๆ หรือ ? เจ้าบอกข้าได้หรือไม่ว่าเจ้าฝึกฝนยังไง ? เจ้าฝึกฝนมากี่ปีแล้ว และเจ้าอยู่ในระดับไหนแล้วในตอนนี้ ? ข้าอิจฉาเจ้าจริง ๆ จอมยุทธ 15 ดาวเป็นเซียนราชา” หญิงคนเดียวในกลุ่มนักผจญภัยฟ้าครามเดิมออกมา นางจ้องไปที่เจี้ยนเฉินด้วยตาที่ลุกวาว ในขณะที่ใบหน้าของนางแสดงความชื่นชมออกมา
นางดูเหมือนจะมีอายุยี่สิบกว่าปี นางเต็มไปด้วยชีวิตชีวาและน่ารักด้วยดวงตาคู่โตของนาง แม้ว่าหน้าตาของนางจะไม่จัดว่ามีเสน่ห์ แต่นางก็งดงามอย่างหาคนเทียบได้ยาก
“หลินเอ๋อ อย่าหยาบคาย” โชวชูหยุนจ้องไปที่หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาก่อนที่ยิ้มให้เจี้ยนเฉิน “นี่คือลูกสาวของข้า โชวหลิน นางยังเด็ก นางจึงเป็นหญิงที่โง่งม ข้าหวังว่าท่านจะไม่ถือโทษโกรธนาง”
“ไม่มีปัญหาหรอก หัวหน้าโชวชูหยุน พวกเราไปที่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เถอะ” เจี้ยนเฉินพูด
หลังจากนั้นโชวชูหยุนก็เรียกคนในกลุ่มของเขามาหลังจากที่เจี้ยนเฉินออกไปแล้ว พวกเขามุ่งหน้าไปที่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าพวกเขาจะมีเพียง 10 คนจาก 11 คนก่อนหน้านี้
ข่าวเรื่องที่หนวดทั้งสิบแปดเส้นของราชาจูป้าถูกตัดโดยจอมยุทธ 15 ดาวโด่งดังไปทั่วทั้งเมืองหลังจากที่พวกเขาจากไป ข่าวทำให้เกิดความโกลาหลใหญ่ และเผ่าใหญ่ทั้งสามต่างก็ได้ยินเรื่องนี้เช่นกัน
Lan Mo became rather pale in the Lanshan clan. He mumbled, “I never thought he was actually a 15th Star expert. Fortunately, I held back in the tavern, or I probably wouldn’t have been able to make it back to the clan safely. Only our ancestor who’s disappeared for several decades can deal with an expert like that.”
หลันโม่ค่อยข้างหน้าซีดในเผ่าหลันชาน เขาพึมพำ “ข้าไม่คิดว่าเขาจะเป็นจอมยุทธสิบห้าดาวจริงจริง โชคดีที่ข้ายังถอยในโรงเตี้ยม ไม่งั้นข้าอาจจะไม่ได้กลับมาที่เผ่าอย่างปลอดภัย มีเพียงหัวหน้าตระกูลที่หายไปแล้วหลายทศวรรษเท่านั้นที่จะสามารถรับมือกับจอมยุทธแบบนั้นได้”
อย่างไรก็ตาม สายตาของหลันโม่ก็เป็นประกายเย็นชา เขาพูดออกมาอย่างเยือกเย็น “เผ่าใหญ่ของเมืองดีออคก็ได้ข่าวเกี่ยวกับเรื่องของน้ำศักดิ์สิทธิ์ของโลกเช่นกัน พวกเขาได้ส่งจอมยุทธไปที่นั่นแล้ว เจ้าไม่ใช่แค่จอมยุทธ 15 ดาวเพียงคนเดียวหรอก”
อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์เต็มไปด้วยอันตราย ไม่เพียงแต่มันจะอันตรายเพราะสัตว์ที่ดุร้ายที่อยู่ในนั้นเท่านั้น มันยังมีธรรมชาติที่อันตรายอยู่ด้วย มันมีสิ่งแปลก ๆ ที่ทรงพลังซึ่งแม้แต่เซียนผู้คุมกฎขังจำเป็นต้องหลีกเลี่ยง
