เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1168: การกลับมาของตระกูลผู้พิทักษ์ (3)
ตอนที่ 1168: การกลับมาของตระกูลผู้พิทักษ์ (3)
มิติพังทลายและกลายเป็นชิ้น ๆ ยุบลงไป ขณะที่มิติขยายขึ้นเรื่อย ๆ จากระยะไกลมันดูเหมือนหลุมดำขนาดใหญ่ป้องกันไม่ให้รุยจิน,หงเหลียนและเฮยยู่เข้าใกล้ พวกเขาหลีกเลี่ยงมันไปห่างไกล
มารราคะหายไปในมิติที่ยุบตัว ขณะที่การมองเห็นของเขาถูกบดบัง
ไม่นานหลังจากนั้นมิติก็ค่อย ๆ ฟื้นตัวอย่างช้า ๆ และสุดท้ายมันก็ปิดตัวอย่างสมบูรณ์ และมารราคะไม่อาจเห็นได้อีก
เราปล่อยให้เขาหนีไปได้จริง ๆ หงเหลียนพูดอย่างโมโห
เซียนจักรพรรดิมีความสามารถไม่น้อย การเผชิญหน้ากับเซียนจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งกับพวกเราไม่จำเป็นต้องถาม แต่การสังหารเขาจะมีปัญหาบางอย่าง ถึงแม้ว่าเซียนจักรพรรดิมนุษย์จะได้รับการทรมาณจากข้า ดาบของข้าได้แทงไปที่อกของเขาและเขาก็ไม่อาจฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บของเขาได้ในเวลาสั้น ๆ เราอาจจะสังหารเขาไม่ได้ แต่เราก็ทำให้เขาต้องสูญเสียอย่างมาก รุยจินพูด เสียงของเขาเต็มไปด้วยความเสียใจ
เราไปหาเจี้ยนเฉินดีกว่า เขาถูกทิ้งให้อยู่กับคนของตระกูลผู้พิทักษ์ เขาอาจเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขา แต่ความสัมพันธ์ของครอบครัวและสหายก็ไม่สำคัญ ข้ากังวลว่าเขาจะตกอยู่ในอันตราย เขาเป็นความหวังเดียวของเราที่จะกลับไปที่ตระกูลของเรา ดังนั้นเราจึงไม่สามารถปล่อยให้เขาเกิดอุบัติเหตุกับเขาได้ นอกจากนี้สภาพของเฮยยู่ก็แย่ลงด้วย เขาต้องการได้รับการรักษาจากพลังเซียนธาตุแสง หงเหลียนอธิบายอย่างเคร่งเครียด
รุยจินพยักหน้า เขาออกไปพร้อมกับหงเหลียนและเฮยยู่ด้วยทักษะลับเพื่อไปหาที่ที่เจี้ยนเฉินอยู่
ด้วยการจากไปของกลุ่มต่าง ๆ เซียนราชาที่เหลือต่างก็ถอนหายใจก่อนที่จะออกเดินทางเช่นกัน หลายคนเต็มไปด้วยความอิจฉา, เสียใจและไม่อยากยอมแพ้
หลายคนคาดหวังว่าในวันหนึ่งพวกเขาจะกลายเป็นเซียนจักรพรรดิ ตำแหน่งของเขาจะยินอยู่ปลายห่วงโซ่ของตระกูลผู้พิทักษ์ ตอนนี้พวกเขาอดได้ผลไม้เซียนไปแล้ว พวกเขาพบว่ามันยากที่จะยอมรับที่ผิดหวังจากสิ่งที่คาดเอาไว้
นี่เป็นเพราะไม่มีเซียนราชาคนไหนไม่ต้องการเป็นเซียนจักรพรรดิ การที่จะยกระดับจากเซียนราชาไปเป็นเซียนจักรพรรดิ ไม่เพียงแต่จะมอบพลังให้พวกเขาเท่านั้น พวกยังมีชีวิตต่อไปได้อีกหลายพันปี
บริเวณที่อยู่ด้านนอกของรังมรณะกลายเป็นเงียบมาก ส่วนใหญ่เซียนราชาได้กลับไปแล้ว และเหลือเพียงเล็กน้อยที่อยู่เท่านั้น พวกเขาไม่เต็มใจที่จะจากไป
