เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1165: เซียนจักรพรรดิทั้งสี่รวมตัว
ตอนที่ 1165: เซียนจักรพรรดิทั้งสี่รวมตัว
ชายชราพิเศษทั้งห้าคนจากเมืองทหารรับจ้างเริ่มใช้ทักษะลับของพวกเขาอีกครั้ง เนื่องจากพวกเขาใช้พลังงานมากเมื่อพวกเขาใช้ทักษะนี้ในครั้งแรก พวกเขาจึงสามารถบอกได้ทันทีว่าพวกเขาใกล้จะตายแล้ว พวกเขาไม่เหลือพลังงานมากนักและชีวิตของเขาก็ดับสูญได้ทุกเวลา พวกเขามาถึงช่วงสุดท้ายของชีวิตแล้ว ดังนั้นการใช้พลังอีกครั้งจึงยากกว่าครั้งแรกอย่างมาก ขอเพียงให้เวลาพวกเขาได้รวบรวมพลังมากกว่าเดิม
เจี้ยนเฉินฆ่าผู้คนร่วมกับเฮยยู่และหงเหลียน เขาใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขาที่อยู่ในเซียนราชาชั้นสวรรค์ขั้น 7 จนถึงขีดสูงสุดและดูเหมือนว่าจะท้าทายเซียนราชาชั้นสวรรค์ขั้น 8 ได้ วัตถุเซียนลอยอยู่เหนือหัวของเขาคอยปิดกั้นการโจมตีที่ทรงพลังจากชั้นสวรรค์ขั้น 9 เป็นครั้งคราว
แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้นเขาก็ยังเต็มไปด้วยเลือด มีเลือดของเขาผสมกับเลือดของศัตรู ตัวของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล แต่ความแข็งแกร่งของเขายังเหมือนเดิมและการปรากฏตัวของเขานั้นที่มีร่างบรรพกาลแผ่ความกดดันออกมา
รุยจินและมารราคะต่อสู้กันอย่างดุเดือด พวกเขาใช้ความแข็งแกร่งของพวกเขาทั้งสองเข้าปะทะกัน ดังนั้นการปะทะกันทุกครั้งจึงเกิดแรงทำลายล้างเกิดขึ้นบนท้องฟ้าด้านบนและความเย็นยะเยือกที่แผ่ออกมาจากพื้นที่นั้น
หงเหลียน, เฮยยู่และเจี้ยนเฉินได้ฝ่าวงล้อมออกจากเซียนราชา ในขณะที่ชุดเกราะของหงเหลียนถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นขนนกอีกครั้ง มันยาวกว่า 100 เมตรและมีเปลวไฟสีขาวลุกไหม้อย่างไม่มีวันมอดดับ มันก่อกำแพงเพลิงขนาดใหญ่ขัดขวางเซียนราชากลางอากาศ
ข้าจะหยุดพวกเขา เฮยยู่ออกไปกับเจี้ยนเฉินก่อน หงเหลียนรักษากำแพงไฟขณะที่นางหันหลังและออกคำสั่งกับเฮยยู่
เฮยยู่พยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรเพิ่ม เขาคว้าแขนเจี้ยนเฉินทันทีและบินออกไปอย่างไกล เขาต้องการหาพื้นที่ที่มั่นคงเพื่อสร้างประตูมิติและออกไป อาการของเขากำเริบอย่างรุนแรงกว่าเดิม หากเขาไม่ได้ควบคุมได้ทันเวลา เขาอาจจะเหลือแต่ชื่อ
อย่าคิดว่าจะออกไปได้ง่าย ๆ ! ในเวลานั้นมีคนพูดจาเยาะเย้ยในพื้นที่ใกล้ ๆ พื้นหลายร้อยเมตรด้านหน้ากระเพื่อมเล็กน้อยก่อนที่จะมีชายร่างใหญ่สองคนโผล่มา
การปรากฏตัวของทั้งสองทำให้สีหน้าของเจี้ยนเฉินและเฮยยู่เปลี่ยนแปลงไป เฮยยู่จ้องด้วยใบหน้าที่น่าเกลียดและตะโกนว่า ผู้คุมกฏจากทวีปสัตว์เทวะ ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าสองคนจะมา