เจี้ยนเฉินได้เข้ามาที่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์กับนักผจญภัยฟ้าครามแล้ว พวกเขาเดินผ่านเขตรกร้างเข้าไป พลังลึกลับกระจายไปทั่วบริเวณและข่มพลังแห่งการรับรู้ของเจี้ยนเฉินเอาไว้ เขาขยายมันออกไปได้แค่น้อยกว่าพันเมตรและอยู่ในระยะการมองเห็นของเขาเท่านั้น แม้แต่การบินยังถูกข่มเอาไว้ เมื่อเขาลอยขึ้นไป 3 เมตรเหนือพื้นดิน เขาก็จะถูกกดลงมาโดยพลังที่ลึกลับและทรงพลัง เจี้ยนเฉินไม่สามารถต่อต้านมันได้ด้วยความแข็งแกร่งที่เขามี
พวกเขาเดินไปพูดไป เจี้ยนเฉินก็ได้รู้เกี่ยวกับชื่อของเซียนผู้คุมกฎมนุษย์คนอื่นที่ถูกรับสมัครมา เขาชื่อลุยจุน
ตามเส้นทาง พวกเขาเจอกับสัตว์ที่ไม่รู้ประสีประสาบางตัว พวกมันไม่ทรงพลัง ดังนั้นพวกมันจึงถูกจัดการจากโชวหลินและเซียนสวรรค์คนอื่น ๆ
ทันใดนั้นเอง เสียงคำรามแปลก ๆ ของสัตว์ก็ดังขั้นมา สัตว์ดุร้ายที่เหมือนปูก็ปรากฎขึ้นต่อหน้าทุกคน พวกมันทั้งหมดยาว 10 เมตรและมีหางยาว กระดองของพวกมันมีหนามยาว 5 เมตร ในขณะที่พวกมันกรูเข้ามาแต่ไกล
“พวกมันเป็นสัตว์ดุร้าย 12 ดาว ! งานของพวกเราจะเริ่มกันตรงนี้ ! ” โชวหลินร้องออกมาอย่างยินดี เซียนสวรรค์อีก 7 คนพุ่งเข้าไปที่สัตว์ทั้งสามพร้อมกัน และเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งใหญ่ในไม่ช้า
โชวชูหยุนถอนหายใจเบา ๆ ในขณะที่เขามองดูคนทั้งแปดกำลังต่อสู้กับปู “ในตอนแรกพวกเราเป็นศิษย์ของนิกายขนาดกลางที่อยู่เหนืออาณาจักรทะเล นอกเหนือจากโชวหลินแล้ว ก็มีศิษย์ชั้นนำอีก 7 คน หลังจากนั้น ศัตรูของหัวหน้านิกายของพวกเราก็มาจัดการกวาดล้างพวกเราทั้งนิกาย ทุกคน คนมากกว่าห้าพันคนถูกฆ่า นั่นรวมถึงหัวหน้านิกายและผู้อาวุโสสูงสุดหลายคน”
“ในระหว่างช่วงเวลานั้น ข้าก็บังเอิญฝึกอยู่อีกเกาะกับพวกเขาทั้งเจ็ดพอดี ซึ่งทำให้พวกเราหลีกเลี่ยงหายนะครั้งนี้มาได้ พวกเรามาที่อาณาจักรหลังจากนั้น แต่แม่ของโชวหลินก็ตายในนิกายแล้ว”
สายตาของโชวชูหยุนเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขาไม่สามารถทนเรื่องในอดีตได้ มันเต็มไปด้วยความทรงจำที่ปวดร้าว จิตใจของเขาปวดร้าวทุกครั้งที่เขาหวนคิดถึงอดีต
“พวกเราอยู่ในอาณาจักรทะเลมามากกว่าสามร้อยปีแล้วและพวกเราก็ฝึกฝนอยู่ในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์อยู่เสมอ พวกเราใช้สิ่งของที่พวกเราได้มาจากที่นี่เพื่อแลกเปลี่ยนกับเหรียญผลึกเพื่อที่พวกเราจะได้ฝึกหนักได้ หลังจากที่ผ่านไปสามร้อยปี ข้าก็กลายเป็นเซียนผู้คุมกฎ ในขณะที่คนอื่น ๆ ก็กลายเป็นเซียนสวรรค์วัฏจักรที่ 6 จากเซียนปฐพี พวกเขาติดอยู่คอขวดในการเป็นเซียนผู้คุมกฎ”
“ความปรารถนาสูงสุดของข้าคือเมื่อข้าแข็งแกร่งถึงระดับหนึ่งแล้ว ข้าต้องการที่จะไปล้างแค้นให้เมียของข้า ข้ารู้ว่ามันเกือบที่จะเป็นไปไม่ได้ แต่ข้าก็ทำงานอย่างหนักมาตลอดในเส้นทางนี้” โชวชูหยุนมองไปที่เส้นขอบฟ้าด้วยสายตาที่มุ่งมั่น
เจี้ยนเฉินไม่ได้พูดอะไร เขาฟังเรื่องของโชวชูหยุนเงียบ ๆ เขาไม่ได้ตื้นตันเลยเพราะเรื่องที่คล้าย ๆ กันกับเรื่องของโชวชูหยุนนี้ เกิดขึ้นนับไม่ถ้วนบนทวีปเทียนหยวน