เมื่อเจี้ยนเฉินและผู้อาวุโสสูงสุดออกมาจากประตูมิติ พวกเขาก็ไม่ได้ใช้ประตูมิติเดิมอีกต่อไป พวกเขาไปหาพื้นที่มิติและเปิดรอยแยก มันเต็มไปด้วยพลังงานของโลกและทิวทัศน์ที่มีเสน่ห์ มันเป็นโลกใบเล็กที่งดงาม
เจี้ยนเฉินเหลือบมองไปรอบ ๆ ในขณะที่มีแสงวาบผ่านสายตาของเขา เขาเคยมาที่นี่มาก่อน ดังนั้นเขาจึงจำที่นี่ได้อย่างรวดเร็ว มันเป็นมิติของตระกูลผู้พิทักษ์เจียงหยาง เจียงหยางฉิงหยวนได้นำพวกเขากลับมายังตระกูลผู้พิทักษ์
มิติที่เป็นเอกเทศจากโลกภายนอกและประตูที่เชื่อมต่อกับโลกก็ปิดอย่างแน่นหนาภายใต้สถานการณ์พิเศษ มันแยกตัวออกมาอย่างสมบูรณ์ ผู้คนสามารถเข้า-ออกได้ด้วยวิธีพิเศษเท่านั้น ตอนนี้เขาอยู่ที่นี่ เจี้ยนเฉินไม่รู้สึกปลอดภัยเลย เขากลับรู้สึกถึงความอันตรายที่ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าตอนที่เขาถูกล้อมรอบไปด้วยวิญญาณแค้นระดับเซียนจักรพรรดิ
หัวใจเจี้ยนเฉินเต้นผิดจังหวะ แต่เขาก็ไม่ได้แสดงอะไรออกมาทางใบหน้าของเขา เขาจ้องมองผู้อาวุโสสูงสุดอย่างลับ ๆ พร้อมกับมองรอบ ๆ ตัว และเขาก็พบว่าพวกเขาต่างก็มีความสุขและความตื่นเต้นจากส่วนลึกของหัวใจ เจี้ยนเฉินยังสามารถเห็นได้ถึงความปรารถนาและความร้อนใจในสายตาของเจียงหยางชิงหยุน
ในเวลานั้นเจียงหยางชิงหยุนมองมาที่เจี้ยนเฉินและต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่เจี้ยนเฉินก็พูดตัดหน้าเขา ผู้อาวุโสสูงสุด ข้าได้รับบาดเจ็บหนักสาหัส ข้าต้องได้รับการรักษาทันที ไม่อย่างนั้นบาดแผลมันจะเรื้อรัง ปัจจุบันตัวของเจี้ยนเฉินอาบไปด้วยเลือดและไม่มีอะไรให้เห็นได้อีก รอยเปอระเปื้อนมากมายปรากฏอยู่ทั่วร่างของเขา มีรอยแผลที่ลึกถึงกระดูกและดูน่ากลัว หากไม่ใช่ว่าเขามีร่างกายที่ทนทานอย่างร่างบรรพกาล คนอื่น ๆ ที่อยู่ในสภาพเหล่านี้คงจะทรุดตัวลงนานแล้ว
เซียงเทียน เจ้าบาดเจ็บสาหัสมาก ไปกับพวกเราที่โถงบรรพชนเพื่อรักษาก่อน มียาที่ช่วยให้เจ้าสามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว เจียงหยางซูหยุนเซียวพูดออกมาด้วยความกังวล
ข้าขอบคุณมากสำหรับความกังวลของท่าน แต่ข้ามียารักษา ข้าสามารถจัดการกับบาดแผลของข้าด้วยตัวเอง ใบหน้าของเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไปและกระอักเลือดออกมา เขาพูดอย่างอิดโรยว่า สภาพของข้าแย่ลงอย่างรวดเร็ว ข้าไม่อาจช้าได้อีก ข้าต้องการหาสถานที่ที่ข้าจะได้พักฟื้น จากนั้นเจี้ยนเฉินก็บินไปที่ยอดเขาใกล้ ๆ เขาใช้ยุทธภันฑ์จักรพรรดิขุดถ้ำและเข้าไปในนั้น