ทั้งสองคือไคเซอร์และจักรพรรดิเสือ แต่เมื่อเทียบกับครั้งที่แล้วพวกเขาทั้งคู่ดูซีดเซียว
ไคเซอร์จ้องไปยังวัตถุเซียนที่อยู่เหนือหัวเจี้ยนเฉินสักครู่ก่อนที่จะตาของเขาจะเป็นประกายพร้อมกับพูดเยาะเย้ย ส่งผลไม้เซียนมาเราจะไม่สร้างความลำบากให้กับเจ้า
เจี้ยนเฉินเก็บวัตถุเซียนออกไป เสือขาวกำลังซ่อนตัวอยู่ในนั้น ดังนั้นเขาจึงต้องกำจัดถึงความเป็นไปได้ของไคเซอร์ทั้งหมดไม่ให้เขาขโมยวัตถุเซียน ต่อจากนั้นเมื่อเขาพลิกมืออีกรอบ โถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดที่ถูกไคเซอร์ทุบจนเกิดรอยบิ่นก็ปรากฎขึ้นมา
โถงศักดิ์สิทธิ์ได้ทำการซ่อมแซมตัวเองอยู่เสมอ แต่มันค่อนข้างช้า ดังนั้นมันจึงดูเหมือนว่ามันดีขึ้นกว่าครั้งก่อนเล็กน้อย อย่างไรก็ตามมันยังสามารถต้านทานการโจมตีของเซียนจักรพรรดิได้
ดูเหมือนว่าบทเรียนครั้งก่อนที่จิตวิญญาณม่านพลังของเมืองทหารรับจ้างสั่งสอนจะยังไม่เพียงพอ เจ้าต้องการเจอแบบเดิมอีกครั้ง ?
เศษเสี้ยวแห่งความหวาดกลัววาบผ่านสายตาของไคเซอร์และจักรพรรดิเสือเมื่อเขาได้ยินคำพูดที่ว่า จิตวิญญาณม่านพลัง พวกเขาได้ยังคิดต่อไปว่ามันกลัวอย่างมากสำหรับวิญญาณที่ถูกขวางกั้น มันก็เพราะว่ามันเกินกว่าเซียนจักรพรรดิอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตามดวงตาของไคเซอร์ก็เย็นชาอีกครั้ง เขาพูดอย่างเย็นชาว่า เราอยู่ใกล้เมืองทหารรับจ้างเกินไปในครั้งที่แล้ว ซึ่งเป็นสาเหตุให้จิตวิญญาณม่านพลังขัดขวางพวกเราได้ แต่ตอนนี้เราอยู่ไกลจากเมืองทหารรับจ้างมาก ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จิตวิญญาณจะมาที่นี่ เจ้าควรจะยอมแพ้แทนที่จะอาศัยมัน
อุณหภูมิที่น่ากลัวที่ด้านหลังหายไป หงเหลียนได้เก็บขนนกและรวมกันเป็นเกราะขนนกอีกครั้ง นางถูกห่อหุ่มด้วยเปลวเพลิงสีขาวอย่างน่าสะพรึงขณะที่พุ่งเข้าหาไคเซอร์พร้อมยังทิ้งรอยสีขาวเอาไว้ นางไม่ได้สนใจผู้เชี่ยวชาญมนุษย์ที่อยู่ด้านหลัง เซียนจักรพรรดิจากทวีปสัตว์เทวะทั้งสองน่ากลัวกว่ามาก นางรู้ว่ามันยากที่จะหลบเลี่ยงพวกเขาเมื่อพวกเขาอยู่ใกล้กับเจี้ยนเฉิน
เฮยยู่กัดฟันของเขา แม้ว่าเขาจะถูกวางยาพิษอย่างแรง เขาก็ไม่มีทางเลือกอืนตอนนี้ สิ่งที่เขาสามารถทำได้คือพุ่งเข้าไปและทำได้เพียงพัวพันจักรพรรดิเสือเอาไว้
เสียงคำรามของมังกรดังขึ้นไปทั่วท้องฟ้า รุยจินสังเกตเห็นสถานการณ์ด้านล่างขณะที่เขาต่อสู้กับมารราคะและเขาก็ละทิ้งคู่ต่อสู้ทันทีเพื่อกลับมา เขาพุ่งเข้ามาราวกับดาวหางสีทอง เขาพุ่งลงมาที่พื้นอย่างรวดเร็ว