มันไม่มีวิธีการใดหรอกที่จะทำให้พวกนักผจญภัยไม่รู้สึกเจ็บปวด
ในตอนนี้เอง โชวหลินและอีกเจ็ดคนก็ฆ่าสัตว์ดุร้ายทั้งสามไปแล้ว พวกเขากลับมาที่ข้าง ๆ โชวชูหยุนอย่างเสียดาย พวกเขาพูด “น่าเสียดายที่ไม่มีหินฟ้าสะเทือนเลย”
หินฟ้าสะเทือนเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการสร้างฟ้าสะเทือน พวกมันปรากฏอยู่ในร่างของสัตว์ดุร้ายที่อาศัยอยู่ในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ แต่พวกมันก็ไม่ได้ปรากฏขึ้นในพวกมันทุกตัว เมื่อใส่พลังงานลงไปในหินฟ้าสะเทือนแล้ว มันก็จะกลายเป็นฟ้าสะเทือน
กลุ่มมุ่งหน้าต่อไป แต่ท้องฟ้าก็เริ่มมืดลงมากหลังจากนั้น เสียงครึ้มดังของฟ้าร้องดังมาแต่ไกล
“แปลกจัง ทำไมถึงได้มีฟ้าร้องที่นี่ ? ฝนกำลังจะตกอย่างนั้นหรือ ? ” เจี้ยนเฉินจ้องไปที่ท้องฟ้าอย่างสงสัย ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เขากำลังอยู่ใต้ทะเล ม่านพลังของอาณาจักรทะเลแยกแผ่นดินนี้ออกจากน้ำทะเลเบื้องบนและสถานที่นี้ไม่ได้รับแสงแดดเลย ดังนั้นมันน่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะมีพายุเกิดขึ้นที่นี่
โชวชูหยุนและคนอื่น ๆ เคร่งเครียดทันทีเมื่อพวกเขาเห็นสภาพอากาศ โชวชูหยุนคำรามออกมา “บ้าเอ้ย อากาศในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์เปลี่ยนไปอีกครั้งแล้ว พวกเราควรจะหาถ้ำให้ไว ไม่งั้นแม้แต่เซียนผู้คุมกฎยังยากที่จะรอดไปได้”
“มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรือ?” เจี้ยนเฉินยิ่งประหลาดใจหนักขึ้นไปอีกในใจ
“พายุที่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์นั้นแตกต่างจากด้านนอกเช่นเดียวกันกับฝน สายฟ้าที่นี่นั้นหนาแน่นมาก มันยากมากที่จะหลีกเลี่ยงมันได้บนพื้นดิน และเมื่อถูกฟ้าผ่าเจ้า มันจะทำให้วิญญาณบาดเจ็บ เซียนสวรรค์จะตายอย่างไม่มีข้อยกเว้น แม้แต่เซียนผู้คุมกฎยังทนได้แค่สองสามครั้ง และถ้าโดนผ่าไปเป็นพันครั้ง แม้แต่เซียนราชาก็ยังตายได้ ในอีกมุมหนึ่งนั้น ฝนที่นี่ก็กัดกร่อนมาก มันจะกัดกินร่างกายของเจ้าและมันสามารถทะลุพลังป้องกันได้ ไม่ว่าวัตถุนั้นจะแข็งแกร่งเพียงไหน มันก็ไม่สามารถทนการกัดกร่อนของฝนได้” โชวชูหยุนอธิบาย เขาวิ่งไปอย่างเร็วเพื่อต้องการที่จะผ่านที่ราบนี้ไปและไปถึงที่ภูเขาด้านหน้าก่อนที่ฝนจะตก
เจี้ยนเฉินจ้องไปที่ท้องฟ้าที่มืดมัว เขาพูด “พวกเราอาจจะไปไม่ทัน ฝนกำลังจะตกแล้ว”
เสียงฟ้าร้องดังไปรอบ ๆ ในขณะที่เสียงระเบิดด็ดังออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั่วทั้งโลกเหมือนสะท้อนไปด้วยแสงฟ้าผ่า ฟ้าผ่าเป็นแสงสว่างอยู่แต่ไกล สายฟ้าที่นี่น่ากลัวกว่าที่ใดใด มันปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณหลายกิโลเมตรในตอนที่มันผ่าลงมา มันผ่ากราดไปทุกตารางนิ้ว การหนีจากมันนั้นคงเป็นไปไม่ได้ถ้าพวกเขาอยู่ในเขตที่มันผ่าลงมา