เจียงหยางชิงหยุนจ้องไปที่เจี้ยนเฉินจากด้านหลังอย่างลึกซึ้ง ขณะที่เขาเดินออกไป มีแสงวาบผ่านดวงตาของเขาและเขาก็ไม่สบายใจ อย่างไรก็ตามเขาก็ฟื้นสติกลับมาและหัวเราะออกมาดัง ๆ ข้าไม่คิดเลยว่าตระกูลของเราจะได้รับผลไม้เซียน สิ่งนี้มความสำคัญมากสำหรับตระกูล เซียนจักรพรรดิจะปรากฏตัวในตระกูลเจียงหยางอีกไม่นาน
ใช่แล้ว เมื่อเซียงเทียนใช้ผลไม้เซียน เขาสามารถไปถึงระดับเซียนจักรพรรดิได้ด้วยพรสวรรค์ของเขา เจียงหยางซูหยุนเซียวยิ้มน้อย ๆ มีความหยิ่งยโสที่ไม่อายบรรยายได้ถูกฉาบลงใบหน้าของเขาและเขาก็มองมาทางเจียงหยางชิงหยุนซึ่งมันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญพอดี
ด้วยเหตุนี้ใบหน้าของเจียงหยางชิงหยุนจึงแข็งกระด้าง แต่ก็ปรากฏอยู่เพียงชั่วครู่เท่านั้น เขารู้สึกตัวและยิ้มน้อย ๆ เช่นกัน เจ้าพูดถูหก ด้วยความสามารถของเซียงเทียนที่ไม่เคยมีมาก่อน เขาประสบกับความสำเร็จอย่างมากในเวลาไม่ถึงร้อยปี ข้าเชื่อว่าเซียงเทียนจะตัดผ่านไปยังระดับเซียนจักรพรรดิอย่างรวดเร็วและกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดที่สามารถเขย่าโลกได้ เอาหล่ะพูดคุยแค่นี้ก่อน เราทุกคนใช้พลังไปเป็นจำนวนมากขณะที่เดินไปยังรังมรณะ ดังนั้นเราควรจะพักผ่อน เราจำเป็นต้องรักษาพลังให้อยู่ในระดับสูงสุดเพื่อป้องกันการโจมตีจากผู้เชี่ยวชาญคนอื่น ๆ สุดท้ายผลไม้เซียนนั้นก็ยั่วยวนมากเกินไป เราต้องระวังตลอดเวลา
ผู้อาวุโสสูงสุดคนอื่นๆก็ออกไปพร้อมกันและมุ่งหน้าไปยังโถงกลางศักดิ์สิทธิ์
เจี้ยนเฉินยืนอยู่ภายในถ้ำด้วยท่าทางที่ค่อนข้างอึมครึม หลังจากที่เขาออกมาเขาก็ได้รวบรวมรายละเอียดของทุกการสนทนาของผู้อาวุโสสูงสุดและการเปลี่ยนแปลงการแสดงออก เขารู้ว่าพวกเขามีปฏิกิริยาอย่าวไร
สถานที่นี้ไม่ปลอดภัยแน่นอน ความโลภของเจียงหยางชิงหยุนที่อยากได้ผลไม้เซียนนั้นมีมากเกินไป ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ อาจจะไม่แสดงอะไรออกมา แต่ใครจะรู้ได้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่ เจี้ยนเฉินคิด ทันใดนั้นเขาก็พบว่าทุกคนในตระกูลเจียงหยางนั้นไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไป ขณะที่เขาได้เหมารวมทั้งเจียงหยางซูเซียวและเจียงหยางซูหยุนเซียวเข้าไปด้วย
นี่เป็นเพราะผลไม้เซียนนั้นยั่วยวนเกินไป ในฐานะที่เป็นมันเป็นเครื่องมือลัดให้กลายเป็นเซียนจักรพรรดิ ความสัมพันธ์แบบเครือญาติหรือมิตรภาพนั้นบอบบางเหมือนกระดาษขาว