มังกรทองเทวะ การต่อสู้ของเรายังไม่จบ ! มารราคะยังใช้ความสามารถของเซียนจักรพรรดิเคลื่อนไหวเร็วกว่ารุยจิน เขาป้องกันรุ่ยจินที่โจมตีด้วยพลังที่มหาศาล เขารั้งไม่ให้รุยจินเข้ามาช่วยเหลือได้
มารราคะ หรือว่าจริง ๆ แล้วเจ้าสมคบคิดกับผู้เชี่ยวชาญจากทวีปสัตว์เทวะ รุยจินเข้าใจได้ในทันทีถึงเบื้องหลังนี้ เมื่อคิดได้ใบหน้าของเขาก็มืดครึ้มเป็นอย่างมาก
มารราคะไม่ได้พูดอะไร เขาใช้ทุกสิ่งที่เขามีในฐานะจักรพรรดิเซียนเพื่อพัวพันรุยจิน พวกเขากลับไปยังพื้นที่เดิมและไม่มีใครสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้
เจี้ยนเฉินไม่ได้สนใจกับการต่อสู้ของรุยจิน, หงเหลียนและเฮยยู่ เขาใช้ทักษะมายาพริบตาบินออกไปอย่างรวดเร็วเท่าที่เขาจะทำได้ ตอนนี้เขาต้องพึ่งตัวเองแล้วเท่านั้น
ไคเซอร์และจักรพรรดิเสือเย้ยหยันในเวลาเดียวกันขณะที่เขามองเจี้ยนเฉินจากไป ไคเซอร์ถาม ซ่างเฉียง เจ้ายังไม่เคลื่อนไหวอีกหรือ ? ยิ่งเจ้าได้มันมาเร็วเท่าไร เราก็จะกลับได้เร็วขึ้น
มีอีกคนปรากฏขึ้นจากอากาศที่ว่างเปล่า ชายชราชุดขาวที่ผมสีเงินกำลังสบายอยู่กลางอากาศ เขามีเสน่ห์แบบแปลก ๆ และดูเหมือนว่าเขาจะให้ความรู้สึกอย่างผู้เป็นอมตะ
เซียนจักรพรรดิทั้งสามจากทวีปสัตว์เทวะก็มาทวีปเทียนหยวนเช่นกัน ด้วยการปรากฏตัวของพวกเขาทั้งสามมีเพียงบรรพชนที่ทรงพลังทั้งสิบจากตระกูลผู้พิทักษ์เท่านั้นที่จะหยุดพวกเขาได้
ผู้เชี่ยวชาญมนุษย์ทั้งคนดูหน้าตาบิดเบี้ยว เซียนจักรพรรดิทั้งสามจากทวีปสัตว์เทวะได้มารวมตัวกันที่นี่และเซียนจักรพรรดิของมนุษย์ก็ได้เปลี่ยนข้างไปร่วมมือกับเขาเพื่อขโมยผลไม้เซียน พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับขุมพลังไหนอีก
ผลไม้เซียนจะต้องตกอยู่ในมือสัตว์อสูรงั้นรึ ? ความรู้สึกที่ไร้อำนาจแผ่ขยายไปยังเซียนราชาทั้งหลายพร้อมทั้งมีความอับอายจากตระกูลผู้พิทักษ์อยู่ลึก ๆ ผลไม้เซียนเป็นของมนุษย์และมนุษย์ได้ใช้มันมาตั้งแต่สมัยโบราณ มันไม่เคยถูกชิงไปโดยสัตว์อสูรเลย มันจะกลายเป็นความอัปยศอย่างมากจนไม่อาจถอนตัวได้และถูกจารึกไว้ในประวิติศาตรย์หากผลไม้เซียนอยู่ในมือสัตว์อสูร
ซ่างเฉียงลอยอยู่บนฟ้าขณะที่เขามองไปยังด้านหลังของเจี้ยนเฉิน มีแสงประกายแห่งความลังเลปรากฏอยู่ในสายตาของเขา ผลไม้เซียนอยู่ที่้ขาจริง ๆ เขาเป็นคนคอยดูแลพยัคฆ์ปีกเทวะมาหลายปี เขาทำให้พยัคฆ์ปีกเทวะรอด ข้าจะลงมือกับเขางั้นรึ ? ข้าจะให้เขาเอาผลไม้เซียนไปและปล่อยให้เขาเลื่อนระดับเป็นเซียนจักรพรรดิ ? หรือว่าข้าจะเอาผลไม้มาเพื่อให้ไคเซอร์และจักรพรรดิเสือรักษาตัว ?
ในเวลานั้นมีคนปรากฏออกมาอยู่ไม่ไกล มันทรงพลังเทียบเท่าเซียนจักรพรรดิและจริง ๆ แล้วมันก็ดึงดูดความสนใจจากผู้เชี่ยวชาญของทวีปสัตว์เทวะทั้งสาม
หลังจากที่รวบรวมพลังมาเป็นเวลานานชายชราทั้งห้าจากเมืองทหารรับจ้างก็ใช้ทักษะลับสุดยอดได้อีกครั้ง พวกเขาทั้ง 5 กำลังหลอมรวมพลังด้วยกันเพื่อสร้างเป็นเงาร่างของโมเทียนหยุน
ผลไม้เซียนเป็นของมนุษย์ มนุษย์ทุกคนสามารถใช้มันได้ แต่มันไม่อาจให้คนนอกได้ ชายชราทั้งห้ากล่าวพร้อมกัน ต่อจากนั้นโมเทียนหยุนก็ยื่นมือของเขาออกมาและขยายยาวกว่า 3,000 เมตร เขาคว้าไปที่ซ่างเฉียงและกำมือลงมา จริง ๆ แล้วมันเป็นการผนึกเฉียนชิงเพื่อไม่ให้เขาดิ้นหลุด ในที่สุดเขาก็ถูกจับด้วยมือยักษ์
เสียงตูมดังสนั่นเนื่องจากซ่างเฉียงที่อยู่ในมือยักษ์โจมตีออกมาเพื่อพยายามฝ่าออกไป
ชายชราทั้งห้าสั่นอย่างหนัก พวกเขาซีดเซียวมาก ทักษะลับถูกใช้โดยพลังชีวิตของพวกเขา ดังนั้นมันจึงเทียบเท่ากับว่าพลังชีวิตของพวกเขาถูกดูดออกไป มันยากมากที่พวกเขาจะใช้ทักษะลับเป็นครั้งที่สอง ในปัจจุบันพวกเขาต้องใช้แก่นชีวิตจริง ๆ ของพวกเขา พวกเขาไม่อาจอยู่ได้นานนัก
จัดการ ! ในเวลาเดียวกันผู้อาวุโสใหญ่จากตระกูลเจียงหยางได้สื่อสารกันอย่างลับ ๆ พวกเขาสร้างผนึกด้วยมือของพวกเขาและใช้ทักษะลับโบราณ
ด้วยการยืมพลังจากโลก พื้นดินแปรเปลี่ยน ! พวกเขาตะโกนออกมาพร้อมกัน ทันใดนั้นพวกเขาก็หายตัวไปและย้ายไปอยู่ที่อื่นด้วยทักษะลับโบราณ พวกเขาเปลี่ยนตำแหน่งกับก้อนหินด้านข้างเจี้ยนเฉิน ทำให้พวกเขามาอยู่ข้าง ๆ เจี้ยนเฉินทันที
อย่าต่อต้าน ! ทำตัวตามสบาย ! เจียงหยางซูเซียวพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน พวกเขาใช้มือผนึกอีกครั้งและใช้ทักษะพื้นดินแปรเปลี่ยน คราวนี้พวกเขาเดินทางได้ไกลหลายสิบกิโลเมตรและมาปรากฏตัวอยู่ในดินแดนว่างเปล่าพร้อมเจี้ยนเฉิน
ตระกูลเจียงหยางหนีไปพร้อมกับผลไม้เซียน ! ผู้เชี่ยวชาญมนุษย์คนอื่นตะโกนออกมา พวกเขาติดตามออกไปอย่างรวดเร็ว
เจียงหยางชิงหยุนมองผู้คนที่ติดตามพวกเขามาและพูดอย่างหนักอึ้งว่า มิตินี้ไม่เสถียร ดังนั้นมันจึงยากมากที่จะสร้างประตูมิติ ไปกันเถอะ ! ผู้อาวุโสใหญ่อีกคนรีบออกไปจากพื้นที่นี้อย่างไม่ลังเลพร้อมกับเจี้ยนเฉิน
บัดซบ พวกเขาทำอย่างนี้ได้ไง ! ? ไคเซอร์และจักรพรรดิเสือก็อดไม่ได้ที่จะสถบออกมา พวกเขาหงุดหงิดอย่างมาก เดิมทีพวกเขาคิดว่าทุกอย่างจะไร้ที่ติ แต่พวกเขาก็ไม่คิดเลยว่าซ่างเฉียงจะมาติดกับและทำให้เจี้ยนเฉินหนีไปพร้อมกับผลไม้เซียน
ฟินิกซ์น้อย เจ้าแข็งแกร่งแต่ก่อน แต่เจ้าก็ยังไม่อาจทำร้ายข้าได้ ข้ามีเรื่องด่วนเพราะงั้นข้าจะสู้กับเจ้าในวันหลัง ไคเซอร์ตะโกนพร้อมกับไล่ตามเจี้ยนเฉินไป
อย่างไรก็ตามหงเหลียนได้ส่งปิ่นเทพเพลิงพุ่งไปหาไคเซอร์ทันที เปลวเพลิงสีขาวที่น่าหวาดหวั่นนั้นทำให้เขาต้องรับมือกับมันอย่างจริงจัง เขาไม่มีเวลาไล่ตามเจี้ยนเฉิน
ก่อนจะเป็นอย่างนั้นเจ้าต้องตัดสินกันในวันนี้ เจ้าไม่อาจเลี่ยงได้ ! หงเหลียนพูดอย่างเยือกเย็น การโจมตีของนางรุนแรงมากขึ้นก่อนที่จะพัวพันหงเหลียนเอาไว้ เฮยยู่ก็ใช้ทุกอย่างเพื่อพัวพันจักรพรรดิให้ตึงมือไม่อาจจากไปได้
แม้ว่ามารราคะและรุยจินจะต่อสู้กันอย่างรุนแรงในมิติ แต่พวกเขาก็ให้ความสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้านล่าง เมื่อเห็นว่าเจี้ยนเฉินหนีไปพร้อมกับผลไม้เซียนได้ มารราคะตื่นตระหนกทันที เขาไม่สนใจรุยจินอีกต่อไปและต้องการที่จะติดตามเจี้ยนเฉิน
จักรพรรดิมนุษย์ การต่อสู้ของเรายังไม่จบ !
พร้อมกับแสงสีทองวาบข้ามหัวรุยจินไปยังมารราคะขณะที่เขากำลังไม่มั่นคง เขาตัดเส้นผมของมารราคะได้และเกือบจะทำร้ายมารราคะได้
มารราคะถูกยั่วให้โกรธอย่างมาก ใบหน้าของเขาซีดขาว เขาเคยพูดแบบเดียวกับรุยจินมาก่อน เขาไม่คิดว่าจะถูกยอกย้อนด้วยคำพูดของเขาเองอย่างรวดเร็ว